เกลอเขาเกลอเล

วชรกานท์

ดำและแดงเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่วัยหนุ่ม เมื่อทั้งสองแต่งงานต่างแยกไปตั้งรกรากในถิ่นฐานตามอาชีพที่ตนเองถนัด
	ดำชอบการทำไร่ทำสวนและถนัดทางล่าสัตว์ จึงพาครอบครัวไปหักร้างถางพง ทำไร่ทำสวนบริเวณเชิงเขาเป็นอาชีพหลัก และเข้าป่าล่าสัตว์เป็นอาขีพรองสองผัวเมียทำมาหากินแบบพออยู่พอกิน ที่เหลือกินเหลือใช้ จึงนำไปขายบ้างเพื่อแลกซื้อหาเครื่องอุปโภคบริโภคอันเป็นปัจจัยสี่เท่าที่จำเป็น 
                    ส่วนแดงชอบหาหอยปูปลา และถนัดทางการประมง จึงพาภรรยาไปสร้างหลักปักฐานที่ชายทะเล เมื่อจับปลาได้มามากๆ เขาเลือกปลาที่ตัวใหญ่ๆ นำไปขายในเมืองเพื่อแลกข้าวสารอาหารแห้งมาเลี้ยงครอบครัว รวมทั้งเครื่องนุ่งห่ม ตลอดจนเครื่องใช้จิปาถะ และเก็บไว้กินพอมื้อๆ เวลาว่างภรรยาของเขาจะนำเศษกุ้งเล็กๆ มาเช(ตำ) ทำเคย(กะปิ) นำเศษปลามาทำเป็นปลาแห้งบ้าง ทำน้ำบูดู(น้ำปลาชนิดหนึ่งของภาคใต้)บ้าง และนำปูแสมตัวเล็กๆ มาดองเค็มทำเปี้ยว(ปูใส่เค็ม) ทั้งสองครองคู่อยู่กันแบบพอเพียง พออยู่พอกินเช่นกัน
	วันหนึ่งแดงคิดถึงเพื่อน จึงเดินทางไปเยี่ยมบ้านดำ โดยไม่ลืมของฝากจากชาวเล(คนที่อาศัยทำมาหากินกับทะเล) เช่นปลาแห้ง ปูเปี้ยว และเคย ทั้งสองดีใจมากที่ได้เจอกันอีกครั้ง ต่างเล่าสารทุกข์สุขดิบและความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันสู่กันฟัง  
                      ดำได้แนะนำให้แดงให้รู้จักสัตว์ต่างๆ ที่เขาจับมาขังกรงไว้ รอการนำไปขาย ตลอดจนเขี้ยว เขา และหนังสัตว์ที่เขาล่าสะสมไว้
	แดงตื่นเต้นกับสัตว์แปลกๆ ซึ่งเขายังไม่เคยเห็น แดงชอบสัตว์ชนิดหนึ่ง คือ มุดสัง(ชะมด) เขาจึงเอ่ยปากขอเพื่อนรัก ดำยกด้วยความเต็มใจ ก่อนที่แดงจะลาเพื่อนกลับพร้อมกับมุดสัง เขาไม่ลืมถามถึงอาหารและวิธีเลี้ยงกับดำว่า
มันกินอะไรเป็นอาหารและเลี้ยงอย่างไร 
                      ดำบอกเพื่อนเชิงล้อเล่นว่า กินขี้ไก่ ทั้งๆ ที่ชะมดพันธุ์นี้กินไก่เป็นอาหาร
	แดงดีใจมากที่ได้สัตว์น่ารักแถมเลี้ยงง่าย อีกทั้งบ้านเขาเลี้ยงไก่ไว้หลายตัว และมูลไก่มีเหลือเฟือ  เมื่อเขามาถึงบ้านได้มอบมุดสังและบอกวิธีเลี้ยงแก่ภรรยา เธอดีใจมาก เพราะมันทั้งน่ารักและเพื่อนยังบอกว่าเลี้ยงง่ายอีก
	พอตกกลางคืน ทั้งสองจึงตกลงกันว่านำมันไปขังรวมกับไก่ในเล้า เพื่อให้มันหาขี้ไก่กินตามสะดวก
	รุ่งเช้าขึ้นมาทั้งสองไปดูไก่ในเล้า ปรากฏว่าขี้ไก่ยังเท่าเดิม แต่ไก่หายไปหลายตัว จึงรู้ว่าเพื่อนเรา (เผาเรือน) แกล้งเราเป็นแน่แท้แต่เขาทั้งสองมิได้ผูกใจเจ็บ แค่คิดว่ารอให้ถึงเวลา จึงแก้เผ็ด
	ปีต่อมาโชคเข้าข้างแดง เพราะดำและภรรยาได้เดินทางมาเยี่ยมบ้านของแดง โดยไม่ลืมของฝากจากบ้านไร่ปลายนา เช่น ผลไม้ ข้าวสาร และเนื้อสัตว์ตากแห้ง เจ้าบ้านทั้งสองปิดปากเงียบเรื่องมุดสังกินไก่ (นกลืมแร้ว) และคิดหาทางแก้เผ็ดไว้เสร็จ (แร้วไม่ลืมนก)โดยจับทั้งปูดำ หอย และปลาปักเป้ามาขังไว้ เผื่อว่าดำชอบสัตว์ชนิดใดจะได้ให้เพื่อนไปเลี้ยง 
                     จริงดังแดงคาดไว้มิผิด ก่อนที่ดำและภรรยาลากลับดำได้ขอปูดำและถามว่า มันเรียกชื่อว่าอะไรและกินอะไรเป็นอาหาร 
                   มันเรียกว่าควายทะเล มันกินปัสสาวะเป็นอาหาร แดงตอบ 
แขกทั้งสองดีใจมากที่ได้สัตว์ที่สวยแปลกและเลี้ยงง่าย จึงลากลับ 
	เมื่อทั้งคู่กลับมาถึงบ้าน ภรรยาจึงเอากะละมังมาขังควายทะเลเอาไว้ ตกดึกภรรยาของดำ ปวดฉี่จึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ให้อาหารควายทะเล จึงจัดการนั่งปัสสาวะในกะละมัง 
                     ด้วยธรรมชาติของปู มันจึงหนีบติดขาของภรรยาดำเจ็บปวดร้องลั่นเรียกให้ดำมาช่วยดึงออก พอดำจับปูดึงมันก็หนีบมือดำอีกก้าม ทั้งสองทนเจ็บให้ปูหนีบติดเพราะยิ่งขยับยิ่งเจ็บกว่าเดิม ทั้งสองรอจนปูคลายออกเองใช้เวลาหลายชั่วโมง ทั้งสองจึงนึกขึ้นได้ว่า โดนเพื่อนแก้เผ็ดเข้าให้แล้ว
                     อย่างไรก็จาม ทั้งสองครอบครัว หาได้แค้นเคืองกันไม่ แค่ หนามยอกเอาหนามบ่ง ต่างกับปัจจุบันแค่ความคิดแตกต่างกันคิดว่าเป็นศรัตรูกันแล้ว				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน