7 มีนาคม 2557 15:16 น.

หัวอกคนตกปลา

Parinya

เป็นลูกศิษย์หัวอ่อนเธอสอนว่า
ยามตกปลาอย่าดึงตึงหรือหย่อน
ถ้าตึงเกินเอ็นอาจจะขาดตอน
ถ้าหากผ่อนยานสุดปลาหลุดลอย
แต่ตอนเธอร้อยเอ็นเล่นไม่ซื่อ
แสร้งไขสือบอกสูตรพูดพล่อยพล่อย
เธอร้อยเอ็นเส้นปะติ๋วมีริ้วรอย
ตั้งใจปล่อยปลาหลุดไปใช่ไหมเธอ
ฉันไม่อยากตกปลามาบังคับ
กำกับให้ตกปลามาเสมอ
แม้ว่าฉันออกปากไม่อยากเจอ
ยังให้เย่อไม่หยุดสุดทรมาน
ถ้าเย่อไปเย่อมาปลาบาดเจ็บ
ฉันหนาวเหน็บเจ็บป่วยด้วยสงสาร
ถ้านั่งดึงสายเอ็นเล่นนานนาน
ทรมานปวดร้าวหลายเท่านัก
แต่ถ้าฉันกระชากปลาปากฉีก
เป็นเสี้ยวซีกจริงจริงยิ่งทุกข์หนัก
เพราะว่าปลาตัวนั้นฉันแสนรัก
เคยฟูมฟักเลี้ยงดูอยู่หลายปี
ถ้าหากปลาสุขสบายภายในบ่อ
ฉันอยากขอวางมือหรือเดินหนี
เพราะถ้าฉันดึงปลาพ้นวารี
ปลาอาจตายทันที...ที่ขึ้นมา
7 กันยายน 2557 18:52 น.

หนึ่งในบันทึก

Parinya

กลัวเธอจะหายไปในความว่าง
เป็นอดีตซีดจางร้างสีสัน
รายละเอียดยิบย่อยหลุดลอยพลัน
แม้ยังเหลือส่วนสำคัญอันทรงจำ
จึงเขียนกลอนทุกวันเพื่อบันทึก
เก็บทุกความรู้สึกที่ดื่มด่ำ
เก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยด้วยถ้อยคำ
แม้แนมเหน็บเก็บงำกันจำจาง
ให้เรื่องราวคราวพบอยู่ครบถ้วน
เพื่อทบทวนหวนใหม่ยามไกลห่าง
เคยรู้สึกอย่างไรในช่วงทาง
เก็บทุกอย่างที่ซึมซับประทับใจ
ไว้เรียบเรียงความคิดปะติดปะต่อ
ละเอียดลออคลอด้วยสีสวยใส
ราวนิยายถ่ายทอดตลอดไป
อ่านครั้งใดชัดเดิมเพิ่มทวี
จัดเก็บไว้ในมุมที่ลุ่มลึก
ในซอกความรู้สึกอันคงที่
ในห้องของความฝันอันแสนดี
เขียนคำว่า "เคยมี" ไว้ที่มุม
" เขาคิดว่าร่างไกลแต่ใจชิด
ไม่ได้คิดเรื่องราวแบบสาวหนุ่ม
อ่อนโยนแต่ชอบกัดหากรัดกุม
อยู่ในกลุ่มคนหนึ่งซึ่งศรัทธา "
5 มีนาคม 2557 05:44 น.

ฉงนตนเอง

Parinya

   นั่งรถผ่าน"มอดินแดง " แห่งขอนแก่น*
นึกถึงแคนบรรเลงเพลงลำซิ่ง
"เขาพักอยู่ตรงไหนในโลกจริง"
รถเราวิ่งไปสู่เมืองอุดรฯ
ก็พยายามทำตัวหัวสมัยใหม่
ซื้อคอนโดฯศิวิไลซ์ไว้พักผ่อน
หลบพายุรุกรุมที่ชุมพร
หนีบางช่วงบางตอนที่ร้อนรุม
มาหัดกินส้มตำหัดจ้ำแจ่ว
กินผักแพว กินแหนม แถมจิ้มจุ่ม
กินปลาส้ม ลาบบ้าง แซบบางมุม
หมูยอนุ่ม แกงอ่อม  จ่อมนานา
วิ่งรอบสวนสาธารณะ "หนองประจักษ์"
หอบฮักฮักไกลโขสามกิโลกว่า
พอเรียกเหงื่อเมื่อใกล้ตะวันลา
ดูเหมือนฟ้าไม่กว้างต่างกับทะเล
แม้เป็นฟ้าเดียวกันแต่วันต่าง
ไร้เพลงคลื่นบางบางครางกล่อมเห่
มีแต่เสียงสับสนรถปนเป
คิดถึงเรือตังเกทะเลอ่าวไทย
เป็นโลกจริงของชีวีมีสองบ้าน
เอ๊ะ ! เราเป็นคนอิสานหรือคนใต้
เอาเป็นว่าฟังเขา "เว้า" พอเข้าใจ**
แต่พูดไทยปนอังกฤษผิดประจำ
(* ที่ตั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่น
** เว้า ภาษาอิสานแปลว่า พูด )
    
4 มีนาคม 2557 00:34 น.

ก่อนจันทร์ร่วง

Parinya

  คืนนี้จันทร์ห่อเหี่ยวดวงเสี้ยวแหว่ง
ผ่ายผอมแห้งแรงลอยเริ่มร่อยหรอ
เหมือนจะร่วงห้วงหาวเฝ้าชะลอ
เพื่อจะขอปลอบคนที่หม่นใจ
"ชีวิตจริงต้องรับสุขกับโศก
สุขกับโลกความจริงนั้นยิ่งใหญ่
อาจเกี่ยวพันสรรสร้างอย่างอื่นใด
เหมือนเป็นมาและเป็นไปอย่างใครเคย
แต่ความฝันสวยงามเพียงยามหลับ
เป็นความลับบรรเจิดมิเปิดเผย
ผู้คนในสังคมใครชมเชย
แค่จะเอ่ยบอกเล่าใครเข้าใจ
สุขในโลกความฝันยิ่งสั้นกว่า
พอลืมตาแข็งขืนตื่นเมื่อไหร่
ฝันมิมีคุณค่าให้อาลัย
มิมีใครอาวรณ์ตอนฝันเลย"
มิใช่จันทร์ตีจากหรืออยากร่วง
แต่มิหน่วงเพียงพลอยลอยเฉยเฉย
รอหน่อยหนึ่งถึงตรงช่วงลงเอย
หล่นผล็อยเลยหายลับกับถูกลืม
3 มีนาคม 2557 04:19 น.

ใจพักแต่รักตาย

Parinya

   นานเสียจนหัวใจจำไม่ได้
ที่รักไล้โลมใจด้วยไออุ่น
เหมือนมิเคยอวยเอื้อไอเจือจุน
จึงไม่เหลือเพื่อจะตุนไว้อุ่นใจ
เจตนาทิ้งร้างจึงว่างเปล่า
นับนานเนามิเคยเอ่ยถามไถ่
จนเฉยชาชืดเย็นถึงเป็นไอ
หนาวจนเหน็บเก็บในใจร้างรัก
นานจนลืมไปเลยว่าเคยยิน
และชาชินเหมือนใจไม่รู้จัก
แม้แต่ย้อนรู้สึกนึกยากนัก
ลืมอารมณ์คึกคักรักอย่างไร
จึงนั่งฟังเอ๋อเอ๋อเมื่อเธอบอก
นึกมิออกว่าส่วนลึกรู้สึกไฉน
หรือจะยังเจ็บร้าวหนาวข้างใน
ยินครั้งใดมือเย็นเป็นประจำ
ความรู้สึกอุ่นร้อนมันนอนหลับ
พร้อมพร้อมกับความปลื้มและดื่มด่ำ
จนคล้ายคล้ายตายสนิทมิดเงียบงำ
ไม่ซึ้งคำบอกรักสักครั้งเลย
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟParinya
Lovings  Parinya เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟParinya
Lovings  Parinya เลิฟ 0 คน
  Parinya
ไม่มีข้อความส่งถึงParinya