โลกในกล่อง

อัลมิตรา


บ้านฉันอยู่ในกล่อง กล่องทรงสูงกลางใจเมืองหลวง
มากมายครอบครัวอยู่ในกล่องใบเดียวกันกับที่ฉันอยู่อาศัย
พวกเขา หลากหลายเชื้อชาติ ภาษา ศาสนา และความเป็นอยู่
ทั้งชาวตะวันตก ชาวตะวันออก ชาวเอเซีย สูง ต่ำ ดำ ขาว มีปะปน
ฉันนึกถึงไอศกรีมรวมรสขึ้นมาทันที  

บางครั้งฉันก็ออกไปเสวนาปราศรัยกับพวกเขา โดยใช้ภาษากลาง
แต่ก็บ่อยนะ ที่ใช้ภาษากลางแล้วไม่รู้เรื่อง ต้องใช้ภาษามือ ภาษาท่าทางแทน 
ฉันไม่ค่อยสนิทสนมกับพวกเขานักหรอก ต่างคนต่างอยู่มากกว่า
เมื่อใดที่มีกิจกรรมร่วมกัน นั่นแหล่ะ เป็นโอกาสที่ฉันกับพวกเขาได้รู้จักกันใกล้ชิดขึ้น
เช่น การซ้อมหนีไฟประจำปี งานปีใหม่ Family's Day
จบงานก็ต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม เดินสวนกันก็ยิ้มให้ พยักหน้าหงึก ๆ สองสามที  

การที่อยู่รวมกันในกล่องใหญ่ใบเดียวกัน มันเป็นอะไรที่ต้องปรับตัว 
ตราบใดที่ไม่ได้อยู่แยก ตราบนั้นจำต้องรับสภาพและสุขที่จะอยู่อย่างนั้น
ถ้ามองถึงสัดส่วนของกล่อง ที่ที่ฉันพำนักค่อนลงมาทางด้านล่าง 
เพราะฉันรู้ว่าความสามารถของบันไดรถดับเพลิงมีอยู่แค่นั้น 
อีกอย่าง เผื่อวันดีคืนดีลิฟท์เสีย ฉันจะได้ไม่เดินลิ้นห้อยน่องโป่งเพื่อกลับที่ส่วนตัว
จะว่าไปแล้ว คิดเผื่อไปงั้น ๆ เพราะตั้งแต่อยู่มาก็ไม่เคยแจ็คพ็อตซักที
แต่เรื่องการเดินขึ้นบันไดไปยังห้องส่วนตัว ทำบ่อย ๆ เดินไปก็ร้องเพลงไป
ประมาณว่าเอาเสียงเพลงเป็นเพื่อน ข่มความกลัวสักหน่อย
โธ่ .. ก็ตรงทางหนีไฟมันค่อนข้างเงียบสงัด วังเวงชอบกล
บรรยากาศสยึมกึ๋ยส์ .. คนน่ะ ไม่ค่อยกลัว .. ที่กลัว ไม่ใช่คน อ่ะ
มีข้อยกเว้นเหมือนกันนะ 
ช่วงไหนที่รู้ข่าวว่ามีคนร่วมอาศัยในกล่องเดดซามอเร่ ช่วงนั้นไม่ ไม่ ไม่ ไม่ เด็ดขาด..  				

เหตุที่กล่องใหญ่ใบนี้ มีผู้คนหลากหลายอาศัยอยู่
บางครั้งก็มีเรื่องวุ่น ๆ เกิดขึ้นเหมือนกัน

คืนหนึ่งช่วงวันปีใหม่ สาวเกาหลีกลุ่มหนึ่งโหวกเหวกเสียงดังตอนตีสอง
ดีนะ ที่อีกวันตรงกับวันหยุด 
ยังไงกันก็ไม่รู้ ตรงชั้นล่างที่รถแท๊กซี่จอดส่งผู้โดยสาร (ก็สาวเกาหลีกลุ่มนั้นแหล่ะ)
บังเอิญว่านางหนึ่งคงแฮงค์ขนาดหนัก คงคิดว่าถึงห้องพักแล้วมั๊ง
แม่คุณเอ๋ย .. โชว์ระบำเปลื้องผ้ากลางลานนั่นเลย บรรดาเพื่อน ๆ กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
ยิ่งกรี๊ดก็เหมือนว่าเรียกคนมาดูโชว์มากขึ้น รปภ.วิ่งกันวุ่นเลย แต่ก็ส่งภาษากันไม่รู้เรื่อง
แล้วจะทำไงดี ฉันคิด .. ในที่สุด ฉันก็ลงไปที่ลานนั่น กะว่าจะได้เห็นถนัดตาสักหน่อย
เอ๊ย .. ไม่ใช่อย่างนั้น ..
ฉันหอบผ้าปูที่นอนผืนใหญ่ไปด้วย 
ไปถึงก็ทำการคลุมตัวหล่อนแล้วก็ให้ รปภ.อุ้มไปห้องของหล่อน
งานนี้ลงทุนซักผ้าปูที่นอนที่เปื้อนอ๊วกนิดหน่อย แต่ก็คุ้ม 
ถือว่าชดเชยกับค่าดูไปละกัน   

ยังมีอีกแยะที่ให้ฮา และก็ไม่ฮา ตัวอย่างแรกนี่ถือว่า ฮานะ ไอ้ที่ไม่ฮาก็มี .. 
คู่สามีภรรยาตีกัน ตีกันในห้องยังไม่พอ อุตส่าห์มาปาหี่กันนอกห้องอีก 
เล่นวิ่งไล่กวดเอามีดไล่เสียบกันก็มีนะ ครั้งนั้น อีตาสามีไม่รู้ไปทำอีท่าไหน
เผลอกดลิฟท์ผิดชั้นแล้วเข้าผิดห้อง ทว่า กุญแจห้องกลับไม่ผิดดอก
ซวยล่ะสิ ภรรเมียบังเอิญมาจอดรถที่ชั้นเกิดเหตุ หรือว่าแอบสังเกตกันอยู่นานก็ไม่รู้
เรื่องเลยวุ่นยิ่งกว่ายุงตีกัน โฉ่งฉ่างกันน่าดู 
ลงแบบนี้ต่อให้มีทนายฝีปากกล้าก็แก้ต่างให้ไม่ได้

นึกว่างานนี้มีนัดที่วัดเสียแล้ว ปรากฏว่ารอดแฮะ มีพระเอกมาขี่ม้าขาวช่วยไว้ทัน
แต่ก็จี้เส้นนะ ถัดจากนั้นไม่กี่วัน ก็เห็นเดินคลอคู่อิงกันไปกับอิงกันมาแล้ว 
คนเรานี่ก็แปลก สามารถแปรความรักให้เป็นความชังได้ในพริบตา
จากนั้นไม่นาน ก็ยังสามารถแปรความชังให้กลับกลายเป็นความรักได้อีก 
แบบนี้หรือเปล่านะ ที่เรียกว่า คู่ทรหด  

วุ่นมั๊ย .. ยุ่งมั๊ย .. น่าเบื่อหน่ายมั๊ย .. รึว่า สนุกสนานมั๊ย
ตอบไม่ถูกนะ .. มันขึ้นอยู่กับว่าฉันสนใจและใส่ใจในแต่ละเรื่องราวแค่ไหนมากกว่า
การที่ต้องอยู่ในกล่องรวมกับคนหมู่มากแล้วปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองถูกชักจูงโดยง่าย
ฉันคิดว่าไม่ดีแน่ เพราะมันอาจทำให้ฉันละเลยความเป็นตัวของตัวเอง
ขืนมัวแต่สาละวนกับเรื่องของคนอื่น ก็ไม่มีเวลาพอที่จะจัดสรรจัดระเบียบตัวเองพอดีกัน

ดีไปอย่างที่ สถานะของฉันในกล่อง ฉันเป็นเพียงผู้อาศัยเท่านั้น ไม่มีบทบาทอะไรสำคัญ
ฉันไม่ต้องทำหน้าเคร่ง..ไม่ต้องถือไม้เท้าเอามาตรวัดแบกกฏเหล็กหอบไว้เต็มสองบ่า 
เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายนอก ฉันเลือกได้ที่จะรับรู้ หรือไม่รับรู้  สิทธิ์ขาดอยู่ที่ฉันคนเดียว
เพียงง่าย ๆ แค่ปิดประตูบ้าน ปิดประตูระเบียง ฉันก็มีพื้นที่ส่วนตัวอันแสนสุข  

นึกไปนึกมา การมีชีวิตอยู่ในกล่องทรงสูงใบนี้
ทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรอีกแยะ อย่างน้อยก็รู้ว่า โลกนี้เต็มไปด้วยความแตกต่าง
แน่นอน ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกบนโลกที่มากความวุ่นวาย
และถึงอย่างไร ฉันก็คงอยู่ไม่ได้หากต้องอยู่คนเดียวในโลก

การใช้ชีวิตในกล่อง การใช้ชีวิตนอกกล่อง มีอะไรที่เหมือนและแตกต่าง
และในความเหมือนและแตกต่างมันยังขยายแขนงได้อีกเป็นหลายย่อย ๆ
ไม่ต้องสมมุติ มันก็เหมือนสมมุติว่าย่อโลกมาไว้ในกล่อง
นี่แค่ในกล่องนะ นอกกล่องล่ะ .. อืมมมม ปวดซีโหลกแท้   				
comments powered by Disqus
  • กันเอง

    4 มิถุนายน 2550 17:06 น. - comment id 96463

    oh my god
  • แมวคราว..

    5 มิถุนายน 2550 09:54 น. - comment id 96471

    มองต่างมุม
    คิดต่างใจ
    กล่องแต่ละใบ
    มีช่องว่าง
    มีระยะห่าง
    มีความขัดแย้ง
    มีความลงตัว
    บางที..
    น่าจะเรียกมันว่า
    กล่องแห่งชีวิต..
    
    แวะมาทักทายครับ
    สบายดีนะครับ46.gif
  • พฤหัส กฤษชยรักษ์

    5 มิถุนายน 2550 10:53 น. - comment id 96472

    กระทรวงศึกษาธิการ กำลังจะทำพจนานุกรมคำแสลง  มาอ่านดลกในกล่องนี้คงได้ไปลายคำเช่น
    เดทซามอเร่ (คำนี้โบราณ ไม่ค่อยได้ยินนานแล้ว คนโบราณจริง ๆ จึงใช้)
    สยึมกึ๋ยย์
    แฮ๊งค์
    ปาหี่(โบราณ)
    แจ๊คพอร์ท
    ปวดซีโหลก(เคยได้ยินแต่ปวดกระโหลก)
    
    คำแสลงใช้กันไม่นานเดี๋ยวก็เลิกไป ไม่ทราบว่ารัฐมนตรีขิงแก่คิดยังไงจะใช้งบประมาณของประเทศให้สิ้นเปลืองกับเรื่องนี้
     ไม่ได้ทักทายมานานสบายดีนะครับ
  • อัลมิตรา

    5 มิถุนายน 2550 12:29 น. - comment id 96477

    คุณกันเอง .. บางคนก็บอกว่า พระเจ้าช่วย ตาเถรหก หรือไม่ก็ โอ้ อัลเลาะห์
    
    คุณแมวคราว .. สบายดีค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เขียนกลอน มีเวลาว่างช่วงแป๊บ ๆ ค่ะ
    ก็เลยเอาเรื่องราวชีวิตในกล่องของตนเองมาเขียน มีหลายแง่มุมให้คิด ให้ขำ
    ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาเยี่ยมเยือน ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
    
    คุณพฤหัส .. เป็นฮากว่าอีกแน่ะ คำที่อัลมิตราใช้ ก็ใช้แบบที่ว่าคนคุ้นเคยกันเคยฟังบ่อย ๆ
    ยังมีอีกหลายคำนะคะ เช่น สลายโต๋ โอเชมิวสิค .. คุยเล่นกับเพื่อนแบบนี้บ่อย ๆ ค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน