Home บ้านรักในรอยแค้น ตอนที่ 4

สมภพ แจ่มจันทร์

ตอนที่ 4

ที่ท่านผู้ฟังร่วมรับฟังและจบไปแล้วนั้น คือช่วงลองดีของรายการเราครับ และตอนนี้เราจะมาพูดคุยกับสมาชิกทางบ้านที่มาร่วมลองดีกับรายการของเรา และพบเจอกับเหตุการณ์แปลกๆ ในค่ำคืนนี้

“โป้งครับ เมื่อกี้น้องแหม่มเป็นอะไรไปครับ ตอนที่สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไปนะครับ”

พิธีกรในห้องส่งๆ คำถามไปยังพิธีกรภาคสนาม ถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน

“โป้งครับ ได้ยินไหมครับ”

“น้องแหม่มครับ” โป้งหมายถึง หนึ่งในสามของสมาชิกจากทางบ้านที่สมัครเข้ามาร่วมรายการในคืนนี้

“ท่านผู้ฟังครับเมื่อสักครู่นี้ น้องแหม่ม สมาชิกหนึ่งในสามของเรามีอาการแปลกๆ ครับ คือยืนนิ่ง ไม่เดินตามกลุ่มเพื่อน ไม่พูดจาอะไรเลยครับ จากนั้นสัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหายไป จนทำให้เกือบยุติการสำรวจบ้านร้างในช่วงลองดีของคลื่นผีในคืนนี้” พิธีกรภาคสนามบอกเล่าถึงความระทึกขวัญที่ตนและสมาชิกทั้งหมดเพิ่งผ่านพ้นมาเมื่อไม่กี่วินาทีนี้

“แล้วน้องแหม่มจำได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น” พิธีกรส่งคำถามไปยังหญิงสาวร่างเล็ก ที่ถูกกล่าวถึงเมื่อสักครู่

“ค่ะ แหม่มเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงห้องใหญ่ชั้นบนค่ะ ได้ยินเสียงร้องไห้ และเธอพยายามพูดอะไรบางอย่าง แหม่มก็เลยยืนนิ่งเพื่อจะฟังเธอๆ พูดออกมาเรื่อยๆ แต่แหม่มฟังไม่รู้เรื่อง มันอู้อี้มากค่ะ”

“แล้วที่เพื่อนๆ เรียกได้ยินไหมครับ”

“ไม่ได้ยินค่ะ รู้แต่ว่าแหม่มพยายามฟังเธอ แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ”

“แหม่มไม่กลัวหรือครับ”

“กลัวค่ะ ขนหัวลุกตัวเย็นชืดเลยค่ะ แต่ร่างกายมันขยับไม่ได้ และผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ได้มาให้เห็นแบบหน้ากลัว ก็เหมือนคนทั่วไป แต่ในบ้านมันมืด เลยมองเห็นหน้าเธอไม่ชัดนะคะ แหม่มได้แต่คิดในใจว่าอยากจะให้ช่วยอะไรก็บอก แล้วจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ สักพักก็รู้สึกได้ว่าเพื่อนๆ รุมกันเขย่าตัวแหม่มใหญ่เลย”

“ขนลุกครับ ท่านผู้ฟัง ค่ำคืนนี้สมาชิกจากทางบ้านของเราได้สัมผัสกับวิญญาณของหญิงสาวเจ้าของบ้าน ที่ชาวบ้านละแวกนั้นต่างร่ำลือกันถึงความเฮี้ยนของเธอ โดยที่เธอพยายามจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับผู้ร่วมรายการของเรา ทำเอาสมาชิกอีกสองท่าน และทีมงานของเราที่อยู่ภาคสนามอึ้งกันไปตามๆ กันเลยละครับ เอาละครับสำหรับช่วงลองดีกับผมนายโป้งและสมาชิกจากทางบ้านในคืนนี้ กับวิญญาณหญิงสาวในบ้านร้าง ขอย้ำอีกครั้งนะครับผู้ฟังทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังนะครับ ส่วนคุณผู้ฟังทางบ้านท่านใดสนใจมาร่วมพิสูจน์สิ่งลี้ลับกับเรา ติดต่อมาได้ที่ 02-xxx0099 อย่าลืมนะครับมาร่วมพิสูจน์กับพวกเรา สำหรับคืนนี้ ในช่วงลองดีสำรวจบ้านร้างกับผมนายโป้ง ต้องขอลากไปก่อน ราตรีสวัสดิ์ครับ”

โทรศัพท์ถูกวางสาย และพิธีกรในห้องส่งคงกำลังกล่าวขวัญถึงสิ่งที่ทุกคนเพิ่งได้สัมผัสมากันต่อ นายโป้งพิธีกรภาคสนามหันหน้าไปทางทีมงานพร้อมกับตะโกนบอกให้รีบเก็บข้าวของ เพราะขณะนี้เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในห้องปรับอากาศที่ถูกลดอุณหภูมิลงต่ำ จนเขาต้องห่อไหล่เข้าหากัน แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้นขนหัวของเขามันลุกขึ้นโดยยากที่จะควบคุม

“แหม่ม เมื่อกี้น้องเห็นอะไรนะ ลองเล่าให้พี่ฟังอีกทีได้ไหม” เขาหันกลับไปถามหญิงสาวร่างเล็กอีกครั้งหนึ่ง

“ผู้หญิงผมไม่ยาวมาก สวมเสื้อยืดกระโปรงยาว ยืนร้องไห้ตรงห้องด้านหลังสุดนั่น” แหม่ม หนึ่งในผู้ร่วมรายการจากทางบ้านที่บอกว่าตนเองเห็นวิญญาณหญิงสาว เล่าให้โป้งฟังด้วยเสียงสั่นเครือ

“ปกติแหม่มมีสัมผัสที่หกหรือเปล่า” พิธีกรยังถามต่อไปทั้งๆ ที่ปิดรายการไปแล้ว

“ไม่นะพี่ ปกติหนูก็ไม่เคยเห็นอะไรทำนองนี้ ไม่เคยได้ยิน หรือได้กลิ่นอะไร" ผู้ร่วมรายการสาวบอกกับนายโป้งไปตามจริง เพราะจริงๆ แล้วตั้งแต่เธอจำความได้ เธอเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์หรือสัมผัสเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน นี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตก็ว่าได้ ที่เธอได้สัมผัสกับสิ่งลี้ลับเช่นนี้ด้วยตัวเอง

บ้านหลังนี้ แม้จะถูกเรียกขานว่า “บ้านร้าง” แต่ทว่าตัวบ้านยังดูไม่เก่าเหมือนบ้านร้างหลังอื่นๆ ที่ทางรายการเคยไปสำรวจมา คงมีเพียงรอบๆ บ้านเท่านั้นที่ต้นไม้จะดูรกหูรกตา โดยเฉพาะสระว่ายน้ำเล็กๆ ข้างบ้าน ที่เศษใบไม้แห้งร่วงหล่นทับถมกันเกือบครึ่งสระ ส่วนภายในบ้านเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ถูกขนย้ายออกไปจนเหลือแต่บ้านโล่งๆ ประตูหน้าต่างทุกบานถูกปิดล็อคไว้อย่างแน่นหนา คงมีแต่ประตูบานใหญ่หน้าบ้านเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าครั้งหนึ่งจะมีกระจกบานใหญ่กางกั้นอยู่ แต่ทว่าบัดนี้คงมีแต่โครงไม้เท่านั้น ซึ่งมันเป็นช่องทางเดียวที่ผู้สำรวจได้นำพาตนเองเข้าไปในบ้าน

“แหม่ม พรุ่งนี้เราไปทำบุญกันนะแก” ก้อยเพื่อนสาวที่ชักชวนให้มาร่วมสำรวจบ้านร้างเอ่ยปากขึ้น

“แน่อยู่แล้วละแก ก็ฉันสัญญากับเขาไว้แล้วนี่ ถึงแกไม่ชวนฉันก็ต้องไปอยู่แล้ว” หญิงสาวผู้เพิ่งจะสัมผัสกับวิญญาณตอบกลับ

“เธอ...ผู้หญิงคนนั้น...ต้องอยากบอกอะไรเราหรือเปล่า?...ถึงได้มาปรากฏให้เราเห็นเพียงคนเดียว” หญิงสาวผู้พบพานกับวิญญาณรำพึงกับตนเองอีกคำรบหนึ่ง

“พี่ว่า น้องๆ อย่าคิดอะไรมากเลยครับ ให้คิดเสียว่าเรามาเล่นเกมส์ เมื่อเกมส์จบก็ให้มันจบไป ถ้าพวกน้องอยากทำบุญก็ไปทำกัน จะได้สบายใจ แต่พี่ขอย้ำว่าอย่าคิดต่อนะครับ ไม่อย่างนั้น.....”

“ไม่อย่างนั้นอะไรพี่โป้ง” ชมพู่สวนขึ้นทันที

โป้งยังอึกอักที่จะตอบ

“ก็ไม่อย่างนั้นน้องก็จะนอนไม่หลับไงละครับ พี่โป้งขี้เกียจขับรถไปอยู่เป็นเพื่อน”

โป้งแกล้งตอบไปอย่างอารมณ์ขัน แต่ในใจนั้นรู้ดีว่า หากทั้งสามสาวเก็บเอาเรื่องนี้ไปคิดต่อเหตุการณ์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เพราะหลายปีก่อนเคยมีผู้ร่วมรายการท่านหนึ่งติดตามเรื่องราวของวิญญาณต่อ แต่กลับทำให้ตัวเองแทบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว

กุญแจถูกปิดล็อคทันทีที่สัมภาระชิ้นสุดท้ายถูกโยนขึ้นท้ายรถ เสียงกระหึ่มจากเครื่องยนต์ของรถหกล้อคันใหญ่ดับความเงียบงันของเวลาดึกสงัดในขณะนี้ได้ แต่ทันทีที่ผู้ทำหน้าที่บังคับยานยนต์นั้นเหยียบคันเร่ง

“โครม”

เสียงดังมาจากด้านหลังรถ

ท้ายรถชนเข้ากับรั้วคอนกรีตหน้าบ้านเข้าอย่างจัง เพราะแทนจะใส่เกียร์เดินหน้ามันกลับเป็นเกียร์ถอยหลัง รั้วบ้านผุกร่อนลงมาตามแรงกระแทก แต่ทว่าคนขับกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาสับเปลี่ยนเกียร์รถแล้วรีบขับเคลื่อนรถออกไปข้างหน้าในทันที ปล่อยให้บ้านนั้นตั้งตระหง่านเฝ้ามองการจากไปของผู้มาเยือน

แต่จะมีใครรู้ไหมว่า นั่นคือสิ่งที่ผู้ที่อยู่ในบ้านรอคอยมานาน เพราะบัดนี้แผ่นทองเหลืองเล็กๆ สลักภาษาบาลีที่ถูกตรึงไว้กับกำแพงหน้าบ้านนั้น มันได้เกาะเกี่ยวไปกับท้ายรถหกล้อคันใหญ่คันนั้นไป แล้วร่วงหล่นอยู่กลางถนนสายเปลี่ยวสายนั้น

“ฉันเป็นอิสระแล้ว” เสียงอันแจ่มชัดของหญิงสาวผู้เบื้องหลัง

 ผู้ขับรถเหยียบคันเร่งเกือบจะมิดไมล์ จุดประสงค์ก็เพื่อรีบตามรถคันหน้าให้ทัน รถคันสีขาวข้างหน้าเป็นรถของพิธีกรภาคสนามอย่างแน่นอน ผู้ขับขี่ผ่อนเครื่องยนต์ลงเมื่อเห็นว่าเจอรถของทีมงานแล้ว แสงไฟหน้ารถสาดส่องไปใกล้รถคันข้างหน้า ผู้เป็นสารถีเพิ่มน้ำหนักแรงกดที่คันเร่งอีกครั้งเพื่อหวังจะแซงนำหน้าไป

ในวินาทีนั้นเองสายตาทุกคู่ของผู้ที่โดยสารมาในรถก็เห็นสิ่งๆ เดียวกัน ซึ่งทำให้ทุกคนแทบจะหยุดหายใจ

หญิงสาวสวมเสื้อยืดสีขาวกระโปรงยาว นั่งห้อยขาอยู่กระโปรงหลังของรถคันข้างหน้า ร่างๆ นั้นค่อยเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มให้อย่างเยือกเย็น

ผู้ทำหน้าที่สารถีหยุดรถกะทันหัน โดยไม่สนใจว่ามีรถคันหลังตามมาหรือไม่ แต่ถือว่าโชคยังเข้าข้างพวกเขาอยู่ เพราะยามนี้ดูเหมือนจะมีแต่รถของทีมงานเท่านั้นที่สัญจรอยู่บนถนนเส้นนี้ แต่พวกเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้พิธีกรภาคสนามผู้เป็นเจ้าของรถฟังดีหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบใดๆ ทั้งสิ้น

 

 

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน