แมลงวันหัวเขียว 2

พีรเดช นวลสาย

แมลงวันหัวเขียวตัวอ้วนกลมตัวหนึ่ง บินฉวัดเฉวียนลอยตัวอย่างเริงร่ากลางอากาศ ในเช้าที่แสงแดดอุ่นฉายลงมาปะทะกับสายลมอ่อนๆ ที่พัดพามาอย่างสม่ำเสมอ  มันไม่ได้สนใจรถยนต์สีแดงเพลิงคันเขื่องที่พุ่งผ่านมาบนถนนเบื้องล่างด้วยความเร็วสูง จนกระทั่ง...
     รถยนต์สีแดงคันนั้น พุ่งตรงเข้าประสานงากับรถยนต์สีดำอีกคันซึ่งแล่นสวนทางมา ความเร็ว-แรงของการปะทะทำให้ส่วนหน้าของรถยนต์ทั้งสองคันยุบย่นจนเกือบจะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน กระจกแตกเป็นเสี่ยงเล็กเสี่ยงน้อยพุ่งกระจายออกไปทุกทิศทุกทาง แรงอัดอากาศรุนแรงแผดเสียงดังกึกก้องสะเทือนไปทั่วบริเวณ
     เมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบ เจ้าแมลงวันหัวเขียวบินตรงไปยังกองซากเศษเหล็กอย่างอยากรู้ มันบินฝ่าม่านควันบางๆ เข้าไปจนสามารถมองเห็นร่างชุ่มเลือดในรถสีแดงเพลิงได้ถนัดตา ร่างหนึ่งเป็นชายหนุ่มผิวขาวมีอาการสั่นกระตุกอย่างแรง 2-3 ครั้ง ก่อนจะพับแน่นิ่งไปกับที่นั่งคนขับ ส่วนข้างๆ กันเป็นร่างโชกเลือดของหญิงสาวแรกรุ่น ซึ่งเริ่มหายใจแผ่วแรงลงทุกขณะ
     เจ้าแมลงหัวเขียวมันไม่รู้หรอกว่าก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่นาทีทั้งคู่เพิ่งจะทะเลาะกันใหญ่โต เมื่อหญิงสาวเป็นฝ่ายบุกมาที่คอนโดของฝ่ายชายด้วยน้ำตานองหน้า เพื่อจะบอกเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งกับเขา แต่กลับต้องพบว่าชายหนุ่มหน้าซื่อ ของเธอพาผู้หญิงอื่นมานอนค้าง เธอหวีดร้องสุดกำลังเสียง ทุกอย่างรอบตัวพลันสับสนอลหม่านไปหมด ราวกับว่าเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในห้องอัดตัวกันเข้ามาและหมุนคว้างอยู่ในหัวของเธอ ไม่กี่วินาทีถัดจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบลง
     เป็นยังไงบ้าง? เสียงเขาถามสั่นเครือ เมื่อเธอค่อยๆ ฝืนลืมตาขึ้น
     อยู่ๆ หนูก็เป็นลมล้มพับไป ..พี่เป็นห่วงแทบแย่ ใบหน้าเขายังพร่ามัว บิดเบี้ยวเหยเก จนหญิงสาวต้องกระพริบตาถี่ๆ และหรี่ตาเพื่อปรับระยะชัด
     ทำไม..ทำกับหนูอย่างนี้? เธอพยายามเค้นเสียงแหบปร่าผ่านลำคอ
เขาก้มหน้าลงจูบบนหน้าผากของเธอ มันเป็นเหตุสุดวิสัย!
     พาผู้หญิงอื่นกลับมานอนที่ห้องเนี่ยนะ..?
     พี่ขอโทษ... ชายหนุ่มอึกอัก เมื่อคืนพวกไอ้อ๊อดมันชวนไปเที่ยว เมากันหนักไปหน่อย ไม่รู้ตัวเลยว่ากลับมาถึงห้องได้ยังไง?
     แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ?
     พี่ไม่รู้ชื่อด้วยซ้ำ สงสัยพวกนั้นมันแกล้ง
     แล้ว...มีอะไรกันรึเปล่า?
     ชายหนุ่มบ่ายหน้าหนีแทนคำตอบ  หญิงสาวถึงกับปล่อยโฮออกมาอีกรอบ เธอทุบหน้าอกของเขาเท่าที่จะเค้นแรงออกมาได้
     ทำไมทำกับกูอย่างนี้ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!
     ใจเย็นๆ ได้ไหม พี่บอกไปแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ เขารั้งข้อมือเธอไว้ด้วยพละกำลังที่เหนือกว่า
     ไม่ได้ตั้งใจ-ไม่ได้ตั้งใจ! มึงพูดเป็นกันแค่นี้ใช่ไหม๊? แล้วไอ้ที่อยู่ในท้องกูเนี่ยมึงก็จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจทำเหมือนกันใช่ไหม? หญิงสาวตบหน้าท้องตัวเองอย่างโกรธเกรี้ยว
     ตกลงหมอบอกว่า...
     กูท้อง! ท้องมาสองเดือนแล้ว ฮือๆ.. เธอตะโกนมาได้เท่านั้น น้ำเสียงก็แหบปร่าขาดห้วงไป
     ชายหนุ่มเองก็แทบหมดเรี่ยวแรงกับความจริงที่ได้ยินจากปากหญิงคนรัก เธอกำลังตั้งครรภ์ และแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเด็กในท้องนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่นเลยนอกจากเขา และเป็นไปไม่ได้ด้วยที่เธอจะทำอย่างนั้น เธอรักเขามากเกินกว่าจะกล้าทำอะไรนอกลู่นอกทาง    แต่...
     ทั้งเธอและเขายังเรียนหนังสืออยู่ เขาอยู่ปีสี่เทอมหน้าก็จะจบได้ใบปริญญาการันตีความสำเร็จ ส่วนเธอเพิ่งจะขึ้นปีสอง ที่สำคัญกว่านั้นพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายไม่เคยรู้เรื่องความสัมพันธ์ลับๆ นี้เลย เขาจึงนึกไม่ออกว่าถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปชะตากรรมแบบไหนกันที่จะถาโถมเข้ามาหา
     น้ำตาชายหนุ่มเริ่มไหลซึมออกมาบ้าง ริมฝีปากของเขาสั่นเทา และรู้สึกเย็นสะท้านสันหลังราวกับยืนอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
     เราจะทำยังไงกันดี!  ตัวเขาเริ่มสั่นเทาตามแรงสะอื้น
      แม้จะโกรธ แต่แล้วหญิงสาวก็ใจอ่อนลง  เพราะเท่าที่คบกันมา นี่เป็นการครั้งแรกที่เธอเห็นเขาร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่ปิดบัง
     เธอรั้งร่างเขาเข้ามากอดรัด แนบใบหน้าต่อใบหน้าเข้าด้วยกัน ไออุ่นจากร่างกายอ่อนนุ่มถ่ายเทไปยังกายกำยำของเขา ฉับพลันความรู้สึกอย่างหนึ่งซึ่งเร้นตัวอยู่อย่างตื้นเขินในตัวของทั้งคู่ก็ถูกจุดประทุขึ้นมา และมันร้อนแรงจนแทบหลอมเธอกับเขาเข้าเป็นเนื้อเดียว
      ......................................................
     เจ้าแมลงวันหัวเขียวบินวนหย่อนตัวลงเกาะบนหน้าท้องของหญิงสาวที่กำลังหายใจแผ่วเบาขาดห้วง มันไม่มีทางรู้เลยว่าหลังจากกามกำหนัดรวบรัดนั้นจบลง หญิงสาวกับชายหนุ่มได้ตัดสินใจกันอย่างไร และมันไม่มีทางรู้เลยว่าใต้ชั้นผิวหนังบอบบางนั้น มีอีกหนึ่งชีวิตกำลังดิ้นรนต่อสู้กับจุดจบที่คืบคลานใกล้เข้ามาก่อนที่จุดเริ่มต้นจะทันได้เกิดขึ้น
     ในห้วงรู้สึกอันเบาบางเต็มทีหญิงสาวไม่รู้เลยว่ามีแมลงวันหัวเขียวอ้วนกลมตัวหนึ่งกำลังไต่ไปมาบนตัวเธออย่างน่าฉงน  เธอแว่วได้ยินเพียงเสียงบทสนทนาซึ่งแผ่วเบาราวกระซิบกระซาบมาจากปลายอีกด้านของอุโมงค์อันมืดมิด
     เราจะทำยังไงกันดี...เรายังไม่พร้อม
     ใช่! เรามีลูกกันตอนนี้ไม่ได้
      เราจะไปพึ่งใครได้ พ่อแม่รึ-พวกเขาไม่ฟังหรอก
     ขืนปล่อยเอาไว้เราสองคนมีหวังตายแน่
     มีทางเดียว!
     ใช่! มีทางเดียว!
     ...เราต้องเอาเด็กออก!
     .......................................................
     แค้กๆ อ่อก!
     เสียงไอสำลักของเหลวที่เล็ดลอดออกมาจากซากรถยนต์สีดำฝั่งตรงข้าม ทำให้แมลงวันหัวเขียวตกใจ มันรีบบินขึ้นจากร่างปวกเปียกของหญิงสาว และลอบสังเกตการณ์อยู่ในระยะปลอดภัย
     เจ้าของเสียงไอเป็นชายมีอายุแต่งตัวภูมิฐาน ซึ่งบัดนี้สูทไหมสีทองกับเสื้อเชิ้ตสีขาวใหม่เอี่ยมของเขากลับชุ่มโชกไปด้วยเลือด เขายังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น แค่เสี้ยววินาทีที่มองเห็นรถยนต์สีแดงเพลิงคันนั้นพุ่งตรงเข้ามา เสียงระเบิดก็แผดกึกก้องกัมปนาทขึ้น ฉับพลันทุกสิ่งรอบตัวเหมือนหมุนคว้าง แม้แต่ในหัวของเขาก็เหมือนอวัยวะทุกๆ ชิ้นถูกปั่นรวมเข้าด้วยกันอย่างรุนแรงก่อนจะดับวูบลงกระทันหัน
     เขารู้สึกง่วงและกำลังจะหลับเต็มทน เปลือกตาทั้งสองข้างหนักอึ้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน บ้าชิบ! อีกแค่สองแยกก็จะถึงที่หมายแล้ว  ที่นั่น...ทุกๆ คนกำลังรอคอยอยู่ เพื่อแสดงความยินดีกับความยอดเยี่ยมของนักบริหารมือหนึ่งอย่างเขา รางวัลที่กำลังจะเดินทางไปรับเป็นเครื่องการันตีความสามารถของเขาได้เป็นอย่างดี มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะมายืนยังจุดที่เขาเดินทางมาถึงนี้ได้ แต่...
ดูเหมือนเขาจะมาได้ไกล้ที่สุดเท่านี้ โอกาสที่จะรับรางวัลนั้นด้วยมือตนเองเลือนลางเต็มทน เขาไม่สามารถขยับร่างกายส่วนไหนได้เลย นอกจากปล่อยให้มันกระตุกตามแรงสำลัก
     แมลงวันหัวเขียวบินโฉบเข้ามาสำรวจใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเป็นอันตรายสำหรับมัน  มันโฉบลงเกาะและไต่วนไปมาบนเน็คไทสีทองสุกใสบนคอของยอดนักบริหาร แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้ใส่ใจมันแม้สักนิด ประสาทสัมผัสอันเลือนลางของเขากลับเห็นภาพหลอน เป็นภาพโล่ห์รางวัลนักบริหารแห่งปีกำลังลอยละล่องในอากาศ เขาพยายามเอื้อมมือคว้า แต่ไม่สำเร็จ มันลอยไกลออกไป ไกลออกไป...
     นอกจากนั้นเขายังได้ยินเสียงหัวเราะกังวานสดใสดังอยู่รอบทิศทาง เขาจำได้ว่ามันเป็นเสียงของเด็กสาวแรกรุ่นคนหนี่ง-เด็กสาวที่เขาแอบมีความสัมพันธ์และเลี้ยงดูไว้อย่างลับๆ เบื้องหลังประตูอันแน่นหนาซึ่งภรรยาของเขาไม่มีทางรู้เห็น ความจริงยังมีอีกหลายคนทีเดียวที่ต้องปิด ไม่อย่างนั้นแล้วมันอาจจะกระทบกับเส้นทางแห่งเกียรติยศที่เขากำลังเดินอยู่โดยตรง
     เขารักเด็กสาวคนนั้น แต่ไม่ว่าจะพยายามมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็นเธอ นอกจากความเคว้งคว้างว่างเปล่าและเสียงหัวเราะก้องกังวาน
     เดี๋ยวก่อน!...ดูเหมือนจะมีเสียงดังหึ่งๆ แทรกเข้ามาด้วย!!
     เสียงนี้เสียดเข้าในโสตประสาทหญิงกลางคนผิวขาวผู้พันธนาการตัวเองด้วยเครื่องประดับราคาแพงลิบลิ่ว เธอเป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของยอดนักบริหาร อยู่กินร่วมชายคากันมาร่วมยี่สิบปี เขาทำเพื่อเธอและครอบครัวมาตลอด ชื่อเสียงเงินทองความสะดวกสบาย ชนชั้นทางสังคมล้วนมาจากเขา แต่กาลเวลาไม่เคยปราณีกับใคร มันเฝ้าดูและทดสอบทุกๆ สิ่ง มันค่อยๆ พรากเอาสิ่งที่เขาต้องการไปจากตัวเธอวันละนิดวันละน้อย จนที่สุดเธอกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่จืดชืดไร้ชีวิตชีวาที่สุดสำหรับเขา
     ไม่ใช่เขาไม่รักเธอ-แต่มันได้กลายเป็นความรักในอีกสถานะหนึ่งไปเสียแล้ว เป็นสถานะที่เธอจำต้องก้มหน้ายอมรับ
ไม่ใช่เธอไม่รู้ว่าเขาแอบมีคนอื่น-แต่เธอจำต้องทนเก็บเงียบเพื่อปกป้องสายใยอันเปราะบางของครอบครัวซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นเดียวที่เธอหวงแหนมากที่สุดเอาไว้ เธอไม่อยากทำลายเกียรติยศชื่อเสียงของเขา  พอๆ กับไม่อยากให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนต้องกลายเป็นเด็กมีปัญหา  แม้แต่เน็คไทสีทองสุกใสบาดตาบาดใจเส้นนั้นก็ไม่อาจทะลายทำนบแห่งการอดกลั้นของเธอลงได้ ถึงจะรู้เต็มอกว่าเด็กสาวคนนั้นเป็นคนซื้อให้เขา
     ช่างเถอะ! ถ้าเหลืออดจริงๆ ก็ยังมีคลับชั้นสูงมากมายที่พร้อมจะปลดปล่อยความอัดอั้นของเธอได้ เธอเจอเพื่อนใหม่มากหน้าหลายตาที่นั่น!
เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้าน เขาหงุดหงิดนิดหน่อยเมื่อรู้จากเธอว่าลูกชายติดธุระ ไม่สามารถมาร่วมยินดีกับวาระสำคัญของพ่อได้ เขาไม่เห็นว่าอะไรมันจะสำคัญไปกว่านี้-มันเป็นแค่ข้ออ้าง ลูกชายมีหญิงสาวมาติดพันเป็นเรื่องที่พ่อกับแม่พอจะระแคะระคายอยู่บ้าง แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อพวกเขามีลูกแค่คนเดียว อะไรที่ลูกต้องการก็พร้อมจะประเคนให้อยู่แล้ว แต่ก็ดูเหมือนยิ่งให้ลูกก็ยิ่งห่างไกลออกไป
     ทั้งหลายเหล่านี้เป็นความลับของครอบครัว เป็นเรื่องที่ถูกปิดผนึกไว้อย่างมิดชิดยังส่วนที่ลึกที่สุด เพราะหากถูกแพร่งพรายออกไป เครดิตนักบริหารมือหนึ่งของสามีคงมีอันสั่นคลอน เขาผ่านงานบริหารคนมานับร้อยนับพันชีวิต แต่กลับต้องมาตกม้าตายเรื่องการบริหารครอบครัวตัวเองซึ่งมีสมาชิกหลักๆ อยู่แค่สามคน
.......................................................
     เธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน มันไม่ใช่ความเหนื่อยหน่ายอย่างที่เคยเกาะกินจิตใจของเธอมาตลอดหลายปีให้หลัง มันเป็นความเหนื่อยอ่อนอันแปลกประหลาดราวกับทุกลมหายใจเข้าออกในห้วงเวลานั้นจะเป็นลมหายใจสุดท้าย ตัวเธอกำลังจมดิ่งลงสู่ความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด และดูเหมือนในโสตสัมผัสสุดท้ายจะมีเสียงดังหึ่งๆ เสียดแทรกเข้ามา
     เจ้าแมลงวันหัวเขียวตัวอ้วนกลมกระพือปีกลอยตัวขึ้น บินวนส่งเสียงดังหึ่งๆ รอบๆ กองซากเศษเหล็ก มันมีทีท่าลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจบินโฉบสูงขึ้นไปในอากาศเพราะตกใจกับเสียงเอะอะแตกตื่นจากรอบทิศที่กำลังพุ่งตรงเข้ามายังจุดเกิดเหตุ
     มันไม่รู้หรอกว่า ความวุ่นวายที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    21 พฤศจิกายน 2549 16:15 น. - comment id 93822

    29.gif โห...คิดได้ไงอ่ะ ความรู้สึกก่อนคลิ๊กเข้ามาอ่านกับหลังจากอ่านแล้วอารมณ์มันต่างกันเลยนะ ทุกตัวอักษรตรึงเราให้อยู่กับที่ได้... ตอนแรกเราคิดว่าคงจะเป็นเรื่องขำๆ แต่พออ่านไปๆมันบีบอารมณ์สุดๆเลย10.gif เดี๋ยวจะลองไปอ่านแมลงวันหัวเขียว1ดูนะ.......11.gif
  • boytilldie

    22 พฤศจิกายน 2549 19:09 น. - comment id 93845

    อ่อ..ขอโทษด้วยครับ แมลงวันหัวเขียว 1 ผมยังไม่ได้โพสต์เลย ต้องไปรื้อหาต้นฉบับก่อน ยังไงก็ขอบคุณมากครับที่กรุณาอ่าน
  • โคลอน

    23 พฤศจิกายน 2549 07:30 น. - comment id 93865

    _ถึงว่าลองหาดูแล้วไม่เจออ่ะ68.gif
    ไว้จะรออ่านแระกันเนาะ6.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน