กิ่งหลิวตวัดกวัดเกี้ยว
กิ่งเกี่ยวกอดเรียวรัดพันไหว
ลมพาดผ่านพัดพรายละลิ่วไล้
ระรินธารกระเพื่อมไหวระเริงลม
กลีบเหมยร่วงโรยโปรยกลีบ
คนชิดร้างลาห่างหาย
แว่วยินเสียงขลุ่ยแผ่วกร่ำกราย
เพียงนั้นพลันน้ำตาพร่างพรู
กิ่งหลิวพัดปลิวโยก
อ้อเอนล้อลมไหว
คนคอยขื่นขมหทัย
เก๋งน้อยยังคงเดียวดาย
ยิ่งนานใจยิ่งระทดท้อ
เฝ้ารอคนคืนความหลัง
กู่เจิ่งกังวานแว่วดัง
คิมหันต์ผันผ่านมิคืน
เหมันต์หนาวเหน็บรวดร้าว
หิมะขาวพัดโปรยนางสะอื้น
เก๋งน้อยยังคอยคนคืน
แม้ผ่านหมื่นราตรีใจยังรอ
...หิมะขาว...
23 เมษายน 2550 02:39 น. - comment id 686281
ถึงต้องนั่งทนรอกลางน้ำค้าง แม้อ้างว้างในค่ำคืนอันเหน็บหนาว แม้ราตรีนั้นอาจจะยืดยาว แม้เปลี่ยวเปล่าจนเศร้าหมองจนจับใจ เพียงเธอมองแสงดาวอยู่บนฟ้า จะพบว่าแสงจันทร์ส่องแสงให้ เพื่อให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจ อยู่ข้างในกายของเธอไม่เสื่อมคลาย เพราะจังเลยครับ แต่ดูเศร้า ๆ นะกลอนนี้
