เพียงครวญถามความรู้สึกภายในใจครานั้น

กวีปกรณ์

น้ำตาของผมกำลังไหลบ่าออกจากดวงตาคู่หนึ่งซึ่งครั้งหนึ่งผมเคยหลับนิทราในครรภ์ของมารดา ผมไม่เคยรู้ว่าความสุขเป็นอย่างไร ผมไม่เคยรู้ว่าความทุกข์เป็นอย่างไร
"สุข" เพื่อนสนิทของผมเดินกำลังเดินเข้ามาหาผมใกล้ ๆ แต่ก็พลาดเสียแล้ว เขาสะดุดรากไม้แห่งความเจ็บปวดนั่นทำให้เขาจุกอย่างไม่สามารถลุกขึ้นได้ภายใน 10 วินาที คล้ายกับว่าเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน จนกระทั่ง "ทุกข์" ที่กำลังมองผมอย่างประหม่าว่าจะเข้ามาทักผมดีหรือไม่ (จริง ๆ แล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าผมรู้จักกับ "ทุกข์" ตั้งแต่เมื่อไหร่) แต่เขาก็กลับกล้าและแซงหน้า "สุข" เพื่อมาทักผมก่อนที่ "สุข" จะลุกขึ้นได้จากพื้นดินที่กำลังรองรับความจุกจน "สุข" ต้องนิ่วหน้า (ผมละสงสัยจริง ๆ เลยว่าตอนนั้น "สุข" เป็นอย่างไรบ้าง แต่ผมก็เห็นเจ้านั่นแอบยิ้มเล็ก ๆ คล้ายกับว่าดีใจทุกครั้งที่เจ็บตัว) 
"ร้องไห้ทำไม"    -ทุกข์- ทักผมอย่างเคย ห้วน ๆ สั้น ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมก็พอจะสนิทกับ
                          -ทุกข์-พอสมควร (แม้ผมจะจำไม่ได้ว่าผมรู้จัก-ทุกข์-เมื่อไหร่ 
	                 แต่ผมก็ดีใจที่ได้รู้จักกับเขา มันเป็นมิตรภาพที่มีมานาน ผมขอ                                  
                          ประมาณแล้วกันว่า	ผมคงรู้จักเขาตั้งแต่จำความได้กระมัง)
ผมนั่งนิ่งน้ำตาไหลไม่ตอบ ตามองไปข้างหน้าคล้ายว่า อากาศที่ลอยอยู่ข้างหน้าช่างสวยงามเหลือเกิน
"มีเรื่องให้ทุกข์ใจอะไรหรือเปล่า? แต่ข้าจำได้ว่าข้าหาโอกาสมาทักเจ้าอยู่นานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าเข้ามา เกรงว่าจะทำลายบรรยากาศแห่งความปลาบปลื้มสุขใจจนน้ำตาเจ้าไหล เจ้าก็รู้นี่หว่า ที่ข้าเข้ามาทักทายเจ้าแต่ละครั้งเพราะว่าเกรงว่าเจ้าจะสุขจนเคยชินไปซะ นั่นจะทำให้เจ้าเสียใจเสียยิ่งกว่าเสียใจอีกหากข้าไม่มาทักทาย และนำของฝากแห่งความโศกศัลย์มาให้"
ผมนั่งนิ่ง แม้จะได้ยินเสียงของทุกข์ที่แว่วมาสองหู แต่ผมก็ไม่เหลียวไปตามเสียงนั้น
"แล้วเจ้ามีอะไรจะให้ข้าช่วยหรือเปล่า...บลา ๆๆๆๆๆๆๆ" ทุกข์พูดไปเรื่อย ๆ ภายใน  10 วินาทีนั้นช่างยาวนาน จน-ทุกข์-เริ่มเหนื่อยที่จะกระตุ้นให้ผมสำนึกถึงความรู้สึกในยามนั้นว่าจะทุกข์ หรือสุขใจ ทุกข์ก็กล่าวลาจากไปเมื่อเหลียวไปเห็นว่า-สุข-กำลังค้ำตัวเองจากแรงดึงดูดของโลกได้สมดุลย์พอที่จะก้าวมาทักทายผม
"งั้นข้าลาก่อนนะ" -ทุกข์-กล่าว ส่วนผมถอนหายใจ
อีกแล้ว... ผมคิดและถอนหายใจ...
ความสุขวิ่งเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว และเงียบเชียบจนผมไม่รู้เลยว่าเขามายืนข้างผมเมื่อไหร่ กว่าจะรู้ก็เมื่อได้ยินเสียงแห่งความปิติของ-สุข-หัวเราะออกมาทักทายผมอย่างสุภาพและอ่อนโยน
"สวัสดีเพื่อนรัก เหมือนเราจะไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ... สบายดีหรือเปล่า... แม้เราจะมาไม่ทันแต่ก็รู้ว่า-ทุกข์-เพิ่งผ่านแซงหน้าเรามาทักนายเสียก่อน..." -สุข- บอกเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อสักครู่เท่าที่เขาจะสังเกตได้ ก็ทุกทีที่เขายิ้มตาของเขามักจะยิ้มจนตี่เล็กทำให้มองอะไรแทบไม่เห็น (ผมเคยสังเกต...ก็บอกแล้วว่าเขาคือเพื่อนสนิทของผม)
น้ำตาของผมแห้งลงแล้ว แต่ก็ยังแอบกลืนสะอื้นลงคอ สีหน้าของผมนิ่งเฉยและไม่ตอบอะไรเลย เหมือนผมไม่รู้จัก-สุข- เพื่อนที่เคยมิตรรักของผม 
สุขทำหน้าฉงน และนั่งเล่าเรื่องแห่งความสุขไปเรื่อย ๆ เพื่อคิดว่าผมจะหันกลับมาสนทนากับเขาบ้างสักนิด
เปล่าเลย... ผมนั่งสงบนิ่งหลับตาลง จนกระทั่งเขาจากไป แต่ก็ไม่ลืมของฝากนั่นคือความสดชื่นฝากเอาไว้ แล้วจากไปเพราะผมไม่มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจ เสียงหัวเราะและบทเพลงที่เขาเปล่งเสียงเพื่อเรียกความสนใจ (จะว่าไปแล้ว-ทุกข์-และ-สุข-เป็นมิตรผู้ไม่เคยลืมของฝากเลย เวลามาเยี่ยมเยียน) แต่-สุข- ก็จากไปด้วยรอยยิ้ม
น้ำตาของผมแห้งไปแล้ว...
ผมเก็บความลับเอาไว้ ไม่บอกให้-สุข-หรือ-ทุกข์-สังเกตได้ว่าผมรู้สึกอย่างไร รู้เพียงอย่างเดียวก็คือ ในยามนั้นผมได้คำตอบแล้วว่า ของขวัญ แห่งมิตรผู้สนิทสนมในอารมณ์ของผมไม่ได้มีค่าแต่อย่างไร 
เมื่อผมยิ้ม หยดน้ำตาแห่งความโศกศัลย์ที่-ทุกข์-นำมาทิ้งไว้เคียงข้างจะมีค่าขึ้นมาทันที
และเมื่อผมสะอื้นไห้ รอยยิ้ม แห่งความปิติที่-สุข-นำมามอบให้ผมก็จะมาค่าขึ้นมาไม่แพ้กัน
ทุกคนคงกำลังสงสัยว่า ที่ผมร้องไห้นั้นคืออะไร เปล่า... ไม่มีอะไรเลย
ผมเพียงแค่ตั้งคำถามว่า "น้ำตาหยดแรกที่ผมรินออกมา เมื่อผมคลอดจากครรภ์ของมารดา เวลานั้นผมกำลังทุกข์หรือสุข" ผมจึงทดลองร้องไห้ออกมา เพื่อรำลึกความรู้สึกนั้น ผมสัมผัสได้เพียงแต่ความว่างเปล่า คำตอบที่ผมได้ตอนนี้ก็มีเพียง "น้ำตานั้นมาพร้อมกับลมหายใจแห่งชีวิต เพื่อบอกกับตัวเองให้พร้อมรับและเรียนรู้กับมิตรภาพแห่งความเป็นมายาของโลกเสียทีกระมัง" นี่ละมัง คำตอบที่ผมครวญถามความในใจครานั้น				
comments powered by Disqus
  • แค่เพียงแผ่นฟ้า

    19 ธันวาคม 2549 07:20 น. - comment id 94361

    1.gifสวัสดีคะได้อ่านแล้วก็ชอบมากคะ "เรียนรู้กับมิตรภาพแห่งความเป็นมายาของโลกเสียที"นี่อาจจะเป็นคำตอบที่ดีนะคะ 41.gif เขียนอีกเยอะๆแล้วกันคะ
  • สองร่าง

    19 ธันวาคม 2549 14:40 น. - comment id 94366

    หาใช่เพียงแต่หยดน้ำตาแรกที่ทำให้เราเรียนรู้ในรสชาดของชีวิต ที่มีหลายหลากมากอารมณ์ไม่ ลองใคร่ถึงรอยยิ้ม รู้หรือไม่ว่ายิ้มแรกของชีวิต เป็นเพราะสุขสมหรือสมน้ำหน้าให้กับน้ำตาตัวเองที่ต้องเสียไปโดยไร้สาเหตุ ความหมายเช่นไรลองนึกดูนะครับ 
    "เขียนได้ดีครับ" จะยังคงติดตามผลงานต่อไปครับ
  • ตะวันจะลับขอบฟ้า

    19 ธันวาคม 2549 20:14 น. - comment id 94371

    ความทุกข์มักจากเราไปช้ากว่าความสุขเสมอนะค่ะ
    
    แต่เราจะไม่เป็นทุกข์หากไม่หยิบยกความทุกข์นั้นมาใส่ใจ
    
    6.gif6.gif36.gif36.gif
  • เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

    20 ธันวาคม 2549 03:19 น. - comment id 94373

    สุขหรือทุกข์อยู่กับเราเสมอ 
    เพียงแต่ว่าเราจะเห็นสิ่งใดเมื่อยามไหน 
    ซึ้งดีนะคะ อ่านแล้วคิดอะไรได้มากมาย41.gif
  • เทพดารา

    21 ธันวาคม 2549 22:13 น. - comment id 94401

    จริงๆ แล้ว จะสุขหรือทุกข์ ก็คือของที่เราสมมติขึ้นมาทั้งนั้นแหละครับ อย่าคิดมากเลยเนอะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามโลกดีกว่า อามิตาพุทธ....(แฮะๆๆ)46.gif
  • ห้องสี่เหลี่ยม

    1 กุมภาพันธ์ 2550 18:33 น. - comment id 94860

    สุขทุกคืนวันแต่ลึกๆในใจก้อหวันทุกครั้งไปว่าทุกข์จะเข้ามาชั่วขณะไหนกัน ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นและความกลัวก้อทำให้เราไม่หลุดพ้น

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน