28 พฤษภาคม 2548 13:18 น.

ใจเราสร้างขึ้นด้วยอะไร

โอ คาลิฟโซ

....โลกนี้ไม่ใหญ่เลย  เมื่อเทียบกับจักรพิภพ  ตัวเราก็เช่นกัน..มันเป็นแค่ชีวิตเล็ก ๆ ในจักรวาลนี้  เราเรียนรู้มากมายว่าจักรวาลนั้นจักรวาลนี้เป็นเช่นไร  แต่เคยบ้างไหมที่จะหันมาเรียนรู้ชีวิตอันเล็ก ๆ ของตัวเอง  ว่าเราคืออะไรเป็นอย่างไร
....มีหลายผู้คนที่บอกว่าเราเป็นอย่างนั้น  เราเป็นอย่างนี้  บางผู้บังอาจรู้มากกว่าเราเองเสียอีกว่าชีวิตเราเป็นอย่างไร  กระนั้นก็หาใช่เรื่องแปลก  เพราะดวงตาเราสามารถมองเห็นได้ยาวไกล  แต่กลับมองไม่เห็นขนตาตัวเองที่คอยปกป้องฝุ่นฝอย  
....มีหลายคนบอกว่าผมเจ้าชู้นะ  ซึ่งผมก็รู้และพยามไม่เป็นอย่างนั้น  สังคมเรากำหนดกฏไว้ว่าการเจ้าชู้คือสิ่งไม่ดี  ดังนั้น..ผมจึงพยายามซื้อตรงต่อคนรักของผมตลอดมา  แต่ทำไมน่ะ  เมื่อมีสาวสวย ๆ เดินผ่าน  ผมกลับต้องมองต้องแอบชอบ  ทั้ง ๆที่รู้ว่าการเจ้าชู้คือสิ่งไม่ดี  หลายครั้งที่ผมพยายามคิดและหักห้ามใจ  แต่ทำไมมันช่างแสนยาก  ใจเรามันสร้างขึ้นด้วยอะไร  ทำไมถึงไม่เชื่อคำสั่งเรา มันพิษดาลจริง ๆ หากใจเราเป็นดั่งไมโครชิปที่ฟอเม็ตแล้วใส่ข้อมูลไหม่ได้ก็คงจะดีไม่น้อย ผมเกลียดโปรแกรมเจ้าชู้ของผมเสียจริง ๆ แม้ผมจะไม่เคยพรั้งเผลอสักครั้งเดียว  แต่แค่หวั่นไหว  แค่นี้ก็ผิดเต็มประดา				
21 พฤษภาคม 2548 14:03 น.

เมื่อเช้าผมเหยียบขี้หมา

โอ คาลิฟโซ

วันนี้มันเป็นวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส  แสงอาทิตย์ฉาบสีทองอำพัน  แต่ทว่า..ชีวิตผมตื่นก่อนอาทิตย์ครับ  พระอาทิตย์เขาไม่ต้องไปแก่งแย่งกับใคร  ผมจึงไม่คิดจะรีรอ  ธุระส่วนตัวตอนเช้าของผมถูกกำหนดให้เสร็จหมดภายครึ่งชั่วโมง  ซึ่งถ้าหากกินเวลามากว่านั้นแม้แต่นาทีเดียว  มันก็จะส่งผลต่องานทุกอย่าง  วันนี้ผมต้องนั่งรถเมร์สองต่อ และต้องทำงานสามชิ้น เมื่อรวมเวลาสายทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ทำธุระส่วนตัว เท่ากับว่าวันนี้ผมต้องสายไปหกนาที โอ้..คุณพระคุณเจ้า 
    ผมรีบตะบึงออกจากห้อง  มอเตอร์ไซต์รับจ้างหันมามองกันเกรียว  แต่ทุกคนก็ต้องผิดหวังในตัวผม  เพราะการเดินออกจากปากซอยคือส่วนหนึ่งในการออกกำลังกายในยามเช้าของผม  มาถึงปากซอยก็ใช้เวลาประมาณสิบนาทีนิด ๆ หากไม่เสียเวลากับการวางท่าเท่ ๆ ในการเดิน  ผมต้องขึ้นรถเมร์ฝั่งตรงข้ามของถนน สะพานลอยครับ  ผมไม่คิดว่าเป็นการเท่กับการวิ่งข้ามถนนใต้สะพานลอย  และไม่คิดว่าสาว ๆ จะนิยมชมชอบคนในระบบนี้  ลงจากสะพานลอยฝั่งที่หมายปั้บ  ก็รีบจ้ำตรงไปอย่างป้ายรถเมร์ทันที  สายตาแห่งการแสวงหาสอดส่องดูรถราไปเรื่อยเปื่อย  และแล้วใจผมก็ต้องเต้นแรง  เฮ้ย..รถมาแล้ว  ยังเดินไปถึงป้ายเลย  อะไรมันจะเร็วไปกว่าเราอีก  ผมตัดสินใจฉับพลัน  โบกมันตรงนี้ละกัน  ไม่ทันแล้ว  ในขณะคิดเท้าก็ยังสาวไปเรื่อย  แก้วตาสองดวงของผมมีแต่ภาพสะท้อนของรถเมร์คันนั้น  ผมยกมือโบกครั้งนึง  พอจะยกโบกซ้ำเพื่อตอกย้ำความตั้งใจให้คนขับเขามั่นใจ  ผมก็ต้องสดุ้งเฮือก!  หัวใจเต้นแรงเป็นครั้งที่สอง  ร่างกายเซถะลาไปข้างหน้า  โชคดีที่ช่ำชองในการเดิน อีกเท้าจึงหยัดยืนไว้มั่น  ในใจก็คิดว่าบนพื้นฟุตบาทอย่างงี้ยังจะมีอะไรทำให้เราเซถะลาลื้นได้ขนาดนี้  ก่อนก้าวขึ้นรถเมร์ก็หันกลับไปมองมันแว้บนึง  เห็นพื้นตรงนั้นเป็นสีเหลือง  ด้วยอาการรีบร้อนและยังอยู่ในช่วงตกตะลึงจึงยังไม่แน่ใจในรูปลักษณ์ของมัน  ภายในหนึ่งถึงสองวินาทีกลิ่นมันก็มาเตะจมูกบอกว่า " ตูนี่แหละขี้หมา " โอ้...เยส  ทั้งชีวิตเกิดมาไม่เคยเสียท่าแก่สิ่งเหล่านี้เลย  โทษใส่เวรและกรรมละกัน  เพราะไม่เห็นหมาตัวไหนป้วนเปี้ยนอยู่แถงนี้เลย
    ผมก้าวขึ้นรถเมร์ด้วยอาการของคนไม่มีความมั่นใจหลงเหลือ  ขณะที่การแสดงกายกรรมกวางโจว ( ไต่ราวรถเมร์ ) ผมไม่ได้กลิ่นอะไรเลย  แต่รู้สึกว่าคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ผมทำจมูกฟุดฟิดแล้วหันซ้ายแลขวา  คงสงสัยว่าหมาตัวไหนขึ้นมาขี้ถึงบนนี้ เหอๆ  ถ้าหากคุณผู้นั้นบังเอิญมาอ่านเจอบทความนี้  ผมก็ต้องขออภัยสำหรับการทำให้มลภาวะบนรถเมร์เป็นพิษในเมื่อเช้าด้วยนะครับ  ไม่ได้ตั้งเลยจริง ๆ.				
5 พฤษภาคม 2548 16:09 น.

อะไรดีละ

โอ คาลิฟโซ

ทุกครั้งที่เราก้าว  ทุกครั้งที่เราหยุด  ทุกครั้งที่เราตัดสินใจ  มันใช่หรือบังเอิญที่ดันไปตรงกับคำทำนาย  หากบังเอิญ..ทำไมมันถึงบ่อยนัก  หากมันไม่บังเอิญ..ก็แสดงว่าชีวิตเราถูกขีดเส้นทางเอาไว้แล้ว  แล้วใครละที่ขีดเส้นชีวิตเรา  แล้วชีวิตเราเป็นของใครกันแน่  สมองและความคิดเราสร้างมาเพื่ออะไร  หากการคิด..การกระทำทุกอย่าง ต้องเป็นไปตามแบบแผน  วันนี้ที่เท่านี้  ต้องไปที่นั่น  วันนั้นต้องเจอคนนี้  และจะอยู่กันไปจนถึงปีนี้  แล้วมีอันต้องแยกทาง  ใครคือผู้กำหนดชีวิตฉัน  ( คุณเคยสงสัยบ้างไหม  ว่าชีวิตคุณมันมีอะไรแปลก ๆ แอบแฝงอยู่  ลองนั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ สักพักแล้วคิดดูครับ )
   หากชีวิตเราเป็นของเรา  จะสู่หนใดย่อมเป็นไปตามเรา  แล้วไอ้หมอดู ( ขออภัยที่หยาบคาย ) มันรู้กันได้อย่างไร  ว่าวันนั้นวันนี้  อายุเท่านั้น อายุเท่านี้ เราจะเป็นเช่นไร  แล้วมันเกิดขึ้นจริง ๆ ได้อย่างไร ดวงดาวและตัวเลขมันมาเกี่ยวข้องกับชีวิตฉันได้อย่างไร  ตกลงฉันคืออะไร
   ผู้ที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์สร้างคำปลอบโยนตัวเองมากมาย  สำหรับปลอบใจตัวเองเมื่อทำอะไรผิดพลาด  ฉันอยู่บนโลกนี้มาแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้นเอง  คำปลอบโยนต่างฉันใช้มาจนหมดทุกคำที่เคยรู้จักแล้ว  แต่ตอนนี้มันหมดแล้ว  ฉันไม่เหลือคำอะไรมาปลอบตัวเองอีกแล้ว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ คาลิฟโซ
Lovings  โอ คาลิฟโซ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ คาลิฟโซ
Lovings  โอ คาลิฟโซ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ คาลิฟโซ
Lovings  โอ คาลิฟโซ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงโอ คาลิฟโซ