เครื่องเหลาดินสอ

เอื้องคำ

บ่ายสองกว่าๆ ของวันครึ้มฟ้าคึ้มฝน ผมจับดินสอแท่งหนึ่งขึ้นมาขีดๆ เขียนๆ อะไรไปตามเรื่องตามราว แต่ตัวหนังสือที่ปรากฎนั้นกลับเป็นเส้นใหญ่และหนา อีกทั้งไม่ค่อยชัดเจนเท่าที่ควร ผมลุกไปอีกโต๊ะหนึ่ง ที่นั่นมีเครื่องเหลาดินสอแบบใช้มือหมุนอยู่เครื่องหนึ่ง ผมยัดดินสอเข้าไปในช่องหนีบ แล้วหมุนมันอยู่สักพัก พลันภาพอดีตก็ปรากฎขึ้น 
      "เอ้าต่อแถวกันมาใครจะเหลาดินสอ" เจ้า"ต้น" นักเรียนชั้นป.2 ซึ่งอยู่ในประจำชันของผมกล่าวขึ้น พลางประคองร่างอันอ้วนจ้ำบะนั่งลงบนก้าวอี้ตัวเอง แล้วล้วงเอาเครื่องเหลาดินสออันเขื่องออกมาจากกระเป๋า วางลงบนโต๊ะดัง ตึก! เผินๆ แล้วถ้าไม่มีใครบอก ผมจะเข้าใจว่า แกเป็นนักเรียนชั้นป.5 สิ้นเสียงก็มีเพื่อนนักเรียนในห้องของต้น เข้าแถวเรียงกันมาอย่างเป็นระเบียบ ต้นเสียบมันเข้าไปในช่องหนีบ แล้วหมุนมันอย่างแคล่วคล่อง สักพักต้นดึงดินสอออกมาจากเครื่องเหลา แล้วทำมืออีกข้างคล้ายๆ จกอะไรสักอย่าง ต้นจกดินสอไปราวสองนิ้วแล้วค่อยๆรุดมือที่กำลังจกดินสอออกอย่างช้าๆ เป็นการสำรวจว่าใส้ดินสอไม่ได้หักอยู่ข้างในเป็นท่อนๆ แล้วส่งคืนให้เจ้าของ 
      "คนละบาทนะ เตรียมตังค์ไว้ด้วย" ต้นกำชับ นักเรียนในแถวต่างควักกระเป๋ากันเป็นชุลมุน สำหรับนักเรียนห้องนี้ ถ้าไม่มีการสั่งงาน หรือเข้าสอนของครูแล้ว ต้นและเพื่อนๆ จะพากันเล่นต่อสู้ โดยแบ่งฝ่ายกัน 4-5 คน เสียงหวีดของเด็กผู้หญิงดังลั่นไปถึงห้อง ป.6 จนครูผู้หญิงในห้องป.6 ต้องออกมาดู แล้วซักว่า ตอนนี้เป็นวิชาอะไร เมื่อได้รับคำตอบ เธอก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็กลับเข้าห้อง ป.6ไป ไม่เกินห้านาทีหลังจากนั้นเสียงเด็กห้อง ป.2 ก็ดังขึ้นมากกว่าเก่าอีก
       "หลังจากที่เวลาของวิชาต่อไปเข้ามาเยือน นักเรียนทุกคนก็นั่งตรงโต๊ะตัวเองอย่างมีระเบียบ ท่ามกลางเหงื่อที่ท่วมตัว และเจ้าต้นก็หนักกว่าคนอื่นๆ 
        ในโรงเรียนเอกชนนั้น นักเรียนจะเป็นกันเองกับครูมากกว่าโรงเรียนของหลวงอยู่พอสมควร เจ้าต้นเองก็เช่นกัน แกจะมายืนรอรถรับส่งนักเรียนตรงร้านค้าสามแยกทุกเช้า พอดีกับที่ผมขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมา และแวะซื้อกาแฟซองและขนมปังเพื่อรองท้องตอนเช้า 
        "ครูเต้ ผมไปด้วยนะคับ..." ไม่ใช่ใครอื่น เจ้าต้น นักเรียนในประจำชั้นของผมเอง ต้นพูดเสร็จพลางทำตาแป๋วๆ ผมเอามือลูบหัวที่มีหน้าผากเว้าผมเตียนๆ ของแก 
        "อืม...ไป...ขึ้นมาสิ" สิ้นเสียงผมต้นปีนขึ้นซ้อนผมไปโรงเรียน ผมไม่เคยลืมลูกตาแป๋วๆ นั่นได้เลย
        "พอได้แล้ว...จะเหลาซะหมดแท่งเลยหรือ?" สติผมเริ่มกลับมาสู่ตัว หลังจากเสียงทักท้วงข้างๆ โต๊ะนั่นเงียบลง				
comments powered by Disqus
  • แมวน้ำ

    30 กรกฎาคม 2551 22:19 น. - comment id 100777

    49.gif
  • เอื้องคำ

    2 สิงหาคม 2551 08:11 น. - comment id 100789

    ใครกรุณาแนะนำ ติเตียนก็จะซาบซึ้งมากครับ ไม่ต้องเกรงใจ ผมแค่มือใหม่น่ะครับ ยังอ่อนหัดกว่าใครๆ อยู่มากมายนัก *-*

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน