๏ เปิดทีวีดูโอลิมปิกจีน ๏ Beijing 2008 One World One Dream

ลักษมณ์

เปิดทีวีดูโอลิมปิกจีน 
 
โดย ชัยสิริ สมุทวณิช 6 สิงหาคม 2551 16:38 น. 
 
 
       นับเวลาถอยหลังได้แล้วครับ สำหรับพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง 2551 ซึ่งเป็นโอลิมปิกที่ได้รับการประท้วงยืดเยื้อยาวนานที่สุดก็ว่าได้ในกรณีทิเบต ซึ่งผู้ประท้วงหลายคนยังไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหนในโลก
       
        นอกจากเรื่องทิเบตแล้ว จีนยังโดนข้อครหาว่า ปักกิ่งเป็นนครที่มีมลพิษจนกีฬาบางประเภทอาจต้องเลื่อนจัดเป็นบางวันด้วยซ้ำ แต่ทางการจีนก็ได้วางมาตรการเข้มข้นไว้หลายอย่างตั้งแต่ให้โรงงานหยุดเดินเครื่องจักร จำกัดไม่ให้รถยนต์วิ่งในปริมาณที่มากเกินไป และเริ่มรณรงค์แก้ปัญหามลพิษมาเป็นแรมปี
       
        จีนถือว่าโอลิมปิกเป็นเรื่อง ศักดิ์ศรี และ ความภาคภูมิใจของชาวจีน
        และชูคำขวัญว่า โลกเดียวกัน ความฝันเดียวกัน สำหรับคนทั้งโลก
        โอลิมปิกครั้งนี้ประมาณว่า เฉพาะพิธีเปิดจะมีคนดูมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก
       
        ประเทศจีนได้ใช้กีฬาโอลิมปิกเป็นสัญลักษณ์อันชอบธรรมที่จะประกาศถึงความยิ่งใหญ่ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และกีฬา ในฐานะที่จีนได้ผ่านพ้นยุคสมัยแห่งการมืดมนมาสู่ยุคแห่งการพัฒนาจนประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้านด้วยกัน และมันเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านโดยสันติ
       
        แน่นอนว่า จีนหวังว่าจะครองเจ้าแห่งกีฬาโอลิมปิก แม้ว่าอเมริกาจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญในการแข่งโอลิมปิกที่เอเธนส์ จีนมาเป็นที่สองตามหลังสหรัฐอเมริกา โดยได้เหรียญน้อยกว่า 40 เหรียญ
       
        จีนเก่งในการรับรองแขกอยู่แล้ว และจะชนะใจในการรับรองนักกีฬา รวมทั้งสื่อมวลชนจากทั่วโลก แม้ว่าจีนเกรงว่าอาจมีนักกีฬาบางคนอาจจะขึ้นแท่นแล้วทำการประท้วงจีนด้วยรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งให้อับอายไปทั่วโลกได้
       
        เมืองปักกิ่งได้รับการเปลี่ยนแปลงไปมากพอควรเพื่อรองรับมหกรรมการกีฬาในคราวนี้ เฉพาะอย่างยิ่งมีพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 1.7 พันล้านตารางฟีต และโรงแรมสร้างใหม่อีก 110 แห่ง สนามบินได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับสนามกีฬาที่โอฬาร
       
        พิธีเปิดจะเริ่มสองทุ่มแปดนาที วันที่ 8 สิงหาคม
        แน่นอนการรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวด แม้กระทั่งกลุ่มผู้กระทำประท้วง ทางการจีนก็จัดสถานที่ให้ประท้วงได้อย่างเสรีที่สวนสาธารณะ ซึ่งนับว่าเป็นการจัดหาที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโอลิมปิก
       
        ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะโตเร็ว
        แต่ก็ยังมีปัญหาให้รัฐบาลจีนต้องแก้ไขอีกมาก
        เช่น ปัญหาสังคมที่หลากหลาย รวมทั้งช่องว่างของรายได้ที่ต่างกันมาก คนยังจนดักดานในชนบทที่ห่างไกลและทุรกันดาร รวมทั้งยังมีนโยบายให้ประชากรมีลูกคนเดียว และการเลือกให้สตรีทำแท้งได้
       
        ปัญหาผลกระทบของสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาระดับชาติ และมาจากการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัว โดยไม่ได้รับการควบคุมที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งจะมีผลต่อกีฬาโอลิมปิก จนกล่าวกันว่านักกีฬาอาจต้องรับอากาศที่สกปรกที่สุดก็ได้ เว้นแต่ว่าทางการจีนจะดำเนินมาตรการเด็ดขาดได้ทันท่วงที
       
        เพื่อช่วยให้ชั้นบรรยากาศปรับสภาพได้ดี จีนจึงยิงปืนต่อสู้อากาศยาน โดยใช้สารละอองฝนขึ้นไปบนฟ้าเพื่อชะล้างหมอกควันวันละหลายรอบ
       
        จีนพยายามเต็มที่ในการแก้ปัญหาภาคมลพิษในอุตสาหกรรมหลัก โดยรัฐบาลกลางพยายามควบคุมทั้งในจังหวัด, ภาค และโรงงานในท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่รายงานอย่างละเอียด
       
        ในแง่การเติบโตด้านประชาธิปไตยหรือ? 3 ปีที่แล้วในรายงานต่อสภาแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ประธานาธิบดีหูจิ่นเทาได้กล่าวถึง ประชาธิปไตย ถึง 61 ครั้ง ทำให้มีการวิจารณ์ว่า น่าจะมีการเปิดทางให้กับการปรับประเทศสู่เสรีนิยมทางการเมืองมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้บ้างแล้ว
       
        แน่นอนว่าสัญญาณนี้ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด และตัวช่วยเท่าที่มีอยู่ และง่ายที่สุดก็น่าจะได้แก่ การเปิดใช้อินเทอร์เน็ตให้กว้างขวางขึ้นในหมู่นักศึกษาปัญญาชน และประชาชนทั่วๆ ไป
       
        2-3 ปีที่ผ่านมา อินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็วในจีน อย่างน้อยก็โตขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2007 หรือเมื่อปีที่แล้ว
       
        แม้ว่าอินเทอร์เน็ตเหมือนดาบสองคม แต่มันก็เปิดโลกให้กับชาวจีนได้ทราบถึงความเป็นไปในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง และรู้ตำแหน่งแหล่งที่ของจีนในสายตาของคนทั้งโลก
       
        แน่นอนว่ามันมีผลกระทบต่อพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งเวลานี้ควบคุมระบบการสื่อสารอยู่ แต่คนหนุ่มสาวชาวจีนทุกวันนี้ต่างก็ใช้ระบบออนไลน์ โดยคนกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตอายุต่ำกว่า 30 ปี และคนจีนนั้น มักจะทิ้งการใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเดิมๆ ในประเทศ โดยหันไปพึ่งข้อมูลจากเน็ตมากกว่า
       
        85 เปอร์เซ็นต์ ของคนใช้เน็ตกล่าวว่า เวลานี้พวกเขาใช้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก
        รัฐบาลเองก็พยายามหาทางดูว่าจะตรวจสอบการใช้ข้อมูลของประชาชนเช่นกัน เพราะว่าการใช้อินเทอร์เน็ตจะต้องผ่าน Great Firewall of China ทั้งสิ้น โดยจีนได้ทำบัญชีดำนับหมื่นของ URLs ไว้ด้วย
       
        นี่คือแบ็กกราวนด์ของการเมืองในภาคสังคม และภาคประชาชนในโอลิมปิกครั้งนี้ ซึ่งคนจีนหวังว่าขณะมีกีฬาโอลิมปิกทางการคงจะไม่เข้มงวดกับประชาชนมากนักเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศจีน
       
        โอลิมปิกในปักกิ่งจะเป็นตำนานไปอีกนาน และจะอยู่ในความทรงจำของชาวจีนในฐานะที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ
       
        แน่นอนว่า การแพ้หรือชนะนั้นไม่สำคัญเท่ากับการ เข้าร่วม และการ มีสปิริต เพื่อการแข่งขัน ซึ่งการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่ใช่กับผู้อื่น แต่เป็นการแข่งขันกับตัวเอง
       
        ประเทศจีนก็เช่นกัน กำลังแข่งขันกับตัวเองในฐานะประเทศเจ้าภาพ
        เปิดทีวีดูการถ่ายทอดสด และสนุกกับกีฬาครับ
        เท่านี้คุณก็มีส่วนร่วมและเป็นหนึ่งกับความฝันเดียวกัน.
 
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000092794
http://manager.co.th				
comments powered by Disqus
  • ลักษมณ์

    8 สิงหาคม 2551 19:41 น. - comment id 100882

    eijing 2008 
    ONE WORLD ONE DREAM
    11.gif
  • เพียงพลิ้ว

    11 สิงหาคม 2551 13:02 น. - comment id 100899

    แข่งกับตัวเอง ชนะยากเนาะ 
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ลักษมณ์

    11 สิงหาคม 2551 19:48 น. - comment id 100905

    "พาหัวใจไปกู้ชาติ"...หนังสือจากหัวใจของชาวMBlogวางแผงแล้ว 
    
    วันจันทร์ ที่ 11 ส.ค. 51 ณ เต็นท์สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ สะพานมัฆวานรังสรรค์
    
    
    
    
    
    
    
    "...มิใช่ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ปราศจาก วีรบุรุษ-วีรสตรี ดังเช่นการต่อสู้ครั้งก่อนๆ หากแต่การต่อสู้ครั้งนี้ได้สร้าง วีรบุรุษ-วีรสตรี จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางการเมืองของประเทศไทย เป็นวีรบุรุษ-วีรสตรีที่มาจากทุกๆ พื้นที่ของประเทศไทย ทุกภาคส่วนของสังคมไทยไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการ พนักงานบริษัท พ่อค้า ศิลปิน นักเรียน-นักศึกษา ชาวนา ชาวไร่ แม่บ้าน ทุกช่วงอายุของคนไทยตั้งแต่เด็กแบเบาะไปจนถึงคนชราไม้ใกล้ฝั่ง ซึ่งต่างก็มีส่วนร่วมในการเมืองภาคประชาชนในครั้งนี้ทั้งสิ้น
    
           ทุกคนต่างเป็นนักสู้ผู้กล้าหาญ ทรหดอดทนที่มุ่งหวังที่จะ มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดินและมาทำบุญ ด้วยกันทั้งนั้น..."
    
    
    
          ข้างต้นคือตอนหนึ่งของคำนำในหนังสือ "พาหัวใจไปกู้ชาติ" หนังสือที่รวบรวมจากบทความของสมาชิกMBlog ที่เขียนเล่าถึงประสบการณ์ตรงของสมาชิกที่บันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดชุมนุมใหญ่ 25 พฤษภาคม 2551 จนถึงปัจจุบัน
    
    
    
          หลังจากผ่านการรวบรวมและคัดเลือก หนังสือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์การต่อสู้ของภาคประชาชนเล่มนี้ก็ได้ฤกษ์วางแผงเพื่อตอกย้ำพลังของมวลชนแล้ว ในวันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2551 โดยมีรายนามผู้เขียนดังต่อไปนี้ 
    
    
    
    sazzie 
    waratip 
    kati1789 
    kathatyai 
    chairojt 
    11arrows 
    pijika 
    bonkalasin 
    chaleejang 
    rimtarn(สีน้ำฟ้า) 
    showshow 
    vincentoldbook70 
    peacock 
    chaba2550 
    ekkymania1 
    folkner
    
    และ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักเขียนรับเชิญ 
    
    
    
          สมาชิกบล็อกที่ต้องการเก็บบันทึกประวัติศาสตร์ภาคประชาชนชิ้นนี้ หรือต้องการสนับสนุนผลงานของเพื่อนสมาชิก สามารถไปเยี่ยมชมและอุดหนุนกันได้ที่เต็นท์ขายหนังสือของสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันจันทร์ที่ 11 เป็นต้นไปค่ะ 
    
    
    
          ส่วนสมาชิกที่ร่วมกันรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ทุกท่าน ก็อย่าลืมเจียดเวลาจากหน้าเวทีพันธมิตร แวะเวียนไปแจกลายเซ็นที่เต็นท์กันบ้างนะคะ
    
    
    
          ปล. ทีมงาน MBlog จะติดต่อไปยังสมาชิกทุกท่านที่ได้ตีพิมพ์ผลงานอีกครั้งเพื่อแจ้งรายละเอียดของค่าตอบแทนค่ะ
    
    
    
    
    Tag: mblog, พาหัวใจไปกู้ชาติ เขียนโดย mblogtips ที่ 2008-08-10 18:52:10 น.
    
    http://mblog.manager.co.th/mblogtips/MBlog-72/
    
    http://manager.co.th/
ชื่อเรื่องสั้น-นิยาย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน