".....พันคำพูด ฤา เท่า หนึ่งคนทำ...."

pigstation

เรื่องสั้น
".. พันคำพูด  ฤา  เท่า  หนึ่งคนทำ.. "
โดย  นายวาทกรรม    ธรรมวาทะ
1. วันนี้ "นิอร" เดินยิ้มออกจากห้องสอบ เป็นวันสุดท้ายที่ภาระทั้งมวลปลิวหายออกจากอก หลัง
จากแบกมันเอาไว้ เพื่อวันนี้ วันแห่งความภาคภูมิใจในคำว่า"มหาบัณฑิต"
	จากก้าวแรกเข้ามาในรั้วสถาบันแห่งนี้ ความอิ่มเอมใจแรกยังคงอบอวลไปถ้วนทั่ว ยามพบใครต่อใครเธอไม่ลืมจะย้ำคำว่า 
"ตอนนี้เรียนโทอยู่ค่ะ สาขาสิ่งแวดล้อม"  นับเป็นประโยคสำเร็จรูปที่ต้องถูกวางไว้บน
โต๊ะสนทนาทุกคราวไป เพื่อประกาศว่า  เธอทั้งเก่ง ทั้งสวย มีทั้งรูปโฉมและเนื้อสมอง 
	แต่หลังจากนั้นไม่นานกว่าจะผ่านเวลายาวเหยียดในห้วงความรู้สึก แม้เพียงสองปีเท่านั้น ความอิ่มเอมใจของเธอจางหายลงไปมากเมื่อได้พบพานเรื่องราวของ.สิ่งแวดล้อมในการศึกษาระดับปริญญาโท
	หลายหน ยามแบ่งกลุ่มทำรายงาน เพื่อนนักศึกษาแต่ละคนไม่เคยจะแบ่งปันวิชาความรู้ให้กัน ให้สมค่าบัณฑิตคือ ผู้ใฝ่หาความรู้ให้ ผู้รู้จักสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  ส่วนมากมักจะแย่งเอาหนังสือ แย่งเอาเอกสารทางวิชาการที่มีเพียงหยิบมือเดียวในห้องสมุด บางคนถึงกับแอบยืมหนังสือบางเล่มที่เป็นหัวข้อเรื่องของเพื่อนร่วมชั้น  เพื่อตัดคะแนน เพื่อกลั่นแกล้ง   แทบไม่น่าเชื่อ แต่เป็นเพราะ "นิอร" เจอเองกับตัวจึงสั่นคลอนความหมายของคำว่า "เพื่อน" ลงไปไม่น้อย หากไม่มาพบ "นายวาทกรรม" ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเดินทางมาจากที่ราบสูง
		"หวัดดีครับคุณลืมหนังสือไว้ที่โรงอาหาร นี่ครับ" แล้วเขาก็ผินหลังไป โดยที่เธอไม่ทันเอ่ยคำขอบคุณ อย่างว่าสมัยนี้ใครๆแทบไม่มีเวลาเจียดให้กัน  ยังไงก็ได้ของคืน ดีกว่าหายเปล่า
	จนเวลาเดินทางเคลื่อนที่ไปพร้อมการโคจรของหัวใจ บัดนี้ นายวาทกรรม มายืนยิ้มเผล่ รอแสดงความยินดีที่มุมตึกของคณะ ฯ แล้ว
		"ยินดีด้วยนะ  จบเสียทีเก่งจัง"  เธอแทบตัวปลิว คิดไม่ถึงว่า เรื่องราวเล็กๆน้อยๆกลับกลายขยายออกมาเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ในหัวใจเธอได้ เห็นจะเป็นเพราะคำว่า "น้ำใจ"นี่เองกระมัง ?
2. ย้อนเวลากลับไปในระหว่างที่นิอรนั่งหน้าดำคร่ำเครียดอยู่บนกองตำรา กองรายงานแทบท่วมหัว พร้อม
น้ำหนักตัวที่ลดลงไปจากการออกตระเวณจัดอบรมหลักสูตรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาสิ่งแวดล้อมที่เธอศึกษาอยู่ 
		"พักทานนมนะจ๊ะ ลูกอร.." ผู้เป็นมารดาเดินมาลูบหัวบุตรสาวด้วยความเอ็นดู
		"อีกนิดค่ะคุณแม่ เอ..หน้าไหนหว่า"
		"แหม ขยันเหมือนใครน้า ลูกคนนี้"
		"ขยันเหมือนคุณแม่ และสวยเหมือนคุณแม่ด้วยค่ะ"  เสียงอ้อนหวานของสาวเจ้า ทำเอารอยยิ้มบนความรักปานดวงแก้วของผู้เป็นแม่นั้น ผลิบานไสว กระแสความอบอุ่นท่วมท้น ต่างเป็นกำลังใจถ่ายทอดให้กันและกัน
	คงเป็นเยื่อใย ความเอาใจใส่จากคุณแม่ของเธอ  แม้อุปสรรคใดๆ คงยากจะบั่นทอนให้เธอถอนตัวหลีกหนี  จะมีก็ซวนเซบ้าง ตามประสา ผู้อ่อนประสบการณ์  ด้วยคำว่า"แม่ลูกผูกพัน"  กี่หมื่นแสนปัญหาอุปสรรคถูกขจัดปัดเป่า ราวมีมนต์วิเศษมาร่ายเวทย์
		"..อ้าวหัวข้อรายงานที่แบ่งกันค้นคว้า เธอก็จับฉลากแล้วนี่" นิอรทักท้วง
		"พอดีเราไม่ถนัดเรื่องนี้ มาดูอีกที  อรช่วยทำเพิ่มอีกเรื่องนะ เพื่อน.."
		"เอ่อก็ได้  " นิอรเซ็งมาก แต่ไม่รู้ทำไง เพราะเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยมีใครคบหาแล้ว อีกอย่างเกรดก็แย่ด้วย ถ้านิอรไม่ช่วยดึงไว้ คงถูกรีไทร์แล้ว
		"ขอบคุณจะพาไปเลี้ยง"  ว่าแล้วเพื่อนจอมป่วนก็เดินตัวปลิวไป พร้อมโทรศัพท์ฉอเลาะแฟนหนุ่มไปพลาง เดินไปพลาง  ไม่ได้เห็นแก่หัวยุ่งๆของเธอเลย 
		"เฮ้อ." เธอถอนหายใจเบาๆ
		" กลุ้มใจอะไรเหรอ มีอะไรให้รับใช้ครับ" เสียงทุ้มนุ่มถึงกลางใจของนายวาทกรรมแว่วมา ราวอัศวินม้าขาวปรากฎกายอย่างทันท่วงที
		"อ๋อ..เรื่องรายงาน ด่วนจี๋เลย ดูสิ"
		"อืมมเรื่องนี้ต้องไปที่สถาบันพัฒนาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พอดีเรามีเพื่อนทำงานอยู่ 
ซี้ปึ้ก สบายมาก  ข้อมูลมีเพียบวางใจเหอะ"
	บางครั้ง ความรักในวัยเรียน หรือ วัยหนุ่มสาวนั้นไม่ใช่เรื่องของการออกนัดไปเดินในห้างสรรพสินค้า วางท่าโก้หรู หรือปรนเปรอเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงแสดงความรัก(ใคร่)ต่อกัน   แต่โชคดีที่นิอรได้พบความรักที่เอื้ออาทร เป็นความรักที่มีความปรารถนาดีเป็นที่ตั้ง
	เธอจึงมีกำลังใจฟันฝ่ามาถึงวันแห่งความยินดี.พร้อมรักแท้ๆเคียงข้าง
3.	หลังจากที่นิอรเดินออกมาจากการสอบป้องกันวิทยานิพนธ์  ในห้องสอบ คณะอาจารย์กำลังให้ความเห็นต่อกันว่า หัวข้อวิทยานิพนธ์ของเธอ สมควรจะให้ผ่านหรือไม่ผ่าน  แต่น่าจะเป็นเพราะ  แรงดลใจจากชื่อพระเอกในใจของนิอร คือ "วาทกรรม"  จึงทำให้เธอสนใจที่จะนำชื่อนี้มาผสมผสานกับองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อพิสูจน์ว่า สื่อมวลชนนั้น สามารถสื่อสารให้"ผู้คน"ทั่วไปหันมาสนใจ เอาใจใส่ต่อการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ?  
	เมื่อกล่าวถึงคำว่า "วาทกรรม" คำๆนี้ดูเหมือนมีความศักดิ์สิทธ์อยู่ในตัว จึงไม่ค่อยแพร่หลายนักในวงกว้าง  มีเพียงแวดวงนักวิชาการ และ ผู้สนใจจริงจังเท่านั้นที่จะมาตรวจสอบเจ้าวาทกรรมว่า สร้างความจริงแทนที่ความเป็นจริง บัญชาการให้คนทำตามโดยไม่เอื้อนเอ่ยได้
		"..ผมเห็นว่านิสิตคนนี้ มีความคิดสร้างสรรค์ดี  หัวข้อที่คิดเป็นลักษณะสหวิชาการ  โดยเฉพาะการใช้สื่อมวลชนมาเป็นกระบอกเสียงในประเด็นสิ่งแวดล้อม  หากเป็นไปตามบทสรุปที่ว่า วาทกรรมมีอำนาจพอที่จะเปลี่ยนแปลงความคิด และมีอิทธิพลให้ผู้รับวาทกรรมทำตามแล้ว ที่ผ่านมานั้น เรามัวแต่ต่างคน ต่างทำ คิดว่า สื่อมวลชนได้แต่ประโคมข่าวกันปาวๆ ขายข่าวไปวันๆ..ไม่ได้มีความปรารถนาดีต่อสังคมอย่างพวกเรา  เอ่อผมอาจจะพูดกว้างไปนิด  แต่คิดว่า วิทยานิพนธ์ฉบับนี้บอกให้เรารู้ว่า สิ่งแวดล้อมนั้นคือเรื่องของทุกคน เป็นเรื่องของการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎีลอยๆหรือคำพูดสวยหรูในห้องแอร์.."
 	ด้วยความคิดเห็นของบรรดาคณาจารย์ ทุกสิ่งทุกอย่างจากบรรทัดแต่ละบรรทัดที่คัดมาจากสติปัญญา จากขดสมองก้อนน้อยสีเทาที่นิอรมี  กำลังได้รับการยอมรับ กำลังได้รับการประทับตราลงไปว่า เธอควรค่าแก่คำว่ามหาบัณฑิต
	บรรยากาศในห้องสอบ ค่อยคลี่คลายลง หลังจากการลงความเห็นจบลง อาจารย์หญิงผู้หนึ่ง เอ่ยขึ้นมา
		"แหม..ตอนที่นิอรเค้ายกวาทกรรม เรื่องคุณสืบ  นาคะเสถียรนั้น  คำว่า"สืบทอดเจตนา"นั้นเด่นชัดในด้านสื่อความจริงออกมาว่า  สิบปากว่าไม่เท่าหนึ่งมือทำ"
		"แล้วตอนที่นักศึกษาเอามิวสิควีดีโอของ ใครน้า" อาจารย์ชายกล่าวเสริม
		"แอ๊ด คาราบาวค่ะ เพลงสืบทอดเจตนา"
		"ผมว่า เป็นการสร้างวาทกรรมด้วยบทเพลง  ใครได้ฟังเพลงนี้ก็จะรู้สึกไปพร้อมๆกันว่า ชีวิตไม่สำคัญเท่าจิตสำนึกส่วนรวม.." 
		"กะว่าพอกลับบ้านจะพาลูกชายที่กำลังหัดเล่นกีต้าร์ไปซื้อหนังสือเพลงมาหัดเล่นเพลงนี้กัน"
	และเสียงต่างๆค่อยจางลงตามสายลมที่พัดมา นำความเย็นมาสู่ผิวกาย ส่วนจิตใจนั้นเล่าคงเป็นสายลมแห่งปัญญา สายลมแห่งความหวังดีเท่านั้น ที่จะพอบรรเทาดวงใจที่ร้อนรุมเหมือนสุมไฟจากกองเพลิงปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษบ้านเราให้คลายลงได้
	เราคงต้องร่วมกันพูด,คิด และสร้างทำ "วาทกรรมสิ่งแวดล้อม"ให้เป็นจริงขึ้นมาร่วมกัน ด้วยใจที่รักความเป็นจริงและศรัทธาในความเป็นธรรม เพื่อบ้านเมืองเรา ใช่อื่นใด
4.	วาทกรรมเดินผ่านแปลงนาข้าว เดินผ่านแปลงพืชผักสวนครัว เดินผ่านพืชผลไม้ผสมผสาน เดินผ่านสระน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงเรือกสวนไร่นา  เดินผ่านทุกสิ่งไปสู่ทางเดินแสงตะวัน  แสงสีทองโอบล้อมวาทกรรมไว้ดูเจิดจ้า เปล่งประกายรัศมีฉายฉานออกมา
	นิอรเดินตามมาข้างหลังรู้สึกดีใจ และอบอุ่นใจที่ได้เดินเคียงข้างวาทกรรม และยินดีให้เขาเป็นผู้นำไปสู่ความหวังครั้งยิ่งใหญ่ของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีให้หัวใจตัวเอง
		"ชั้นรักคุณค่ะ..วาทกรรม" นิอรกระซิบบอกหัวใจตัวเองอย่างเปรมกมล
	เบื้องบนฟ้ากว้าง ภายใต้ดวงตะวัน  ที่ดินของหนุ่มสาวสองคน บนการเกษตรกรรมแผนใหม่แบบพอเพียงกำลังงอกงามขึ้นมาฝังรากฝากต้น..ผลิใบ ณ มาตุภูมิอันเป็นที่รักยิ่ง.				
comments powered by Disqus
  • คำ ผกอ

    12 ธันวาคม 2547 23:13 น. - comment id 79844

    เขียนดีมากเลยค่ะ
    น่าจะเขียนนวนิยายตอนทำปริญญานิพนธ์ในระดับปริญญาเอกต่อนะคะ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน