10 พฤษภาคม 2554 16:32 น.

"เหมือนตายจากกัน"

din

"เหมือนตายจากกัน"

y1pUqvE.jpgคนที่เรารักเขามากกว่ามาก
มาพลัดพรากจากไปอยู่ไหนหนอ
ถ้าความเข้าใจกันมันไม่พอ
ฉันจะรอที่นี่นะที่รัก

รอพรุ่งนี้แสงทองจะส่องหล้า
ทอแสงจ้าให้เห็นเป็นประจักษ์
แม้ว่าเขาคนดีที่เราภักดิ์
ไม่ตระหนักรักซึ้งซึ่งเรามี

เมื่อเขาไม่ใช่เขาของเราแล้ว
ตาส่อแววหนาวเหน็บเจ็บเหลือที่
ความคิดถึงห่วงหาทุกนาที
มันปวดร้าวฤดีเช่นนี้เอง

หยาดน้ำค้างพร่างหล่นบนใบหญ้า
หนาวน้ำตาคนตรมถูกข่มเหง
หัวใจคนไร้หวังยังกริ่งเกรง
ความวังเวงคลุมครอบรอบรอบกาย

ไม่มีฝันวันดีของชีวิต
นึกถึงคนเคยชิดแล้วจิตหาย
เมื่อสิ่งที่เคยฝันมันเปล่าดาย
เขาก็ตายจากความรู้สึกเรา				
2 พฤษภาคม 2554 11:36 น.

เพื่อชาติไทย

din

5490000023001221.jpgเรายึดถือสีเสื้อเพื่อแบ่งข้าง
เกิดช่องว่างทั่วไปในวิถี
ความคิดแผกแตกต่างในบางที
เราก็ชี้หน้าด่าว่ากันเอง

แผ่นดินเรามีชาติศาสน์กษัตริย์
เป็นร่มฉัตรมิให้ใครข่มเหง
ศัตรูเข้าโรมรันไม่หวั่นเกรง
พร้อมละเลงเลือดเนื้อเพื่อชาติไทย

มาวันนี้ขวานทองต้องแตกแยก
กี่ชีวิตเข้าแลกคิดบ้างไหม
มันขมขื่นชอกช้ำระกำใจ
อีกเมื่อไรหันหน้าเข้าหากัน

สามัคคีคือพลังหวังสร้างชาติ
โอ้อนาถคิดไปหม่นไหม้ขวัญ
เมื่อต่างฝ่ายต่างโหมเข้าโรมรัน
คงสักวันขวานบิ่นสิ้นชาติไทย

อย่ายึดถือ ตัวคน จนหลงผิด
อย่ายึดติด บุคคล จนหลงใหล
อย่ามัวเมาคำว่า อธิปไตย
อย่าให้ใครเบือนบิดคิดครอบครอง

ตั้งสติไตร่ตรองเถอะน้องพี่
น้ำตาปรี่ท่วมใจไทยทั้งผอง
เมื่อเลือดรินหยาดหยดรดท่วมนอง
ความปรองดองสมานฉันท์ก็ฝันไป

กี่ครั้งแล้วที่เราต้องร้าวรวด
กี่ครั้งปวดดวงกมลเกินทนไหว
กี่ครั้งที่ขื่นขมตรมทรวงใน
กี่ครั้งไทยหันมาฆ่ากันเอง

เลิกยึดถือสีเสื้อเพื่อแบ่งข้าง
ลดช่องว่างอย่าให้ใครข่มเหง
รวมน้ำใจกันไว้ไม่หวั่นเกรง
เพื่อร้องเพลงชาติไทยให้ไทยฟัง				
21 เมษายน 2554 13:43 น.

เพื่อรักใหม่

din

006.jpgฉันรักเธอมากนะน่าจะรู้
ไม่อาจกู่ก้องไปให้อายเขา
รู้แต่เพียงวันนี้ยังมีเรา
เรื่องความหลังครั้งเก่าอย่าเล่าเลย

อดีตใช่สำคัญเท่าวันนี้
ขอคนดีเชื่อคำพร่ำเฉลย
รักครั้งใหม่มีค่ากว่าภิเปรย
เกินกว่าเอ่ยถ้อยคำมารำพัน

สำหรับเธอเป็นใครไม่อยากคิด
อย่าใช้สิทธิ์ทวงถามความเป็นฉัน
เพียงเรามีใจเอื้อเพื่อแบ่งปัน
มีเยื่อใยให้กันเท่านั้นพอ

ขอให้ลืมใจเจ็บที่เหน็บหนาว
ลืมเรื่องราวครั้งก่อนฉันร้องขอ
รู้เถอะว่าที่นี่มีคนรอ
เพื่อสานต่ออนาคตให้งดงาม

กับความหลังครั้งก่อนไม่ย้อนคิด
ไม่ใช้สิทธิ์ของใจเพื่อไถ่ถาม
จะมุ่งมั่นตั้งหน้าพยายาม
เพื่อก้าวตามความฝันอย่างมั่นใจ

มาเริ่มต้นมีรักอีกสักหน
คนสองคนก้าวตามความฝันใฝ่
ลืมความเศร้าร้าวรานที่ผ่านไป
เพื่อรักใหม่ใสสดงดงามจริง  

พฤหัสที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 (24.45 น.)				
9 เมษายน 2554 15:20 น.

...เพราะฉันขัน ตะวันจึงขึ้น...

din

...เพราะฉันขัน ตะวันจึงขึ้น...


.....................1....................


ที่วัดหนึ่งซึ่งไกลมากจากที่นี่
ทุกเวลาตีห้าที่ฟ้าเริ่มสาง
ไก่เพศผู้สู้โก่งคอขันครวญคราง
ฟ้ารุ่งรางฉายแสงส่องก่องประกาย

พ่อไก่บอกภรรยาว่าใจสุข
พี่นี่แหละคือผู้ปลุกตะวันฉาย
เพราะพี่ขันตะวันตื่นขึ้นทักทาย
สาดแสงสายฉายส่องโลกให้งดงาม

ทุกทุกเช้าเมื่อพ่อไก่ได้ขันเสร็จ
จะเตร่เตร็ดเกาะกิ่งไม้ไม่เกรงขาม 
ทอดตามองตะวันสาดส่องฟ้างาม
ยิ้มด้วยความสุขเกษมจิตเปรมปรีด์

....................2....................


เพราะภาระที่กรำงานจึงพาลป่วย
ไก่แทบม้วยแต่ด้วยรักในศักดิ์ศรี
เมื่อโรคภัยเข้าคุกคามลามชีวี
มิอาจที่จะขันได้ใจจึงตรม

ลูกชายไก่ได้อาสามาขันต่อ
แต่ถูกพ่อเข้าดับฝันอันสุขสม
หน้าอย่างเจ้าถ้าหากขันตะวันซม
คงจ่อมจมไม่ขึ้นมาเหมือนข้าทำ

พ่อไก่เจ็บเหน็บหนาวไข้เศร้าในจิต 
เฝ้าครุ่นคิดเวียนวนจนผู้คนขำ
ข้าไม่ขันตะวันหมองต้องระกำ
โลกคงดำ...ดิ่งมืดมิด...อนิจจา

....................3....................


และแล้ววันสุดท้ายก็กรายมาถึง
พ่อไก่ซึ่งเจ็บป่วยมากยากรักษา
สั่งลูกเมียพรุ่งนี้พี่ต้องขอลา
แล้วโลกาจะเข้าสู่ยุคมืดดำ

ขอน้องจงดูแลลูกด้วยผูกจิต
จงตรองคิดอย่าก้าวพลาดถลากถลำ
พี่ไม่ขันโลกคงหมองต้องระกำ
อย่าเจ็บช้ำให้มัวหม่นจนชินชา

....................4....................


ชีพพ่อไก่ดับลับไปในที่สุด
ไม่อาจหยุดฉุดตะวันในเวหา
ยังคงฉายสาดแสงส่องท้องนภา
สายธารายังไหลเรื่อยเอื่อยเอื่อยริน

ดอกไม้ยังคงเบ่งบานเต็มลานรัก
โลกยังจักอุดมไปด้วยทรัพย์สิน
นกคงส่งเสียงไพเราะเสนาะจินต์
ทรัพย์ในดินสินในน้ำฉ่ำชื่นใจ

เปรียบเหมือนคนเมื่อก้าวถึงซึ่งจุดหมาย 
ก็คล้ายคล้ายคิดว่ากูผู้ยิ่งใหญ่
ทะนงตนหลงอัตตาพาบรรลัย
จะหม่นไหม้ไห้โหยหาน้ำตาริน

....................5....................


แท้ที่จริงขอมิ่งมิตรพึงคิดไว้
จงทำใจให้หนักแน่นดังแผ่นหิน
อย่าคิดว่าแน่กว่าใครในแดนดิน
ใครทั้งสิ้นจะหมิ่นข้าอย่าหมายเลย

หากหลงตัวมัวเมาว่าเรานี้แน่
คงต้องแย่เสียยิ่งนักมิตรรักเอ๋ย
ควรตรองตรึกฝึกใจไว้ให้คุ้นเคย
เขียนเปรียบเปรยเพื่อบอกเล่าให้เข้าใจ

หากการงานเรืองรุ่งพุ่งสูงสุด
โปรดจงหยุดสักนิดคิดจะดีไหม
ลำพังเจ้าตัวคนเดียวคงเปลี่ยวใจ
งานคงไม่จะสำเร็จเสร็จด้วยดี

ยังมีสิ่งที่สำคัญอันพึงคิด
ควรพินิจหากหลงตนขวัญคงหนี
ทำพองขนจะหม่นเศร้าเหงาฤดี
และชีวีดับลับไปเหมือนไก่เอย



เสาร์ที่ 9 เมษายน 2554 (15.00)


				
24 มีนาคม 2554 11:23 น.

...ความผิดหวัง...

din

106209717 



ความผิดหวัง


ในชีวิตผิดหวังหลายครั้งแล้ว
เคยนั่งแซ่วหมองหม่นทนตรมไหม้
เคยสะอื้นกลืนกล้ำพร่ำอาลัย
เคยร่ำไห้ปิ่มว่าชีวาวาย

เพราะว่าเคยแพ้พิษความผิดหวัง
ชีพเหมือนดังอยู่ไปไร้ความหมาย
มีแต่เพียงความเศร้าเข้าทักทาย
จึงร้องไห้ฟูมฟายคลายอารมณ์

กับบทเรียนผ่านมาหลายคราแล้ว
จะนั่งแซ่วทำไมให้ใจขม
อาจมีบ้างบางทีที่ทุกข์ตรม
แต่อย่าซมหม่นไหม้ให้เนิ่นนาน

อย่าให้ความผิดหวังมายั้งฉุด
อย่าไปจุดเพลิงให้ไฟเผาผลาญ
อย่าเฝ้าแต่ล้มลุกจนคลุกคลาน
สวมวิญญาณนักสู้ดูสักที

มาวันนี้ผิดหวังอีกครั้งแล้ว
จะแน่แน่วด้วยรักในศักดิ์ศรี
พลิกวิกฤตแสนร้ายให้กลายดี
เพราะชีวีไม่ร้างเส้นทางเดิน

จะฮึกสู้กับพิษความผิดหวัง
สร้างพลังใจไว้ไม่ขัดเขิน
หากเส้นทางชีวิตจะบังเอิญ
ต้องเผชิญผิดหวังกี่ครั้งครา 


.........  จันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554  (23.21)




				
  din
ไม่มีข้อความส่งถึงdin