1 มีนาคม 2550 15:38 น.

สงครามความร้อน

แดนไกล ไลบีเรีย



เพลิงร้อนเปลวแดดแผดจ้า
ร้อนทั้งโลกา
โลกาก็ร้อนวุ่นวาย

ทุกสิ่งหลอมเหลวละลาย
แม้แต่เม็ดทราย
ยังหลอมเพราะแรงแดดร้อน

ท่ามกลางรังสีทินกร
เผาไหม้ไฟฟอน
ใจคนก็รุ่มเป็นไฟ

ใจคนก็ตายทันใด
มิรู้เคลื่อนไหว
มิยอมเปิดใจให้กัน

สนิทนิ่งเชียบเงียบงัน
ผ่านไปวันวัน
เหมือนอยู่ลำพังเพียงตน

ในโลกแคบคับสับสน
ฝูงสัตว์มนุษย์ชน
กระทำแต่ความสามานย์

โลกยิ่งร้อนเลือดเดือดพล่าน
จึงปรากฏการณ์
สงครามความร้อนแห่งใจ

ฝูงชนแข่งขันชิงชัย
สาดสีใส่ไคล้
สุมไฟในอกสะทกสะท้าน

องศาความร้อนพุ่งทะยาน
ทั่วทุกหย่อมย่าน
เปลวร้อนเหนี่ยวนำทำลาย

สงครามยากหยุดคลี่คลาย
วิกฤติพิษร้าย
ยิ่งนาน, ยิ่งร้อนสั่งสม

ความร้อนแทรกทั่วสังคม
ฝูงชนครวญขรม
เมื่อไหร่โลกนี้จึ่งเย็น

เมื่อไหร่โลกพ้นลำเค็ญ
เมื่อไหร่ร้อนเข็ญ
จึงดับคลี่คลายเสียที

........................................
........................................
........................................

ลองใช้หัวใจดูซี
ใช้มิตรไมตรี
ถักสานสายใยสัมพันธ์

เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ให้เธอให้ฉัน
จับมือสรรสร้างโลกใส

ความร้อนจักคลายสลายไป
คงความเย็นใจ
คงไว้ในโลกนิจนิรันดร์


				
24 กุมภาพันธ์ 2550 00:17 น.

ดาริกาในฝัน

แดนไกล ไลบีเรีย




คิดถึง........
ใครคนหนึ่งซึ่งฝันข้าปรารถนา
โอ้ว่าเจ้าดวงดอกดาริกา
เจ้าจะเยือนฝันข้าอีกคราใด

คิดถึง.......
แอบลึกซึ้งเกินฝันจะหวั่นไหว
ปรารถนาจะพบเจอเจ้าดวงใจ
ปรารถนาจะอิงไอจากใจนาง

ไม่อยากให้รับรู้อยู่เพียงฝัน
ไม่อยากกลั้นมองเมินอย่างเหินห่าง
ไม่อยากพร้อมยอมรับกับฝันจาง
ไม่อย่างนอนกอดร่างอย่างโดยเดียว

ข้าจะขอปฏิญาณกับหัวใจ
อันร้างไร้คนรักอยู่เปล่าเปลี่ยว
จะเดินฝ่าทางคดทางลดเลี้ยว
ออกท่องเที่ยวหวังประสบจะพบรัก...

โดยสารฝันฟุ้งเฟื่องถึงเมืองหลวง
ออกตามดวงดอกดาริกาที่ข้าประจักษ์
ข้าปรารถนาจะพบเจ้าอยู่นานนัก
แหละปรารถนาจะทายทักกับรักแท้

....................................................
....................................................
....................................................
....................................................

ตามทางในเมืองหลวง...โอ้ หน่วงหนัก
เศษความรักเกลื่อนถนน, คนย่ำแย่
นวลนารีส่ายก้นชวนคนแล
คงไม่ใช่เจ้าเป็นแน่...เจ้าดาริกา

เจ้าไม่ใช่หญิงขายบริการ
เจ้าไม่ใช่คนพยาบาลความตัณหา
เจ้าไม่ใช่โคโยตี้โชว์สินค้า
เจ้าไม่ใช่ดาราอวดเนื้อนม

เจ้าไม่ใช่นักศึกษากระโปรงสั้น
เจ้าไม่เคยแลกพรหมจรรย์เข้าเสพสม
เจ้าไม่เคยเปลื้องกายให้ชายชม
เจ้าไม่ใช่เครื่องปลดอารมณ์ให้กับใคร

เพราะเจ้าคือดวงดอกดาริกา....
นางในฝันที่ข้าเคยฝันใฝ่
เจ้าประแป้งนวลละอองคล้องสไบ
เจ้าอ่อนหวานจับใจจนตรึงตรา

....................................................
....................................................
....................................................
....................................................

หรือเจ้ามิใช่ดอกดาริกาคนเดิมนั้น
เจ้าจึงผันตัวเองตามสังคมบ้า
หรือเจ้าเองลืมพี่คนบ้านนา
หรือว่าดวงดอกดาริกา...เจ้าตายแล้ว !!!!!





				
17 กุมภาพันธ์ 2550 22:18 น.

!!! มันยอมกูเอง !!!

แดนไกล ไลบีเรีย



เมื่อยอดหญ้าถูกย่ำจนช้ำชอก
ดวงไม้ดอกถูกเด็ดดมจนขมขื่น
รากไม้เน่าเปื่อยตมหมักหมมชื้น
มิสามารถหยัดยืนอยู่เติบโต

“กูจะเอา กูอยากได้ กูไม่สน
กูจึงหลอกเปรอปรนคนเง่าโง่
กูยอมเสียเงินร้อยพลอยคนโซ
เป็นลูกโซ่เพื่อสร้างทางสู่เงิน

ใครจะว่า ใครจะประท้วงไล่
ไม่ใส่ใจ  กูยังมีคนสรรเสริญ
กูหน้าด้าน กูไม่รู้ กูจะเมิน
ที่กูเดินบนหลังคน...มันทนเอง

กูไม่ได้ใช้คำบังคับขู่
กูไม่ได้ต่อสู้หรือข่มเหง
กูแค่ใช้เพลงเงินตรามาบรรเลง
ให้มันเกรงในศักดิ์อำนาจกู

มึงจะมาไล่กูได้อย่างไร
หากรากหญ้ายากไร้ยังมีอยู่
หากพวกมันยังต้องการเงินพรั่งพรู
มึงจะมาเป็นศัตรูกูทำไม

ที่ยอดหญ้าชอกช้ำเพราะอยากช้ำ
ที่ดอกไม้โดนย่ำ....มันยอมได้
กูก็แค่โปรยเศษเงินให้มันไป
เพื่อเอาไว้หมักหมมเป็นตมโคลน


				
13 กุมภาพันธ์ 2550 22:28 น.

รางรถไฟสายความฝัน (ภาคจบ)

แดนไกล ไลบีเรีย





รางรถไฟสายความฝัน  (ตอนจบ)






ในความฝัน...
เด็กชายเดินอยู่บนสวรรค์
ประหลาดใจ...เขามาที่นี่ได้อย่างไรกัน
แล้วไหนล่ะคือฝันที่เขากำลังตามหา

เด็กชายเดินวนไปวนมา
เดินไปตามทางข้างหน้า
วกกลับเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา
สุดสายตา...เวิ้งว้าง

ระหว่างทาง...
ระหว่างที่หมอกขาวปลิวลอยบาง
เด็กชายกำลังเจอฝันจางๆ
อีกครั้งที่เขาเดินอยู่บนรางรถไฟ

เขาเดิน....เดินไปไกลแสนไกล
ท้องฟ้ายังดูสดใส
ดอกไม้ยังยิ้มรับวันใหม่
ต้นไม้ยังพลิ้วไหวไปกับสายลม

เขาเด็ดดอกไม้มาเชยชม
เด็ดดอกไม้มาดอมดม
เด็ดเอาดวงใจที่ขื่นขม
ทิ้งให้มันจมไปกับวันวาร

เด็กชายเดินตามทางฝันที่เขาต้องการ
เดินตามหามานานแสนนาน
เขาไม่อยากกลับบ้าน
เขาเชื่อว่าสักวันต้องพบพานความฝัน

เด็กชายยังเดินต่อไปไม่ไหวหวั่น
เดินมุ่งไปด้วยใจมั่น
ตามเส้นทางรางรถไฟสายนั้น
พเนจร....ตามฝันต่อไป

เด็กชายแบกกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ
เพื่อจุดหมายและความฝันอันยิ่งใหญ่
เขาเดินตามรางรถไฟ
เดินมาหยุดหน้าสถานีไหนกันนี่

เด็กชายยกกระเป๋าขึ้นสถานี
เขาจะต้องไปแห่งใดสักที่
เด็กชายเหลียวมองไปรอบข้างอีกที
ขบวนรถไฟจอดปลายสถานี “รถไฟสายความฝัน”

เด็กชายสุดดีใจตื้นตัน
นั่นไงทางที่เขาเลือกจะไปอยู่ตรงนั่น
เขาจะได้พบกับสิ่งที่เขาอุตส่าห์ฝ่าฟัน
เขาก้าวขึ้นรถไฟขบวนนั้นเพื่อตามฝันที่เขารัก

ปู๊น  ปู๊น  กระฉึก  กระฉัก
ปู๊น  ปู๊น  กระฉึก  กระฉัก
ปู๊น  ปู๊น  กระฉึก  กระฉัก
กระฉึก  กระฉัก  กระฉัก  กระฉึก
.......................................................
.......................................................
.......................................................

รถไฟแล่นมาจนดึก
เด็กชายใจเต้นตักตึก
เขากำลังจะได้พบกับฝันที่เขาเคยคิดนึก
ผ่านไปชั่วความรู้สึก...วันพรุ่งนี้

รถไฟจอดลงที่สถานี...
เด็กชายเดินลงจากรถไฟอย่างเร็วรี่
แต่เขาแปลกใจ ! ทำไมรอบข้างว่างเปล่า...ไม่เห็นมี
ร่องรอยความฝันที่เขาเคยฝันไว้

ความฝันคืออะไร...
เด็กชายคนนี้อาจยังไม่เข้าใจ
เขาคงอาจเคยสงสัย
ว่าทำไมเขาจึงต้องตามหาฝัน

บนสรวงสวรรค์...
เด็กชายตัวน้อยสุขสันต์
เขายังออกเดินทางตามรางรถไฟสายนั้น
เขายังออกพเนจรตามหาความฝัน...
เขายังตามมัน....แม้มันอาจไม่มีวัน ไม่มีแล้ว.....



				
13 กุมภาพันธ์ 2550 20:48 น.

รางรถไฟสายความฝัน

แดนไกล ไลบีเรีย



บนถนนสายใหญ่...
กระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ
ถูกลากด้วยใจหนึ่งใจ
ที่ฝันใฝ่ค้นหาความฝัน

เด็กชายหนึ่งคน...
เลาะลัดเดินดั้นด้น
เตาะแตะไปตามถนน
ทอดตรงบนเส้นทางข้างหน้านั้น

อิสระ...อิสระ...
เขาต้องการอิสระ
เขาเบื่อสังคมเฟอะฟะ
เขาเบื่อกับพันธะผูกพัน

เด็กชายเดินไป...
เดินท่องไปตามทางไกล
เดินตามหาสิ่งใดๆ
ตามแต่ใจเขาจะฝัน

เด็กชายเดินไม่ยอมหยุด...
ถึงแม้มีอุปสรรคมาฉุด
ถึงแม้ร่างกายเขาจะทรุด
แต่เขายังยื้อยุดบากบั่น

เส้นทางสายถนน...สุดสาย...
แต่เด็กชายยังไม่แหนงหน่าย
เขาตั้งปณิธานท้าทาย
จุดหมายใหม่...รางรถไฟสายนั่น

เส้นทางสายใหม่...
เด็กชายตัดสินใจเดินตามรางรถไฟ
พร้อมกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ
เดินตามรางไปเร็วพลัน

พเนจร...พเนจร...
สานต่อความฝันวันก่อน
จะหลีกหนีความเดือดร้อน
ที่ลุกฟอนสังคมปัจจุบัน

เขาโบกมือลา...
ชีวิตบอด ใบ้ บื้อ บ้า
เขาจะต้องออกแสวงหา
พรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวารวัน

จวบเวลาเย็น...
เขายังมองไม่เห็น
ในสิ่งที่เขาอยากเป็น
ในสิ่งที่เขาคิดฝัน

เด็กชายเหนื่อยอ่อน...
เขาอยากจะพักลงก่อน
เขาจึงหยุดแรมรอน
แล้วล้มตัวนอน...ตรงรางรถไฟนั้น

ตื่นมาตอนเช้า...
รอบข้างกลับไม่เหมือนเก่า
เขาพบว่าตัวของเขา
ล่องลอยตัวเบาอยู่ในสวรรค์


!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


คืนที่เขานอน....
นอนลงอย่างเหนื่อยอ่อน
รถไฟขบวนหนึ่งสัญจร
แล่นผ่านรางที่เขาล้มตัวนอน
แล้วก็ฝัน......................

      				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแดนไกล ไลบีเรีย