22 ธันวาคม 2544 11:45 น.

ชีวิตชื่น (ขื่นขม)

แก้วรัดเกล้า

ชีวิตเอย   เชยแต่ขื่น   ชื่นแต่ขม
ช้ำอกตรม   ข่มจิต   ปิดบังไว้
อย่าผยอง   พองอวด   ปวดหัวใจ
อย่าให้ใคร   ไขขาน    ประจานมา
หน้ายิ้ม ยิ้ม    อิ่มเอม     เปรมเหมือนสุข
แต่ความทุกข์   ท่วมท้น     เป็นหนักหนา
ทุกข์ของเรา   ใครเล่า   จะนำพา
แล้วจะมา   เล่าขาน       ทำไมกัน
สังคมเอย  สังคม  ที่ขมขื่น
มีแต่ยื่น   ประกาศิต   คิดแข่งขัน
เพื่อเกียรติ  ศักดิ์ศรี  ที่แย่งฟัน
เข้าโรมรัน  ขันแข่ง  แห่งสังคม
บ้างล้มเหลว  จนคิด  ชีวิตสิ้น 
เศรษฐกิจ  พังภินท์  จนขื่นขม
บ้างประสาท  ราญแหลก  เพราะความตรม
เพราะไม่สม  ดั่งจิต  จินตนา
ชีวิตเอย  เชยแต่ขื่น  ชื่นแต่ขม
หวังลมลม  แล้ง แล้ง สักวันหนา
ทุกสิ่งต่าง  อาจดี  ที่เป็นมา
ทุกชีวา  เชยชื่น   รื่นฤดี
เลิกแก่งแย่ง   แข่งขัน   สรรค์และสร้าง
ร่วมจัดวาง  ความสุข หว่างวิถี
ร่วมเคารพ  กฎเกณฑ์   แห่งความดี
เกียรติ ศักดิ์ศรี  ปรากฏฟุ้ง  รุ่งกำจาย				
13 ธันวาคม 2544 17:16 น.

พัชรมณีแห่งชีวิต

แก้วรัดเกล้า

เธอคือหนึ่ง พัชรมณี แห่งชีวิต
คือดวงจิต  บริสุทธิ์  และผ่องแผ้ว
เธอคือหยาด  น้ำสวง งามเพริศแพร้ว
คือดวงแก้ว ประจำจิต  ประจำใจ
เธอปลูกฝัง   ความดี  ศรีชีวิต
ทั้งซื่อสัตย์    สุจริต   ติดนิสัย
คุณธรรม  เที่ยงตรง  คงในใจ
และยิ่งใหญ่  กตัญญู  รู้คุณคน
เธอมิเคย  เอ่ยหน่าย   กับชีวิต
ทั้งลิขิต   ก้าวย่าง   อย่างเกิดผล
อบายมุข  ชั่วช้า  มิยินยล
ยึดถือตน  คนดี  ที่สำคัญ
เธอคือหนึ่ง  ในใจไม่เคยห่าง
ไม่ลาร้าง      ห่างไกล   ให้โศกศัลย์
เธอผู้เป็น  พัชรมณี  แห่งชีวัน
คือจอมขวัญ แก้วรัดเกล้า  ตลอดไป				
13 ธันวาคม 2544 02:52 น.

ว้าเหว่า.......

แก้วรัดเกล้า

...ฉันว้าเหว่  เดียวดายอยู่ในเงามืด มุมอับของหัวใจ
ไม่มีใครได้ยินเสียงคร่ำครวญของฉัน
ไม่มีใครได้เห็นหยาดน้ำตาที่ไหลหยาดหยด
และไม่มีใคร  สนใจใยดี
ฉันเหมือนนกที่ปราศจากปีก
ได้แต่จับนิ่งอยู่กับคอน
เฝ้าคอยแต่หวังและ รอคอย
  ...แล้ววันหนึ่งเธอก็มา
ด้วยแสงงามละมุนอ่อนหวาน
ด้วยยิ้มที่สว่างไสวราวแสงแห่งสวรรค์
สูงส่ง  บริสุทธิ์  และศักดิ์สิทธิ์
แทรกเร้นเข้ามาในความมืด
อบอุ่นปลอบประโลม
  ...เธอผู้เปรียบประดุจเทวดาประจำตัว
ของคนทุกข์ ไร้คนเหลียวแล  เช่นฉัน
เธอผู้เปรียบประดุจ พ่อ  พี่ชาย ผู้ให้ความอบอุ่น
กับคนที่มีหัวใจยะเยือก  ขาดรัก และความอบอุ่นเช่นฉัน


มอบให้แด่พี่ชายคนดี
น้องสาวที่รักพี่พตทั้งชีวิตและจิตวิญญาณที่มี
น้องหญิงเอ๋				
9 ธันวาคม 2544 17:16 น.

จินตนาการ

แก้วรัดเกล้า

โลกกว้าง   แผ่นใหญ่   หนึ่งใบนี้
แหล่งรวมที่ พวกเรา คนรุ่นใหม่
เป็นมนุษย์  ที่ไม่  มีหัวใจ
สืบพันธุ์ได้  โดยมิต้อง  ผสมพันธุ์
อาหารหรือ  คือแคปซูล  พอยังชีพ
ที่ช่วยถีบ  วิถี   ให้สร้างสรรค์
เป็นมนุษย์  ที่ไม่ตาย  เนิ่นนานวัน
ที่กล่าวนั้น  คือจินตนา  ในหัวใจ
โลกกว้าง  แผ่นใหญ่ หนึ่งใบนี้
อีกร้อยปี  ที่เรา  ได้อาศัย
มีแต่ผืน  ดินกว้าง  ไร้พงไพร
แล้วมีไหม   ใครจะมา  อยู่ด้วยกัน
จินตนาการ  อีกร้อยปี  ของโลกนี้
จะไม่มี  สิ่งใด   ที่สร้างสรรค์
ทุกสิ่งต่าง  อยู่อย่าง  ไร้ชีวัน
แล้วเธอฉัน  จะเลือก อยู่อย่างไร				
8 ธันวาคม 2544 16:48 น.

...คือ...ชนะหรือ

แก้วรัดเกล้า

เคยมั๊ยหัวใจเหมือนจะไร้เพื่อน
เคยมั๊ยเหมือนเหมือนจะเงียบเหงา
เคยมั๊ยตกใจสั่นเพราะหวั่นเงา
เคยมั๊ยเศร้า เศร้าเหมือนร้าวราน
จิตสำนึกวันเวลามาหลอนหลอก
จิตภายนอกอาจจะแข็งและแกร่งกร้าน
ความอ่อนเก็บซ่อนไว้ในวิญญาณ
จึงทนทานแบบอ่อนแอพ่ายแพ้ตน
สายลม...พัดผ่านสะท้านหนาว
เจ็บลึกร้าว หยดน้ำตา  เคล้าคละฝน
ไอละอองหมอกหนา พามืดมน
จึงรู้สึกเหมือน เหมือนหม่นอยู่คนเดียว
บนถนนเส้นสายหลายเส้นนั้น
ก้าวคงมั่น...แต่เงียบเหงาและเปล่าเปลี่ยว
กระแสธารชีวิตแกร่งไหลแรงเทียว
เลาะลัดเลี้ยวผ่านอุปสรรคสู่หลักชัย
ณ  จุดหมายปลายทางที่สร้างสรรค์
ไม่มีสายสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ 
จึงเปล่าเปลี่ยว..โดดเดี่ยว..แสบเสียวใจ
เหมือนปราชัยในเส้นทางที่สร้างมา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วรัดเกล้า
Lovings  แก้วรัดเกล้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วรัดเกล้า
Lovings  แก้วรัดเกล้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วรัดเกล้า
Lovings  แก้วรัดเกล้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วรัดเกล้า