29 มีนาคม 2555 10:45 น.

วิมานลอย

คอนพูทน


๏ ตะวันพลบ..อร่ามพริ้ง         ชิงพลบ
ดวงเด่นลอยพลางหลบ           เมฆแล้ว
พราวคราวค่ำเพลินครบ         พราวค่า
มนต์สะกดเหมือนสะเก็จแก้ว  เกี่ยวฟ้าวิมานฝันฯ

๏ อัศจรรย์..พลันหยิบโน้ม      ดวงมณี
หลายหลากเกินมากมี           เลือกแม้น
สลอนสีสลักสลวยสี                เรียงสลับ
รวยกว่าใครใดแคว้น             เฟื่องนั้นปรีดิ์สนองฯ

๏ โอบประคองคลอแนบข้าง    อนงค์เคียง
หยาดหยดทุกรสเรียง             กว่าร้อย
เปรมเกษมกล่อมเสนาะเสียง  สนานสุข
ชวนสะกิดชมสกาวช้อย         สะกิดช้อยสกาวชมฯ

๏ อภิรมย์..ยินกระเดื่องเรื้อง  สวรรค์ราว
เลยเก็บดาวกอบดาว             ประดับครั้น
เพลิดเพลินยิ่งเหินหาว           สราญเหาะ
ไสวสวัสดิ์เรียงฉัตรชั้น           ชื่นนี้ฤดีสนานฯ

๏ หวานใดไหนเล่าด้วย          หวานดัง
พลันตื่นหวานจากภวังค์         แว่วพร้อม
เรไรส่งเสียงสังข์                   สดับศัพท์
โอ.!..มืดลานมืดล้อม             นี่แล้วิมานสลายฯ

๏ สวรรค์หายกลายกลับแม้     กลับมา
รีบมุ่งเรือนในอุรา                  กรุ่นร้าว
ความหิวเริ่มโชยหา               หุงนั่น  เห็นนอ
ตะแคงขอดกระบะกระบุงข้าว  หมดข้าวหมดของฯ
                                            คอนพูทน				
19 มีนาคม 2555 09:48 น.

ฤๅว่าสวยแล้วช่วยได้

คอนพูทน


๏ นโยบายรัฐบาลยินหวานหยด
ความจนหดมลายหาย ต้องไม่เห็น
สมหวังจึงอย่างใจในประเด็น
คนยากเข็ญถึงคราว..อดตายคราว

๏ เพราะ ข้าวยากหมากแพง ทุกแหล่งที่
แม้นร้อนหนักเยี่ยงนี้ โอ้! ยังหนาว
หอยกุ้งเป็ดเห็ดปูหมูมะนาว
ร้าวยิ่งนั้นถ้วนหน้า..พากันแพง

๏ เกลือกะปิน้ำปลาข่าพริกขิง
ตุ๊กแกปิ้งเสียบปากอึ่งตากแห้ง
กะเพราไก่ไข่ดาวข้าวราดแกง
ทั้งเหลืองแดงแล้วด่า..อนิจจานี้

๏ แต่ตกต่ำช้ำแสนสินค้าเกษตร
หอมกระเทียมมันเทศถูกเหลือที่
สับปะรดอ้อย..กล้าเอ่ยเคยขายดี
กลับถูกเขากดขี่ไร้ราคา

๏ ค่าครองชีพจะกระชากปากเพียงปด
หมดพุงหนอยังเนียนช่างอย่างหนา
ยิ่งกว่าลื่นแถไหลลอยไปมา
เหนือปัญหาที่ห้อม..รุมล้อมรัด

๏ เมื่อรู้แน่สักนิดคิดแก้ไหม?
ห่วงแต่สวยถึงไซร้ยอมตระบัดสัตย์
เจ็ดแปดเดือนแตกดอกชี้บอกชัด
งานถนัดแท้นั่น..แฟชั่นโชว์ ๚ะ๛    
                           คอนพูทน				
5 มีนาคม 2555 16:37 น.

ลิลิต..เมื่อแสงทองส่องทาง

คอนพูทน


ศีลธรรมกับคนไทย            งามในตลอดมานั้น
ตั้งแต่ชั้นบรรพกาล            สืบสานรอยสอนเรียง
วางเคียงไว้ให้คิด              ถูกผิดเมื่อมาพบ
กราบนบดวงจิตน้อม          พร้อมยังรู้จักแยก
ผิดแผกหนอไม่นำ             ก่อนทำคิดให้ทั่ว
เห็นชั่วอย่าเพลินชอบ         รอบคอบไว้ทุกครา
จักพาสุขเคียงเพียง            จึงพลางเรียงเพลงร่าย
ว่ายเวิ้งสานวรรณศิลป์        ถักรินเป็นเรื่องร้อง
เชิญครบร้อยพวงคล้อง       จุ่งเคล้าประพนธ์คำฯ
    
ยกตำนานเมื่อนั้น              กาลนาน
กลางป่าแดนกันดาร           ดั่งแล้ว
พระธุดงค์ท่านจรสถาน       ยังถิ่น
ทางเพื่อวิมุติสุขแผ้ว           พ่างเวิ้งพงไสวฯ

ฝึกใจบรรลุแจ้ง                 ดงพฤกษ์แลคราแล้ง
ช่อล้วนโรยสลายฯ

มอบกายใจร่วมเกื้อ            เรียงชุ่มราวหอมเชื้อ
ส่งชื้นพนาชมฯ

เปรมสมไปด้วยสุข             ธรรมปลุกทุกใจปลื้ม
ด่ำดื่มมาประดับ                นานนับหลายคณานัก
พระจักยลมาเยือน             ทุกเรือนต่างร่วมแรง
หุงแกงหวังมาถวาย           ทั้งหญิงชายพลอยชื่น
รื่นพงชาวดงไพร               แจ่มใสไปทุกสิ่ง
ขอพิงใบบุญพลอย             มากน้อยแค่อุ่นนี้
จริงชัดเถิดธรรมชี้              ช่างเคลิ้มอุราคราวฯ
         
ชาวไพรยินข่าวพร้อม          กราบเพียง
หวังร่วมบุญทานเรียง          สว่างเรื้อง
อยากฟังซึ่งเทศน์เสียง         ธรรมส่ง
ทางที่ปลดลดเปลื้อง           ปล่อยร้ายสวรรค์รองฯ

ดังปองเหนือใดปาน            บุญทานคราสดับถ้อย
พระธุดงค์ประจงร้อย           อร่ามซึ้งวจีใสฯ

นัยความเหมือนดังฝัน         อัศจรรย์บรรเจิดจ้า
พุทธพจน์หยดระย้า            แค่แย้มสวรรค์สยายฯ

หลายความที่ได้ฟัง            ทุกสอนสั่งจำสิ้น
จินต์ศรีพิสุทธิ์ใส                พิศอำไพงามผ่อง
สองผัวเมียเพิ่งมา              อุรารับอรรถรส
ทุกบริบทปฏิบัติ                กระจ่างชัดในมิช้า
ปรึกษากันทั้งสอง              พรุ่งนี้ต้องมาต่อ
หนอข้าวปลามาถวาย         ก่อนสายจักมาสาน
คาวหวานจักมาวาง            อรุณรางคงอร่ามเรื้อง
วันรุ่งยินดีเยื้อง                 กระหยิ่มนั้นฤดีสนอง  เกษมนาฯ
      
สองผัวเมียโอ้เมื่อ              ฟังมา
บอกลูกไปตกปลา              ฝั่งโน้น
พืชผักแม่จักหา                 เตรียมห่อ
เพียงอย่าไปไกลโพ้น          พรุ่งนี้ถวายหนอฯ

ขอพระเถอะอิ่มเพี้ยง          จักจัดหามาเลี้ยง
สุขแล้เรียงสลอนฯ

พลางวอนสอนลูกน้อย        รีบเคลื่อนเวลาคล้อย
เร่งครั้นไกลคราฯ

ได้ปลาแม่จะปิ้ง                 ห่อใบขิงใบข่า
โหระพาทำผัก                   แกงสักหม้อพอมื้อ
หรือทอดกับกระเทียม         คิดแล้วเปี่ยมสุขปาน
อย่านานคืนมาหนอ             แม่รอคอยปรุงรส
ปลาสดหอมหวานซึ้ง           จึงออกหาจัดให้               
บอกสั่งเสร็จสรรพไซร้          ส่งแก้วสนองการฯ

ทราบสานความหนุ่มคว้า      ตามความ
แบกเบ็ดคลาดเขตคาม        อีกข้อง
หาแลที่หลากหลาม             ปลาแหล่ง
หนองใหญ่นึกเพลินน้อง       นั่นแล้เคยสลอนฯ

จรไกลไพรป่ากว้าง             ใบไผ่โรยลำร้าง
เพราะร้อนโปรยเรียงฯ

เพียงแดดแผดผ่าวล้วน        ทุกที่กันตลอดถ้วน
ท่ามแล้งโถมลามฯ

แดดยามบ่ายดั่งบ้า             อีกไกลหนาถึงนั้น
ครั้นแถวนี้มีแอ่ง                ก่อนถึงแหล่งหนองลึก
ตรึกตรองเลยมองตาม        ตอนน้ำหลามเจิ่งหลาก
มากคูคลองเลี้ยวคด            แต่หมดน้ำแห้งไฉน
ใบไม้กรอบแห้งเกรียม        แล้งเยี่ยมคงมาเยือน
นึกเตือนคำแม่ข้า               อย่าช้าแม่คอยชม
คงสมตามที่สั่ง                   จึงมุ่งยังที่หมาย
รายทางที่เคยเที่ยว             เหลียวหาหนอแอ่งน้ำ
มองเพ่งชวนใจช้ำ               ช่างแล้งมากหลาย  อนาถแลฯ

พรายแสงพลางร้อนส่อง       สำแดง
แดดเริ่มแรงและแรง            เหนื่อยรู้
เห็นดินแยกแตกระแหง        มองห่าง
เหมือนเหล่าเขาคุดคู้           แอ่งครั้นเล็กคราฯ

เห็นปลากลางแดดเปรี้ยง      กระดุกกระดิกพากันเพี้ยง
แค่พ้นมหันต์ภัยฯ

จะไปไหนเล่านั้น                คงรอดครายากครั้น
นึกเคลิ้มหวานคราวฯ

ราวปานสรวงสวรรค์โปรด     ธรรมชาติโหดพาเห็น
เป็นอันใดบ้างดับ                ชีพลับเพราะฤทธิ์แล้ง
น้ำแห้งขอดเหมือนคิด         หลายชีวิตดิ้นหวัง
ยังส่ายหัวกระเสือกกระสน    ทุรนทุรายหาทางรอด
ม้วยมอดแน่แล้วหนา           ปลาล้าเพราะน้ำลด
จับให้หมดให้มาก               ลาภปากพลางข้องเปิด
เพลิดเพลินในใจพลัน          วันนี้โชคดีนัก
ดิ้นขลุกขลักจับเคล้า           รวมกันเข้าครึ่งข้อง
เล็กใหญ่น้อยตัวน้อง           จับนั้นเพลินสนาน  จริงนอฯ

สราญใจรีบออกจ้ำ              บอกใจ
กวาดทั่วนะหมดใน             แอ่งนี้
หลายตัวโศกตาใส              เหมือนกระซิก
ยากนักจักหลีกลี้                เมื่อแล้วันสลายฯ

คลายเหนื่อยลงไปนัก         จักคืนเรือนนึกรู้
คงผ่องกันหลายผู้              จึ่งแล้วกลับหลังฯ

มิไปยังหนองใหญ่             ไม่ต้องลงเบ็ดแล้ว
มากครบรีบคลาดแคล้ว       เมื่อครั้นพินิจคราฯ

มองปลาก่อนชีพปลิด          ชีวิตหนอสั้นนัก
ประจักษ์กระจ่างแจ้ง           ร้อนแล้งมัวเพลินหลง
ไม่ลงยังหนองใหญ่             นอนตาใสรู้สิ้น
บางดิ้นบางกระโดด            โอดครวญวอนชีวิต
สุดฤทธิ์ไหนทางหนี           ปราณีเขาสักครั้ง
จิตสั่งเริ่มรู้สึก                   สำนึกเริ่มมีนั่น
อัศจรรย์สงสารใจ               ชีพใครใครก็รัก
บาปนักทำเยี่ยงนี้              ความดีมาประดับ
หันหลังกลับมองไกล          ต้องไปให้ถึงฝั่ง
คือนั่นยังหนองใหญ่           เออใช่เร็วอย่าช้า
ปลาเริ่มแลแรงล้า              มุ่งแล้ธารไหลฯ

ทางไกลเหมือนดั่งแกล้ง     ไกลทาง
หนอวิ่งพลางเดินพลาง       จิตพร้อม
ใดหนาอย่าคิดขวาง           สุดฝั่ง
มโนนบเอากายน้อม          เพื่อนี้ฤดีสนองฯ

ถึงหนองมองเห็นน้ำ          สุขล้ำใจยิ่งล้น
เอิบอิ่มฤทัยเกินท้น           ส่องถ้วนแสงธรรมฯ

นำข้องเปิดฝาครา             เทปลาภาระเปลื้อง
ปลาว่ายยุรยาตรเยื้อง        นั่งยิ้มนานยลฯ

ดวงกมลหาใดเหมือน        เปื้อนใสไปด้วยสุข
บ้างสนุกว่ายสนาน            เบิกบานทั่วกันถ้วน
ล้วนดีใจไหนดั่ง                อีกครั้งชีวิตครา
มองปลาที่มาปล่อย           คล้อยล่องลงน้ำลึก
นิ่งนึกอิ่มเอิบนัก               ประจักษ์เข้าดวงจิต
คิดพลางออกเดินพลัน        รีบกลับนั้นเถิดหนอ
บอกแม่พ่อที่พบ               ใช่หลบหรือใช่เลี่ยง
เพียงแสนนึกสงสาร          ทรมานมิช่วยแม้
ลับล่วงชีวิตแล้                  แดดแล้งเผาลามฯ

เย็นยามถึงแหล่งเหย้า        เรือนยัง
ในสภาพเลอะเกรอะกรัง     นิ่งน้อม
มองหวังแม่หมดหวัง          ถามวุ่น
บอกอย่าคิดอ้อมค้อม         นี่ครั้นไฉนคราฯ

มองปลาไม่มีปลา              ในอุราเริ่มร้อน
จงเล่าอย่ายอกย้อน           กล่าวย้ำอยากยินฯ

ดินแห้งแล้งมากหลาย        เด็กชายหนอเล่านั้น
เป็นฉากเป็นชั้นชั้น           เช่นเจ้าพบเจอฯ

เธอฟังทุกข้อความ            เริ่มเห็นงามนึกให้
ไซร้พระธุดงค์ทรงสอน       วอนว่าอย่าฆ่าสัตว์
ตัดชีวิตผิดนัก                  เริ่มประจักษ์ในวจี
บอกสามีคิดเหมือน           ธรรมะเตือนใจตน
ปลื้มล้นนางมองลูก            คิดถูกจึงเห็นทาง
พลอยสว่างดังสวรรค์         พรุ่งนี้นั้นจักนำ
ทำพืชผักบริโภค               โรคร้ายก็ไม่รุก
สุขนักเพียงคิดนี้               ธรรมชี้หนทางชอบ
ขอบคุณทุกธรรมคำ           เจริญนำมาอุ่นเนื้อ
ปฏิบัติกิจพลางเกื้อ            ชื่นเกล้าสกาวไกลฯ

วันไสวมองผ่องเวิ้ง            มาเวียน
เห็นพระบำเพ็ญเพียร         กราบเพี้ยง
มือประณตจรดเศียร          มโนพิสุทธิ์
ถวายและอาหารเลี้ยง         เล่าแจ้งแถลงไขฯ

ทุกความนัยหมดนั้น          นางระบาย
หยิบยกความสาธยาย        เบิกแย้ม
จริงหวังจักนำถวาย           ดังว่า
เพียงแต่บุญบาปแต้ม        แต่งให้ฤทัยหอมฯ

หอมแสงธรรมนำทาง        พลางไสวพิศสว่างพร้อย
พระธุดงค์ฟังถ้อย              นี่แท้เจริญธรรมฯ

เถิดจงนำมโนใน               มอบใจกับพระพุทธเจ้า
สวรรค์สวัสดิ์คลอเรียงเคล้า ชื่นครั้นธรรมคุณฯ
                                         คอนพูทน 				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคอนพูทน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคอนพูทน
ไม่มีข้อความส่งถึงคอนพูทน