สาเหตุที่วิญญาณ ลงมายังโลกนี้

คีตากะ

ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
รายการระหว่างอาจารย์และศิษย์
ทาง SMTV
บนดาวเคราะห์ดวงนี้ มีดวงวิญญาณมากมาย ที่ต้องทนทุกข์ ทรมานมากมาย มันเป็นเพราะเหตุนั้น – บางทีอาจ
เป็นเพราะพวกเขา ต้องการที่จะยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาไม่มีประสบการณ์ในการจัดการกับโลกที่หลอกลวง 
และบททดสอบของมายา ดังนั้นพวกเขาจึงล้มเหลว หรือพวกเขาอาจอยากจะล้มลง เพื่อดูว่าจะเป็นอย่างไร 
และรู้ว่าใน โลกกายภาพนี้ มายาจะลงโทษวิญญาณใด ๆ ที่ไม่ยึดติดกับมาตรฐาน ทางศีลธรรมและคุณธรรม 
วิญญาณจะไปตามมันด้วย ความเต็มใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง พวกเขาได้ทนไม่ไหว และตื่นขึ้นมา แล้วพวกเขา
ก็ปรารถนาที่จะกลับบ้าน
สวัสดีที่รัก ฉันคิดว่าฉันจะ ต้องคุยกับคุณ เพราะคุณ กดดันให้ฉัน เปลี่ยนโลกนี้ ให้เป็นสวรรค์ ตามคำสั่งจากจิต
ของคุณ สิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายอย่างนั้น มิฉะนั้น พระพุทธเจ้า ก็ทรงทำเช่นนั้นไปแล้ว พระเยซูก็จะทรงทำเช่นนั้น
ไปแล้ว และฉันก็ไม่จำเป็น ต้องพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะเปลี่ยนแปลงผู้คน
คุณเห็นไหมว่า ก่อนที่จะมาสู่โลกนี้ หรือโลกใดก็ตาม ดวงวิญญาณปรารถนา ที่จะสมบูรณ์แบบมากขึ้น ยิ่งใหญ่
ยิ่งขึ้น ในทางใดทางหนึ่ง เพราะนี่คือสิ่งที่ สร้างขึ้นใหม่โดยมายา และทีมงาน เช่น เทวดาตกสวรรค์ เป็นต้น 
เขาชอบที่จะต่อต้านพระเจ้า เพื่อพิสูจน์ว่าเขาดีกว่า บัดนี้ หลังจากสร้างโลกนี้แล้ว เขาได้เชิญดวงวิญญาณ 
ให้ลงมา โดยสัญญากับพวกเขาว่า พวกเขาจะยิ่งใหญ่กว่า ที่เคยเป็น และดวงวิญญาณ – ดวงวิญญาณทั้งหมด
เป็นผู้บริสุทธิ์ – แล้วต้องการพิสูจน์ ว่าพวกเขาสามารถดีขึ้นได้ หรือสิ่งใหม่ ๆ เช่นการผจญภัย พวกเขาจึงอาสา 
ลงมา และ แน่นอนว่า ถ้าคุณต้องการที่จะยิ่งใหญ่ขึ้น คุณต้องผ่านการทดสอบ และการสอบต่าง ๆ
จำเรื่องราวเกี่ยวกับ ท่านมหาวีระได้ไหม? ตอนที่พระองค์ทรงบำเพ็ญ วิปัสสนาของพระองค์ เพื่อให้รู้แจ้งมากขึ้น พระเจ้าองค์หนึ่งในสวรรค์ ก็สรรเสริญพระองค์ว่า "โอ พระมหาวีระ ทรงเป็นสิ่งนี้และสิ่งนั้น และอื่น ๆ วิเศษมาก 
อัศจรรย์มาก กล้าหาญมาก ยอดเยี่ยมมาก" เขาชอบพระมหาวีระ มาก ๆ แล้วลูกน้องคนหนึ่ง ที่อยู่ด้านข้าง 
ก็พูดกับพระเจ้าว่า “โอ้ เรื่องนี้เราไม่แน่ใจนัก อย่าสรรเสริญพระองค์มากเกินไป และเร็วเกินไป ให้ข้าพเจ้าลงไป ทดสอบพระองค์เถิด ไม่อย่างนั้นข้าพเจ้า ไม่มีความเคารพพระองค์ มากเท่ากับท่าน ฉันต้องพิสูจน์ด้วย
ตัวเองก่อน จึงจะสามารถสรรเสริญพระองค์ หรือยอมรับพระองค์ได้”
พระเจ้าองค์นั้นไม่ได้พูดอะไรเลย ดังนั้น คุณเห็นไหมว่า ตัวตนชอบทดสอบ ในสวรรค์นั้น ลงมา และปรากฏตัว 
เป็นตัวตนหรือสถานการณ์ ที่น่ากลัวทุกประเภท เพื่อทดสอบพระมหาวีระ นั่นคือก่อนที่ พระมหาวีระจะตรัสรู้ 
โดยสมบูรณ์ และพระองค์ก็ยังไม่มีพลัง พอที่จะต่อสู้กับ เทพองค์นี้ หรืออะไรก็ตามที่คุณเรียกเขา แน่นอน 
แน่นอน ไม่ใช่ตัวตนที่อ่อนโยน และมีเมตตามากนัก คุณเห็นสิ่งนั้นได้ ดังนั้น พระมหาวีระ จึงต้องทนทุกข์
ทรมาน ทางกายมากมาย ตลอดจนความทุกข์ไม่สบาย มากมายทั้งทางจิตวิทยา หรือจิตใจ หรืออารมณ์ 
แต่ถึงกระนั้น พระมหาวีระก็เอาชนะ พวกเขาทั้งหมดได้ หลังจาก 12 ปีแห่งการทดสอบ และความยากลำบาก
ทุกประเภท จากผู้ใต้บังคับบัญชาที่โง่เขลา ของเทพเจ้าองค์เล็ก หรือสวรรค์บางแห่ง - เทพเจ้าแห่งสวรรค์
บางประเภท จากนั้น พระองค์ก็ บรรลุการตรัสรู้โดยสมบูรณ์ ลองนึกภาพว่า เขาต้องทนทุกข์ทรมาน 
มากขนาดไหน ตลอด 12 ปีเหล่านั้น? และเราได้ยินมาเพียง บางส่วนจากบันทึกบางอย่าง อาจเป็นจากผู้ที่ 
อาจจะเป็น ลูกศิษย์คนหนึ่งของพระองค์ หรืออาจจะเป็นเทวดาบางองค์ ในสวรรค์ที่เห็น ทุกสิ่งที่เคยต้องการ 
ปกป้องพระมหาวีระ และรู้ทุกอย่าง แล้วก็เทวดา อาจจะปรากฏกาย เป็นมนุษย์ กลายเป็นลูกศิษย์ หรือสหาย
ของพระองค์ แล้วจดบันทึกไว้ทั้งหมด บางทีพระมหาวีระอาจ เล่าเรื่องนี้ให้ผู้คนฟัง บางส่วน และบางคนอาจ 
บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร โชคดีที่เรารู้ บางอย่างเกี่ยวกับ ช่วงเวลาแห่งการฝึกฝน และทดสอบของ 
พระมหาวีระ
บัดนี้เราได้ยินและรู้ ว่าวิญญาณทุกดวงมีประกาย ของพระเจ้าอยู่ภายใน ถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า 
และพระเจ้าทรงสถิต อยู่ภายในพวกเขาด้วย ดังนั้นคุณจึงสงสัยว่า ทำไมดวงวิญญาณถึงถูกมายาหลอก 
เพื่อที่จะทำสิ่งนี้และสิ่งนั้น ทุกสิ่งในโลก และปล่อยให้ตัวพวกเขาเอง ถูกทดสอบอย่างแข็งขัน – แม้กระทั่ง
โหดร้ายในบางครั้ง – เพราะดวงวิญญาณต้องการ เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า แค่การเป็นจิตวิญญาณ 
เพลิดเพลินกับความผาสุก และความสุขที่พระเจ้า ประทานโดยความรักของพระองค์
ตอนนี้สิ่งที่คล้ายกัน กำลังเกิดขึ้นในโลกของเรา บนดาวเคราะห์ดวงนี้ มีดวงวิญญาณมากมาย ที่ต้องทนทุกข์ 
ทรมานมากมาย มันเป็นเพราะเหตุนั้น – บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขา ต้องการที่จะยิ่งใหญ่ แต่พวกเขา
ไม่มีประสบการณ์ในการจัดการกับโลกที่หลอกลวง และบททดสอบของมายา ดังนั้นพวกเขาจึงล้มเหลว 
หรือพวกเขาอาจอยากจะล้มลง เพื่อดูว่าจะเป็นอย่างไร และรู้ว่าใน โลกกายภาพนี้ มายาจะลงโทษวิญญาณใดๆ
ที่ไม่ยึดติดกับมาตรฐาน ทางศีลธรรมและคุณธรรม วิญญาณจะไปตามมันด้วย ความเต็มใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง 
พวกเขาได้ทนไม่ไหว และตื่นขึ้นมา แล้วพวกเขาก็ปรารถนาที่จะกลับบ้าน ไม่ว่าพวกเขาจะยิ่งใหญ่ กว่าที่เคย
เป็นมา หรือไม่ก็ตาม พวกเขาต้องการกลับบ้าน พวกเขาไม่เอาแล้วกับความยากลำบาก และบททดสอบ
ทั้งหมดนี้
ด้วยเหตุนี้ อาจารย์หลายท่าน จึงมาและไป พวกเขา (ดวงวิญญาณ) ยังไม่ฟังและกลับบ้าน ดังนั้น คำพูดหรือการ
ใช้ เหตุผลหรือตรรกะของอาจารย์ จะดึงดูดเฉพาะ ผู้ที่พร้อม ผู้ที่อดทนต่อ ความทุกข์ทรมานที่สุด เต็มไปด้วย 
ความเจ็บปวดและความโศกเศร้า ในการดำรงอยู่ทางกายนี้เท่านั้น จากนั้นพวกเขาจะเต็มใจ ที่จะกลับบ้าน 
ตามรอยเท้าและ/หรือ คำแนะนำของอาจารย์
ยังมีผู้ที่เป็นนักบุญ โดยธรรมชาติอยู่แล้ว – เคยถูกฝึกฝนและทดสอบ มายาวนานหลายชั่วอายุคนมาก่อน 
จากนั้นพวกเขาก็พร้อม ที่จะติดตามอาจารย์ สิ่งที่อาจารย์พูดไป สิ่งที่อาจารย์บอก และอธิบายไป พวกเขา
เข้าใจทันที ไม่มีคำถาม อยู่ในใจของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงวางใจอาจารย์ทันที และทำตามทุกสิ่ง 
ที่อาจารย์ต้องการบอก และสอนพวกเขา คนเหล่านี้เรียกว่า ลูกศิษย์ที่ดี พวกเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว 
ทรงพลัง และ มีประโยชน์และช่วยเหลือ มนุษยชาติอย่างมาก แม้ว่าจะมีไม่มาก เพราะอาจารย์คนใดก็ตาม 
ที่ลงมาสามารถนำมาได้ เพียงบางส่วนที่เรียกว่า มือขวาของท่านเท่านั้น ผู้ที่ติดตามเขาแต่ก่อน หรือติดตาม
เธอแต่ก่อน ได้รับการฝึกฝน ได้รับการทดสอบแล้ว ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว พวกเขาลงมาโดยเจตนา 
เพื่อสนับสนุนภารกิจของอาจารย์ คนเหล่านี้เป็น นักบุญและปราชญ์อยู่แล้ว – หรือเคยศึกษากับอาจารย์ 
เป็นลูกศิษย์มาหลายชาติก่อน – หลุดพ้นแล้ว แต่ลงมายังโลก ด้วยจุดประสงค์เพียงเพื่อสนับสนุน อาจารย์
ของพวกเขา เพราะหากไม่มีการเชื่อมต่อ ทางกายภาพกับโลกนี้ พวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด ในการช่วยเหลือมนุษยชาติ หรือสิ่งมีชีวิตใด ๆ บน ดาวเคราะห์นี้ คือ คุณต้องอยู่ที่นั่น
กับพวกเขาในขอบเขต ทางกายภาพ และทำสิ่งต่าง ๆ ทางกายภาพทุกชนิด อย่างที่สิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์นี้
ทำอีกทั้งเพื่อให้เข้าใจถึง ความทุกข์ทรมานของตนด้วย เพราะถ้าพวกเขาไม่ได้ทนทุกข์ร่วมกับมนุษย์ 
ก็เป็นเรื่องยากมาก สำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจความทุกข์ทรมานและ ความเจ็บปวดของมนุษย์ มันง่ายที่
จะพูดว่า "โอเค คุณมองดูก็ได้" แต่คุณจะมอง ได้กี่คน คุณจะเห็นความทุกข์แค่ไหน? ไม่ใช่ว่าคุณสามารถ 
ไปทุกบ้านเพื่อดูว่าใครเป็นทุกข์ ใครไม่ทุกข์ และ จำนวนสิ่งมีชีวิตที่ทุกข์มีเท่าไหร่ เพราะถ้าคุณไม่เห็นมัน 
คุณไม่ได้สัมผัสเอง มันยากมากที่จะรู้ มันเหมือนกับคนรวย มันยากสำหรับเขา ที่จะเข้าใจความลำบาก 
และความทุกข์ทรมานของคนจรจัด ตามท้องถนน - ในฤดูหนาวด้วย ไม่มีอาหาร ไม่มีเครื่องดื่ม ไม่มีเสื้อผ้า
เพียงพอ และไม่มีสถานที่ที่จะปกป้องตนเอง จากสภาพอากาศเลวร้าย นั่นเป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ 
แม้ว่าพวกเขา ต้องการทำความดี พวกเขาแค่พูดว่า "โอ้ ฉันทำดี ฉันรักสัตว์" พวกเขากินสัตว์! ไม่คิดซ้ำ
พวกเขาพูดว่า "โอ้ ฉันรักผู้คน ฉันชอบช่วยเหลือคนยากจน” แต่มีสักกี่คนที่พยายามช่วยเหลือคนยากจนจริงๆ? 
หรือจะมอบอาหารให้ กับธนาคารอาหารก็ได้ หรือให้ที่พักพิงแก่คนจรจัด แม้จะเรียบง่ายเหมือนโรงเก็บของ
ในสวน หรือโรงจอดรถก็ตาม มันพูดง่าย แต่ยากที่จะเข้าใจ เช่นเดียวกับ เมื่อพวกเขาอยู่ในสวรรค์ พวกเขา
สัญญากับพระเจ้าว่า พวกเขาสามารถทำทุกอย่างได้ พวกเขาจะทำทุกอย่าง เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ พวกเขาจะ
เป็นคนดี พวกเขาจะใจดี พวกเขาจะเมตตา ทั้งหมดนี้และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เมื่อพวกเขาลงมายังโลก 
และเผชิญกับสถานการณ์ เหมือนที่มนุษย์คนอื่น ต้องเผชิญทุกวัน พวกเขาจะไม่ใช้วิจารณญาณที่ถูกต้อง
เสมอไป พวกเขาจะไม่สามารถ โต้ตอบในทางที่ชอบธรรม หรือถูกต้องได้ เพราะก่อนที่พวกเขาจะลงไป 
สู่ขอบเขตทางกายภาพนี้ พวกเขาจะต้องใช้เครื่องมือนี้ ที่เรียกว่าจิตใจ
และเมื่ออยู่ใน ร่างกายก็ต้องรับ อีกส่วนหนึ่งที่ เรียกว่าสมอง ซึ่งไม่มีใครจำเป็นต้องใช้ ในระดับที่สูงกว่า ดูสิ 
เมื่อคุณลงไป จนสุดทาง แค่ว่าอาจจะจากระดับที่สี่หรือที่ห้า คุณจะต้องผ่านระดับที่สาม ซึ่งเป็นระดับพระพรหม 
และหลังจากนั้น คุณจะต้องผ่านระดับทำลายล้าง และสร้างสรรค์ ซึ่งก็คือระดับที่สอง แล้วคุณก็ จะได้จิตใจ 
จิตใจมี ความรู้แบบพื้นฐาน และประสบการณ์ ในการจัดการกับสถานการณ์นี้และ สถานการณ์นั้น แต่ในโลกนี้
มีสิ่งต่าง ๆ มากมายให้ สัมผัสและผ่านพ้นไป ดังนั้น จิตใจไม่สามารถให้คำตอบทั้งหมดได้เสมอไป ดังนั้น 
สมอง จึงต้องให้คำตอบบางสถานการณ์เพื่อให้มนุษย์ จัดการกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้
และเช่นเดียวกับ คนที่ลงมาจากระดับที่สูงกว่า พวกเขาอาจสับสนและ สับสนอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งพวกเขาอาจ
ได้พบกับอาจารย์ อาจารย์อีกท่านอีกครั้ง หรืออาจารย์ที่จุติใหม่ ซึ่งได้ให้วิธีการรู้แจ้ง แก่พวกเขา เช่น ธรรมวิถี
กวนอิม แห่งแสงสวรรค์ภายใน และ ทำนองสวรรค์ภายใน ซึ่งหมายถึง การสอน โดยตรงของพระเจ้า จากนั้น
พวกเขาจะตื่นขึ้น รู้แจ้ง และพวกเขาสามารถ รับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น เพราะพวกเขา ได้รู้แจ้งมากขึ้น 
พวกเขามีปัญญามากขึ้น ไม่ใช่แค่ความรู้ทางโลก จากโรงเรียนเท่านั้น แต่พวกเขา มีทางเข้าถึงปัญญา
โดยกำเนิด ที่มีอยู่ในตัวเราทุกคนด้วย
และตอนนี้ในโลกนี้ มีสองด้าน เราทุกคนรู้ดีว่า: ด้านบวก และด้านลบ ดังนั้นมนุษย์บางคนเลือก ที่จะทำตาม
ด้านลบ เพราะดูเหมือนมันเข้าถึงได้ง่าย ง่ายดาย และคุณ สามารถเห็นผลได้ทันที คุณสามารถตัดสินใจทำ 
สิ่งที่ไม่เป็นไปตาม พระเจ้าหรือสวรรค์ได้ แต่ก็จะให้พวกเขา ตื่นเต้นบ้าง มีพลังบ้าง เป็นการชั่วคราวและรวดเร็ว 
พวกเขาก็เลยจะทำตาม วิถีชีวิตประเภทนี้ เหมือนผู้คน บางครั้ง พวกเขารู้สึกเบื่อหรือหดหู่ แล้วพวกเขาก็ออกไป 
พวกเขาก็ไปกิน เนื้อชาวสัตว์ในบาร์ แล้วพวกเขาก็ดื่ม สุรากับมัน และพวกเขาก็รู้สึกถึงผลนั้นทันที พวกเขารู้สึก
เหมือนหดหู่น้อยลง และพวกเขามีความสุขมากขึ้น และอะไรทำนองนั้น – จนกว่าผลนี้จะหมดไป และพวกเขา
ก็กลายเป็นว่า เศร้าหมองมากยิ่งขึ้น
และผลข้างเคียงทางกายภาพ ก็จะกัดกินพวกเขาด้วย พวกเขาจะเจ็บป่วยมากขึ้น และมีภาวะซึมเศร้ามากยิ่งขึ้น 
และพวกเขาจะต้อง ใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลมากขึ้น และทุกสิ่งทุกอย่าง จะส่งผลกระทบต่อพวกเขา 
และส่งผลกระทบต่อธุรกิจพวกเขา เพราะพวกเขาคิดไม่ออก เนื่องจากสุราและ เนื้อชาวสัตว์มากเกินไป 
และพิษจากเนื้อสัตว์ และจากสุรา และพวกเขาก็กลายเป็น ฉลาดน้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้น พวกเขาอาจจะ
ไม่สามารถ ทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี พวกเขาก็อาจจะ ไม่ปฏิบัติต่อครอบครัวของพวกเขา ได้ดีอย่างที่พวกเขา
ต้องการ ดังนั้น ความขัดแย้งในครอบครัวจึง จะปรากฏชัด ถูกสร้างขึ้น และครอบครัวแตกแยก นอกจากนี้ 
ครอบครัวที่แตกแยก จะส่งผลเสียอย่างมาก ต่อเด็ก ๆ และสังคมโดยรวม ด้วยผลที่ตามมา เพราะเราจะมี 
คนที่ฉลาดน้อยลง และมีลูกที่มีความสุขน้อยลง ฯลฯ
คุณสามารถมองไปรอบโลกของเรา และคุณจะเห็นว่าโลกของเรา ว่ายุ่งวุ่นวายขนาดไหน เป็นเพราะคนเราไม่ให้ 
เชื้อเพลิงทางกายภาพ ที่ถูกต้องแก่ร่างกาย ซึ่งก็เหมือนกับรถยนต์ ถ้าเติมน้ำมันดี ๆ มันก็จะวิ่งได้ดีขึ้น 
และวิ่งได้นานขึ้น คล้ายกับร่างกายเราเลย แอลกอฮอล์และเนื้อชาวสัตว์ หรือยาเสพติดหรือของผิด 
ที่ใส่เข้าไปในร่างกายของคุณ พวกมันทำให้สมอง จิตใจของคุณสับสน มันกลายเป็นเหมือนไฮบริด ดังนั้น
คุณไม่สามารถควบคุมมันได้และมันจะให้ข้อมูลเท็จ ทุกประเภทแก่คุณ และ คุณไม่สามารถคิดได้อย่างถูกต้อง 
และชอบธรรม และ ทำให้คุณทำสิ่งผิดต่อไป
และยิ่งคุณทำผิดมากเท่าไร ผลลัพธ์ที่ผิดก็จะยิ่งออกมา มากขึ้นเท่านั้น แต่ผู้คนจมอยู่กับ กับดัก ประเภทนี้มาก 
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถตระหนักได้ ว่าพวกเขากำลังทำผิด และได้รับผลลัพธ์ที่ผิด โลกของเราจึงมี
ความทุกข์ยากเช่นนี้
ตอนนี้ เรากำลังตำหนิศาสนาอิสลาม หรือมุสลิมที่ เป็นผู้ก่อการร้ายและทั้งหมดนั้น แต่พวกเขาทำอย่างนั้น 
เมื่อพวกเขาถูกยั่วยุ แต่พวกเขาไม่มีคำสาบาน ที่เลวร้ายและชั่วร้าย เหมือนที่อยู่ในกลุ่มผู้คลั่งไคล้ นิกายเยซูอิต 
และแม้แต่หนึ่งในนั้นก็กลายเป็น โป๊ปในวาติกัน คุณเชื่อหรือไม่? ส่วนชาวคาทอลิกและชาวคริสต์ ทุกคน
ก็ยังปล่อยให้เขาอยู่ ดังนั้น วิถีเน่าเฟะของพวกเขา จะแพร่กระจายต่อไป และทำลายคุณธรรม ศีลธรรม
และความมั่นคง ของพระเจ้าของโลกเรา รวมทั้งยังเสี่ยงต่อความปลอดภัย เกียรติยศและศรัทธาในพระเจ้า 
ของเด็ก ๆ และผู้คนต่อไป ผลที่ได้นั้นเลวร้าย เกินกว่าที่เราจะคำนวณได้!
และตอนนี้คุณก็เข้าใจ แล้วว่าทำไมการตามเส้นทางมาร จึงมีค่าใช้จ่าย คุณต้องให้บางสิ่งบางอย่าง 
และบางสิ่งนั้นไม่สอดคล้องกับศีลธรรม และบางสิ่งอาจทำให้คุณ รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก ๆ แต่สักพัก 
คุณจะชินกับมัน และคุณจะกลายเป็น เหมือนปีศาจเอง ดังนั้นควรระวัง – อย่าเดินตามเส้นทางแบบนั้น 
แม้ว่าอาจจะรู้สึก พอใจเพียงชั่วครู่ก็ตาม มันก็เหมือนกับ แอลกอฮอล์หรือยาเสพติด – มันจะส่งผลเสีย
และ การชดใช้กรรมตามมาในภายหลัง และปีศาจเหล่านี้ พวกมัน จะไม่ให้อะไรคุณฟรี ๆ ไม่เหมือนกับวิถี
แห่งพระเจ้า ที่อาจารย์ทั้งหลายได้สืบทอดมาสู่มวลมนุษยชาติ มาตั้งแต่สมัยโบราณ
และพวกคุณหลาย ๆ คน แม้ว่าคุณจะไม่ได้เขียน ข้อความจากใจให้กับฉัน แต่บางคนก็เขียนข้อความจากใจ 
เกือบเหมือนจะสั่งให้ฉัน เปลี่ยนแปลงโลกนี้ ทันที โดยใช้พลังของพระเจ้า ฉันไม่มีพลัง ที่จะเปลี่ยนแปลง 
โลกนี้ได้ทันที ไม่มีอาจารย์คนใดสามารถ ทำเช่นนั้นได้ แต่ ต้องให้เหตุผลกับมนุษย์ และปลุกพวกเขาอีกครั้ง 
เพื่อที่พวกเขาจะได้ฟัง ตรรกะและติดตามพระเจ้า ระลึกถึงพระเจ้า บูชาพระเจ้า อีกครั้ง และทำสมาธิ 
เพื่อเข้าใกล้พระเจ้า ธรรมวิถีกวนอิมเป็นวิธีการ ที่คุณสามารถตรงไปหา พระเจ้าและถามพระองค์ สิ่งที่คุณ
อยากถาม และมันรับรองว่า คุณจะไปสวรรค์ - แน่นอน ถ้าคุณฝึกสมาธิ ที่ได้สอนคุณไป และรักษาศีลด้วย
ฉันขอให้ทุกคนรักษาศีลห้า และแน่นอนว่ารวมถึง การทานอาหารวีแกนด้วย ฉันกำลังบอกคุณทั้งหมดนั้น ถึงแม้
จะเป็น เอบีซี แต่ฉันจำได้ว่า เมื่อก่อนฉันยังเด็ก ถึงแม้จะเกลียดนมมาก พอฉันโตขึ้น ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม 
เพราะแม้แต่ตอนที่ ฉันไปอินเดียเพื่อ เรียนกับครูบางคน ฉันยังเห็นชาววัว เดินไปมาบนถนน หรือในทุ่งหญ้า – 
ไม่มีใครทำอะไรพวกเขา และคนอินเดียก็ ทานอาหารมังสวิรัติ รวมทั้งนม จากชาววัวด้วย ดังนั้นฉันคิดว่า 
พวกเขาแค่รีดนมวัว แต่วัวก็มีนมเยอะ อยู่ดี - ลูกของเธอ ตัวหนึ่งกินนมนั้น ไม่หมด มนุษย์จึง แบ่งปันนม
บางส่วน และฉันก็คิดว่ามันโอเค สำหรับฉัน จนกระทั่งฉันเห็น... แม้ว่าฉันไม่เคยชอบนม ฉันก็ไม่เคยชอบมันเลย 
แม้แต่ตอนเด็ก ๆ
ฉันมักจะรู้สึกประมาณว่า "โอ้ย มันมาจากท้อง ของชาวสัตว์" ตอนนั้นฉันไม่ค่อยมีความรู้เรื่อง ความเห็นอก
เห็นใจหรืออะไรเลย นึกว่ามาจากท้องของ ชาวสัตว์นั่นเอง โอ้ย เช่นเดียวกับน้ำผึ้งและทั้งหมดนั้น ฉันไม่เคย
ชอบเลยจริง ๆ แค่เมื่อคุณเห็น คนอื่นมีมัน พวกเขาให้คุณ คุณแค่ลองชิมที่นี่และที่นั่น และบางทีคุณอาจรู้สึก
โอเค ในตอนนั้น แต่ฉันไม่เคย ไม่เคย ติดผลิตภัณฑ์ ชาวสัตว์เลยจริง ๆ มันทำให้ฉันรู้สึก อึดอัดมากและ 
บางครั้งก็อาเจียน ออกมาด้วยซ้ำ แน่นอนว่าอย่างน้อยที่สุดในตอนนี้ ขออภัย ฉันไม่มีการเขียน ฉันแค่ต้องจำ
สิ่งที่ฉัน อยากจะบอกคุณ ดังนั้นมันจึงไม่เป็นระเบียบเท่าที่ ฉันต้องการ ช่างเถอะ แล้วอะไรอีกล่ะ?
เราคุยกันเรื่องวิถีทางสู่ พระเจ้าและวิถีทางสู่นรก เราคุยกันเรื่องนั้นแล้ว และตอนนี้คุณก็เข้าใจ แล้วว่าทำไม
การตามเส้นทางมาร จึงมีค่าใช้จ่าย คุณต้องให้บางสิ่งบางอย่าง และบางสิ่งนั้น ไม่สอดคล้องกับศีลธรรม 
และบางสิ่งอาจทำให้คุณ รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก ๆ แต่สักพัก คุณจะชินกับมัน และคุณจะกลายเป็น 
เหมือนปีศาจเอง ดังนั้นควรระวัง – อย่าเดินตามเส้นทางแบบนั้น แม้ว่าอาจจะรู้สึก พอใจเพียงชั่วครู่ก็ตาม 
มันก็เหมือนกับ แอลกอฮอล์หรือยาเสพติด – มันจะส่งผลเสียและ การชดใช้กรรมตามมาในภายหลัง และปีศาจ
เหล่านี้ พวกมัน จะไม่ให้อะไรคุณฟรี ๆ ไม่เหมือนกับวิถีแห่งพระเจ้า ที่อาจารย์ทั้งหลายได้ สืบทอดมาสู่
มวลมนุษยชาติ มาตั้งแต่สมัยโบราณ
วิถีทางของพระเจ้า ดีสำหรับคุณเสมอ ดีต่อครอบครัว คนที่คุณรัก และดี ต่อคนอื่น ๆ ในโลก แต่วิถีทางของ
ปีศาจกลับเป็น ความรู้สึกที่ทำร้ายและเจ็บปวดอยู่เสมอ เพราะพวกเขาเป็นพวกซาดิสม์ พวกเขาไม่รู้อะไรเลย 
นั่นคือธรรมชาติวิถีชีวิตของพวกเขา พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ความเมตตากรุณา หรือการให้อภัย สิ่งที่
พวกเขาทำก็แค่ทำร้าย และถ้าคุณติดตามพวกเขา คุณจะต้องทำร้ายใครสักคน พวกเขาทำให้คุณสาบานว่า
จะทำร้าย คนที่รักคุณมากที่สุด เช่น ลูกชาย สามี ลูกสาว ของคุณ หรือใครก็ตาม ที่พวกเขาต้องการ เพื่อแลก
กับอำนาจ เพื่อที่คุณจะได้ทำร้ายผู้อื่น ที่คุณรู้สึกว่าเป็น ศัตรูของคุณได้ คุณต้องทำร้ายคน ที่คุณรักด้วยซ้ำ 
นั่นไม่ใช่วิธีที่ มนุษย์ผู้เป็นมงกุฎ แห่งการสร้างสรรค์ ต้องการดำเนินชีวิตตามนั้น
ตอนนี้คุณก็เข้าใจ แล้วว่าทำไมผู้หญิงคนนั้น ถึงแม้ฉันไม่เคย ทำอะไรเพื่อทำร้ายเธอเลย เพราะความหึงหวง
ของเธอ เธอก็ยอมฟังปีศาจ มาพยายามทำร้ายฉัน และเพราะการมีพลังนี้ เธอจึงต้องจ่ายแพง เช่น เธอจะฆ่า
สามีของเธอ หรือ/และทำลายชีวิต ของเด็กชายสองคนที่เป็น ลูกชายของเธอไปแล้ว ไม่ใช่เพราะเธอ ต้องการ
พวกเขาจริง ๆ ชอบพวกเขา หรือรักพวกเขามาก หรืออะไรก็ตาม เป็นเพียงคำปฏิญาณที่เธอให้ไว้ เธอต้อง
ปฏิบัติตาม เพื่อทำให้ปีศาจมั่นใจ ว่าเธอติดตามพวกมันจริง ๆ และถูกปราบปรามด้วยพลัง ของพวกมันจริง ๆ
และ สามารถไว้วางใจได้จริง ๆ ร่วมมือกับพวกมันเพื่อทำ สิ่งเลวร้ายต่อมนุษย์ หรือ แม้แต่ชาวสุนัขหรือชาวแมว
- หรือชาววัว คุณได้ยิน บางครั้งจู่ ๆ สุนัขดี ๆ ที่สงบน่ารักมาก สงบสุขมาก มาตลอดชีวิต จู่ ๆ ก็ฆ่าคนหรือเด็ก
คนนั้น โดยไม่มีเหตุผลเลย! ไม่ได้ถูกยั่วยุแม้แต่น้อย ทันใดนั้นเขาก็กระโดด เข้าไปกัดพวกเขา
นั่นเป็นเพราะว่ามีปีศาจ อยู่ข้างหลังสุนัขตัวนั้น หรือเพื่อนบ้านคนใดคนหนึ่ง อาจเป็นแม่มด และไม่ชอบสุนัข
ตัวนั้น จากนั้นเธอก็ จะทำเวทมนตร์ และสุดท้าย สุนัขก็ทนไม่ไหว เขาเป็นแค่สุนัข แม้แต่มนุษย์ก็ทนไม่ไหว 
ไม่ต้องพูดถึงสัตว์เล็ก ๆ อ่อนแอ แถมยังกินเนื้อชาวสัตว์ มาตลอดชีวิตอีกด้วย ไม่ใช่ว่าเขาชอบมัน
โอ้ที่รัก โลกนี้... มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ทำไปแล้ว แต่มนุษย์ต้องการผ่าน การทดสอบและความยากลำบาก 
มากเกินไปเพื่อที่จะยิ่งใหญ่ขึ้น เช่น อาจจะกลายเป็น เทวดาหรือเทพเจ้าที่สูงขึ้น ในอาณาจักร หรือ ต่อมา
สามารถเป็นผู้ช่วย ของอาจารย์ หรือกลายเป็น อาจารย์ในล้านล้านปี ใครจะรู้?
ลองนึกภาพ- คุณจำเรื่องราวมากมาย ที่ฉันเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับ ชาติที่แล้วของพระพุทธเจ้า หรือหลายเรื่อง
ที่ฉันยัง ไม่ได้เล่าให้คุณฟังด้วยซ้ำ แต่พระพุทธองค์ทรง เป็นพุทธะแล้ว นาน นาน นาน นาน นาน ชั่วกัป
ชั่วกัลป์แล้ว แต่พระองค์เสด็จลง มายังโลกมนุษย์เพื่อ ช่วยคน ๆนั้น ประเทศนี้ และประเทศนั้นและ 
ต้องทนกับทุกสิ่ง ท่านต้องทำทุกสิ่ง เพื่อเอากรรม ของมนุษย์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดี เกี่ยวกับเรื่องนี้
พระพุทธเจ้าได้รับการยกย่อง ว่าเป็นผู้กอบกู้โลก พระเยซูคริสต์และ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่อีก หลายคนได้รับ
การยกย่องว่า เป็นผู้กอบกู้โลกเช่นกัน แต่เราไม่เห็นสิ่งที่พวกเขาทำไป พวกท่านมาพร้อมพระพร ช่วยยก
โลกขึ้น ระดับหนึ่ง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโลก ของเราจึงมีอารยธรรมมากขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น พร้อมด้วย 
สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ อย่างสะดวกสบายมากขึ้น แต่ด้วยเหตุนั้น เราจึง 
ลืมขอบคุณพระเจ้า และขอบคุณเหล่าอาจารย์ และ เราใช้มัน (สิ่งประดิษฐ์) เพื่อทำอันตรายมากขึ้น – 
เพราะความโลภ เนื่องจากการไม่เคารพ พระพรของเหล่านักบุญ ซึ่งได้สำแดงออกมาผ่านช่องทาง 
ที่สะดวกสบายอื่น ๆ มากมาย สำหรับชีวิตเรา
เราคิดว่า "โอ้ เราฉลาด เราเป็นคนดี ดังนั้นเราจึงสามารถ ประดิษฐ์สิ่งนี้ ประดิษฐ์สิ่งนั้นได้” และในที่สุดก็คิดค้น 
ระเบิดปรมาณูและ ทำร้ายผู้คนมากมาย ผลกระทบยังคงมีอยู่ หลายชั่วอายุคนในขณะนี้ คนญี่ปุ่นที่น่าสงสาร 
รุ่นหลังเหตุการณ์ระเบิด ยังคงทนทุกข์ทรมานมากมาย เช่นเดียวกับ ฝนเหลือง ในเอาหลัก (เวียดนาม) เด็กที่
เกิดทุกวันนี้ ยังคงต้องทนทุกข์ทรมานจาก ผลกระทบอันน่าสยดสยองมากมาย ซึ่งทำให้เสียโฉม และ ทำให้
ชีวิตของพวกเขาตกนรก
คุณเห็นไหม มันจึง เป็นเรื่องง่ายที่จะพูดว่า "โอ้ ฉันอยากเป็นอาจารย์ ฉันอยากเป็นนักบุญ ฉันจึงลงมา อดทน
ทุกอย่าง เพื่อฉันจะยิ่งใหญ่ขึ้นในสวรรค์" มันง่ายที่จะพูดเช่นนั้น แต่มายาจะไม่ยอมให้คุณเป็น มายาจะประดิษฐ์
กับดัก ที่น่าสยดสยองมากขึ้น การล่อลวงที่น่าสยดสยอง และยาพิษที่น่าดึงดูดใจ เพื่อกักขังคุณไว้ในดินแดน 
ทางกายภาพและความทุกข์ทรมาน เกือบเหมือนตลอดไป บางคนอาจจะไม่ได้ออกไปเลย แต่จิตวิญญาณก็ยัง
มีความเชื่อมโยง กับพระเจ้าอยู่ดี ดังนั้นไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาก็จะต้องตื่นขึ้น หลังจากพวกเขาทนทุกข์มากเกินไป 
ชาติแล้วชาติเล่า พวกเขาก็จะตื่นขึ้น ชาติแล้วชาติเล่า พวกเขาจะอดทน ต่อความยากลำบากทุกชนิด 
ความเจ็บปวด ความโศกเศร้า ความอับอาย หรือความผิดหวัง และนรก แล้ววันหนึ่งพวกเขา จะมีเพียงพอ 
พวกเขาจะอธิษฐานขอความหลุดพ้น จากใจอย่างแท้จริง พวกเขาจะให้ทุกอย่าง พวกเขาจะละทิ้งความ
ปรารถนา อันต่ำต้อยทั้งหมดและ เพียงปรารถนาที่จะกลับบ้าน และเมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะมีโชค 
ได้พบกับอาจารย์ ที่จะพาพวกเขากลับบ้าน
ทำไมเราต้องมีอาจารย์ มาพาเรากลับบ้าน? เพราะอาจารย์ เป็นผู้รู้ทาง พวกท่านเดินทางมาทางนี้ เพื่อลงมา 
รับคุณกลับบ้าน – พวกท่านรู้ว่าต้องทำอะไร มันเป็นแนวทาง - ไปยังสวรรค์ เช่นเดียวกับในโลกนี้ บางครั้งคุณ
ก็อยาก จะไปเยี่ยมชมพื้นที่ ที่คุณไม่เคยไปมาก่อน และคุณจ้างมัคคุเทศก์หรือ ไปเป็นกลุ่ม และมีมัคคุเทศก์ที่
จะพา คุณไปชมทุกอย่าง ในพิพิธภัณฑ์ ริมแม่น้ำ หรือบางเมือง เช่น การเที่ยวชมสถานที่ คุณต้องการคำ
แนะนำนั้น ไปคนเดียวลำบากมาก บางทีคุณอาจหลงทาง และคุณอาจตกอยู่ในอันตราย ด้วยเพราะคุณอาจ 
อยู่ในพื้นที่ที่โด่งดังในด้านไม่ดี และถูกโจมตี – นักท่องเที่ยวจะถูกโจรปล้น หรืออะไรก็ตาม – หรือพื้นที่
อันตรายบางแห่งที่ คุณไม่รู้ว่ามันคืออะไร
แค่ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับทหารรัสเซีย ที่พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้มากนัก พื้นที่อันตรายใน เชอร์โนบิลหรือ
ที่เคยเป็น พื้นที่นิวเคลียร์มาก่อน พวกเขาขุดสนามเพลาะ เพื่อรักษาตัวเองให้ปลอดภัยที่นั่น แล้วทุกคนก็
ล้มป่วยหนัก เพราะสถานที่นั้น เต็มไปด้วยรังสีนิวเคลียร์ และมันยังอยู่ที่นั่น มันแรงเกินไป ทุกคนจึงล้มป่วย 
จึงต้องย้ายออกไป บุคลากรที่ยังทำงานอยู่ ในพื้นที่นั้น ในโรงงานนั้นมาก่อน พวกเขารู้ว่าสถานที่นั้นไม่ดี 
แต่ทหารรัสเซีย กลับไม่ฟัง จึงล้มป่วยลง ฉันสงสัยว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ หรือตายไปแล้ว หรืออาจ 
ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากภายในสู่ ภายนอกและไม่สามารถทำงานได้ อีกต่อไป ใช้ชีวิตเหมือนผัก
โลกนี้จึงเต็มไปด้วยอันตราย และทางไปสวรรค์ – คุณต้องผ่านพื้นที่อันชั่วร้าย และถ้าคุณไม่รู้ทาง คุณจะถูก
พวกมันจับ หรือถูกพวกมันกักขัง หรือถูกพวกมัน เอาไปเป็นทาส – และคุณจะไม่สามารถออกไปได้ นั่นเป็น
สาเหตุว่าทำไม คุณต้องมีอาจารย์มา สอนวิธีป้องกันตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ ผู้ประทับจิตของฉันได้รับ การสอนถึง
วิธีป้องกันตัวเอง เช่นกัน ไม่ใช่แค่ทุกวัน ที่พวกเขาต้องเรียกให้อาจารย์ ปกป้องพวกเขา อาจารย์จะมาก็ต่อเมื่อ 
คุณไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ในบางสถานการณ์เท่านั้น อาจารย์จะมาโดยที่คุณ ไม่ต้องถามด้วยซ้ำ 
เพราะว่าอาจารย์มี กายสำแดงอยู่มากมาย ที่จะอยู่กับคุณ ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
และตัวคุณเองที่เป็น ลูกศิษย์ก็ต้องทำงานต่อไป ทำการบ้านด้วย เหมือนที่คุณต้องนั่งสมาธิ วันละนานแค่ไหน 
และต้องรักษา ความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณ จิตใจ และร่างกาย โดยการกินอาหารวีแกน ไม่ทำอันตรายต่อสิ่ง
มีชีวิตใด ๆ ไม่ใช่แค่การกินอาหาร แต่ต้องช่วยถ้าชาวสัตว์ ที่เข้ามาในบ้านของคุณ คุณไม่ทุบตีพวกเขา 
คุณค่อย ๆ พาพวกเขาออกจาก บ้านของคุณ แม้แต่แมลงด้วย คุณดักพวกเขาไว้ในกล่อง หรืออะไรสักอย่าง 
แล้ว ปล่อยพวกเขาออกไปข้างนอก ซึ่งเป็นวิถีชีวิตวีแกน
นอกจากนี้ คุณพูดจาดี ๆ กับผู้คน คุณอวยพรผู้คน และคุณช่วยเหลือ ใครก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือ ถ้าคุณ
ทำได้ ถ้าคุณรู้เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ การกินผักเท่านั้น และปัจจุบันก็มี สินค้าที่ผลิตออกมามากมาย พวกมันดูเหมือน 
เนื้อชาวสัตว์ และเนื้อชาวปลาด้วยซำ ที่คุณโหยหา และรสชาติก็ ถูกใจคุณมากด้วย และคุณไม่ต้องการ
อะไรเลย คุณไม่ต้องการ เนื้อชาวสัตว์ใด ๆ และไม่ดื่มสุรา และทั้งหมดนั้น ทั้งหมดนี้เป็นอาหารวีแกน 
ของผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณ และคุณไม่ขโมยของ จากคนอื่นเป็นต้น เราคุยกันเรื่องนี้ไปแล้ว ฉันเลยไม่อยาก 
เฝ้าบอกคุณอีกครั้ง
และตอนนี้ คุณ ผู้ที่เรียกว่าผู้ประทับจิต ผู้ที่มีศรัทธาในพลังของฉัน ตอนนี้คุณเข้าใจแล้ว มนุษย์มีพระเจ้าอยู่
ภายในและ เจตจำนงเสรีที่ถูกมอบให้พวกเขา พวกเขาต้องเลือก
โปรดอธิษฐานเพื่อพวกเขา อธิษฐานเพื่อโลก เพื่อที่พวกเขาจะได้ตื่นขึ้น ขอการให้อภัย และขอ การหลุดพ้นจาก
ตัวพวกเขาเอง เราทำอะไรไม่ได้มากนอกจากร้องไห้ เหมือนกับทุกสวรรค์ร่ำไห้ การได้เห็นตัวฉันทุกข์ทรมาน 
แต่พวกท่านช่วยไม่ได้มาก เพราะฉันต้องแบกรับ ความเจ็บปวดของเหล่ามนุษย์ เพื่อลดหนี้กรรมของพวกเขา 
มันคือความปรารถนาของฉันที่จะ ยกระดับชาวโลกผ่านวิธีนี้ พวกท่านไม่ได้รับอนุญาต ให้ต่อต้านเจตจำนง
ของฉัน เหล่าสวรรค์ที่น่าสงสาร!
และตอนนี้ คุณ ผู้ที่เรียกว่าผู้ประทับจิต ผู้ที่มีศรัทธาในพลังของฉัน ตอนนี้คุณเข้าใจแล้ว มนุษย์มีพระเจ้าอยู่
ภายในและ เจตจำนงเสรีที่ถูกมอบให้พวกเขา – พวกเขาต้องเลือก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโลกนี้จึงมี 
สองเส้นทาง: เส้นทางหนึ่งเป็นทางบวก คุณต้องเลือกว่าคุณ ต้องการเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่กว่า ในจักรวาล
และ ในสวรรค์ และคุณจะ มีพลังอำนาจในการช่วยเหลือ ผู้อื่นในภายหลัง ไม่ใช่แค่เป็นคนเรียบง่าย แต่เป็น
ตัวตนบนสวรรค์ แต่คุณก็มีพลังมากขึ้นใน การช่วยเหลือผู้อื่นที่ ต้องการ - เช่น คนระดับล่าง หรือชาวสัตว์ 
เป็นต้น
ในโลกของเรา มีชาวสัตว์จำนวนมาก ก็มาจากสวรรค์ พวกเขาลงมาเพื่อช่วยเหลือ มนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ แม้แต่
ชาวสุนัข ชาวแมว ชาวปลา ชาวปลายักษ์ และ ชาวสัตว์ยักษ์ทั้งหลาย บางตัวไม่ได้ดีขนาดนั้น เพราะนั่นคืองาน
ของพวกเขา และแม้ว่าคุณจะบอกว่า ชาววาฬกินปลาตัวเล็ก ๆ จำนวนมาก และสัตว์ทะเล ตัวเล็ก ๆ อื่น ๆ – 
พวกเขาก็ต้องทำ เพื่อสร้างสมดุลให้กับโลกนี้ เพราะสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ในทะเล บางตัวเป็นลบ พวกมันเป็นซอมบี้
และตัวตน ที่ถูกปีศาจผลักดันให้ทำอันตราย ให้ส่งพลังอันชั่วร้าย สู่โลกนี้ ดังนั้น ชาววาฬ แม้ว่าพวกเขา จะกิน
สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เหล่านี้ พวกเขาก็ช่วยเหลือเรา เราต้องเปิดตาที่สามของเรา ดวงตาแห่งสวรรค์ และหูแห่งสวรรค์ 
เพื่อจะรู้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด พื้นผิว รูปร่างหน้าตา ไม่สามารถบอกเราถึงความจริงทั้งหมด ที่อยู่เบื้องหลังได้ 
และเฉพาะผู้รู้แจ้งเท่านั้น ที่จะรู้ความจริงเหล่านี้ และเพื่อที่จะได้รู้แจ้งอย่างแท้จริง คุณจะต้องหาอาจารย์ 
ผู้รู้แจ้งเพื่อถ่ายทอดสิ่งนี้ เพื่อถ่ายทอดพลังนี้ให้กับคุณ โดยพระคุณของพระเจ้า แน่นอน หากไม่มีพระเจ้า
เราก็ไม่มีอะไรเลย
หากไม่มีอาจารย์… ฉันบอกคุณอย่างแท้จริงในตอนนี้ – ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่มีอาจารย์ อาจารย์
ผู้รู้แจ้ง คุณจะไม่มีวันออกจากวงจร แห่งชีวิตและความตายนี้ แม้ว่าคุณจะพูดว่า "โอเค ฉันรอได้" คุณคิดว่าคุณ
สามารถรอจนถึง ล้านล้าน แสนล้านปี – เมื่อคุณผ่าน ความทุกข์หรือความสุข – ทั้งหมดแล้วคุณตื่นขึ้นมา 
คุณกลายเป็นรู้แจ้ง แล้วคุณก็กลับบ้าน ไม่ ไม่ ถึงตอนนั้น คุณยังต้องการอาจารย์ เพื่อพาคุณกลับบ้าน 
มันเป็นอย่างนั้น มันเป็นกฎแบบนั้น ไม่มีอะไรที่ฉันทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้น อย่าคอยกดดันฉัน ให้เปลี่ยน
โลกนี้ ให้เป็นสวรรค์ มันไม่ทำงานอย่างนั้น เมื่อคุณอยู่ที่นี่ คุณก็อยู่ที่นี่ คุณเป็นสิ่งมีชีวิตทางกายภาพ 
และคุณต้องดูแลตัวเอง และถ้าคุณต้องการกลับบ้านจริง ๆ คุณต้องไปหาอาจารย์
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดี เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า พระเยซูคริสต์ และนักบุญทั้งหลาย เช่น คุรุนานัก พระมหาวีระ ศาสดา
มูฮัมมัด สันติสุขพึงมีแด่พระองค์ ศาสดาบาฮาอุลลาห์ และพระกฤษณะ ฯลฯ โอ้ อาจารย์จำนวนมากมาย
ไม่สิ้นสุด คุณไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด และคุณไม่สามารถรู้จัก พวกท่านทั้งหมดด้วยซ้ำ มีสิ่งหนึ่งที่ดี 
เกี่ยวกับพวกท่าน เพราะเราพูดว่า... โอเค ฉันลืมอันนี้ไป ฉันเคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน แล้วฉันก็ไปเรื่องอื่นแล้ว 
ฉันก็ลืม
ตอนนี้เรากลับมาที่พระคริสต์ และพระพุทธเจ้าเป็นต้น พวกเขาเรียกพวกท่านว่า "ผู้กอบกู้โลก" แต่เราเห็นตาม
ทางกายภาพแล้ว ในเวลานั้นพวกท่าน มีลูกศิษย์เพียงบางส่วน หรืออาจจะหลายพันคน และทำไมเราถึงเรียก
พวกท่าน ว่า "ผู้กอบกู้โลก" นั่นคือรูปลักษณ์ภายนอก – ที่ว่าพระคริสต์มีผู้ติดตาม เพียงไม่กี่พันคน หรืออาจจะ 
มากกว่านั้นมากหรือไม่ก็ได้ หรือพระพุทธเจ้าก็ มีสาวกหรือสาวกนับหมื่นคน ในขณะนั้นด้วย แต่ในขณะที่
พวกท่านอยู่ในโลก พวกท่านจะยกระดับดวงวิญญาณ ที่ใกล้จะถึงสถานะรู้แจ้ง ใกล้ถึงสถานะความหลุดพ้น 
พวกเขายกระดับพวกนั้นอย่างเงียบ ๆ ดังนั้นวิญญาณเหล่านี้ ก็จะรู้แจ้งอย่างลับ ๆ แล้วพวกเขาก็กลับบ้าน – พระพุทธเจ้าจะพาพวกเขากลับบ้าน และเกือบจะเหมือนกับที่ ประชากรทั้งโลกจะได้รับพร จากพลังอำนาจ
ของพระคริสต์ และพระพุทธเจ้า และบางที อาจจะเป็นอาจารย์คนอื่น ๆ
อาจารย์ทั้งหมด อาจารย์ที่แท้จริง พวกเขาจะอวยพรมนุษยชาติ โดยรวมด้วยพลังของพวกเขาเอง แม้ว่าบุคคล
เหล่านั้น จะไม่รู้จักพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังคงนำโลก ทั้งใบขึ้นไปในยุค ของพวกท่านอย่างแน่นอน ในช่วงเวลา
ของพวกท่าน แน่นอนว่าไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ทั้งหมด บางคนชั่วร้ายมาก บางคนเป็นมาร ดังนั้นพวกเขาจึงต้องได้รับ
การลงโทษ ตามกฎแห่งทางกายภาพ แต่บรรดาผู้เป็นคนดี มีคุณธรรม แม้พวกเขาไม่รู้ว่า ในตอนนั้นมีพระคริสต์
ทรงมีชีวิตอยู่ พวกเขาไม่รู้จัก พระพุทธเจ้าหรืออะไรก็ตาม พวกเขาก็ยังได้รับพร เพราะถ้าพระพุทธเจ้า 
หรือพระคริสต์อยู่ในโลกนี้ พลังของพระองค์รายล้อม ไปทุกหนทุกแห่ง
พวกท่านไม่ได้สัมผัสกฎแห่งกรรม พวกท่านไม่ได้เข้าไปแทรกแซง ธรรมชาติแห่งเจตจำนงเสรีของมนุษย์ 
อย่างที่พวกท่านต้องการทำสิ่งนี้ พวกท่านต้องการทำสิ่งนั้น ใครก็ตามที่ไม่มี ความขัดแย้งกับความดีและ 
สันติสุข และพระบัญญัติ ของพระเจ้า ดังนั้น พระพุทธเจ้า พระคริสต์ – เหล่าอาจารย์ - สามารถ ยกพวกเขา
ทั้งหมดขึ้นสู่ สวรรค์ที่สูงขึ้นและสอน พวกเขาจากที่นั่นขึ้นไป เช่นเดียวกับมนุษย์บางคน ไม่สามารถไปได้ไกล
กว่า ระดับโลกทิพย์ สวรรค์แห่งโลกทิพย์ พระพุทธเจ้าก็จะอยู่ที่นั่น ร่างสำแดง พระพุทธเจ้าไม่ได้ มีเพียง
กายเดียว แม้แต่ในโลกกายภาพ พระคริสต์ พระพุทธเจ้า พระศาสดาทั้งหลาย พวกท่านต่างก็มีกายแสง 
ปรากฏมากมาย ๆ นับไม่ถ้วน หมายความว่าพวกท่านสามารถปรากฏตัว ได้ทุกที่เพื่อช่วยเหลือ ผู้ที่ต้องการ 
แม้ว่าบุคคลนั้น จะไม่เห็นพระองค์ก็ตาม – ดังนั้น ก็ให้การรู้แจ้งแก่พวกเขา ในระดับหนึ่งแล้ว แล้วเมื่อบุคคล
นั้นตาย การปรากฏกายของพระพุทธเจ้า ด้วยอานุภาพอันมหาศาลสามารถ พาบุคคลนั้นไปสู่ระดับใด 
ก็ได้ที่เขาสมควรได้รับ
แม้แต่ในระดับโลกทิพย์ พระพุทธเจ้าก็ยังทรงอยู่ที่นั่นด้วย และสอนบุคคลนั้น จนไปสู่ระดับที่สูงกว่า ไปสู่แดน
พุทธภูมิ เป็นต้น เช่นนั้น นั่นคือเหตุผลที่เราเรียก พระองค์ว่า “ผู้กอบกู้โลก” ดังนั้นพระคริสต์จึงไม่ทรงสิ้น
พระชนม์ เพื่อลูกศิษย์จำนวนน้อยของพระองค์ หรือจำนวนสาวกที่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงมีในขณะนั้น
มากเพียงใด หรือพระพุทธเจ้าไม่ได้ปรินิพพาน แล้วเอาแต่เสด็จไปช่วยลูกศิษย์ หลายพันคน ของพระองค์ 
ไม่ ไม่ ท่านมีมากกว่านั้นที่ต้องทำ โลกทั้งโลกในช่วงพระชนม์ชีพของ พระองค์จะได้รับการช่วยเหลือ 
ได้รับการรู้แจ้ง และจะ ได้รับการหลุดพ้นโดยพระองค์ และหลังจากนั้น สำหรับคนรุ่นต่อไป อย่างที่ฉัน
บอกคุณ 200 ปีหรือ อาจจะมากกว่านั้นอีกหน่อย 300 ปี - ก็ขึ้นอยู่กับ พลังของอาจารย์ท่านนั้น แล้วคนรุ่นนั้น
ก็จะได้รับ ความช่วยเหลือด้วยเพราะพลัง ของพระพุทธเจ้ายังเหลืออยู่ บนโลกหลังจากเสด็จปรินิพพาน
นั่นเป็นสาเหตุที่อาจารย์เหล่านี้ พวกท่านยิ่งใหญ่มาก เราขอบคุณพระองค์ได้ไม่มากพอ ถ้าเราคุกเข่า ตลอดชีวิต ตลอดชีวิตเพื่อ ขอบคุณพวกท่าน สรรเสริญพระองค์ เราก็ไม่สามารถตอบแทน ความเมตตาของพระองค์ได้ 
ฉันรู้สึกขอบคุณตลอดเวลา ขอบพระคุณ อาจารย์ทุกท่าน และแน่นอน ฉันขอบคุณพระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพ
ที่ประทาน ปรมาจารย์เหล่านี้แก่เรา ผู้ซึ่งมาชาติแล้วชาติเล่า เตือนเราถึงคำสอนของพระเจ้า นำพระพรและพลัง 
มาให้เรายกระดับจิตวิญญาณเรา และปลดปล่อยเรา เราควรจำไว้เสมอ ที่จะขอบคุณพวกท่าน ในพระคุณของ
พระเจ้า ว่าดาวเคราะห์ดวงใด โลกใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าพวกเขามีศาสดาใด ๆ ดาวเคราะห์นั้น โลกนั้น ๆ ก็โชคดีมาก
เฉพาะในนรกเท่านั้นที่จะ ช่วยได้ยากมาก – แต่อาจารย์บางท่านยังทำได้ และแม้กระทั่งอาจารย์ 
อย่างพระกษิติครรภ์ พระกษิติครรภโพธิสัตว์ ก็ยังอยู่ในนรก ช่วยเหลือผู้คนในนรก สอนพวกเขาเพื่อที่อย่างน้อย 
พวกเขาจะสามารถระลึกถึงพระเจ้า ใครก็ตามที่พระองค์ทรงทำได้ บางคนก็มีกรรมหนักหนาเกินไป พระองค์
ก็ทรงทำไม่ได้ แต่ใครก็ตามที่พระองค์ทรงทำได้ พระองค์ก็ทรงพยายามเตือนพวกเขา แล้วพวกเขาจะเป็น 
อิสระจากนรก หลังจากสำเร็จการศึกษา แน่นอน
ตอนนี้ ฉันหวังว่าคุณจะ เข้าใจว่าอาจารย์ ไม่ได้มาเพียงเล่นฮูลาฮูป และเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะนั่น
จะต้องขึ้นอยู่กับ วุฒิภาวะของมนุษย์ วุฒิภาวะทางจิตวิญญาณ และนั่นคุณต้องเคารพ หากเราพูดถึงการหลุดพ้น 
และพลังของพระเจ้า และวิถีชีวิตของพระเจ้า เส้นทางสู่สวรรค์ ของพระเจ้าตลอด หลายทศวรรษที่ผ่านมา 
และบางคนไม่ฟัง พวกเขาก็แค่ไม่ฟัง เวลาของพวกเขายังไม่สุกงอม
มีเรื่องตลก ก่อนหน้านี้ ฉันบอกคุณแล้ว แต่ฉันจะบอกคุณอีกครั้ง มีชายคนหนึ่ง เคยติดการพนัน เขาเล่นการพนัน
ทุกวัน เพื่อนคนหนึ่งของเขา เรียกว่าคนรู้จักก่อน เพื่อนคนนี้ได้รู้แจ้ง ก็อยู่กับเขาด้วย ทันใดนั้นเขาก็ได้ รู้แจ้ง
และ ได้พบกับอาจารย์ เขาจึงเห็นเพื่อนของเขา ยังคงหมกมุ่นอยู่กับ บรรยากาศการพนันแบบนี้ และติดการพนัน 
สูญเสียทุกอย่าง ทนทุกข์ทรมานมากมาย และยังชอบอยู่ที่นั่น ดังนั้นเขาจึงพยายามพาเขา ไปสวรรค์ด้วยพลัง
ของเขาเอง – พาเขาไปสวรรค์เพื่อแสดง ให้เขาเห็นว่าสวรรค์สวยงาม และดีอย่างไร และทั้งหมดนั้น และเพื่อน
คนนั้นซึ่งเป็นเพื่อน ที่ไม่รู้เรื่องก็ถามเขาว่า "ที่นี่มีบ่อนการพนันบ้างไหม?" และเพื่อนก็พูดว่า "ไม่มีแน่นอน 
ที่นี่คือสวรรค์" คุณควรรู้ว่า สิ่งนี้สวยงามและดีกว่าสำหรับคุณ อย่าไปเล่นการพนันอีกต่อไป เพียงติดตามอาจารย์
ของฉัน แล้วคุณจะหลุดพ้น” เขาบอกว่า “ไม่ ผมอยากเล่นพนัน” ถ้าสวรรค์ไม่มีมัน ผมก็ไม่อยากอยู่ที่นี่” 
คุณเห็นไหม?
ดังนั้น มันอาจเป็นเรื่องตลก แต่ก็เป็นเรื่องจริง สำหรับหลาย ๆ คนเช่นกัน และคุณเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ 
คุณไม่ต้องการ... แค่ปล่อยให้พวกเขา ตื่นขึ้นมาเอง สักวันหนึ่งถ้าพวกเขาต้องการ ตื่นขึ้นมาอีกนานแสนนาน
หลังจากผ่านไปหลายล้านล้านปีแล้ว นั่นคือทางเลือกของพวกเขา หากพวกเขาต้องการกลับบ้านตอนนี้ 
ตื่นตอนนี้ รับการรู้แจ้งตอนนี้ และกลับไปหาพระเจ้าตอนนี้ แล้วเราจะช่วยพวกเขาได้ทันที พวกเขาสามารถ
เห็นพระเจ้าได้ทันที ดังที่คุณเห็น คุณก็รู้ แต่ถ้าพวกเขาไม่ต้องการคุณ ก็ไม่สามารถบังคับพวกเขาได้
เช่นเดียวกับแพทย์ในโรงพยาบาล ต้องการที่จะ ช่วยเหลือผู้ป่วยทุกคน และทำให้พวกเขาหายดี แต่หากคนใด
คนหนึ่งไม่ต้องการมัน ไม่เซ็นใบยินยอม แพทย์ก็ไม่สามารถให้การผ่าตัด หรือให้การรักษาพิเศษแก่เขาได้ 
เว้นแต่ว่าบุคคลนั้นอาจ หมดสติ เป็นลมไปแล้ว และสมาชิกในครอบครัว คนใดคนหนึ่งสามารถลงนาม ว่าแพทย์
ได้รับอนุญาต ให้ทำการผ่าตัดทันที หรือการรักษาที่พิเศษมากและ อาจเป็นที่น่าสงสัย เพื่อช่วยผู้ป่วยรายนั้น 
แพทย์ก็สามารถทำได้ ดังนั้น มันก็เหมือนกับมนุษย์ พวกเขาไม่ต้องการกลับบ้าน จนกว่าพวกเขาจะถูกทุบตี 
ฟกช้ำดำเขียว ชาติแล้วชาติเล่า และทนไม่ไหวอีกต่อไป จากนั้นพวกเขาจะขอกลับบ้าน แล้วเราจะพร้อม 
ยืนเคียงข้าง ทุกเมื่อ ดังนั้น โปรดอย่าบังคับฉัน และอย่าจู้จี้ฉันในเรื่องนั้นอีก ฉันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า
สิ่งที่คุณต้องการ แต่มันไม่ใช่ธรรมชาติ ของจักรวาลด้วยวิธีนี้
โปรดอธิษฐานเพื่อพวกเขา อธิษฐานเพื่อโลก เพื่อที่พวกเขาจะได้ตื่นขึ้น ขอการให้อภัย และขอ การหลุดพ้น
จากตัวพวกเขาเอง เราทำอะไรไม่ได้มากนอกจากร้องไห้ เหมือนกับทุกสวรรค์ร่ำไห้ การได้เห็นตัวฉันทุกข์
ทรมาน แต่พวกท่านช่วยไม่ได้มาก เพราะฉันต้องแบกรับ ความเจ็บปวดของเหล่ามนุษย์ เพื่อลดหนี้กรรม
ของพวกเขา มันคือความปรารถนาของฉันที่จะ ยกระดับชาวโลกผ่านวิธีนี้ พวกท่านไม่ได้รับอนุญาต 
ให้ต่อต้านเจตจำนงของฉัน เหล่าสวรรค์ที่น่าสงสาร!
Testimony by a member of our Supreme Master Ching Hai International Association (all vegans): 
วันหนึ่งระหว่างการทำสมาธิ ฉันเข้าสู่สนามพลังงานของอาจารย์ ในขณะที่ฉันนั่งสมาธิ ฉันมอง จากจักรวาล
เบื้องบน ธรรมกายของท่านกว้างใหญ่มาก ครอบคลุมทั้งโลก ธรรมกายของท่านใหญ่โตมโหฬาร แต่เป็นเพียง
แสงสวรรค์ (เข้าใจ) แสงสวรรค์อันยิ่งใหญ่ของท่าน ล้อมรอบทั้งโลก แล้วก็ยังมีอีกร่างหนึ่ง ท่านแปลงร่าง
เป็นร่างที่ใหญ่มาก และสรรพสัตว์ทั้งหมด ถูกห่อหุ้มด้วยร่างของท่าน มืออันยิ่งใหญ่ของท่าน โอบกอดทุก
สรรพสัตว์ ลูบไล้ปลอบโยนพวกเขา หลังจากปลอบโยนพวกเขา ร่างแสงสวรรค์ของท่าน ก็ค่อย ๆ ละลาย 
ละลายหายไป ไหลไปสู่สรรพสัตว์ ในเวลานั้น ฉันเห็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของท่าน ทุกอย่างเป็นพลังงาน
บางอย่าง เพียงได้อยู่ในพลังงานนั้นเท่านั้น ที่ผู้นั้นจะสามารถรู้สึกได้ เพราะพลังงานนี้ อธิบายไม่ได้ด้วยคำพูด 
จักรวาลทั้งหมดเบื้องบน และสิ่งมีชีวิตมากมาย ในทั้งจักรวาล พวกเขาต่างรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของท่าน 
เพียงมนุษย์บนโลกเท่านั้น ที่ไม่เข้าใจ ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครรู้มัน เมื่อฉันเห็นสิ่งนั้น ฉันร้องไห้ เพราะจักรวาล
เบื้องบน พวกท่านมีความเห็นอกเห็นใจ และเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อท่าน พวกท่านมองลงมาจากเบื้องบน 
แต่พวกท่านไม่สามารถหยุดท่านได้ เพราะการเสียสละนี้ เป็นทางเลือกของท่าน ดังนั้นไม่มีใครสามารถหยุด
มันได้ แล้วฉันก็มอง ลึกไปในดวงตาของท่าน และในดวงตาของท่านในตอนนั้น มีแต่เพียงสรรพสัตว์เท่านั้น 
ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากสรรพสัตว์ แล้วบางสิ่งบางอย่าง... มันคือพลังงานทั้งหมด อาจารย์ เราต้องอยู่ในสนาม
พลังงานนั้น เพื่อตระหนักถึงมัน สิ่งที่ฉันกำลังพูดอยู่ตอนนี้ เป็นเพียงส่วนเล็กน้อย (ฉันรู้ ใช่) ไม่สามารถ
อธิบายได้ นอกจากนี้ ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง (ฉันรู้) ในสายตาของท่านมีความปรารถนา อย่างลึกซึ้งให้
สรรพสัตว์เปลี่ยนแปลง ความรักอันไร้ขอบเขตอย่างยิ่ง ความปรารถนาอันแรงกล้าต่อ การเปลี่ยนแปลง 
และความโศกเศร้า อันลึกซึ้ง ความรู้สึกทั้งหมดนี้ ของอาจารย์ ... (ในครั้งหนึ่ง ใช่) ค่ะ ในสนามพลังงานนั้น 
แรงสั่นสะเทือนของท่าน จากนั้นฉันก็กลัว และหลั่งน้ำตาออกมา เพราะสิ่งมีชีวิตบนโลก ความรักของพวกเขา
เป็นเพียงแค่ เหมือนฝุ่นธุลีในจักรวาลนี้ พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย (ใช่) ดังนั้น ฉันอยากจะพูดกับผู้ประทับจิต 
ของเราว่าการมีอาจารย์ เป็นพระพรที่จินตนาการไม่ได้จริง ๆ หากเราไม่พบ ถ้าเราไม่ได้เห็นจริง ๆ และเข้าไป
ข้างในสนามพลังนั้น และสามารถสัมผัสมันได้ เราไม่สามารถเข้าใจได้ ไม่งั้นมันก็แค่ ... (แค่คำพูด) ใช่ค่ะ 
ดังนั้นการมีอาจารย์ ในเวลานี้ถือเป็นพระพรอย่างยิ่งจริง ๆ จนฉันไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไร
บางครั้งฉันก็โกรธ เหมือนคุณตอนนี้ เป็นการเรียกร้องอย่างมากจาก พระเจ้าให้เปลี่ยนแปลงมัน – 
เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกนี้ แต่ฉันเดาว่าพวกเขาต้องการ ที่จะผ่านความทุกข์ทรมาน เพื่อที่จะรู้ว่า ความทุกข์นั้น
เป็นอย่างไร เพื่อจะสามารถ ช่วยเหลือผู้ทุกข์ ผู้เป็นทุกข์ต่อไป ในบางทีร้อยปี พันปี ล้านปี เมื่อพวกเขารู้แจ้ง
และ มีพลังช่วยเหลือได้ ตอนนี้คุณเข้าใจไหม? เพราะถ้าคุณรวย คุณจะเกิดมารวย ตลอดชีวิต คุณไม่เคยผ่าน
พื้นที่ ยากจนที่มีคนจรจัด หรือคนจนเลยด้วยซ้ำ คุณจะไม่มีทางรู้ว่า "ความจน" หมายถึงอะไร และคุณจะไม่มีวัน
ที่จะมี ความสงสาร ความรัก หรือความเมตตา หรือต้องการช่วยเหลือ คนจนเหล่านั้นเลย
ตอนนี้ถ้าพวกเขายัง ไม่อยากกลับบ้าน เราก็ปล่อยมันไป พวกเขามีพระเจ้าอยู่ในจิตวิญญาณ และอยู่ในตัวเอง - 
พวกเขา ต้องรู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร เราแค่รู้สึกเศร้า เสียใจ แต่ยืนเคียงข้าง เอาล่ะ ถ้าฉันจำสิ่งอื่นใดได้ 
ฉันอาจจะบอก คุณในครั้งต่อไป เพราะถ้าฉันจะส่งสิ่งนี้ ให้ทีมของฉัน พวกเขา จะทำงานทั้งวันทั้งคืน 
เพื่อเผยแพร่ให้คุณดูอย่างรวดเร็ว ทางโทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ และถ้ามันยาวเกินไป พวกเขาก็จะทำงาน
หนักเกินไป ทุกวันพวกเขาทำงานหนักมาก อยู่แล้ว และทุกครั้งที่ มีการพูดคุยใหม่ ๆ จากฉัน พวกเขาก็ทำงาน
หนักยิ่งขึ้น หนักเป็นพิเศษ และฉันก็ด้วย ฉันด้วย ต่อมาพอพวกเขาส่งกลับมา ก็ต้องเช็คดูว่า ทุกสิ่งที่ถูกจด
ไว้นั้น ถูกต้องหรือไม่ ดังนั้น ตอนนี้ลาก่อน
ที่รักของฉันทุกคน ที่ติดตามฉันหรือไม่ติดตามฉัน ผู้ที่รักฉัน หรือผู้ไม่รักฉัน ทั้งผู้ที่สนับสนุนฉัน และผู้ที่ต่อต้าน
ฉัน และอิจฉาฉัน – ฉันขออวยพรให้ทุกคนได้รับ ความรักจากพระเจ้า พระพรจาก พระเจ้า และการรู้แจ้งโดยเร็ว 
อาเมน ขอบพระคุณพระเจ้าที่พูดผ่านฉัน ที่ให้ฉันได้พูดคุยกับคุณ ในลักษณะนี้ และดลใจฉัน ให้เตือนคุณถึง 
ประสงค์อันสูงส่งของคุณ
โปรดจำไว้ว่า อธิษฐานต่อพระเจ้า สรรเสริญพระเจ้า บูชาพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้าตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่คุณ
จำได้ หนึ่งนาที สองนาที หนึ่งวินาที ให้ทำอย่างนั้น และบางทีคุณอาจได้รับการช่วยเหลือ มากกว่าที่คุณจะ
จินตนาการได้ และบางทีนั่นอาจเป็น "อาวุธ" เดียวที่คุณมี หากคุณไม่มี อาจารย์ใด ๆเลย บางทีนี่ อาจเป็นพร
ให้คุณมี สถานะที่ดีขึ้นในชาตินี้ และชาติหน้า ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณที่ให้ฉัน ให้ฉันยังมีชีวิตอยู่
ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงปกป้องฉัน โปรดขอบคุณพระเจ้าสำหรับฉันด้วย ขอบคุณนักบุญและนักปราชญ์และ 
นางฟ้าและเทวดาทุกตนที่พยายาม อย่างหนักเพื่อปกป้องฉัน มากเท่าที่พวกท่านทำได้ และขอบพระคุณท่าน 
พวกท่านทั้งหมด ใครก็ตามที่ปกป้องมนุษยชาติ และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนดาวเคราะห์นี้ มากเท่าที่พวกท่าน
ทำได้ ขอพระเจ้าอวยพรทุกคน รักคุณ รักทุกคน..
นำมาจาก www.suprememastertv.com
Be Vegan Make Peace
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน