28 พฤษภาคม 2549 05:24 น.

…ขอหลังไมค์...

แสงไร้เงา

ที่มา : หนังสือ good words good feeling  ( หลังไมค์มีไออุ่น ) 
ผู้แต่ง : ดีเจ นภาพร 

ขอหลังไมค์... 

พี่คะ ขอเพลงหน่อยค่ะ 
ได้ค่ะ..เพลงอะไรคะ 
เพลง...ค่ะ 
ได้ค่ะ เดี๋ยวเปิดให้นะคะ 
เออ พี่อ้อยคะ ของหลังไมค์ด้วยค่ะ 
ok ค่ะ 

หลังไมค์มีอะไร? 

หลายคนได้ยินบ่อยจนอยากรู้ว่า มันมีอะไรกันหรือหลังไมค์เนี่ย? ถึงขนาดที่บางคนยอมโทรเข้ามาไม่ได้ต้องการขอเพลง แค่อยากรู้ว่าหลังไมค์มีอะไร? 

ง่ายที่สุด..มันก็มีหลายอย่างที่ไม่ค่อยอยากคุยหน้าไมค์นั่นแหละ ค่ะ อันนี้ไม่ได้กะป่วน แต่เป็นอย่างนี้จริงๆ และส่วนใหญ่ก็มักเป็นการปรึกษาปัญหาสารพัด 

ใช่ว่าคนที่เป็นดีเจจะเป็นมนุษย์พิเศษที่แก้ปัญหาได้ทุกเรื่องนะคะ แต่ต้องยอมรับเหมือนกันว่า ปัจจุบันจะมีใครมั๊ยน้า ที่พอจะมีเวลานั่งฟังปัญหาของคนอื่น? บางคนอาจจะพร้อมฟังปัญหา แต่เจ้าของปัญหาเองก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะอยู่ใกล้เกินไป เอาง่ายๆ แค่คุณแอบชอบใครสักคน แล้วไปปรึกษาเพื่อน เวลาที่คุณเจอคนๆนั้น แล้วมีเพื่อนคุณอยู่ด้วย คุณจะเริ่มมีพิรุธทันที เพราะรู้อยู่ว่า ความลับนี้เพื่อนคุณรู้ดี .. เพราะฉะนั้นต้องหาใครซักคนที่  ไม่รู้จักกัน แต่สนิทกัน 

ดีเจเนี่ยแหละค่ะ ไม่ต้องเห็นหน้ากัน ไมต้องรู้จักตื้นลึกหนาบาง ของกันและกัน แต่เราก็ยังได้ยินเสียงกันทุกวัน .. ก็เลยมีการ  ขอหลังไมค์  กันอย่างชุกชุมไปหมด 

วันนี้มีสายนึงโทรมาเล่าให้ฟังว่า .. พี่คะ หนูเพิ่งวางหูจากเพื่อน แปลกมากเลยพี่ หนูเป็นคนโสด ที่เพื่อนมักจะเลือกมาปรึกษาเรื่องความรัก นี่ไม่ใช่รายแรกน้า .. ( นี่ มีกร่างซ้าด้วย ) ขอเพลงให้ตัวเองหน่อยค่ะ เพลงเปลี่ยนกันไหมของพี่จอห์นค่ะ.. 

...อยากเปลี่ยนกันไหม เธอลองมาเป็นคนที่ไม่มีใคร 
เมื่อความเงียบเหงา กินถึงกลางใจ 
การมีใครให้รักมันยังดีกว่า... 
เธอเคยบ้างหรือเปล่า? 
เมื่อมองบนฟ้าไกล มีแต่ความว่างเปล่าทีเกาะกินหัวใจ 
เหงาทั้งๆ ที่มีผู้คน เหงาทั้งๆทีคนมากมาย 
เธอว่าฉันยังดีกว่าเธอหรือ... 

ฮั่นแน่...แสดงว่าไม่อยากโสดแล้วสิ? 

เพลงเพราะเพลงนี้ พี่นิ่มสีฟ้าเขียนค่ะ คำง่ายๆที่ใช้ได้ดีในเรื่องการปลอบใจ .. เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่าปัญหาของเราเล็กกว่าคนอื่น เราจะรู้สึกดีขึ้น 

จำได้ว่าเคยอ่านคอลัมน์ของ พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ พีจิกเขียนเอาไว้ว่า 

เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเหลือเกิน... 
...เวลาที่ใครรักเรา...เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน... 
....แต่ถ้าเราเจอคนที่รักกัน เราจะผลัดกันตัวเล็กตัวใหญ่... 

ชอบจังเลยค่ะ แล้วส่วนใหญ่คนที่อยู่รอบๆตัวเรา เค้ามักจะอยากเป็นคนตัวเล็กๆ ที่มีความสุข มากกว่าคนตัวใหญ่ๆที่รู้สึกผิด เพราะบางทีการถูกรักมากเกินไป  ก็อึดอัด 

ใครก็ตามที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณว่าตอนนี้ คุณ ตัวเล็ก หรือ ตัวใหญ่ คะ ? ยังไงอวยพรให้คุณอย่าตัวเล็กตลอดไป หรือ ตัวใหญ่ตลอดกาล สลับกันตัวเล็กตัวใหญ่ดีกว่าเนอะ .. ไม่ซ้ำซากดี 

วันนี้นั่งฟังเพลง  เปลี่ยนกันไหม จนจบ 
ทั้งที่เป็นเพลงท้ายรายการ ปกติเปิดเพลงสุดท้าย 
ตั้งแต่อินโทร ก็แน่บ..ไปนอกห้องแล้วค่ะ 
"อยากเปลี่ยนกันไหม เธอมาลองเป็นคนที่ไม่มีใคร 
เมื่อความเงียบเหงากินถึงกลางใจ 
การมีใครให้รักมันยังดีกว่า 

จะตายแบบไหน 
เธอเลือกเอา..."

แหม...ถ้าเลือกได้จริงๆ ใครๆก็คงเลือกรักดีๆ ไม่ต้องมานั่งเหงา นั่ง แห้วอยู่หรอกค่ะ ... คุณว่ามั๊ย 
.
.
.				
23 พฤษภาคม 2549 04:32 น.

......รักข้างเดียว...

แสงไร้เงา

ที่มา : หนังสือ good words good feeling  ( หลังไมค์มีไออุ่น ) 
ผู้แต่ง : ดีเจ นภาพร 

....รักข้างเดียว... 

รักแท้คือการให้ ใครๆก็พูดกันแบบนี้ 
แต่มันเกิดขึ้นได้จริงบนโลกนี้หรือ 

ใช่ว่าจะทำตัวเป็นหญิงกบฏ เถียงสัจธรรมของโลกนะคะ ...เพียงแต่แอบคิดดูเฉยๆ โดยเฉพาะความรักแบบหญิงกับชาย... 

ความรักที่ประกอบด้วยคน 2 คนที่รู้สึกตรงกัน อยากจะให้ซึ่งกันและกัน แต่โลกนี้อาจจะสร้างมา ไม่ครบคู่ หรืออาจจะ มีเศษ ไม่รู้จะปัดไปไหน เราถึงเห็นคนบางคน อยู่กับความรู้สึกให้ข้างเดียว...หวังและปรารถนาดีอย่างมากมาย ทั้งที่อีกฝ่ายอาจจะไม่เห็นแม้เจตนาดีด้วยซ้ำ..แต่ก็ยังให้กันต่อไป 

มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง อยู่ในภาวะนี้มานานเป็น 10 ปีค่ะ ซึ่งมันอาจจะนานจนกระทั่งยอมรับไปแล้วก็ได้มั้งคะว่า 
ยังไงคนที่เค้ารัก ก็มีค่ามากกว่าคนที่รักเค้าเสมอ... 
คนที่เค้ารักให้มา 1 เค้ายังชื่นใจมากกว่า เค้าได้จากเราทั้ง 100 

คงเหมือนอาหารที่อร่อยที่สุดคืออาหารที่กินตอนหิว 
การนอนหลับที่มีความสุขที่สุด 
คือการได้นอนหลับตอนที่ง่วงที่สุด 

แต่กว่าทีเธอคนนี้จะคิดได้แบบนี้เนี่ย ใช้เวลาผ่านความเจ็บปวดมานักต่อนักนะคะ ...ให้ซะจนเริ่มสงสารตัวเอง คุยกันเรื่องนี้ทีไรได้เห็นเธอเสียน้ำตาทุกที แต่ไม่เคยซักครั้งนะคะ ที่จะยุให้เธอเลิก เพราะเชื่อว่าถ้ามันทำกันง่ายๆ คงทำไปแล้ว ไม่ต้องมานั่งปรึกษาให้เมื่อยตุ้ม ( ส่วนไหนของร่างกายเนี่ย ) 

เจอกันทีไรก็ได้แต่ถามว่า ยังไหวอยู่หรือเปล่าล่ะ? เธอก็บอกว่า ok อยู่ทุกครั้ง ตอนนั้นเนี่ยถ้ามียาตัวไหนกินแล้วลดความรักได้ เหมือนลดความอ้วนละก็ ต่อให้มีผลข้างเคียงบ้างก็คงจะซื้อให้กิน 

แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะดีขึ้นแล้ว ไม่ได้ลงเอยอย่างที่เธอหวังหรอกค่ะ .. แต่เธอบอกว่า  เธอรู้วิธีในการรักข้างเดียวอย่างมีความสุข   โอ้โหควรเขียนเป็นตำราเลยนะ 

นี่ไงคะคือสิ่งที่ขอเถียง ถ้าคุณคิดว่ารักแท้ของคุณคือการให้ จริง จะต้องไม่มีการมาเสียน้ำตากัน จะมานั่งน้อยใจทำไมว่า สิ่งที่คุณทำไปเค้าไม่เห็นค่า จะมีวันเหนื่อยใจกันด้วยเหรอ ทั้งทีรู้อยู่กับใจอยู่แล้วว่า ผลที่คุณหวังคืออะไร แล้วสิ่งที่คุณได้จะเป็นอะไร ... 

รัก ยังเป็นสิ่งที่สวยงามที่คุณอยากให้ และไม่ผิด ถ้าหวังอยากจะเป็นผู้รับบ้าง แต่ถ้าเริ่มจะให้ซะจน มองหาความสุขตัวเองไม่เจอแล้ว  ต้องกลับมาดูแลหัวใจของเราเองแล้วละค่ะ หัวใจเท่ากำปั้นมีค่ากับเจ้าของหัวใจขนาดไหน ให้ไปแล้วเขาไม่อยากได้ พากลับมาดูแลตัวเอง เผื่อวันไหนหัวใจที่แข็งแรง อาจจะได้เจอคนใครซักคนทีอยากจะช่วยดูแลหัวใจกำปั้นนี้ของคุณ ก็ได้ 

ใครที่อยู่ในสภาพรักข้างเดียว จะข้างไหนก็ตาม อย่าเพิ่งเลิกให้นะคะ ถ้ายังไม่เหนื่อย ยังมีความสุขที่จะให้ จงให้ให้เต็มที่ แล้ววันหนึ่งเมื่อตัวเราเริ่มเสียสมดุลความสุข วันนั้นอาจเป็นวันที่ทำให้คุณหาวิธีคิดในการรักข้างเดียวอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องหนี ไม่ต้องตัดใครคนนั้นออกไปจากชีวิต เพราะว่า 

It takes only a minute 
To have a crush on someone 
An hour to like someone 
And a day to love someone 
But it takes a lifetime 
To forget someone 

.
.
.
.
.				
22 พฤษภาคม 2549 08:17 น.

....คนดีของฉันหายไป...

แสงไร้เงา

ที่มา : หนังสือ good words good feeling  ( หลังไมค์มีไออุ่น ) 
ผู้แต่ง : ดีเจ นภาพร 

....คนดีของฉันหายไป... 

พยายามบอกตัวเองเสมอว่า... 

ในแต่ละวัน...ให้เริ่มต้นวันด้วยการยิ้ม ...แม้ว่าเรื่องที่จะทำให้ยิ้มได้ตั้งแต่เช้านั้น มีไม่กี่เรื่อง 
ในแต่ละวัน...ให้นึก  ขอบคุณ อะไรก็ตามที่ดีต่อเราวันละ หนึ่งอย่าง หรือ หนึ่งคน 
ในแต่ละวัน...ให้จบปัญหาต่างๆ ไว้ที่ทำงานไม่ต้องแบกกลับมาบ้าน ( ดูเหมือน 1 วันต้องทำอะไรหลายอย่างจัง) 
ในแต่ละวันให้ทำความรู้จักผู้คนเพิ่มขึ้นอย่างน้อยวันละ 1 คน 

แต่กลับลืมบอกตัวเองว่า 
อย่าลืมรักษาคนรู้จักให้อยู่กับเราได้นานๆ 

คำว่า  ไม่มีเวลา  ทีพูดบ่อยจนติดปากหรือได้ยินจนติดหูทำให้ความสัมพันธ์ของหลายคนปิดตัวเองลงเงียบๆ 
ค่อยเป็นค่อยไป รู้สึกตัวเองอีกที ก็เหินห่างกันจนลืมสาเหตุไปซะแล้ว 
ซึ่งจะว่าไปเราก็มีกันอยู่คนละ 24 ชั่วโมง ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้ แต่ทำไมบางทีเวลาของบางคนถึงดูน้อยกว่าอีกคน หรืออาจเป็นไปได้ว่า บางคนสามารถทำหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน สามารถขับรถไปคิดถึงไป( แต่โทรศัพท์ไปยังไม่ได้เดี๋ยวโดนจับ) ขนาดจัดรายการไปเปิดเพลงไปยังคิดอะไรไปได้ อีกร้อยแปด 

สมองมนุษย์ พยายามสร้างสรรค์ความสามารถในการสื่อสารให้คนทั่วโลกได้มีโอกาสคุยกัน ย่อโลกให้เล็กลง คุยกันได้แม้อยู่คนละซีกโลก แต่ลืมที่จะสื่อสารกับคนใกล้ตัว...ยิ่งอยู่ใกล้กัน ยิ่งใช้ระยะเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ ยิ่งคุยกันน้อยลง ด้วยเหตุผลที่ว่า 
อยู่กันมาขนาดนี้ ยังไม่รู้ใจกันอีกหรือ 

ตอนนี้ ยังอยากคุยกันอีกหรือเปล่า 
ยังสบายดีอยู่ใช่ไหม 
ถ้ายังไม่มีเวลาอยู่ มาเอาเวลาของเรา ไปช่วยใช้มั๊ย 
ที่เป็นแบบนี้เพราะ เราไม่โทรไป หรือ เธอ ไม่โทรมา 
จะเศร้ากันอีกนานไหมหนอ 

ถึงแม้ว่าส่วนตัวจะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้ามันจะเกิดขึ้นก็คงไม่ยื้อ..ยึดคติ เวลาเปลี่ยน อะไรๆมันก็เปลี่ยนเราก็คงต้องเปลี่ยน 

ก่อนที่วันนี้เราจะทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ 
อย่าลืมสำรวจตัวเองนะคะว่า 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา คุณทำใครหล่นหายไปจากชีวิตหรือเปล่า ? 


....คนดีของฉันหายไป... 				
21 พฤษภาคม 2549 00:30 น.

-::- เหงาบ้างก็ดี -::-

แสงไร้เงา

ที่มา : หนังสือ good words good feeling  ( หลังไมค์มีไออุ่น ) 
ผู้แต่ง : ดีเจ นภาพร 

....เหงาบ้างก็ดี... 

..เหงา... 

ลองออกเสียงคำนี้ดูหลายๆ ครั้งนะคะ แล้วคุณจะรู้สึกทึ่งกับคำๆนี้ คำที่ไม่มีตัวสะกด แต่เวลาที่เปล่งออกมาแล้วเนี่ย มันรู้สึกเบาๆ เวิ้งว้าง เข้ากับความหมายของคำพอดี ยังมีอีก หลายคำที่มีลักษณะคล้ายๆ กันนี้ คือแค่เสียงที่เปล่งออกมายังไม่ต้องนึกถึงความหมาย ก็พอจะนึก อารมณ์ ออก เช่น เศร้า... อีกคำหนึ่งค่ะ แห้ว... แค่ออกเสียงก็หดหู่แล้ว ลองพูดดูอีกทีสิคะ...เอ๊ะ..ดูเหมือนจะมาสอนวิธีสอนออกเสียงภาษาไทยยังไงไม่รู้ ... ม่ายช่าย..เพียงแต่รู้สึกว่าได้ยินคำนี้บ่อยเหลือเกิน 

เหงา..เหงาจัง  บางคนบ่นจนติดปาก จนไม่แน่ใจว่า ตอนนั้น เหงาอยู่ จริงหรือเปล่า? 
พี่คะ ตอนนี้อยู่คนเดียวค่ะ ช่วยเล่นเพลงอะไรก็ได้ที่ทำให้หนู หายเหงาหน่อยสิคะ   ได้ค่ะ...ก็เลยเลือกเปิดเพลง ร้องหมู่ซะเลย จะได้รู้สึกอยู่กันหลายคนหน่อย ... 
คนเหงานี่บางทีไม่ใช่อยู่คนเดียวแล้วเหงานะคะ เยอะแยะไปที่อยู่ท่ามกลางผู้คน กลับเหงากว่า ยิ่งถ้าคุณรู้สึกว่า คุณไม่ได้เป็นที่ยอมรับของสังคมตรงนั้นเลย ยิ่งจะเป็นเหงาที่ทรมานที่สุด 

ความเหงาดูเหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่เราไม่ค่อยอยากจะคบยังไงไม่รู้นะคะ ซึ่งความจริงเพื่อนสนิทคนนี้ ก็ไม่ได้น่ารังเกียจซักเท่าไหร่ ... สาเหตุก็มีกันหลายรูปแบบค่ะ 

อยู่คนเดียว ยังไม่เหงาเลย .. พอโทรไปหาแฟน เพื่อชวนไปดูหนัง แต่เค้ายุ่งมาก ไม่มีเวลา เหตุผลก็สมควรอยู่ที่เขาจะไปด้วยไม่ได้  แต่บางทีความเข้าใจก็ไม่ได้ช่วยให้ความเสียใจน้อยลง พอวางหูปั๊บก็เริ่มเหงาทันที .. พอเพื่อนโทรมาชวนดูหนังเหมือนกัน กลับไม่ไป เพราะไม่ว่าง ... นั่งเหงาอยู่ ... 

เหงาเพราะ อยากเหงาบ้าง ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งได้ เวลาที่คุณไม่ได้อยากออกไปเจอใคร ยังไม่ได้อยากคุยกับใครตอนนี้ ... ก็เป็นเหงาที่ไม่เจ็บปวด และดูจะเป็นเหงาที่มีความสุขซะด้วย 

คนเราพยายามที่จะสร้างภาษาต่างๆ ในการสื่อสารกัน สร้างภาษาพูด ภาษามือ เพื่อให้เข้าใจกัน และเหงาน้อยลง แต่ นานๆ เข้าเราก็เลยถนัดสื่อสารกับคนอื่นมากซะจนลืม สื่อสารกับตัวเอง...เคยสังเกตมั๊ยคะว่า เราชอบทำแบบ สอบถาม วัดความชอบ ลักษณะนิสัย เพราะทุกคนก็อยากทำความรู้จักกับตัวเองทั้งนั้น ทั้งๆที่เราอยู่ด้วยกัน มาแต่เกิด... 

คำถามทางจิตวิทยาทั้งหลาย อย่างเช่น ถ้าให้นึกถึงสัตว์ 3 ตัว จะนึกถึงสัตว์อะไรบ้าง ... คิดก่อนนะคะ ค่อยดูคำเฉลย... 

สัตว์อันดับที่ 1 ที่คุณคิดถึง ลักษณะนิสัยมันเป็นยังไง ก็พอจะอนุมานได้ว่าคุณมีอุปนิสัยอย่างไร มาถึงอันดับที่ 2 คุณคิดถึงสัตว์อะไร อุปนิสัยอย่างไร นั่นหมายถึงคุณอยากมี เพื่อนใจเป็นลักษณะเช่นนั้น สัตว์ในอันดับที่ 3 ที่คุณคิดถึง ก็จะแทนความฝันที่อยู่ในใจของ คุณ ... 

สนุกดีนะคะ .. อย่างถ้าสัตว์ 3 อย่าง ที่คุณเลือกเป็น สุนัข กระต่าย นก นั่นจะหมายถึง คุณมีลักษณะนิสัย ซื่อสัตย์ ขี้เล่น อยากมีเพื่อนใจที่อยู่ในความควบคุม ดูเรียบร้อยเหมือนกระต่าย และตัวคุณก็แอบมีความรู้สึกอยากเป็นอิสระเหมือนนก อะไรประมาณนี้แหละค่ะ ... ยังมีคำถามประเภทนี้อีกแยะเลย ...แต่อาจจะลืมวิธีที่ง่ายที่สุดก็ได้ นั่นคือ การคุยกับตัวเองค่ะ ( คุยเบาๆ ก็ได้นะคะ คุยกับตัวเอง ให้ตัวเองได้ยิน ไม่ต้องให้คนอื่นได้ยิน ) 

เอาเวลาที่ไหนดีล่ะคะ? แค่นี้ก็ไม่มีเวลาแล้วที่จะมานั่งคุยกับตัวเอง น่ะ? ก็เอาเวลาที่เหงาไงล่ะคะ .. อย่าเพิ่งรีบหาวิธีแก้เหงา อย่างน้อยถามตัวเอง และ คุยกับตัวเอง ให้ได้ก่อนว่า เอ๊ะ...ทำไมวันนี้ถึงรู้สึก แย่ๆ เซ็งๆ และเหงาขนาดนี้ ... คงเคยได้ยิน หรือ อาจได้เจอบ่อยๆ ใช่ไหมคะ ประเภทที่เรามักเห็นค่าของคนบางคน เมื่อตอนที่เค้าคนนั้นได้จากเราไปแล้ว ... รู้สึกช้า ... ในที่สุดก็ดึงเค้ากลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ แยกไม่ออกว่า  ความผูกพัน กับ  ความเคยชิน  ต่างกันยังไง เพราะเราอาจจะลืมถามความรู้สึก ของตัวเอง บ่อยๆ ก็ได้ อย่างน้อยถ้าเรารู้สึกว่า ไม่มีเค้าแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น คุณจะได้เริ่มรักษาเค้าไว้ให้อยู่ กับตัวเองได้ นานๆ 
เห็นมั๊ยคะว่า ความเหงาไม่ได้น่ารักเกียจซักหน่อย มันยังเป็นเพื่อนสนิทที่แวะมาเยี่ยมได้บ่อยๆ แต่อย่าให้อาศัยอยู่นานๆ จะกลายเป็นคนที่ หดหู่ ไร้กำลังใจ และเศร้าซึมในที่สุด แวะมา เมื่อไหร่ก็ยิ้มรับ เผื่อจะได้เอาเวลานั้น ถามไถ่ความรู้สึกตัวเอง บ้าง แล้ววันหนึ่ง คุณอาจจะพบว่า วันเหงาๆ แวะมาหาคุณ น้อยลง ... 



-::- เหงาบ้างก็ดี -::-				
19 พฤษภาคม 2549 12:28 น.

....วันสุดท้าย...

แสงไร้เงา

ที่มา : หนังสือ good words good feeling  ( หลังไมค์มีไออุ่น ) 
ผู้แต่ง : ดีเจ นภาพร 


....วันสุดท้าย... 

วันนี้อ่านเจอข่าวหนึ่งในนิตยสารเล่มหนึ่งค่ะ เป็นเรื่องของทนายความหนุ่มคนหนึ่ง ขึ้นเครื่องบินไปที่ประเทศอังกฤษ ในระหว่างการเดินทาง เครื่องบินประสบสภาวะอากาศที่เลวร้าย เครื่องสั่นตลอด ... และกัปตันไม่สามารถนำเครื่องลงได้ ต้องมีการประกาศภาวะ ฉุกเฉิน ชายหนุ่มกลัวมาก และนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้สั่งเสียอะไรเลย มีอะไรหลายอย่างที่อยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำ อยากฝากบอกคนโน้น คนนี้ เวลาคงไม่พอแล้ว ต้องตายแล้วหรือนี่..ชายหนุ่มได้แต่คิด 

แต่วันนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดีกับอาการใจหายใจคว่ำของทุกคน จาก วันนั้น ทนายความหนุ่มก็เลยได้แรงบันดาลใจ ในการทำ website สำหรับการสั่งเสียโดยเฉพาะ อยากจะบอกอะไรให้กับใคร ก็ post เอาไว้ มีการฝาก e-mail ให้กับลูกหลานว่า อยากจะให้จัดการพิธีศพของตัวเองอย่างไร ให้บริจาคอวัยวะร่างกายแก่ใคร มีผู้คนสนใจเยอะมาก ถึงขนาดที่ชายหนุ่มคนนี้ลาออกจากงาน เพื่อมาทำ websute นี้อย่างจริงจัง ชื่อว่า www.finalthoughts.com 
ความตาย  แม้ว่าจะเป็นสัจธรรมของชีวิต คือต้องเกิดขึ้นแน่นอน ในวันใดวันหนึ่ง ของเรา แต่ก็ยังกลัวกัน และพยายามทำยังไงให้ตายช้าที่สุด .. ความตายที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ตายไปโดยยังไม่ได้ทำอะไรที่ตั้งใจไว้เลย 

มีโอกาสได้คุยกับ พี่แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตรค่ะ พี่แอมจะเป็นคนที่เชื่อในเรื่องของความไม่แน่นอนในข้อนี้มาก พี่แอมบอกว่า  พี่จะไม่ทะเลาะกับคนที่เรารักก่อนออกจากบ้าน อย่างน้อยก็ต้องเคลียร์กันให้เรียบร้อยก่อน เพราะไม่รู้ว่าออกไปนอกบ้านแล้ว เราจะเจออะไรบ้าง และเราจะได้มีโอกาส ขอโทษ กันหรือเปล่า 

คนไทยเราบางส่วนถือเรื่องนี้นะคะว่า   เอ๊..เราจะมาแช่งตัวเองทำไม แต่การเตือนตัวเองเอาไว้ ก็ทำให้ระมัดระวังมากขึ้นนะคะ เวลาไปดูหมอดู ...หมอดูทัก เรายังเชื่อนักเชื่อหนา เราเอง ชีวิตของเรา เกิดทักขึ้นมาบ้าง จะไม่ระวังกันเชียวหรือ 

บางครอบครัว ตอนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา รู้สึกเป็นบ้านที่ มีปัญหา ทะเลาะกันบ่อยๆ ขาดใครคนหนึ่งคนใดไป ต่อให้คุณร้องไห้เสียใจแทบตาย ก็ไม่รู้ว่าคนที่จากไปแล้วนั้น จะรับรู้ความรู้สึกของคุณรึเปล่า... 

 หากวันนี้เหลือเพียงวันสุดท้าย รักแค่ไหนได้ทันบอกเธอหรือยัง 
หากว่าพรุ่งนี้สายเกินไปทุกอย่าง เรารักเราดีต่อกันพอไหม  

ท่อนหนึ่งของเพลงที่พี่แอมเขียนไว้ 

และถ้าเกิด 24 ชั่วโมงนับจากนี้ คือวันสุดท้ายของคุณจริงๆ 
มันพอกับสิ่งที่คุณอยากทำมั๊ยคะ? 

(ไม่ได้แช่งกันค่ะ...สาบานได้ ) 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงไร้เงา
Lovings  แสงไร้เงา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงไร้เงา
Lovings  แสงไร้เงา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงไร้เงา
Lovings  แสงไร้เงา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแสงไร้เงา