ไขปริศนาพุทธทำนาย (2)

เทพดารา

          พอเปิดอ่านดูก็ตกตะลึง เพราะคำทำนายที่พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้วนั้น แม่นยำอย่างกับตาเห็น จนเกิดความสงสัยว่าพระพุทธเจ้ารู้ได้อย่างไร หรือว่าพระองค์ใช้ตาทิพย์ดู จึงได้ไปศึกษาดูพุทธประวัติจึงได้ถึงบางอ้อว่า ที่พระพุทธเจ้าได้ทำนายได้อย่างแม่นยำนั้น เพราะว่าท่านได้สำเร็จการศึกษาศาสตร์ต่างๆ มามากถึง 18 ศาสตร์ จากเมืองตักศิลา (เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองที่มีขื่อเสียงในเรื่องการศึกษามากที่สุดของอินเดียในยุคนั้น) และท่านสำเร็จมากด้วยผลการเรียนที่เป็นเลิศ ถ้าเทียบในปัจจุบันก็ระดับเหรียญทองทั้งหมดทุกศาสตร์เลยทีเดียว
          ทำให้ผมเกิดความสนใจในเรื่องโหราศาสตร์ขึ้นมาทันใด แต่ไม่ใช่ว่าผมจะอยากศึกษาเรื่องโหราศาสตร์ เพียงแต่ผมอยากพาท่านผู้อ่านเข้าสู่พุทธทำนาย เพื่อไขปริศนาในอนาคตด้วยกัน
          พุทธทำนาย เกิดจากการทำนายของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่ยังทรงมีพระชนม์อยู่ (ประมาณสองพันห้าร้อยกว่าปี) มีเนื้อหาโดยสังเขปดังนี้
          วันหนึ่งพระเจ้าโกศลมหาราชได้ฝันเห็นเหตุการณ์ประหลาด 16 ข้อ เกิดความไม่สบายใจ จึงได้นำเรื่องไปถามพวกพราหมณ์ จึงได้รับคำแนะนำให้ทำการบูชายัญ แต่พระนางมัลลิกาเทวี ซึ่งเป็นพระชายาของพระองค์ได้แนะนำให้นำเรื่องความฝันประหลาดเหล่านี้ไปถามพระพุทธเจ้า
          พระเจ้าโกศลจึงได้นำเรื่องราวเหล่านั้นไปถามพระพุทธองค์ตามคำแนะนำของพระนางมัลลิกาเทวี เมื่อไปถึงจึงได้เล่าเรื่องความฝันประหลาดทั้ง 16 ข้อ ให้พระพุทธองค์ฟังดังนี้
				
          ข้อที่ 1 ฝันเห็นโคเพศผู้มีสีเหมือนดอกอัญชัน 4 ตัว วิ่งมาที่พระลานหลวงจาก 4 ทิศ ทำท่าจะชนกัน ชาวบ้านจึงแห่กันมามุงดูกันเต็มไปหมด โคเหล่านั้นร้องขู่กันไปขู่กันมาแล้วก็เดินหนีไปเฉยโดยไม่สนใจใคร

          ข้อที่ 2 เห็นต้นไม้เล็กๆ และกอไผ่โผล่จากดินประมาณหนึ่งคืบ บางต้นก็สูงเพียงศอกเดียวเท่านั้นก็พากันออกดอก ออกผลเต็มไปหมด

          ข้อที่ 3 เห็นแม่โคตัวใหญ่ๆ พากันดูดนมลูกของมันที่เพิ่งเกิดในวันเดียว

          ข้อที่ 4 เห็นหมู่ชนไม่เอาโคใหญ่ๆ เทียมเกวียน กลับไปใช้โครุ่นๆ ที่กำลังฝึกเข้าแอกไปเทียมแทน พอโครุ่นเหล่านั้นไม่สามารถลากเกวียนได้ก็สลัดแอกทิ้ง ยืนอยู่เฉยๆ

          ข้อที่ 5 เห็นม้าตัวหนึ่งมีปากสองข้าง ผู้คนพากันเอาหญ้ามาให้มันทั้งสองข้าง มันก็เคี้ยวกินหญ้าด้วยปากทั้งสองข้างนั้น

          ข้อที่ 6 เห็น ผู้คนขัดถูถาดทองคำราคาตั้งแสนกระษาปณ์ แล้วนำไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่งปัสสาวะใส่

          ข้อที่ 7 เห็นบุรุษผู้หนึ่งฟั่นเชือกแล้วหย่อนไปใกล้แม่หมาจิ้งจอกหิวโซตัวหนึ่ง ที่นอนอยู่ใต้ตั่งที่เขานั่ง แล้วมันก็กัดกินเชือกโดยที่เขาไม่รู้ตัว

          ข้อที่ 8 เห็นตุ่มใบใหญ่ใบหนึ่งมีน้ำเต็ม ตั้งอยู่ที่ประตูวัง มีตุ่มใบน้อยว่างเปล่าล้อมรอบมากมาย แต่คนทั้งหลายก็ยังนำน้ำมาจากทั่วทุกสารทิศมาเทใส่ตุ่มใบใหญ่จนล้นแล้วล้นอีก โดยที่ไม่สนใจตุ่มว่างใบอื่นเลย

          ข้อที่ 9 เห็นสระโบกขรณีสระหนึ่งลึก เต็มไปด้วยดอกบัว 5 สี มีท่าขึ้นลงรอบด้าน ฝูงสัตว์พากันลงมาดื่มน้ำรอบๆ สระ แต่บริเวณที่สัตว์เหล่านั้นเหยียบย่ำกลับใสสะอาด ในขณะที่กลางสระอันลึกกลับขุ่นมัว

          ข้อที่ 10 เห็นข้าวที่หุงในหม้อเดียวกันแท้ๆ แต่กลับมีข้าว 3 อย่าง คือ ข้าวแฉะ ข้าวดิบ และข้าวสุกพอดี

          ข้อที่ 11 เห็นคนทั้งหลายเอาแก่นจันทร์มีราคาตั้งแสนกษาปณ์ ขายแลกกับเปรียงเน่า

          ข้อที่ 12 เห็นกะโหลกน้ำเต้าจมน้ำได้

          ข้อที่ 13 เห็นแท่งหินใหญ่ขนาดเท่าบ้านลอยน้ำได้เหมือนเรือ

          ข้อที่ 14 เห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆ ขนาดดอกมะซาง วิ่งไล่กวดกินงูเห่าตัวใหญ่

          ข้อที่ 15 เห็นฝูงพญาหงส์ทอง (มีขนสีทอง) พากันแวดล้อมกา ผู้ไร้คุณธรรม เที่ยวหากินตามบ้าน

          ข้อที่ 16 เห็นฝูงแกะไล่กวดฝูงเสือเหลือง กัดกินอย่างเอร็ดอร่อย เสืออื่นๆ เช่น เสือดาว เสือโคร่ง เห็นฝูงแกะก็พากันสะดุ้งกลัว ถึงกับสยดสยองพากันวิ่งหนีหลบเข้าพุ่มไม้และป่ารก ซุกซ่อนเพราะกลัวอันตราย
				
     ใครที่พอจะตีความหมายได้ก็ลองตีดูนะครับ ผมว่ามันตีความหมายได้หลากหลายมาก เอาไว้ตอนหน้าจะนำคำที่พระพุทธเจ้าทำนายเกี่ยวกับพระสุบินนิมิตรนี้มาต่อ....				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    26 ตุลาคม 2549 16:14 น. - comment id 93164

    อ่านแล้วกล้าตีความข้อเดียวอ่ะ 68.gifคือ ข้อ 10 เห็นข้าวที่หุงในหม้อเดียวกันแท้ๆ แต่กลับมีข้าว 3 อย่าง คือ ข้าวแฉะ ข้าวดิบ และข้าวสุกพอดี
     "เหมือนพี่น้องที่เกิดคลานตามกันมา ยังไม่เหมือนกันเลย ถ้าคนที่หุง หรือเปรียบกับพ่อแม่ เข้าใจธรรมชาติของความต่างนั้นก็จะแก้ไขให้ดีขึ้นได้นั่นเอง"6.gif ส่วนข้ออื่นเราไม่กล้าตีความกลัวจะมั่วจนเสีย65.gif รอผู้รู้มาตีความแระกันเนาะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน