13 สิงหาคม 2551 00:25 น.

เพริศแพร้วพรรณราย

กฤตศิลป์ ชินบุตร

๏ อัมพรแสงฉาบฟ้า.............จรัสผ่อง
รัศมีเรืองรอง......................มุ่นแกล้ว 
ประกายม่านตระกอง...........อบอุ่น จินต์เฮย
อรุณรุ่งเบิกฟ้าแพร้ว...........แน่วแล้ตราตรึง



๏ สกุณาฝ่าข้าม...................อโณทัย
บินโบกภาพไหวไหว..........ประดับหล้า
สุรีย์ส่องอสงไขย.................บอกบ่ง
วัฏฏะดำรงกล้า...................ใฝ่ข้ามสีทันดร 



๏ ตาวันทรงกลดจ้า............รัศมี ครอบนา
จักวาลหลีกลี้......................บ่สู้
ปานเพ็ญพักตร์ชินศรี........บฤงคบ ผ่องนา
บทามพุชหยั่งรู้..................เร่งสร้างทางสวรรค์



๏ ย่ำค่ำจวนลับแล้ว............อัสดง 
วิหกไหวไหวตรง...............ขอบฟ้า
เวลาผ่านธำรง...................นฤมิต
เวียนว่ายมหรรณพล้า........ฝ่าข้ามนิรันดร์



๏ เพียงการณ์อุบัติเช้า.......เวียนค่ำ 
บรรเจิดสัจธรรม................ตระหนักรู้
เถิดก่อนทิวาดำ.................ปรากฏ 
แสงพร่างจรูญผู้.................เพริศแพร้วพรรณราย๚ะ๛				
12 สิงหาคม 2551 01:06 น.

ทิ้งรักไว้ข้างทาง

กฤตศิลป์ ชินบุตร

๏ ความรักงามล้ำค่า...................เปรียบโพยม
ฝันวาดในอุดม-.........................คติแท้
เจ็บร้ายโศกรักตรม..................ลวงล่อ ใจนา
นรกสิงวิมารแล้........................พ่ายแพ้ต่อกร


๏ เป็นรักทำนุปั้น.....................สรรค์ศิลป์
อวลสุคันธ์ยุพิน........................กลิ่นฟุ้ง 
แว่วสดับธานินทร์.....................สังคีต เคล้านา
ลักษณ์รักฉาบทารุ้ง...................จรัสฟ้าชโลมจินต์ 


๏ เบิกฟ้าภานุจ้า.......................ฉากหลัง
อายรักต้องแสงรัง-....................เรขหล้า
สัญญามั่นพลัง	.........................บริสุทธิ์
ฝ่ายุคเหินข้ามฟ้า.....................รักนี้สัญจร


๏ รายทางพิสูจน์ม้า..................มั่นคง
คนเล่าหาซื่อตรง.....................มั่นไว้
เวลาพรากรักลง......................เปล่าค่า เร็วนา
ยื้อยุดฤาคืนได้.........................รักทิ้งข้างทาง


๏ เสพชมในรักแท้.................คือตรม สนองนา 
ศัลย์โศกวิโยคสม...................เช่นนั้น
รำพันรักระทม........................ลาจาก
ทางวาดไกลหดสั้น..................เช่นนี้หนอรัก ๚ะ๛
				
9 สิงหาคม 2551 15:13 น.

รักจึงใฝ่

กฤตศิลป์ ชินบุตร


๏ หากคนใดไร้รักเหมือนจักรกล		
มากผู้คนก่นด่าดุจว่าบ้า
แสนประหลาดขลาดเขลาไม่เข้าตา			
ดังศิลาป่าไพรไร้วิญญาณ


๏ อันคนนั้นครั้นถามไปตามเรื่อง		
จึ่งรู้เปลืองเรื่องรักไม่ยักหวาน
แม้นจินต์ปองต้องช้ำกล้ำกลืนนาน			
ทรมานวานวันทุกครั้นไป


๏ แล้วจะรักหนักตัวชั่วชีวี		
หรือวางห่างกายีให้สดใส
แม้นความเหงาเข้ามาถามหาใจ			
บทกวีพฤกษ์ไพรปลอบประโลม


๏ จึงไม่แปลกหากคนไม่หวังรัก		
เพราะประจักษ์รักแน่แท้ยาขม
ธรรมดาสามัญของคนตรม			
ไม่ภิรมย์ตรมแล้วจำจำขึ้นใจ


๏ กระท่อมน้อยร้อยดาวสกาวแสง	
ดื่มน้ำทิพย์ฟื้นแรงให้สดใส
ดนตรีกานต์ขานขับสดับไพร			
นี่กระไรคือรักฉันใฝ่ปอง๚ะ๛

				
8 สิงหาคม 2551 21:18 น.

นาฏกรรมชีวิต บทที่3 ฉากที่5

กฤตศิลป์ ชินบุตร

ฉากที่ 5 ไฟฝันข้างกองขยะ 


แดดร้อนอบอ้าวราวทะเลทราย	
สองตายายสาธยายความสดศรี
แดนสวรรค์น้ำมิตรจิตไมตรี		
ทิพย์สุขาวดีอันพริ้งพราย


เป็นทำนองร้องรำสำเนียงกลอน	
เชิงเว้าวอนอ้อนฟ้าชนทั้งหลาย
เซิ้งลีลาจังหวะมือประกอบกาย		
เถิดหญิงชายเพียรสร้างทางความดี


ตาคำสอนเป่าแคนเล่าทำนอง	
ประกอบคำเนื้อร้องยายคำสี
ปากแห้งผ่าวราวแล้งฝุ่นธุลี		
เศษสตางค์ใครมีขอน้ำทาน


ยายคำสี (ร้องหมอรำ  จังหวะมือ  แคนประกอบ)


จะเอ๋ยอ้างสวรรค์ชั้นบนพู้น	
เรืองจำรูญวิมารกว้างไพศาล
เสพทิพย์อิ่มบุญมาช้านาน			
เด่นตระการม่านฟ้าเรืองอำไพ
			

ทรงห่างหายกายกิเกสอาเพศห่วง	
รูปดั่งดวงแก้วแสงแรงไสว
ผ่องพักตร์นวลละมุ่นกรุ่นละไม		
หมายเวไนยสัตว์ตรัสรู้จริง


อันความดีมากมีจงเพียรสร้าง	
อย่ารู้ร้างปางมารมาสู่สิ่ง
มวลมิตรเกื้อกูลอย่าประวิง		
เพื่อพึ่งพิงพึ่งพาพร้องพบพาน


หมายมวลมิตรมากมายมาเมียงมอง	
เป็นครรลองทำนองเพลงกล่าวขาน
เถิดเพื่อนพร้องทำดีเช่นให้ทาน		
เพื่อดวงมานสูงส่งอย่างไกวัล


ภาพชินตาปรากฏเมื่อคนผ่าน	
ท่องถ้วนย่านการค้าด้วยความฝัน
เพียงเศษเงินประทังดวงชีวัน		
จะด้นดั้นสืบสานเจตนารมณ์


เสียงเจือแจ้วขานขับรับสายฝน	
สายตาคนปนหมิ่นแสนขื่นขม
ยิ่งขยะเน่าเหม็นแหล่งอาจม		
คลื่นทับถมขื่นคาวชาวประชา


ขอทานคือขอทานวันยังค่ำ	
เจตน้ำคำลิ้นไก่มันแผ่หลา
ขอทานกินควรฤาอ้างดินฟ้า		
กิริยาวาจาจึงทิ่มแทง


ไฟฝันลุกโชนโดนพายุ		
ไม้กร่อนผุลิงไวไม่แสลง
น้ำใจคนปนเล่ห์ราคาแพง			
เริ่มสำแดงตายายในเมืองกรุง ๚ะ๛				
6 สิงหาคม 2551 17:40 น.

ความรักอันพึงมี

กฤตศิลป์ ชินบุตร

๏ หยาดเลือดรินหลั่งพื้น.................ปฐพี
คงชาติกายเป็นผี...........................มั่นไว้
เทิดกษัตริย์เกศี............................ป้องปก
ศาสน์มั่นจิตผ่องไซร้......................แน่แท้ชาติคง


๏ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ล้วน.............รวมใจ
เชื้อชาติหลอมเป็นไท....................แน่นแฟ้น
จิตมั่นยึดทางไกล.........................ก้าวต่อ
แตกต่างอย่าได้แข้น.....................รบเร้าฆ่าฟัน


๏ หนึ่งใจแปรเปลี่ยนได้...............มากเหลือ
ชาติยิ่งคนบานเบือ.......................ขีดกั้น
ควรบั่นลดเพลิงเชื้อ......................ไหม้วอด เตียนนา
ชอบยิ่งผองชนนั้น........................ต่อฝั้นเกลียวกลม 


๏ รักจึ่งเป็นรักแท้.......................ชอบธรรม
หาใช่เพียงถ้อยคำ.......................กล่าวอ้าง
ประชาผ่องเลิศล้ำ........................อารยะ
ชาติคงบังมล้าง............................พร่างท้องโพยม


๏ รักชาติสติตั้ง.........................ปัจจุบัน
ตรองก่อนเข่นฆ่ากัน................โหดร้าย
หลุมพรางมากสารพัน..............ลางล่อ นรกนา
มือมั่นรักชาติได้.....................รักนั้นสถาพร ๚ะ๛				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกฤตศิลป์ ชินบุตร