14 พฤศจิกายน 2546 17:45 น.
				
												
				
								tiki
		
					
				
เขียนกลอนเพื่อสำราญ
ให้ได้เพื่อนบ้านสักคน
ให้ได้ยินเสียงหัวเราะ
ให้ห่างไกลใครบ่น
เราต่างก็เป็นคน
ฝัน..ฝัน..เช่นเดียวกัน
อย่าเย้ย..อย่าเยาะ
อย่าปึ้ง...อย่าปั่น
อย่าง้าง..อย่าแง่ง
อย่าโหมแรง..แข่งฝัน
มาเป็นนักกลอนเรือนไทย
รักกันดีอย่างทุกวัน
สิ่งใดที่ขัดกัน
ลิ้นกับฟัน..ก็..อภัย
ใครว่าเป็นลูกแหง่
ร้องหาแม่ก็ร้องไป
เราจะเป็นอะไร
ก็แค่คนมาเขียนกลอน
แล้วมาอ่านให้สนุก
ให้เป็นสุขในอักษร
อ่านเชิงเพื่อนเขียนกลอน
แล้วให้นอนหลับฝันดี				
			 
			
				14 พฤศจิกายน 2546 13:22 น.
				
												
				
								tiki
		
					
				
@	พอยามว่าง		จากเรียน	เข้าห้องสมุด
ก้มหน้างุด		คว้าหนังสือ 		ทุกเล่มอ่าน
ศิลปะ		วาดเขียน		ก็ชำนาญ
อีกร้องเพลง	ดนตรีสำราญ		ชื่นบานนัก		.........( ๕๔)
	@เวลาเรียน	ก็เหมือนเล่น	เย็นในใจ
ฟังคุณครู	ท่านไซร้		ให้เก็บกัก
ท่านมอบศิษย์	เล็๋กเล็กนั้น	ด้วยความรัก
คอยทายทัก	บอกกล่าว		เล่าวิชา	....( ๕๕)
	@	เป็นชีวิต	ที่น่ารัก		ยามฉุกคิด
ถึงมวลมิตร		จิตของฉัน	แสนหรรษา
พวกเด็กเด็ก	เรียนและเล่น	เป็นเวลา
เก่งทั้งนั้น		เรื่องภาษา	บทกวี.........( ๕๖)
ชีวิตสอนชีวิต		โดย ทิกิ( tiki)  กวีคอนโด	
		  	@เวลาเรียน	ขับร้อง		หรือเล่นรำ
เจ้างามขำ		ร้องและเล่น		เป็นทุกที่
บนตำหนัก		มีหลายสิ่ง			เครื่องดนตรี
ของเจ้าจอม	ท่านนั้นมี			แม้นเปียนโน..............( ๕๗)
	@	เป็นเวลา	สนุกสนาน		ตามประสา
ไม่ต้องคิด		เครียดทำหน้า		ว่าข้าฯโก้
แต่มีบ้าง		ว่าบางครั้ง			ก็คุยโว
แล้วอวดโต		เบ่งทับกล้า		ท้าทายทัก.........( ๕๘)
	@	ที่ซอยหนึ่ง		ศรีย่าน		ที่อาศัย
สิบกว่าปี	จำขึ้นไว้		ใจจำหลัก
บ้านเลขที่		หกเจ็ดแปด		พิงพำนัก		
เป็นแหล่งพัก	ในวัยเยาว์		เจ้าจำดี.........( ๕๙)
	@	เมื่อยังเล็ก		แม่พาไป	จ่ายตลาด
สิ่งไหนขาด		แม่จดไป		ได้ถ้วนถี่
ซื้อทุกอย่าง		ตามรายการ		ที่ควรมี
ทุกทุกที่			แม่พูดว่า			กากี่นั้ง.........( ๖๐)
	@	กากี่นั้ง	คืออะไร		นะจ๊ะแม่
ภาษาจีน		ทั้งหลายแหล่		แม่ไม่สั่ง
สอนให้รู้		พูดไว้			คนไม่ชัง
กากี่นั้ง			คือญาติมิตร		สนิทกัน.........( ๖๑)
	@	แม่สอนว่า		เจรจา		คราต่อรอง
คนขายของ		ไม่ชังหน้า		ว่าเย้ยหยัน
พูดจาเพราะ		สุภาพมี			ดีสารพัน
ทุกชนชั้น			เขาจะชอบ		คิดตอบความ.........( ๖๒)
	@	เปรียบเช่นโค		นันทวิศาล		นิทานเก่า
ถูกเตะถีบ		ถองด่าเอา		เข้าคราดหาม
ถูกเทียมเกวียน		เทียมไถ		ไม่พยายาม
ฟังคนลาม		ด่าทอ			ไม่พอใจ.........( ๖๓)
 
ชีวิตสอนชีวิต		โดย ทิกิ( tiki)  กวีคอนโด		
ตอน ห้า(๕)		วัยจำความ  (ต่อ)
	@	พ่อโคถึก		ฟังว่า			ประสาโค
นายอวดโต		ดุด่า			ไม่ปราศรัย
เรียกไอ้ควาย		โคฟังคำ		เคียดช้ำใจ
ไม่ยอมเดิน		ลากเกวียนไถ		ให้ระกำ.........( ๖๔)
	@	ครั้นนายเรียก		พ่อโคจ๋า		นันทวิศาล
กลับฮุยเล		ฮุยลนลาน		ถลาถลำ
แม่สอนแล้ว		ก็พูดให้		ใจฉันจำ
จะพูดจา		ทุกคมคำ		น้อมคำนับ.........( ๖๕)
				
			 
			
				13 พฤศจิกายน 2546 21:57 น.
				
												
				
								tiki
		
					
				
ตอน สี่	(๔)	วัยอลวน.....ชีวิตสอนชีวิต		โดย ทิกิ( tiki)  กวีคอนโด	
     	@	คุณพ่อหา		ลูกหมา		เอามาให้
เจ้าซีซ่าร์		นั้นไซร้		ตัวเท่าเมี่ยง
เป็นหมาพันธุ์		หมาแม้ว	มาให้เลี้ยง
ถึงเป็นเพียง	เจ้าหมา		ก็น่ารัก	.........( ๔๓)
	
	@	เวลาเศร้า	หรือปวดร้าว	ก็นั่งเล่น
แบ่งขนม		เจ้านั้นเป็น		เพื่อนใฝ่ฝัก
ชวนวิ่งเล่น		ยามสำราญ		กันยิ่งนัก
ถ้าแม่ทัก		ข่มขู่หา	ก็ลากัน	.........( ๔๔)
	@...ค่ะคุณแม่	หนูมาแล้ว	แจ้วแจ้วหนู
แม่ขู่ฟู่		หนูยิ่งรัก	แม่ยิ่งนั่น
แม่ฉันสวย		เทพธิดา		วิลาวัณย์
แต่ทำไม		แม่นั้น		จึงดุจริง.........( ๔๕)
	
	@	แม่ชอบไป		คบคุณหญิง		หยิ่งทั้งหลาย
แม่ไปไหน		หนีบฉันไป		บ้านคุณหญิง
บ้านท่านใหญ่		ทรัพย์สมบัติ	มากทุกสิ่ง
ฉันเหมือนลิง		วิ่งลุกลน	ซนทั้งวัน	.........( ๔๖)
	@.วันหนึ่งบ้าน	นั้นมีงาน	เลี้ยงยิ่งใหญ่
คุณหญิงได้	สั่งจับฉลาก		จัดของขวัญ
ฉันไปถึง		เห็นเก้าอี้		เล็กเล็กพลัน
ร้องไห้ลั่น		จะเอาเก้าอี้	ตัวนี้เลย	........( ๔๗)
	@	คุณแม่โกรธ	พิโรธนัก	จะตีว่า
คุณหญิงแป๊ด	ท่านมาหา	ยิ้มแย้มเฉย
ว่าทิกิ		อยากได้นัก	ป้าให้เลย
ฉันดีใจ		วิ่งเต้นเสบย	เก้าอี้นั้น.........( ๔๘)
	@	คราวนี้แหละ	เริ่มแล้ว	แม่แก้วเอ๋ย
อยากได้อะไร		ชักเริ่มเคย		ร้องไห้ลั่น
ลงดิ้นพราด	จะเอาอะไร	ได้ทั้งนั้น
เอาแต่ใจ	ตัวพลัน  ...	มันไม่ดี.........( ๔๙) 
ชีวิตสอนชีวิต		โดย ทิกิ( tiki)  กวีคอนโด	
		ตอน สี่(๔)		วัยอลวน  (ต่อ)
        
	@	ช่างร้ายเหลือ	คุณแม่ว่า	ระอาแสน
จะมีใคร		ร้ายเหมือนแม้น		เท่าเจ้านี่
พอไปบ้าน		ญาติคุณแม่		เขายินดี
หอบตุ๊กตา		มาเร็วรี่	อวดให้ดู.........( ๕๐)
	@	ทว่าฉัน	นั้นแสนโกรธ	พิโรธบ้าง
จะเล่นก็	.....	ไปแอบข้าง		แถมข่มขู่
ไม่ให้เล่น		ไม่เป็นไร		ไม่อยากรู้
นี่แน่กล่อง		คว่ำกลิ้งอยู่		เกลื่อนทั้งกอง.........( ๕๑)
	@	คราวนี้ครา		เห็นหน้าหนู	เขากรูห่าง
รู้ว่าช่าง		แกล้งเขา		เข้าทั้งผอง
คุณแม่รู้		ถูกบ่นว่า		หน้าไม่มอง
เข้าทำนอง		หมาหัวเน่า		อับเฉาจัง.........( ๕๒)
	
	@แล้ววันหนึ่ง	เมื่อฉัน		นั้นสอบได้
ประถมสาธิต	สุนันทาลัย	ซึ่งแม่หวัง
ได้ที่สาม	เข้าไปนั้น		ดูเด่นดัง
เริ่มเรียนยัง	ที่ใหม่		ชักได้การ	......( ๕๓)
	@	พอยามว่าง		จากเรียน	เข้าห้องสมุด
ก้มหน้างุด		คว้าหนังสือ 		ทุกเล่มอ่าน
ศิลปะ		วาดเขียน		ก็ชำนาญ
อีกร้องเพลง	ดนตรีสำราญ		ชื่นบานนัก		.........( ๕๔)
	@เวลาเรียน	ก็เหมือนเล่น	เย็นในใจ
ฟังคุณครู	ท่านไซร้		ให้เก็บกัก
ท่านมอบศิษย์	เล็๋กเล็กนั้น	ด้วยความรัก
คอยทายทัก	บอกกล่าว		เล่าวิชา	....( ๕๕)
	@	เป็นชีวิต	ที่น่ารัก		ยามฉุกคิด
ถึงมวลมิตร		จิตของฉัน	แสนหรรษา
พวกเด็กเด็ก	เรียนและเล่น	เป็นเวลา
เก่งทั้งนั้น		เรื่องภาษา	บทกวี.........( ๕๖)
 
กลอนบทนี้
จึงขอทดแทนพระคุณชาติที่รักของข้าฯ
จึงขอทดแทนพระคุณศาสนาซึ่งบ่มจิตใจมา
จึงขอทดแทนพระคุณพระบรมราชวงศ์ซึ่งหล่อเลี้ยงตระกูลปู่ยาตายายข้าฯ
จึงขอทดแทนพระคุณพ่อ พระคุณแม่
จึงขอทดแทนพระคุณครูทุกคน ทุกสถาบันที่เรียนมา
เริ่มแต่สตรีวรนาฏ...ที่เก่าที่เดิม..บนถนนที่มีรถรางวิ่งเดิมนั่นแหละค่ะ
อนุบาลละอออุทิศ
ประถมสาธิตวิทยาลัยครูสวนสุนันทา...
....เท่านี้ก่อน....
และที่จะเว้นขอบคุณมิได้เลย คือท่านเจ้าของเว็บทั้งหลายที่กรุณาให้คุณทิกิ tiki 
ไปเขียน เขียน เขียนไว้เปลืองหน้าเว็บเค้านั่นแหละ ค่ะ				
			 
			
				13 พฤศจิกายน 2546 15:23 น.
				
												
				
								tiki
		
					
				
	@	เวลาเรียน		ฉันขอออก		ไปห้องน้ำ
แต่น่าขำ		ไปเร่ดู			ดอกไม้ใกล้
ชมผีเสื้อ			เร่ร่อน			บินว่อนไว
เถลไถล			ไม่กลับห้อง		ต้องถูกตี.........( ๓๔)
	
	@		อาจารย์ให้		ไปยืนคาบ	ไม้บรรทัด
สองแขนกาง	อีกขาหยัด		ขาเดียวนี่
ยืนหน้าห้อง	เพื่อนหัวเราะ	สนุกดี
โรงเรียนนี้		ฉันเริ่มมี			วี่แววดัง.........( ๓๕)
ชีวิตสอนชีวิต	ตอน สาม	(๓)	วัยอนุบาล  (ต่อ)...โดย ทิกิ( tiki)  กวีคอนโด	
	@	ในวันนั้น		ตัวฉัน		ผอมก๋องแก๋ง
ไม่ค่อยมี		เรี่ยวแรง		ไม่ขึงขัง
มีอย่างเดียว	ที่จำได้			ร้องไห้ดัง
คุณแม่ท่าน	ยิ่งประดัง		ต้องถูกตี.........( ๓๖)
	
	@	ท่านชอบเอ็ด		เสียงตวาด	ฉันกราดถอย
อีกคุณย่า		ท่านยิ่งคอย		รุมเต็มที่
สองคนนี้		แสนสาหัส		จับฉันนี้
ยามฉันกรี๊ด	ลงตุ่มที่			ว่างปิดฝา		.........( ๓๗)
	@	แล้วหลอกว่า	ยิ่งร้อง		จะโดนดี
เอาเชือกห้อย		มาที่นี่			ว่างู..น่า
โฮโฮโฮ			ฉันตัวสั่น		เหลือระอา
กลางคืนนอน		ร้องไห้จ้า		เสือมาแล้ว........( ๓๘)
	@	เป็นอย่างนั้น		ทุกทุกวัน		ทั้งสองคน
จ้าละหวั่น		อลวน			จนฉันแห้ว
เป็นคนเดียว	มีปัญหา		ต้องแนะแนว
ที่นอนเปียก	หมดแล้ว		ได้ทุกคืน.........( ๓๙)
	@	ที่โรงเรียน		ของฉัน		นั้นแหละหนา
เรื่องวาดเขียน		คล่องกว่า		ไม่ต้องฝืน
อีกร้องเล่น			เต้นรำ			ไม่จำกลืน
แม้เล่นเล่น		เรียนนั้นยืน		ว่าเก่งงาน.........( ๔๐)
	@	เป็นอะไร	ไม่รู้		ดูสับสน
สองครอบครัว		อยู่ปะปน	อลหม่าน
เดี๋ยวคุณย่า	ว่าคุณแม่		ไม่แม่บ้าน
เดี๋ยวคุณแม่	โกรธก็พาล	ปิดประตู.........( ๔๑)
	@	....คุณแม่ขา		เปิดประตู		ให้หนูหน่อย
ห้าทุ่มแล้ว		หนูนั้นคอย		ขึ้นห้องอยู่ 
คุณแม่ไม่		เปิดให้				ปิดล็อครู
ฉันเสียใจ		ไปนอนอยู่		คุณย่าเคียง.........( ๔๒)
				
			 
			
				13 พฤศจิกายน 2546 03:34 น.
				
												
				
								tiki
		
					
				
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด 
@ ในครานั้น ตัวฉัน เริ่มเรียนแล้ว 
แม่พาเข้า สตรีวรนาฏ ไม่อาจหยาม 
เรื่องเรียนเก่ง ฉันคงเก่ง ไม่มีทราม 
แต่อารมณ์ ไม่อาจห้าม เรื่องน้อยใจ.........(๒ ๙) 
@ จำได้ว่า ในบางวัน ก็งอแง 
ร้องว่าย่า.........หนูนั้นแย่ ไปไม่ได้ 
คุณย่าถาม ว่าหลานขา เป็นอะไร 
หนูท้องไหล ปวดไม่ไป ค่ะโรงเรียน.........( ๓๐) 
@ คุณย่าจับ หัวดู รู้ว่าแกล้ง 
แต่ช่างเถิด หลานแสดง ฉวัดเฉวียน 
พอท่านไป หลานกระโดด โลดวนเวียน 
ดีใจมาก ไม่ต้องเรียน ไปบางวัน.........( ๓๑) 
@ ตอนอนุบาล อยากอยู่บ้าน อยู่ไม่ได้ 
คุณแม่ไม่ ให้อยู่บ้าน นะอิฉัน 
เรียนสักพัก ให้ไปสอบ อีกที่พลัน 
ละอออุทิศนั้น รัฐบาล ท่าน คอยดูแล.........( ๓๒) 
@ ฉันคือลูก คนที่สาม ในครัวบ้าน 
คุณหลวงท่าน ให้ค่าเรียน ช่วยพ่อแม่ 
รัฐส่งเสีย เป็นเด็กรัฐ - บาลแท้ 
แต่ฉันแย่ เด่นดัง ไม่ตั้งใจ........( ๓๓) 
@ เวลาเรียน ฉันขอออก ไปห้องน้ำ 
แต่น่าขำ ไปเร่ดู ดอกไม้ใกล้ 
ชมผีเสื้อ เร่ร่อน บินว่อนไว 
เถลไถล ไม่กลับห้อง ต้องถูกตี.........( ๓๔) 
@ อาจารย์ให้ ไปยืนคาบ ไม้บรรทัด 
สองแขนกาง อีกขาหยัด ขาเดียวนี่ 
ยืนหน้าห้อง เพื่อนหัวเราะ สนุกดี 
โรงเรียนนี้ ฉันเริ่มมี วี่แววดัง.........( ๓๕)