แล้งย่างกรายไฟป่าลามมาถึง
ป่ากว่าครึ่งจึงมอดวอดสลาย
เหล่าสัตว์ป่าจราจลทนหนีตาย
หมอกควันไฟได้แพร่แผ่ปกคลุม
เมืองสลัวมัวหมองมองมืดมิด
มีมลพิษทั่วทิศไปจากไฟสุม
คนสัญจรเดือดร้อนตอนไฟรุม
พลอยกลัดกลุ้มรุมเร้าเศร้าหทัย
แต่ไฟป่าพล่าผลาญมีวันดับ
ไฟในใจใครจะดับให้ลับหาย
สร้างแต่ทุกข์ลุกลามทุกยามไป
น้ำแค่ไหนในคงคาจะมาพอ
ธรรมชาติอาจมีสิ่งที่บอก
ทั้งไฟนอกไฟในใครคนก่อ
ควรตริตรองลองใคร่ในต้นตอ
ความทุกข์ท้อรอให้ใครดับเย็น.....
15 มีนาคม 2550 21:56 น. - comment id 671441
ไฟมาแล้วก็วิ่งกันป่าราบ ใครจะปราบเทพอัคคีนี้ได้ไหว ยิ่งมันลุกมันไหม้ในกายใจ ก็คิดไปวิ่งไปก็แล้วกัน

15 มีนาคม 2550 23:40 น. - comment id 671491
ไฟในป่าว่าดับยากแล้ว แต่ยังแพ้ไฟในใจ แต่ถ้าดับได้ ก็จะได้ความสบายใจ อิอิ

16 มีนาคม 2550 00:04 น. - comment id 671512
สวัสดีครับ คุณ คีตากะ กาลวิบัติขัดวิสัยเพราะไฟป่า ลุกลามพาพันธุ์พฤกษ์นึกใจหาย แพ้ไฟใจที่หลากหลอมต้องตรอมกาย พึ่งพระพายพระพิรุณยังวุ่นใจ

16 มีนาคม 2550 06:33 น. - comment id 671533
ไฟในใจ ถ้าเป็นไฟในทางที่ดีทำให้ชีวิตไม่ท้อถอย ก็ดีนะคะ แต่ถ้าเป็นไฟแห่งความทะยานอยาก ควรใช้ธรรมช่วยดับ

16 มีนาคม 2550 22:56 น. - comment id 671883
ไฟในใจร้ายแรงกว้าไฟป่ามากค่ะ..ดับเท่าไหร่ไม่ค่อย ยอมมอดง่ายๆค่ะ..

11 เมษายน 2550 17:45 น. - comment id 682362
ขอบคุณที่แวะมาทักทาย....เพื่อนๆที่น่ารัก....
