คนเราไม่มีใครปรารถนาบาดแผลในใจแต่บางครั้งชะตาชีวิตก็ผกผัน
ทำให้เราต้องเผชิญกับสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิด สุรภีก็เช่นกัน
"แม่ภีไม่ไปกะเขาได้ไหม อีตาคนนี้หนูไม่ชอบขี้หน้าเขาเลย"
"ไม่ได้หรอกลูกเขาเป็นทนายความที่ปรึกษาในบริษัทของเรา
เราต้องให้เขาไปด้วยเผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลกะบริษัทโน้น
จะได้รู้ทันเขา"
"ก็ไหนแม่ว่าคุณลุงเขาใจดีไงแม่ ญาติกันแท้ๆ"
"เป็นญาติก็จริง แต่เรื่องธุรกิจนี่ไว้ใจกันยากนะ"
" แล้วอีตาทนายหน้าจืดนี่ละคะ ไว้ใจได้แค่ไหนเชียว"
"คุณพ่อไว้ใจเขาเสมอจ้ะ เขาทำงานให้ท่านไม่บกพร่อง"
"แหมๆๆเชียร์กันจัง ชักหมั่นไส้เสียแล้วสิพ่อคนดี"
"อิอิ ลูกแม่นี่ ไม่เป็นผู้ใหญ่สักที"
"ครานี้หนูจะได้พิสูจน์ ฝีมือละว่าทำงานแทนพ่อได้ไม่
บกพร่องเหมือนกัน"
"จ้าๆๆ..."
สุรภีเป็นลูกสาวนายยรรยงอภิมหาเศรษฐีร้อยล้านที่ทำธุรกิจการค้า
ขายข้ามชาติ มีธุรกิจในเรือนทุนมหาศาลมากมายหลายอย่าง เธอเป็น
คนชอบเอาใจตนเองตั้งแต่เด็ก มีปัญญาดีเรียนเก่ง แต่หยิ่งในเกียรติ
มาก เพราะถือว่าตนเองรวย สวยมีบริวารคอยบริการเอาใจ
เมื่อปลายปีที่แล้วมานายยรรยงเกิดเสียชีวิตกะทันหันขณะทำงานในบริษัท
ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันยังนำความโศกเศร้ามาให้กับลูกเมีย
เป็นอย่างมาก สุรภีในฐานะทายาทสาวคนเดียวจึงต้องสละการเรียนต่อ
ในระดับปริญญาเอกในต่างประเทศเพื่อมาดำเนินกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ
"นี่ชั้นสั่งให้นายจัดการให้เรียบร้อยทำไมยังไม่จัดการอีก หา"
"แต่คุณท่านบอกว่างานนี้เราต้องพิจารณาโดยรอบคอบผ่าน
คณะอนุกรรมการของบริษัทก่อน เพื่อกันหุ้นส่วนครหาได้นะครับ"
"โอ้ย น่าเบื่อรำคาญเสียจริงทำอะไรก็ชักช้าติดขัดไปหมดแบบนี้
บริษัทคู่แข่งเขาก็แซงหน้าไปหมดสิ"
"ทำธุรกิจการค้าบางอย่างก็ใจร้อนไม่ได้นะครับต้องรักษาภาพพจน์
ของทางบริษัทด้วย"
"นี่นายมาว่าชั้นทำภาพพจน์บริษัทเสียหายเหรอ"
"เปล่าครับผมเพียงแต่ติงเตือน"
" อวดดี"
"ครับ"
"เอะ! นายนี่จะกวนประสาทชั้นรึไงหา ว่าแล้วยังมาครับๆๆอยู่ได้"
"ขอโทษครับ "
ศักดิ์ชัยทนายความของนายยรรยง เป็นลูกน้องของเขามานานตั้งแต่
เขายังเริ่มกิจการใหม่ เขาเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานและพร้อม
เรียนต่อปริญญาตรีด้านกฏหมายไปด้วย โดยนายยรรยงสนับสนุนมา
โดยตลอดเขาจึงรู้สึกสำนึกในบุญคุณและนับถือเขาเสมือนพ่อ และนาย
ยรรยงก็ไว้เนื้อเชื่อใจเขามาโดยตลอด
ด้วยความใกล้ชิดกันหญิงสาวยอมรับว่าศักดิ์ชายเป็นผู้มีความสามารถ
หลายด้านจริงๆเขาเรียนรู้และถ่ายทอดบุคลิคท่าทาง ความคิดอ่านมา
จากพ่อเธอได้ทุกอย่าง แต่เรื่องอะไรเธอจะยอมแพ้เขาละ เธอมีความรู้
มีดีกรีและฐานะดีกว่าเขาตั้งเยอะ สำคัญเธอเป็นจ้าวนายและเขาเป็น
ลูกจ้างรับเงินเดือนจากเธอ
แต่ใจเจ้ากรรมนี่สิมันไม่ได้เป็นดังตั้งสัจจาไว้เลย นับวันก็จะเอนเอียง
เข้าหา วันไหนเขาไม่มาไม่อยู่มันหงุดหงิด งุ่นง่านจนระงับตนเอง
ไม่อยู่ นี่เธอเป็นอะไรไปนะสุรภีเริ่มถามตนเอง ไม่ได้นะ เขาเป็นใคร
เธอเป็นใคร เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
เงารักที่แฝงในใจเริ่มประจักษ์หากไม่ได้รับการต่อติดหรือเชื่อมต่อพลังรัก
นั้นคงจะมอดม้วยไปแต่อนิจจาเคราะห์กรรมนำชัก หรือจะโทษอะไรดี
กิจการบริษัทที่เคยดำเนินมาด้วยดีก็มีอุปสรรคปัญหาเข้ามาจากพิษ
เศรษฐกิจโลก ทำให้เธอต้องอาศัยเขาช่วยเหลือติดต่อประสานงานมากมาย
จากความครางแครงใจที่เคยมีก็เลือนหายไป ศักดิ์ชายกลายเป็นที่ปรึกษา
ประจำตัว เป็นคนที่รู้ใจไปเสียทุกเรื่องทำไมนะใจเจ้ากรรม ความหยิ่ง
ในศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงหายไปไหนหมดสิ้น ต่อแต่นี้ชีวิตสุรภีจำเป็นอยู่
เพื่อเขาแล้วหรือเธอพยายามวนถามตนเองทุกครั้งที่อยู่ลำพัง
จะทำอย่างไรดี เขาไม่ใช่ของเราๆ เขามีเจ้าของ น้อยภรรยาสุดรักและมี
น้องโอมลูกชายที่น่ารัก สุรภีจะทำฉันใด หักใจหรือก็ช่างยากเย็นหรือ
ตามใจตนเองมันช่างนักหนาเหลือเกิน พ่อจ๋าลูกเหนื่อยล้าเหลือเกิน
ทำไมหนอคนเราต้องมีรักที่ผิดที่ผิดทางด้วย .....
ไม่แปลกหรอกหากประสบการณ์ชีวิตต้องแลกมาด้วยความขมขื่น
เสียงสะอื้นระคนหยาดน้ำใสๆที่ไหลรินอาบร่องแก้มกับรักที่ระทมทุกข์
บ่อยไปที่ดวงตาแห่งปัญญามืดบอดเพียงเพราะชีวิตสมบูรณ์พร้อม
มีอันผกผัน ต่อเมื่อเวลาล่วงผ่าน เสมือนการส่องกระจกเงามอง
ใบหน้าตนเองช่างมีความไม่ดี ขี้เหร่ไม่เอาไหนมากมาย
เอาเถอะอย่างไรก็เป็นบทเรียน แม้จะเจ็บปวดปานใดก็ไม่ได้
เลวร้ายเสมอไป อย่างน้อยก็สอนให้รู้จักตนเองมากขึ้น เพื่อมี
ชีวิตอยู่อย่างอดทนเข้มแข็งต่อไป...............
2 มกราคม 2552 08:27 น. - comment id 103122
พี่สาวได้สัมผัสกับงานเขียนของคุณกันนา แล้วรู้สึกเหมือนมีพี่สาวคนหนึ่งที่อบอุ่น คอยให้กำลังใจ

2 มกราคม 2552 10:52 น. - comment id 103127
.. อืม..อิอิ..คิดว่าอ่านของกฤษณา อโศกสินนะนี่

3 มกราคม 2552 07:00 น. - comment id 103131
ความเจ็บปวดถ้าเราไม่ได้สัมผัส ก็ไม่รู้เจ็บ มากแค่ไหน...แต่ก็ดีทำให้รู้ในสิ่งที่ที่เกิดขี้น ได้ ทำให้เข็มแข็ง ปูทางชีวิตไปสู่เส้นทางอัน ก้าวไกล....โลกนี้ยังมีสิ่งสวยงามเสมอค่ะ......

3 มกราคม 2552 11:11 น. - comment id 103135
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตต้องการความใส่ใจมากที่สุด พอๆกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสิติปัญญามากที่สุด สองอย่างเป็นเหมือนคมสองด้านของกริช

3 มกราคม 2552 14:24 น. - comment id 103139
.....เขียนเรื่องสั้นไม่เคยได้เรื่องค่ะ.... มาอ่านละกัน..... ....การรักคนมีเจ้าของมันก็ทุกข์ใจอย่างนี้แหละ.... ....เก็บใจไว้รอให้มีใครสักคนมารักเราบ้างดีกว่า..... ....เอ..จะนานไหมคะเนี่ย..? ......สวัสดีปีใหม่ 2552 ค่ะ...

4 มกราคม 2552 08:12 น. - comment id 103146
มาทักทายช้า คงไม่ว่ากันนะคะป้ากันนาเทวี เพิ่งมาถึง กทม.เมื่อคืนก็รีบลงเรื่องสั้นก่อนเลยแล้วก็นอน 5555 กล่าวสวัสดีปีใหม่คงไม่สายนะคะ มีความสุขมากๆนะคะป้ากันนาฯ

4 มกราคม 2552 15:57 น. - comment id 103165
พี่สาว......... ดีจังเลย อ่านผลงานแล้วอบอุ่นใจเหมือน มีพี่สาวอีกคน งั้นรับเป็นน้องสาวเลยจ้ะ พี่สาวคนนี้จะคอยส่งกำลังใจให้นะจ้ะ

4 มกราคม 2552 15:59 น. - comment id 103166
แหมๆๆๆฝากฝัน จะว่าเราเป็นคนโบราณ ก็ว่ามาตรงๆเลยจ้ะ ไม่ต้องไปเปรียบเทียบ ให้เสียชื่อนักเขียนเขาเลย อิอิ

4 มกราคม 2552 16:02 น. - comment id 103167
นกยูง............. ใช่เลยจ้ะ บาดแผลใจ จะช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้น และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองจ้ะ

4 มกราคม 2552 16:04 น. - comment id 103168
ก่อพงษ์.......... คมกริชสองด้านหรือดาบ สองคมเหรอจ้ะ อิอิ

4 มกราคม 2552 16:06 น. - comment id 103169
กิตติกานต์........... รอจนกว่าจะพบคนที่โสดซิงๆ น้อ และรักเราด้วย โอเคจ้ะ อิอิ

4 มกราคม 2552 16:09 น. - comment id 103170
ฉางน้อย.............. มาช้าดีกว่าไม่มา ไปเที่ยวมาสนุกมากเลยสิ อ่านแล้วอยากไปเที่ยวบ้างจัง

9 มกราคม 2552 06:54 น. - comment id 103263
บาดแผลคราวนี้เห็นทีว่าหนักแผลมันใหญ่นักต้องรักษานาน
