ยามนี้..ถนนเก่าดูเปล่าเปลี่ยว รอยล้อเลี้ยวอยู่ใต้ใบไม้แห้ง ลมจากรถแล่นผ่านก็พัดแรง กอบใบแกว่งลอยคว้างขึ้นกลางลม ลอยละล่องเป็นวงกลางผงฝุ่น หมุนเถิดหมุนเริงร่าให้สาสม เพราะเพียงชั่วอึดใจใบระบม ก็ร่วงถมทอดร่างลงทางเท้า ไม่อาจคืนกลับไปเป็นใบเขียว อยู่ในโลกโดดเดี่ยวและเปลี่ยวเหงา ใบแหว่งวิ่น..สีก้านน้ำตาลเทา ไม่เหลือเค้าเขียวอ่อนเช่นก่อนกาล แหละดูซิ! ต้นไม้แตกใบใหม่ เขียวคอนอ่อนวัยไสวก้าน ใบชราน่าขันของวันวาน กลับร่วงลานเกลื่อนกลาดอนาจนัก เป็นเสียงครวญร่ำไห้ของใบแห้ง ที่ไร้แรงชำรุดและทรุดหนัก จึงสองเท้าบุรุษหยุดชะงัก มองซากปรักใบคล้ำสีน้ำตาล แล้วว่าความเติบงามแห่งลำต้น นั่นคือผลคุณค่าของอาหาร ที่ใบปรุงเลี้ยงหลายฤดูกาล นานนับนานหลายชั่วอายุใบ เป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่ก่อนใบหล่น เป็นหนึ่งเฟืองเครื่องยนต์ของต้นไม้ สิ้นอายุหลุดร่วงลงช่วงใด ความภูมิใจจะอยู่มิรู้จาง ใบไม้ชราเปิดตาคิด เห็นชีวิตมีค่าตาสว่าง พอลมพัดพาหอบใบกรอบบาง ก็ลอยร่างก่อนร่วงลงห้วงดิน มาสุมโคนต้นไม้ล้วนใบลีบ จุลชีพตัวน้อยก็ย่อยสิ้น เป็นปุ๋ยเลี้ยงรากให้ต้นไม้กิน ทำหน้าที่ชีวินครั้งสุดท้าย คนแปลกหน้าหยุดเอ่ยแล้วเผยยิ้ม ความสุขปริ่มสบตากับฟ้าสาย ขยับเป้สีแดงทะเลทราย ก่อนเดินหายร่างลับไปกับตา.. ๒ ตุลาคม ๒๕๕๔
6 พฤษภาคม 2552 21:09 น. - comment id 981302
มาร่วมอ่านงานบุญที่ทรงคุณค่าค่ะพี่ริด
6 พฤษภาคม 2552 21:36 น. - comment id 981319
คุณฤทธิ์คะ....คุณตั๊กไม่ได้เข้ามาที่บ้านกลอนนานแล้ว แต่ความคิดถึงเพื่อนๆยังเหมือนเดิมค่ะ หมู่นี้ยังต้องทำงานหนัก....ยังไม่รู้จะว่างเมื่อไหร่ ความสามารถในการเขียนกลอนเหือดหายไปกับวันเวลาค่ะ คุณฤทธิ์ใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์ดีจัง ไหนๆมาแล้วขออ่านบทกลอนคุณฤทธิเงียบๆหน่อยนะคะ
6 พฤษภาคม 2552 21:39 น. - comment id 981321
ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ สองตอนนี้ กว่าจะเขียนจบ คงทุ่มเท แรงกายแรงใจ ไปไม่น้อย เป็นงานที่ มีคุณค่าจริงๆ ครับ รออ่านตอนต่อไปนะครับ ขอให้มีความสุขมากๆ ครับ
6 พฤษภาคม 2552 22:02 น. - comment id 981330
เก่งมากๆ พี่ชายเรา ไม่เสียแรงที่ดื่มน้ำ(แดง แฟนต้า)สาบานเป็นพี่น้อง อิอิ .....
6 พฤษภาคม 2552 22:21 น. - comment id 981339
สุดยอดจริงๆ
7 พฤษภาคม 2552 13:28 น. - comment id 981468
ยอดเยี่ยมจริงๆเลยค่ะ นับถือในความเพียรมากๆเลยค่ะ
7 พฤษภาคม 2552 21:29 น. - comment id 981571
๑.พิมจัง หวัดดี ขอบคุณที่แวะมาทักทายกัน หนังสือขอพิมมีขายที่ไหน ชื่อเรื่องอะไรแน่ หาที่ร้านไม่เจอ ยอดขายเป็นไงมั่ง feedback ดีไหม ส่งข่าวหน่อย จะซื้อไว้สักเล่ม (จริงๆนะ) ขอข้อมูลหน่อย ขอให้มีความสุขนะครับ .................................................................... ๒.คุณตั๊กแตน ดีใจจังที่ได้คุยกันอีก มีดที่สร้างจากเหล็กเนื้อดี ต่อให้เป็นสนิม ก็เป็นสนิมขุย กินไม่ถึงเนื้อเหล็ก เพียงแค่เคาะสองสามครั้ง สนิมก็ร่วงหมดคงเหลือแต่เนื้อเหล็กคมวับข้างในเท่านั้น นั่นคือความสามารถในเชิงร้อยกรองของคุณตั๊กแตนในสายตาของผม ในบรรดานักกลอนนับร้อยที่นี่ คุณตั๊กน่าจะเป็นคนที่ผมอยากต่อกลอนด้วยมากที่สุด คงเพราะแนวคล้ายๆกัน กลอนชุด ปันเหงากับเงาจันทร์ เป็นกลอนที่ผมยึดเอาเป็นแบบอย่างในการเขียนกลอนรัก ถ้าหากมีพล็อตเรื่องดีๆจากผมหรือคุณตั๊กก็ตาม ว่าจะเอามาแยกเป็น ๖ ช่วง วางแกนเรื่องให้ลงตัว แล้วโต้ตอบกันคนละชุดน่าจะสนุกดี หวังว่าคงจะมีโอกาสนั้น ขอให้มีความสุขมากๆครับ .................................................................... ๓.คุณสืบ ชุดนี้เป็นงานค้างปี ผมเขียนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เขียนได้แค่ยี่สิบบทก็หยุด (ขี้เกียจ) ตอนแรกว่าจะลงช่วงมาฆะ แต่ก็ไม่ทันอีก ไม่มีอารมณ์เขียน เพิ่งเอากลับมาเขียนใหม่สองสามวันนี่เองว่าจะให้ทันวิสาขะ กลอนประเภทนี้เขียนไม่ยาก ไม่ได้ทุ่มเทอะไรหรอกครับ ที่สำคัญเรื่องเดียวคืออารมณ์อยากเขียน เพราะข้อมูลวางกองอยู่ข้างหน้าแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัดแต่งอะไรไม่ได้ด้วย เรื่องของธรรม ท่านว่ามาอย่างไรเราก็ว่าไปอย่างนั้น จับประเด็นให้ได้เข้าใจเรื่องที่จะเขียน แล้วมาลำดับเป็นร้อยกรองเท่านั้นเอง เรื่องที่ผมอยากเขียนมากๆก็คือเรื่อง พระยาพิชัยดาบหัก (วีรบุรุษในดวงใจ) ชีวิตท่านเหมือนนิยายมาก ผมมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์อยู่เล็กน้อย ถ้าเล่าตรงเกินไปจะกลายเป็นเน้นเรื่องการเสียกรุงครั้งที่สอง เป็นโจทย์ให้คิดว่าทำอย่างไรจึงจะดึงชีวิตท่านมาถ่ายทอดให้เป็นตัวเอกได้ อันนี้ต้องเสริมบุคลิก และอารมณ์ลงไป โดยเอาฉากหลังตามพงศาวดาร แล้วสร้างตัวละครให้มีมิติขึ้นมา เป็นเรื่องอิงประวัติศาสตร์ อันนี้ซิครับต้องทุ่มเทให้มากกว่า แต่สนุกนะ ผมเขียนไปร้อยกว่าบทแล้ว ออกนอกลู่นอกทางไปเขียนเรื่องอื่นเหมือนกัน ตอนนี้ก็เบื่อๆ ตั้งแต่ลงกลอนชุดนี้รู้สึกเหมือนอิ่มตัว คงต้องรออีกสักพักถึงจะอยากกลับไปเขียนอีก คงไปเขียนเรื่องสั้นก่อน มีพล็อตรออยู่เกือบสิบเรื่อง เอาบทที่พอจำได้สักบทก็แล้วกัน บังเอิญชอบบทนี้ สวรรคโลกนั้นเอ็งอาจเก่งมาก แต่มวยตากเมืองนี้ใช่ขี้ไก่ เข้ามาเถิดกูจะช่วยสอนมวยไทย ให้กลับไปฟ้องแม่ว่าแพ้กู พุทธประวัติตอนต่อไปคือโปรดพระเจ้าพิมพิสาร อันนี้ยังไม่แน่ใจว่ายังอยากทำต่อหรือเปล่า ขอให้มีความสุขมากๆครับ .................................................................... ๔.แมวซุ่มซ่าม น้องรัก ดีใจจังที่เข้ามาทักทายกันทั้งสามคนพี่น้อง พี่ไม่ชอบดื่มน้ำแดงนะ ชอบนมถั่วเหลืองมากกว่าเอาแบบน้ำตาลน้อยๆ เพื่อสังขารๆ (ใช้มันก็ต้องดูแลมันหน่อย จะได้ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพ) ขอให้มีความสุขมากๆ ไปทำบุญเผื่อด้วยนะน้อง .................................................................... ๕.ยาแก้ปวด สวัสดี เราเริ่มรู้จักกันมากขึ้นแล้วใช่ไหม ต่อไปคงคุยกันได้เยอะขึ้นแน่ๆเลย ไปทำบุญแล้วอย่าลืมกรวดน้ำด้วยนะ ขอให้มีความสุขมากครับ .................................................................... ๖.เฌอมาลย์ น้องคนนี้น่ารักเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด ชุดนี้ไม่ค่อยเพียรเท่าไหร่หรอกครับ ตอนเขียนเรื่อง จดหมายจากซากเรือ ตอนนั้นท้าทายว่า เพราะเอากลอนหลายเรื่องที่เขียนค้างไว้อย่างละนิดอย่างหน่อยมายำรวมกัน แล้วเชื่อมเข้าด้วยกันโดยวางแกนหลักของเรื่องไว้ ขอให้มีความสุขมากๆ ทำบุญเผื่อด้วยนะครับ
7 พฤษภาคม 2552 22:16 น. - comment id 981600
คุณตั๊กใช้เวลาอ่านกลอนของคุณฤทธิ์อย่างนิ่งๆ และเนิ่นนานมาก ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้ว่า บทกลอนที่เขียนนั้นล้วนกลั่นออกมาจากสมองส่วนที่ พร้อมจะเรียบเรียงอักษรทุกตัวให้สละสลวยและสวยงาม ทึ่งจริงๆค่ะ อาวุธยิ่งลับยิ่งคม.....ถ้าคุณตั๊กทำได้อย่างคุณฤทธิ์สักเสี้ยวหนึ่งละก้อ จะแหนหวงสมองส่วนนี้เอาไว้ให้นานเลยทีเดียว....เพราะมันคือปัจจัย ที่ทำให้อักษรธรรมดาๆกลายเป็นอักษรที่ถูกเรียบเรียงอย่างมีสมาธิ... อ่านทีไรก็ประทับใจทุกครั้ง....ทำได้ไง? หือ??? และนี่คือส่วนหนึ่งที่ไม่กล้าต่อกลอนกับคุณฤทธิ์เลยล่ะ อิอิ สักวันนะคะ.....ขอให้คุณตั๊กใช้เวลาอย่างมีคุณค่ากับสังคมอีกสักระยะ แล้วจะกลับมาชดเชยวันเวลาที่สูญหายไปให้กับตัวเองบ้าง.....ถึงวันนั้น คุณฤทธิ์คงได้ลูกศิษย์เพิ่มหนึ่งคน....ใบสมัครอยู่ไหนคะ .....อืมมม ใช้เส้นเลยได้มั๊ยคะ ไม่ต้องกรอกใบสมัคร นะ นะ เราคนกันเอง อิอิ สุดท้าย ต้องขอบคุณมากๆค่ะ ที่คุณฤทธิ์ให้เกียรติชื่นชมผลงาน ของคุณตั๊ก แรงบันดาลใจส่วนนั้นก็ได้มาจากคุณฤทธิ์นั่นแหละ
7 พฤษภาคม 2552 22:48 น. - comment id 981613
......ตามหลังเจ่เจ๊มาสมัครเป็นลูกศิษย์สักคน อิอิ ....
8 พฤษภาคม 2552 09:10 น. - comment id 981642
คงต้องเก็บไว้อ่านหลาย ๆ วัน 555 อ่านวันละหน่อยน๊าค๊า ว่างก้แว็ปเข้ามา
8 พฤษภาคม 2552 11:29 น. - comment id 981657
ได้ความรู้มากครับ เก่งมากด้วยครับ *---* ขอบคุณสำหรับกลอนพุทธประวัติครับ
9 พฤษภาคม 2552 08:35 น. - comment id 981778
โห..คุณฤทธิ์... แค่อ่านกิตติกานต์อ่านอยู่นานเลยค่ะ.. สำหรับคนเขียน คงต้องบอกว่า "เยี่ยมจริงๆ" มีคำถามที่ดี ที่อ่านแล้ว กลับมาย้อนถามตัวเราเองค่ะ.. ๖๖๘.พระมุนินทร์ยินข่าวทรงกล่าวว่า จะตามหาโสเภณีต่อดีไหม หรือตามหาความดีที่มีใน- จิตและใจพวกเธอเสมอมา ขอให้คุณฤทธิ์มีความสุขมากๆค่ะ...
10 พฤษภาคม 2552 19:51 น. - comment id 982356
คุณตั๊กแตน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับมิตรภาพดีๆ ที่มอบให้กันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีคำกล่าวอื่นใดนอกจากคำขอบคุณ ขอให้มีความสุขมากๆครับ .................................................................... แมวซุ่มซ่าม เป็นองครักษ์พิทักษ์ตั๊กแตนหรือไงน้อง ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ .................................................................... ปิง สวัสดีครับ ขอบคุณครับที่เป็นแฟนประจำเสมอมา ขอให้มีความสุขมากๆครับ .................................................................... คุณเอื้องคำ ขอบคุณเช่นกันครับที่เสียสละเวลามาทักทายกัน ขอให้มีความสุขมากๆครับ .................................................................... คุณวุ้นเส้น ดีใจจังที่มีคนอ่านจบด้วย คุณวุ้นเส้นเป็นอีกคนหนึ่งผมยินดีจะแลกเปลี่ยนทัศนคติในงานเขียนด้วยอย่างจริงใจครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ ....................................................................
11 พฤษภาคม 2552 11:28 น. - comment id 982625
อ่านจบแล้ว...เย้ ดีใจที่ได้เกิดเป็นพุทธศาสนิกชน สองพันกว่าปีที่พระธรรมคำสั่งสอนยังอยู่ และใช้ในการดำเนินชีวิตได้จนทุกวันนี้ ..รู้จักที่จะปลง ไม่ยึดตด และรู้จักคำว่าพอ ...
14 พฤษภาคม 2552 15:11 น. - comment id 984522
มาอ่านพุทธประวัติเพื่อเป็นสิริมงคลค่ะ ขอให้ผลบุญที่ ฤทธิ์ ศรีดวง ทำในการถ่ายทอดเรื่งราวของพระพุทธองค์ทำให้ ฤทธิ์ ศรีดวง มีแต่ความสุข ความเจริญนะคะ
16 พฤษภาคม 2552 12:55 น. - comment id 985741
คุณพี่ขา ตาหนูปรือหมดเลย นั่งจนคอแข็ง แต่ก็ยังนั่งอ่าน พี่เรานี่สุดยอด คิดถึงนะคะ