28 มิถุนายน 2549 23:43 น.

...คิดถึงแม่...

แสงไร้เงา

คิดถึงแม่

เคยได้ยินเขาพูดว่า "เวลามีทุกข์ถึงจะคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่"
แต่ฉันกลับไม่คิดแบบนั้นเลย
"มีความสุขก็คิดถึง มีทุกข์ก็คิดถึง "
บางทีมีความสุขกลับคิดถึงบ้านมากกว่า...
และบางที เวลาฉันมีเรื่องทุกข์ใจกลับอยากเก็บไว้คนเดียวซะอีก
ไม่เคยจะเล่าให้แม่หรือทางบ้านหรือคนอื่นฟังหรอก
กลับอยากเดินหนี ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเรานั่นท้อแท้แค่ไหน
(ก็มีบ้างเป็นบ้างที ที่เราให้เพื่อน ๆ ฟังบ้าง 
ก็ขอบคุณมากนะคะ...ที่รับฟังเรื่องน่าเบื่อ)

ถ้าจะเล่าก็แต่ในสิ่งดี ๆ ที่เราพบเจอ
เล่าแต่ในสิ่งที่สวยงาม สิ่งแปลกใหม่
จะเล่าแต่ในสิ่งที่ทำให้ท่านดีใจ
หรือสิ่งไหน(ที่เรา)ไม่ดีหรือเรากำลังทุกข์ใจจะไม่ยอมเล่าเลย

ฉันกลับไม่เคยคิดจะเล่าให้ท่านฟัง
เพราะถ้าเล่าแล้วทำให้ท่านไม่สบายใจ จะเล่าไปทำไม
ฉันก็อยากให้ท่านสบายใจ
ลูกยิ่งอยู่ไกล ไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง
แม่นะ ถ้าคิดอะไรมากแล้ว กินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ
แม่เป็นแบบนี้จริง ๆ เลย (ลูกสาวก็เป็นเหมือนกัน นิสัยนี้ได้มาจากแม่)

นี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้จักความอดทน 
เรียนที่จะเป็นผู้ใหญ่ รู้จักการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
ไม่ใช่มีเรืองอะไร จะโทรหาแม่ตลอด
ถ้าสักวันไม่มีท่าน .... แล้วใครจะช่วยแก้ปัญหาให้เรา

เวลามีเรื่องดีใจอยากโทรหาแม่ 
แต่ถ้าวันไหนเหงา ๆ
 เรากลับคิดถึงใครคนนั้นมากกว่าแม่อีก(บางทีนะ)
ก็เพียงอยากจะอ้อนบ้างเป็นที...
ว่าคนดีเป็นไง..ทำงานเหนื่อยไหม...
ก็ไม่ใช่จะเล่าให้คนนั่นฟังแต่เรื่องเหงาๆ นะ
ก็อยากเล่าเรื่องดี ๆ ให้ฟังเหมือนกัน..
..ก็อยากได้ยินสักคำว่า..คิดถึงกัน...ก็ยิ้มได้แล้ว..

ไม่คิดถึงแม่ก็เพราะไม่อยากให้ท่านได้รับรู้
ว่าลูกสาวคนนี้ของแม่ช่างอ่อนแอเหลือเกิน
ไม่ได้เป็นคนเก่งของแม่..อย่างที่แม่คิดเลย
ไม่เข้มแข็งอย่างที่แม่ไว้ใจ
อยากบอกแม่เหลือเกินว่าเหงา แสนเหนื่อย
ลูกคนนี้..ท้อแท้....เดียวดายแค่ไหนแม่รู้บ้างไหม
แต่ต้องเก็บเอาไว้เพื่อความสบายใจของแม่
ลูกสาวคนนี้ทำเพื่อแม่ได้ทุกอย่าง
อยู่ได้ก็เพราะมีกำลังใจจากครอบครัว
ยิ้มได้ทุกวันนี้ก็เพราะพวกเขา

แม่จะบอกลูกสาวว่า ..สู้ ๆ นะ ลูก แม่ เป็น กำ ลัง ใจ ให้ ...
แม่จะจับมือไว้ ลูบที่แก้มเบา ๆ รักลูกเสมอ...
แม่พร้อมที่จะเดินไปกับฉัน ..จนกว่าสิ้นลมหายใจ...


(ด้วยรักและคิดถึง)


รักแม่มาก ....				
28 มิถุนายน 2549 11:42 น.

16 อาชีพ

แสงไร้เงา

หนุ่มๆ 16 อาชีพที่สาวๆไม่ควรแต่งงานด้วย! 
> 
> 
> 1. หมอ เพราะหมอชอบบอกให้คนไข้ หายใจแรงๆ แล้วก็ร้องอา... 
ห์ยาวๆ ตลอดทั้งวัน ฟังบ่อยๆ แล้วมันคงดูโรคจิตพิกล 
> 
>2. ทหาร เพราะทหารตัวใหญ่ แข็งแรง อึด แถมชอบตะโกนเสียงดังว่า ยก...ก! อาวุธ แบกอาวุธ! และก้อเล็ง อาวุธ! เป็นบางทีก็ดีอยู่หรอก แต่ให้บ่อยๆ ห้องนอนมันจะกลายเป็นสนามรบเอา 
> 
>3. นักกีฬา เพราะว่านักกีฬาวันๆจ้องแต่จะทำลายสถิติอยู่บ้านเฉยๆ 
ก็สะกิดแล้วสะกิดอีก "หมู่นี้สถิติตกไปนะเธอ..มาทำลายสถิติ กันเถอะ...!! 
> 
>4. นักร้อง เพราะนักร้องบางคนชอบมี ไมค์ส่วนตัวหลายอัน 
> 
>5. แท็กซี่ เพราะชอบฝ่าไฟแดง แถมยังปาดซ้ายไปขวามา 
> 
>6. กระเป๋ารถ เมล์ เพราะแค่เริ่มเดินเครื่อง ก็ตะโกนสั่งว่า ชิด 
ในทันที! 
> 
>7. ผู้กำกับการแสดง เพราะผู้กำกับใหญ่ๆ เอะอะอะไรก้อ "เอาอีกเทค" 
> 
>8. ดารา เพราะดาราชอบร้องไห้ (ร้องทั้งวันทั้งคืน ก้อหมดอารมณ์กันพอดี 
>) 
> 
>9. นักเล่นกล้าม เพราะนักเล่นกล้ามหน้า อกใหญ่กว่าสาวๆ 
>กลายเป็นปมด้อยของสาวๆเข้าไป อีก 555 
> 
>10. นักเล่นหุ้น เพราะเดี๋ยวเกิดอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ตามหุ้น 
>วันไหนไม่พอใจก็อาจขายทิ้งซะ งั้น!! 
> 
>11. พ่อครัวเบเกอรี่ เพราะถึงแม้จะน่าติดใจในรสชาติขนม 
แต่สาว ๆ พึงคิดนิดนึง ว่าวันๆ พ่อครัวนั้น "ตีไข่" ไม่ 
รู้ตั้งกี่รอบ ตีอยู่ได้ทั้งวัน! 
> 
>12. ทนาย เพราะ เอะอะอะไรทนายก็จะพูดแทนเราทุกอย่าง 
> 
>13. ครู เพราะ พวกนี้จะชอบสอนเป็นวิสัย สอนเสร็จก็มักจะถามว่า 
>เข้าใจไหม ถ้าตอบว่าเข้าใจ ก็จะให้ " การบ้าน" ไปทำอีก แถมยังชอบบอกว่า "เก่งมาก เอาอีก เอา อีก" 
> 
>14. พนักงานแคชเชียร์ เพราะพวกนี้เวลากำลังยุ่ง ชอบบอกว่า 
>"เข้าช่องถัดไปได้ไหมครับ" 
> 
>15. พนักงาน รถไฟ เพราะรถของพวกเขาร้องว่า "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ 
ช่าง" 
> 
>16. นักสนุกเกอร์ เพราะพวกนี้เล็งตั้งนาน แต่แทงทีเดียวลงหลุม! 				
14 มิถุนายน 2549 08:45 น.

....ใช่เลย...

แสงไร้เงา

ที่มา : หนังสือ good words good feeling  ( หลังไมค์มีไออุ่น ) 
ผู้แต่ง : ดีเจ นภาพร 

....ใช่เลย... 

เชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่าคะ? 
วันนี้มีคนถาม แล้วก็เลยอยากถามต่อ...ส่วนตัวเชื่อทั้ง พรหมลิขิต และ เราลิขิตค่ะ เพราะในบางเรื่อง รู้สึกมั๊ยคะว่าดูเหมือนเราไม่มีทางเลือกเลย เท่าที่ทำได้ก็คือยอมรับค่ะ ถึงได้มีคำถามเกิดขึ้นบ่อยๆ ว่า ถ้าเลือกได้จะทำอย่างนั้นมั๊ย  หรือ ถ้าเลือกได้จะติดสินใจทำยังไง แต่เพราะเลือกไม่ได้ เราจึงต้องยอมรับและทำให้ดีที่สุดในเงื่อนไขที่มีอยู่ 

โดยเฉพาะเรื่องของ ความรัก ค่อนข้างยกหน้าที่ให้กับพรหมลิขิตไป ล้วนๆ ในส่วนของการได้เจอใครซักคน แต่ เราลิขิต คงจะอยู่ในส่วนของการดูแลรักษาความรักนั้นไว้มากกว่า ที่เชื่อแบบนี้อาจจะเป็นได้ค่ะที่มักเจอ และเห็นประสบการณ์แบบนี้บ่อยๆ บางคนรักกันมานาน เป็น 10 ปี ไม่ลงเอยกันซะที พอต่างคนต่างไปเจอใคร ก็เริ่มมีเหตุผลว่า เจอคนที่ใช่กว่า ที่ผ่านมาอาจจะไม่ใช่ความรัก ....อื้อหือ...แล้วจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ในขณะที่บางคู่ ต่างชาติ ต่างภาษา คนละซีกโลก วันหนึ่งอะไรไม่รู้ทำให้ต้องมาเจอกันในลิฟท์ แล้วเค้าก็สามารถรักกัน เป็นคู่ชีวิตที่เหมาะสมกันที่สุดได้ 

ใครก็ตามที่มีคนรู้ใจอยู่แล้ว เคยถามตัวเองมั๊ยคะว่า  คุณรักเค้า หรือ รักเธอคนนั้น เพราะอะไร   คำตอบอาจจะมีต่างๆกัน  เพราะเค้าเป็นคนดี  เพราะเค้าน่ารักอบอุ่น เพราะเค้าสามารถดูแลตัวเองได้ และเป็นผู้นำที่ดี  แต่ถึงที่สุดแล้ว คนที่เป็นผู้นำ น่ารัก อบอุ่น ทุกคนก็ใช่ว่าคุณจะเลือกเค้าเป็นแฟนทั้งหมด...แต่ทำไมต้องเป็น คนนี้ 

สำหรับคนโสดบ้าง คุณเชื่อหรือเปล่า ว่า มีใครซักคนกำลังรอคุณอยู่ เค้าอาจจะกำลังตามหาคุณ เหมือนอย่างที่คุณกำลังตามหาเค้าก็ได้ ... มีหนังสือหลายเล่มที่มักจะแนะนำคนที่ยังไม่เจอคนรู้ใจให้เปิดตัวเอง...พบปะผู้คนตามสถานที่ต่างๆถึงขนาดมีการแนะนำว่า ต้องการแฟนแบบไหน ควรหาที่สถานที่แบบใด คนที่ทำตามอาจจะสมหวังบ้าง..แต่คงไม่ทั้งหมด บางคนอาจจะทำซะทุกข้อแต่ไม่ประสบความสำเร็จ...และแล้วก็เลยได้บอกกับตัวเองว่า เรื่องแบบนี้ยิ่งวิ่งตามก็ยิ่งเหนื่อย..อยู่เฉยๆ ถ้าจะมาเดี๋ยวก็คงมาเองแหละ  แหม...ถ้าเชื่อแบบนี้ตั้งแต่ต้นก็คงไม่เหนื่อยแบบนี้ เผลอๆ วิ่งตามไปตามมา เจอคนที่น่าเหนื่อยหัวใจ จะมาโทษตัวเองทีหลังว่า อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องแท้ๆ 

เวลาคุยกันในวงสาวๆ เนี่ย สิ่งที่มักอยากรู้กันเหลือเกินคือเรื่อง เสป็ค ชอบคนแบบไหน รูปร่าง นิสัยยังไง ..เพื่อนสาวคนหนึ่งเธอเป็นคนที่พูดเก่งมาก เธอเคยตั้งสเปคไว้ว่า  ฉันชอบผู้ชายเงียบๆ ขรึมๆ จะได้ไม่ต้องมาแย่งฉันพูด  พอเอาเข้าจริงชายหนุ่มของเธอเนี่ย คณะตลกมาเอง พูดเก่งเหลือเกิน มุขเยอะ แต่เพื่อนเรากลายเป็นสาวเงียบ เรียบร้อยผิดตา ( และผิดคำพูดด้วย) บางคนเจออย่างที่ตั้งสเปคทุกอย่าง พอเจอกันกลับไม่ชอบแล้ว ต้องมานั่งเปลี่ยนสเปคกันวุ่นวาย ... 

คำว่า คนที่ใช่ อธิบายยากจริงๆ ค่ะ มันสัมผัสด้วยความรู้สึก แล้วเราก็พยายามหาเหตุผลมาอธิบาย ใช่เพราะอะไร มันช่างมหัศจรรย์ จริงหนอ ธรรมชาติ เป็นความรู้สึกส่วนตัว ที่ตัดสินใจแทนกันไม่ได้ เพื่อนผู้หวังดีมักจะช่วยแนะนำให้เราเลือกคนที่ ดีกว่า เสมอ...แต่ไม่แน่ คนดีคนนั้น อาจไม่ได้เป็น คนที่ใช่  ของเราก็เป็นได้...มันเลยตอบยากไงคะเวลามีคนถามเราว่า ทำไมเธอไม่เลือกคนนี้ เค้าไม่ดีตรงไหน 

เอาประสบการณ์ มาแบ่งปันนะคะ ครั้งหนึ่งเคยเจอ  คนที่ใช่  คนหนึ่ง มีความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน รักไปกลัวไป...คือกลัวเค้าจะจากเราไปนั่นแหละค่ะ ....พยายามบอกตัวเองอยู่เสมอ ลองซ้อมร้องไห้ดูบ่อยๆ ว่าถ้าเค้าจากเราไป จะเป็นยังไงน้า จะอยู่ไหวไหม  ... แล้ววันหนึ่ง เรื่องที่น่าเศร้า คือ ความรู้สึก ใช่ น้อยลงไปเรื่อยๆ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเหงามากขึ้น ตกลงเราเข้าใจผิดตั้งแต่ต้นว่า เค้าเป็นคนที่ใช่งั้นหรือ ... ไม่ค่ะ เค้าคือ คนที่ใช่ ณ วันนั้นแต่ไม่ใช่ในวันนี้...ยังนึกขอบคุณเค้าคนนั้นอยู่นะคะ อย่างน้อย การได้สัมผัสความรู้สึกว่า ใช่เลย เนี่ย มันวิเศษมากๆ............ 
				
4 มิถุนายน 2549 06:44 น.

เก็บได้..ข้างทาง

แสงไร้เงา

ที่มา : หนังสือ good words good feeling  ( หลังไมค์มีไออุ่น ) 
ผู้แต่ง : ดีเจ นภาพร 


....เก็บได้  ข้างทาง... 

เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง 


ประโยคนี้ใช้ได้ดีเสมอค่ะ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดรายการ ... เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อเปิดไมค์แล้วเริ่มพูดผิด หลังจากนั้นจะพูดผิดไปตลอดระยะเวลาในการจัดรายการ ย่ำแย่จริงๆ เหมือนปากกับใจไม่ตรงกัน คือใจและสมองเนี่ยพยายามเรียบเรียงอย่างดีแล้ว แต่บังคับปากไม่ได้ 
จัดเสร็จ วันนี้ให้คะแนนตัวเอง จาก 10 เอาไป 5 แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยแก้ใหม่ กลับบ้านดีกว่า เหนื่อยเหลือเกินแล้ว 

เส้นทางกลับบ้านคือเส้นทางซ้ำๆ ที่กลับทุกวัน แต่มันก็มีเสน่ห์ มีเรื่องราวให้ได้คิดอะไรอยู่เรื่อยๆ เป็นคนโรคจิตหรือเปล่า ไม่รู้ค่ะ แต่ชอบขับรถมาก โดยเฉพาะถนนในกรุงเทพฯ ด้วย หรือว่าควรผันตัวเองไปขับแท็กซี่ดีนะ ไม่รู้สิคะ เวลาขับรถมันเหมือนได้ปลดปล่อยยิ่งได้ ฟังเพลงเพราะๆ ไปด้วยจะเด็ด มาก 


จากถนนอโศกตรงมาเพื่อเลี้ยวขวา ขึ้นทางด่วนบริเวณ 4 แยก ภาพที่คุ้นตาคือ เด็กตัวเล็ก 3-4 คน ถือผ้าเช็ดกระจกทำงานทุกครั้งที่ไฟแดง วิ่งมาเช็ดกระจกด้วยหน้าเว้าวอน สุดๆ แต่สิ่งหนึ่งที่น้องลืมไปคือ ตัวพี่เองนี้ผ่านตรงนี้ทุกวันจ้ะ และหนูก็ได้เช็ดให้พี่ทุกวัน และก็ได้เงินไปทุกวัน แต่วันนี้สุดวิสัยจริงๆไม่มีเหรียญเลย เลยกดกระจกลงแล้วบอกว่า 
คุณน้องคะ เมื่อวานก็เช็ด วันนี้หยุดวันหนึ่งแล้วกัน 
อ้าว พี่เองเหรอ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้แล้วกัน ....แล้วก็เดินจากไปทำหน้าที่กับรถคันอื่น 


รู้สึกว่าคนเยอะเหลือเกินค่ะ โดยเฉพาะรถขายก๋วยจั้บตรง 4 แยก ปกติไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับผู้คนแถวนั้นเท่าไหร่ เพราะมองเข้าไปทีไรก็ท้องร้องจ๊อกๆ ทุกที แต่ว่าวันนี้มีสิ่งที่ทำให้อยากมองค่ะ 


ผู้ชายผู้หญิงคู่หนึ่ง กำลังคุยกันอย่างออกรส ไม่รู้ว่าคุยกันเรื่องอะไร แต่ดูมีความสุขจังคุยไปหัวเราะไป เค้า 2 คนจะมีอะไรที่ต่างกันหรือไม่ ไม่แน่ใจ ค่ะ แต่ที่เหมือนกันแน่ๆ คือ 
ทั้งคู่ มองโลกใบนี้ ไม่เห็น... 
ตอนนี้เค้าจะจินตนาการโลกนี้เป็นยังไงบ้างน๊า 
เค้าจะเคยเบื่อสิ่งรอบตัวบ้างหรือเปล่า? 
เค้ามีความสุขเรื่องอะไรกันอยู่  นั่งถามตัวเองอยู่ในรถ 
พักหนึ่งก็มีคนเดิน เอาก๋วยจั้บมาเสิร์ฟ ...(โอ๊ย หิวจัง ) ฝ่ายหญิงยังคงมีเรื่องราวให้เธอคุยอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายชายเริ่มจัดแจงปรุงรสอาหารที่อยู่ตรงหน้า 
เอ๊ เค้าจะชอบกินรส อะไรน๊า 
 เอ๊..เราจะยุ่งเรื่องของเค้า มากไปรึเปล่าน๊า 
(ท่าทางจะชอบทานเค็มนะ เห็นหยิบน้ำปลา ก่อนเลย) 


แล้วเค้าก็เหยาะน้ำปลาลงในชามของคุณผู้หญิง แล้วค่อยใส่ในชามของตัวเอง เครื่องปรุงทุกๆอย่างค่อยๆถูกลำเลียงลงในชามของผู้หญิงคนพิเศษของเค้า ก่อนชามของตัวเองเสมอ ..น่ารักจังนะคะ.. 
ไฟเขียวพอดี ต้องไปก่อนแล้วละค่ะ 


ขับรถจากมา แต่ภาพนั้นยังติดตาอยู่เลยค่ะ เริ่มรู้แล้วล่ะค่ะ ว่า สิ่งที่ทดแทนสิ่งที่ขาดในชีวิตของคนคู่นั้น คืออะไร ความรัก ความใส่ใจ ไงคะ เรื่องเล็กๆที่ถูกมาข้ามไปข้ามมา 


โลกของทั้งคู่ถึงแม้จะมองไม่เห็นในความเป็นจริง แต่ในความรู้สึกเค้าทั้งคู่ คงจะสวยงามมากนะคะ 
เส้นทางก่อนที่จะถึงบ้าน จะผ่านร้านขายต้นไม้ร้านใหญ่ ร้านที่ผ่านเมื่อไหร่จะต้องมองเข้าไปเสมอ  การเป็นเจ้าของร้านขายต้นไม้คงจะมีความสุขน่าดูนะคะ  มีสีเขียวๆ เต็มไปหมด ถ้าขายได้ก็ยิ่งรู้สึกชื่นใจที่จะมีคนนมรับสีเขียวไปดูแล แต่ถ้ายังขายไม่ได้ เราก็จะดูแลให้มันเป็นต้นไม้ที่สวยงาม แข็งแรง ในอนาคต มองเข้าไปในร้านที่ไร จะได้ความรู้สึก เย็นๆ ทุกที 

เห็นแล้วคิดถึงหนังเรื่อง 28 days  จังค่ะ เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่กับเหล้า กับยาเสพติด  จนกระทั่งความไม่ได้สติของเธอไปทำลาย งานแต่งงานของพี่สาว เธอต้องถูกส่งตัวไปอยู่สถานบำบัด 
มีอยู่ตอนหนึ่งค่ะ ผู้ที่ได้รับการบำบัด เป็นชายหนุ่ม รูปร่าง อ้อนแอ้น มาก เค้าถามผู้คุมว่า หลังจากผ่านการบำบัดแล้ว นานขนาดไหนเค้าถึงจะออกเดท ได้ ... ผู้คุมแนะนำดีจังเลย ค่ะ เค้าบอกว่า พอออกจากที่นี่แล้ว ปีแรกให้ไปซื้อต้นไม้มาปลูก ดูแลมันให้ดีๆ ปีต่อไปให้หาสุนัขมาเลี้ยง หลังจากนั้น ถ้าต้นไม้ และ สุนัข ไม่ตายก็แสดงว่า เริ่มมีความรักได้แล้ว 

ช่างเข้าใจตอบดีจังเลยค่ะ ถ้าคุณเริ่มที่จะมอบความรักให้กับสิ่งที่มันไม่อาจเรียกร้องได้ และดูแลมันตลอดรอดฝั่งละก็ นั่นหมายถึงคุณ พร้อมจะเป็นผู้ให้ได้แล้ว เรื่องการเป็นผู้รับคงไม่ยากอยู่แล้ว ค่ะ 

ถึงบ้านแล้ว ได้รับเสียงต้อนรับดังลั่น จากบรรดาลูกสมุน สุนัขทั้งหลาย ( ก่อนที่จะได้ยิน เสียงคนในบ้านซะอีก ) 

มันดีใจกัน ออกนอกหน้า จริงๆ นะคะ เคยเห็นสายตาของพวกมันไหม ไม่ว่าจะนานขนาดไหน 
คุณจะมีคุณค่าเหลือเกินในสาย ตาของพวกมัน ... ทุกวัน 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงไร้เงา
Lovings  แสงไร้เงา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงไร้เงา
Lovings  แสงไร้เงา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงไร้เงา
Lovings  แสงไร้เงา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแสงไร้เงา