คือความรัก (บทเริ่มต้น)

zonkung

ในค่ำคืนแห่งแสงสี เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของเหล่านักท่องราตรี ผมได้พบกับเธอ ผู้ซึ่งเปลี่ยนชีวิตผมจาก เรียบง่าย เป็นเร่าร้อน บ้าคลั่งตามแต่ใจเธอจะต้องการ
ผมนั่งมองเธออย่างนิ่งงันดังมนต์สะกดเธอสวยแต่ดูเศร้าในแววตา  เธอคงรู้สึกถึงการจ้องมอง   เธอหันมาเห็นแล้วจึงเดินมาใกล้ เราสบตา กันเพียงครู่ 
เธอประทับริมฝีปากอย่างรวดเร็ว  เนิ่นนาน หอมหวานแต่กลับรู้รสถึงความเย็นชา ผมผละจากเธอหลังจากได้สติ เธอชิงตอบแววตาสงสัยของผม
"นี่ ไม่ใช่หรือคือสิ่งที่คุณต้องการ" เธอยิ้มอีกครั้ง " รางวัลที่คุณจ้องมองฉัน" แล้วจึงเดินจากไป  "เดี๋ยวก่อน" เร็วเท่าความคิดผมฉุดข้อมือเธอไว้
เราสบตากันอีกครั้งแต่ครั้งนี้ที่ผมเป็นฝ่ายเริ่มต้น ผมกระชับร่างเธอไว้ในอ้อมแขน ในใจผมเต้นแรงอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน กับผู้หญิงคนหนึ่ง 
ที่เพิ่งพบกัน ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ "ผมรักคุณ" คำสั้นๆ แผ่วเบา แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะจากเธอ เธอยิ้มก่อนที่จะผละไปจากอ้อมกอดของผม
ทิ้งผมไว้ท่ามกลางความงุนงงของผู้คน แต่เพียงไม่นานเขาเหล่านั้นกลับไปสนุกสนานเฮฮาต่อไป คงเหลือแต่เพียงผมที่ยืนบ้าใบ้อยู่เพียงคนเดียว........
ผมตื่นมาในตอนสายๆของอีกวัน ในใจยังงงงันกับเรื่องเมื่อคืน ผมไม่ได้ดื่มมากมายนัก มันจึงไม่ใช่เพียงเรื่องเพ้อฝัน หากเป็นเช่นนั้นทำไมผมถึงรู้สึกรักเธอ
ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ผมรู้เพียงอย่างนึง อาจจะเป็นแววตาของเธอกระมัง กระด้างเย็นชาแต่กลับ เศร้าโศก ..... เสียงเครื่องสื่อสารดังขึ้นทำลายความคิดอันฟุ้งซ่าน 
แต่ตอนนี้ผมไม่อยากรับมันไม่อยากพูดคุยกับใคร ผมตัดสินใจกดสายทิ้ง ปิดเครื่อง แล้วนั่งค้นหาคำตอบในเรื่องเมื่อคืนต่อไป.....แต่สุดท้ายมันกลับไม่ได้อะไรขึ้นมา
มีเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้กระจ่างชัดในความรู้สึกของผม ผมต้องไปหาเธออีกครั้งในค่ำคืนนี้ ผมเฝ้ารอเวลาที่ความมืดจะมาเยือน เพื่อที่จะไปพบเธออีกครั้ง
"เฮ้ย ไอ้ทิน เมื่อตอนบ่ายๆทำไมเอ็งไม่รับโทรศัพท์ข้าวะ แถมยังปิดเครื่องอีก" ปั๋งเอ่ยถามทันทีที่เห็นหน้าผม 
"เมื่อคืนข้าไปห้องน้ำ เอ็งดันหนีกลับก่อน ข้าจะโทรไปถาม..." ผมขัดขึ้นก่อนที่ปั๋งจะร่ายยาวไปกว่านี้ "เออ ข้าขอโทษ แต่ข้าเบื่อๆเลยกลับก่อน" 
ผมยังไม่อยากเล่าเรื่องวุ่นวายในใจให้ปั๋งฟัง ด้วยรู้ดีว่ามันก็คงหัวเราะผมเหมือนผู้หญิงคนนั้นคนที่ผมหลงรักทั้งที่ไม่รู้จักกันแม้แต่นิดเดียว
"แล้วเรื่องโทรศัพท์ล่ะ" ผมถอนหายใจ "ก็ข้าบอกว่าข้าเบื่อไง" ผมหันไปมองหน้าเพื่อนทีดูจะหงุดหงิดกับคำตอบของผม
 "เฮ้ยปั๋งคืนนี้จะไปอีกมั้ย" ผมเป็นฝ่ายตั้งคำถามขึ้นบ้าง
 คำตอบคือเรา 2 คนมาถึงร้านเดิม ในเวลาเกือบ 3 ทุ่ม วันนี้ผู้คนดูหนาตากว่าเมื่อวาน เราจึงจำเป็นต้องนั่งโต๊ะที่จัดไว้นอกร้าน 
ผมนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ขณะที่ปั๋งออกเต้นรำอย่างสุดเหวี่ยงเสียงเพลงที่เร่าร้อน มันคงเทียบไม่ได้กับความรู้สึกในใจของผมเวลานี้ 
"เฮ้ยทิน มาเต้นบ้างสิวะ" ปั๋งวิ่งมาดึงผมให้เข้าไปเบียดเสียดกับคนมากมาย พลันสายตาผมก็เห็นคนที่ผมมองหามานานนับชั่วโมง
"เอ็งไปเต้นเถอะว่ะปั๋ง" ผมเดินแทรกผู้คน เพื่อจะไปพบคนที่ต้องการเมื่อเห็นเธออยู่ตรงหน้า ผมปรารถนาให้เวลาหยุดลง
"คุณ .... ติดใจงั้นหรือ" เธอดึงผมไปใกล้ "แต่คราวนี้ไม่ใช่ของฟรีแล้วนะ" เธอกระซิบ พร้อมเอื้อมมือมาสัมผัสหน้าท้องของผม
ลูบไล้ลงต่ำไปเรื่อยๆ ก่อนที่มันจะมากไปกว่านั้น ผมถอยหลังออก "คุณจะทำอะไร" "ทำในสิ่งที่คุณต้องการ" "สิ่งที่ผมต้องการ"
"ใช่ สิ่งที่ผู้ชายทุกคนต้องการจากผู้หญิง" เธอจ้องมองผม "มันจะไปมีอะไรนอกเหนือจากเรือนร่าง จะมีอะไรนอกเหนือไปจาก เซ็กซ์" ผมยืนนิ่ง
"คือเหตุผลทำให้คุณตามหาฉันในค่ำคืนนี้ ไม่ใช่เหรอ" "ไม่ใช่" เธอเลิกคิ้วสงสัย "ผมตามหาคุณ เพราะผม..." 
"พอแค่นั้นแหล่ะไอ้หนุ่ม" เสียบเรียบๆทรงอำนาจของชายวัยกลางคน "แก้วมานี่" เธอเดินไปอย่างว่าง่าย
 "พ่อเคยบอกใช่มั้ยว่าไม่ให้มาที่แบบนี้" "กลับถึงบ้านเราจะต้องคุยกันยาว" "ส่วนแก" เค้ามองผมอย่างเย็นชาก่อนจะสั่งลูกน้องลากผมไปยังตรอกเล็กๆแถวนั้น..
เมื่อผมลืมตาอีกครั้งพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย "เฮ้ยฟื้นแล้วเหรอวะ" เสียงปั๋งเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น "เอ็งสลบไปเกือบอาทิตย์" "ข้านึกว่าเอ็งจะไม่รอดซะเเล้ว"
"ผมอยากจะขอบคุณปั๋งแต่ร่างกายผมกลับไม่ทำงานเอาเสียเลย "เอ็งยังขยับไม่ได้นะ" ปั๋งบอกเมื่อเห็นผมทำท่าขยับ "หมอบอกอย่างน้อยๆต้องอีก 2 อาทิตย์กว่าจะเริ่มเดินได้"
ผมปล่อยให้วันเวลาดำเนินต่อไปตามทางของมัน แต่ไม่ลืมภาวนาให้มันเร่งวันเร่งคืนจนถึงวันที่หมอกำหนด ในใจผมตอนนี้ยิ่งร่ำร้องถึงเธอหนักขึ้น ผมรู้แล้วว่าทำไมผมถึงสนใจ
เธอนัก เพราะแววตาของเธอซ่อนความร้าวลึกไว้ ทำให้ผมอยากค้นหาความหมายหรืออาจจะมีอะไรที่มากไปกว่านี้อีก ผมต้องหาคำตอบให้พบ
  
วันนี้จะเป็นวันครบกำหนด ที่หมอจะอนุญาติให้ผมกลับบ้านได้ หมอกำชับให้ผมอย่าเพิ่งหักโหมทำอะไรหนักๆ มันจะส่งผลต่อความบอบช้ำของร่างกาย ผมกลับถึงบ้านโดยมีปั๋งมาส่ง
"เฮ้ยข้าว่าจะย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนเอ็ง จนกว่าเอ็งจะหายดี" ปั๋งบอกความต้องการ ซึ่งผมไม่คิดจะขัด เพราะนอกจากปั๋งซึ่งเป็นทั้งเพื่อน และเป็นเหมือนครอบครัวคนเดียวที่ผมมีมาตลอดชีวิต
ผมเองก็ไม่มีใครอีกแล้ว "ทิน บอกข้าได้มั้ยคืนนั้น เอ็งไปทำอะไรมา" มันจ้องถามด้วยสีหน้าจริงจัง ผมตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมด รวมทั้งความรู้สึกของผมต่อ แก้ว ผู้หญิงที่ผมหลงรัก
"ข้าจะบอกอะไรให้ฟังนะ เลิกยุ่งกับเธอซะ" "ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เข้าใกล้เธอได้ และถึงแม้จะได้ ก็แค่ชั่วครู่เท่านั้น" ปั๋งถอนหายใจก่อนจะเล่าต่อ "ส่วนมากเจอแบบเอ็ง ก็ถอยห่างกันหมด"
"ทำไมเอ็งรู้เรื่องดีนักวะ" "ในหมู่นักเที่ยวเค้าเล่ากันไว้นี่หว่า ใครจะไปเหมือนเอ็งไปถึงนั่งกินแต่เหล้าไม่พูดจากับใคร" "แต่ข้าก็รู้เพียงแค่นั้นแหล่ะ เธอเองก็ เอ่อ ..." ปั๋งมองผมด้วยสีหน้าลำบากใจ
"เจอใครก็สนุกกับเค้าไปทั่ว เอ็งเข้าใจความหมายนี้ใช่มั้ย ทิน  คงเป็นเหมือนพวกคุณหนูใจแตกทั่วๆไปนั่นแหล่ะออกมาสนุกกับโลกโลกีย์ เห็นว่า อายุยังแค่20 ต้นๆด้วยซ้ำ"
ผมนิ่งงัน ฟังด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เธอรู้จักยั่วเย้าอารมณ์คนมาตั้งแต่ตอนไหนนะ สิ่งที่เธอทำในคืนนั้น มันเข้าขั้นมืออาชีพ เข้าขั้นคนที่ผ่านเวทีโลกีย์มานักต่อนักนับไม่ถ้วน.....
การพักฟื้นร่างกายเป็นไปอย่างดีจาการช่วยเหลือของปั๋ง ไหนจะเรื่องงานที่คอยเป็นธุระแทนให้ 
 "อีกไม่นานคงไปรับวาดรูปได้เหมือนเดิมแล้วล่ะ โชคดีนาที่เอ็งมีงานเก็บไว้บ้างไม่งั้นตายห่ะ ไม่มีอะไรยาไส้กันทั้งคู่" ปั๋งบอกพร้อมหัวเราะ "ข้าว่าถ้าไม่มีเอ็งก็หามาจนได้แหล่ะว่ะ" ผมตอบกลับ
มันเพียงแค่ยิ้มรับเท่านั้น ผมดึงปั๋งเข้ามากอด "ขอบใจว่ะ มีแต่เอ็งเท่านั้นแหล่ะที่เป็นห่วงข้า" "เฮ้ยๆ ขอบใจเฉยๆก็พอว่ะ เดี๋ยวฟ้าผ่ากลางวันแสกๆหรอก" สิ้นประโยค เราต่างขำจนท้องแข็ง
จนผมเองเจ็บแผลแต่มันก้อหยุดขำไม่ได้...  
โปรดติดตามตอนต่อไปของ คือความรัก(เริ่มต้นความผูกพัน) 
"คุณอยากจะไปให้พ้นมั้ย" "คุณว่ายังไงนะ" 
"ผมถามว่าคุณต้องการไปให้พ้นจาก ที่นี่มั้ย" 
เธอมองอย่างไม่อยากเชื่อ  "ไปกับผม"  
"คุณต้องถูกพ่อฉันไล่ฆ่าแน่"
" อยู่โดยไม่มีคุณ  ก็เท่ากับผมตายไปแล้ว"				
comments powered by Disqus
  • ละอองน้ำ

    11 สิงหาคม 2545 11:09 น. - comment id 66114

    น่าติดตามดีนะ
  • SeeM AnGle

    11 สิงหาคม 2545 21:19 น. - comment id 66121

    ดีนะคะ สนุกดี
    บางทีแววตาคน กลับทําให้รู้สึกอะไรหลายๆอย่างได้ เค้าว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ท่าจะจริงนะคะ........
  • ปลาทูสามเข่ง

    12 สิงหาคม 2545 15:10 น. - comment id 66125

    อืม.....หนุกหนานๆ น่าติดตาม
  • ธนรัฐ สวัสดิชัย

    13 สิงหาคม 2545 01:20 น. - comment id 66131

    มาติดมาอ่านจ้า.... เก่งจังเลย
  • อังโกะ จัง

    13 สิงหาคม 2545 01:23 น. - comment id 66132

    น่าติดตามค่ะ แต่ พี่แก่แล้ว อ่านแล้วหวิวๆ สงสัยเป็นโรคหัวใจค่ะ น้องซนเล่นแต่งได้เห็นภาพตามเลยค่ะ เขินค่ะ5555
  • maruko_sos

    13 สิงหาคม 2545 10:41 น. - comment id 66140

    จะติดตามนะค๊า----->>>
  • J&J

    13 สิงหาคม 2545 20:28 น. - comment id 66141

    เราจะติดตามอ่านนะ
  • รติกานต์

    15 สิงหาคม 2545 01:26 น. - comment id 66151

    ขอมันส์ๆนะก๊ะ ตามมาติดๆเลย
    
  • kai_beam

    15 สิงหาคม 2545 13:31 น. - comment id 66153

    สนุกดีคะ น่าติดตามมากเลย  
    เราก้อเพิ่งเริ่มเขียนนะ
    มีอะไรแนะนำบ้างนะ
  • .+*~*+.น้ำค้าง.+*~*+.

    15 สิงหาคม 2545 18:18 น. - comment id 66156

    ตามมาอ่านด้วยคนค่ะ เห่ะๆ 
    
  • โคลอน

    19 สิงหาคม 2545 01:52 น. - comment id 66178

    อิอิ...จะติดตามตอนต่อปายจ๊ะ...
  • เสี้ยว

    20 สิงหาคม 2545 21:49 น. - comment id 66184

    จะรอๆๆๆ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน