๏ อยากปฏิวัติจัดสรรการศึกษา ด้วยผ่านมาเงินทองกองรั่วไหล เห็นมากมีที่สอบเงินมอบไป ยื่นจำนงยกใหญ่เพื่อได้เรียน เงินห้าหลักชักท้อเขาขอหก พร้อมหยิบยกตัวอย่างแนวทางเขียน ระบุความตามแบบเพื่อแนบเนียน อย่าผิดเพี้ยนสำนวนอย่ารวนเร การเรียนดีกีฬาดังครูขลังสอน ทุกขั้นตอนเชื่อได้ไม่เหลี่ยมเล่ห์ หากเม็ดเงินเกินแสนคะแนนเท บรรดาเสธปลิ้นปล้อนเสือนอนกิน วิกฤตการณ์ผลาญเงินที่เกริ่นมา เห็นตำตาเรื่อยไปไม่สูญสิ้น สถาบันพลันหม่นมากมลทิน เพราะเหลือบริ้นจ้องเชือดเลือดกระจาย พ่อและแม่รักลูกอยากปลูกฝัง เงินเป็นตั้งเพียงลูบก็วูบหาย ท่องคาถาอนาคตปลดเสียดาย แม้นไม่ตายรับรองต้องได้คืน เสียเท่าใดไม่ว่าเรียนมาก่อน ยอมถูกต้อนก้มหน้ากลั้นสะอื้น ถึงข้นแค้นสาหัสต้องหยัดยืน แล้วค่อยฟื้นอีกหนตอนต้นเทอม ๚ะ๛
อัลมิตรา 21 มี.ค. 2551 16:51 น. - ID 113646 
2694
13
0
21 มีนาคม 2551 16:54 น. - comment id 833651
อืมม !! พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่บรรดาขุนศึกตัวน้อยทั้งหลายจะต้องลงสนามสอบแข่งขัน บางโรงเรียนก็ใช้วิธีสอบร้อยเปอร์เซนต์ บางโรงเรียนก็คละการสอบกับการจับสลาก อย่างไรก็ตาม ระบบแฝงต่าง ๆ ก็ยังคงมี ไม่ว่าจะเป็นการฝากฝังจากคณาจารย์ประจำสถาบัน หรือจะเป็นการฝากฝังจากผู้มีอุปการคุณ กระทั่งนักการเมืองท้องถิ่น ไม่เว้นพระสงฆ์องค์เจ้า จริงอยู่ที่ปัจจัยจำเป็นต่อการบำรุงสถาบัน คือ เงิน แหล่งรายได้ที่รัฐหยิบยื่นให้ก็น้อยเหลือเกิน แทบจะเรียกได้ว่า แค่เอามาซื้อถังขยะเพิ่ม งบก็หมดเสียแล้ว ทีนี้ไหนจะต้องสร้างหอประชุม รื้อสนามฟุตบอลใหม่ ต่อตึก สร้างแล็ป ขยายโรงอาหาร รวมถึงทาสีรั้วกำแพง ต้องอาศัยเงินทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้เอง การบริจาคโดยมีเงื่อนไขจึงเกิดขึ้นอย่างปราศจากการละไว้ในสิ่งที่ไม่ควรกระทำ มีเงินเรียกน้องมีทองเรียกพี่ มีเงินมีทอง ... เชิญทางนี้ มีโควต้าเสมอ .. เฮ้อ !! อีกสักที ขอจบการบ่นด้วยวาทะงาม ๆ คำคมของคนดังทั้งหลาย อเล็ก บอร์น (นักเขียน) : "เป็นไปได้ที่จะบรรจุข้อมูลล้านชิ้นเข้าไปในหัว และยังไร้การศึกษาโดยสิ้นเชิง" อนาโตลี ฟรานส์ (นักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม 1921) : "การศึกษามิใช่คุณจำได้เท่าไร หรือคุณรู้มากแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าคุณสามารถแยกแยะข้อแตกต่างระหว่างอะไรที่คุณรู้กับอะไรที่คุณไม่รู้" อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (นักฟิสิกส์รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ 1921) : "ความรู้ไม่ใช่ปัญญา" บี. เอฟ. สกินเนอร์ (นักจิตวิทยา นักปรัชญา) : "การศึกษาเป็นสิ่งที่เหลือรอดมาเมื่อได้ลืมสิ่งที่เรียนรู้มาหมดแล้ว" จี. เอ็ม. เทรเวลยาน (นักประวัติศาสตร์) : "การศึกษาได้สร้างคนจำนวนมากที่สามารถอ่านออก แต่ไม่สามารถแยกออกว่าอะไรสมควรอ่าน" เฮเลน เคลเลอร์ (นักกิจกรรมเพื่อคนตาบอด) : "มหาวิทยาลัยมิใช่สถานที่ที่ไปหาความคิดใหม่ๆ " มัลคอล์ม ฟอร์บส์ (นักธุรกิจ) : "จุดประสงค์ของการศึกษาคือ การแทนที่ความคิดที่ว่างเปล่าด้วยความคิดที่เปิดกว้าง" มาร์ก ทเวน (นักเขียน) : "ผมไม่เคยยอมให้การเรียนในโรงเรียนมายุ่งกับการศึกษาของผมเลย" แมรี เพ็ตติโบน พูล (นักเขียน) : "การพูดตามสิ่งที่คนอื่นพูดต้องใช้การศึกษา การท้าทายสิ่งที่คนอื่นพูดต้องใช้สมอง" อัลมิตรา (โนเนม) : "อย่าใช้อภินิหารเงินตรา เพื่อเบียดบังสิทธิ์ของการได้รับการศึกษา" มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
21 มีนาคม 2551 17:29 น. - comment id 833654
เฮ่อ! วงการศึกษาเดี๋ยวนี้มันเปลี๋ยนไป๋ จะหวังเงินหลวงช่วยก็นานโค-ตระ ก็เลยต้องอาศัยพึ่งใบบุญจากผู้ปกครอง
21 มีนาคม 2551 21:35 น. - comment id 833688
ธุรกิจการศึกษาหาตลาด จ้องเก็บกวาดเงินทองกองสะสม การศึกษาตราบาปดาบสองคม บาดจนจมเลือดเนื้อเถือให้ใคร....
21 มีนาคม 2551 21:44 น. - comment id 833693
ใช่แล้วยอดหญิง สถาบันเรียนมีชื่อหน่อย เขาคิดค่าโต๊ะเรียน โดยอ้างเหตุผลสิ่งนานานัปการ เรื่องสอบไม่เก่งจริงอย่าหวังสมัยนี้นะ ผิดกับสมัย ก่อนเชียวล่ะ อิอิ
แก้วประเสริฐ.
22 มีนาคม 2551 00:45 น. - comment id 833720
พระพุทธเจ้า (พระพุทธศาสนา) : ศึกษา = สิกขา = สะ+อิกขะ = เห็นเอง (สะ แปลว่า เอง , อิกขะ แปลว่า เห็น , สิกขา แปลว่า เห็นเอง) หมายเหตุ : พุทธทาสภิกขุ , พระพรหมคุณาภรณ์(พระธรรมปิฎก ป.อ. ปยุตฺโต)
22 มีนาคม 2551 01:15 น. - comment id 833722
๑ วัน ก่อนบวช บวช = ปวช (ปะวะชะ) = ป (ปะ) + วช (วะชะ) = เว้นทั่ว (ป (ปะ) แปลว่า ทั่ว , วช (วะชะ) แปลว่า เว้น , ปวช (บวช) แปลว่า เว้นทั่ว
22 มีนาคม 2551 01:33 น. - comment id 833724
หลานคนรู้จัก ไปเข้าสอบเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนดังแถวบางกระบือ ในใบเสนอความช่วยเหลือโรงเรียนต้องกำหนดจำนวนเงินคนละเท่าไร ถ้าน้อยกว่าแปดหมื่นหมดหวังสอบได้นี่โรงเรียนของไทยนะเป็นชื่อฝรั่งแถวนั้นต้องเป็นแสนขึ้นถึงพอมีหวังบ้าง อิอิ อ่วมอรทัยพ่อแม่อะจิ อิอิ
22 มีนาคม 2551 11:09 น. - comment id 833779
นโยบายเรียนฟรีขี้ตามช้าง นำกล่าวอ้างมานั้นสร้างปัญหา งบประมาณหั่นเหี้ยนเอียนระอา ให้เล่าเรียนถ้วนหน้าอย่าหวังปอง จึงเปิดช่องร่องใหญ่ให้เหลือบริ้น ออกหากินถ้วนหน้าพาหม่นหมอง ถูกสูบเลือดจนล้าน้ำตานอง เพื่อครอบครองเก้าอี้ได้ที่เรียน เป็นแบบนี้กันทั้งประเทศแหละครับ ได้แต่ทำใจน่ะ
22 มีนาคม 2551 13:18 น. - comment id 833796
gorbhong also noname ผลพลอยได้จากระบบการศึกษา คือคนยอมจำนนจำนวนหนึ่ง
22 มีนาคม 2551 21:37 น. - comment id 833929
สังคมไทยสมัยนี้ เห็นด้วยกลับบทกลอนที่พี่ อัลฯ แต่งนะครับ เพราะสมัยนี้มันเป็นแบนี้จริงๆ ใครบริจาคให้ทางโรงเรียนเยอะ ได้เข้าเรียนครับ โดยเฉพาะโรงเรียนดัง ๆ ระบบการศึกษาไทย จะโทษใคร ดี แวะมาอ่านผ่านมาชื่นชมครับ
22 มีนาคม 2551 23:53 น. - comment id 834014
น้องกำลังสอบเข้าเรียนประถม สอบกันอีกแล้ว
22 มีนาคม 2551 23:56 น. - comment id 834016
...แฮ่..แฮ่..อาเจเจ๊ มักซาลิง ฝากดอกไม้มาให้น๊า
23 มีนาคม 2551 01:06 น. - comment id 834049
ที่มหาสารคามเสียกันเป็นแสนเลยครับ ถึงจะได้เข้าเรียน แฮะๆ ถึงรุ่นลูกศิษย์น้องจะถึงล้านไหมครับนิฃศิษย์พี่สบายดีนะครับ
23 มีนาคม 2551 02:40 น. - comment id 834063
คิดแล้วน่าปวดหมอง ยังงี้ต้องอิกคิวซัง ! เสียเงินเรียนแทบได้ เป็นได้แค่ลูกจ้าง ไม่เห็นโรงเรียนไหนสอนให้เป็นนายจ้างมั่ง กินเกลือทั้งชีวิต เกษียณแล้วยังจนทนตอนแก่ ต้องหาอาชีพเสริมตอนแก่ กรรมแต้ๆ "สนามแข่งหนู" ของแท้เลย วนเป็นลูกข่าง หาทางออกไม่เจอ ถ้าสังคมยังแข่งขันกันขนาดนี้เศรษฐกิจไม่มีวันพอเพียงแน่ๆๆ อิอิอิ
23 มีนาคม 2551 10:55 น. - comment id 834142
คุณแม่มดใจร้าย .. ในละแวกนี้ประมูลกันด้วยราคาที่แพงแสนแพง เดี๋ยวนี้หลักหมื่นแทบจะไม่มีความหมาย ยิ่งในย่านสีลม สาธร ราคาที่เช็คมาเมื่อหลายปีที่แล้ว อยู่ที่สามแสน (ชาย) สองแสนห้า(หญิง) เพื่อนมีลูกสามคน คนโตชาย .. 3 แสน คนรองหญิง 2.5 แสน และคนเล็กชาย 3 แสน ยังไม่จบนะ บังเอิญคนโตดันไปเจาะหู เลยเกือบจะไม่ได้เรียน ม.4 ที่เดิม แล้วไงละ ไอ้เรื่องหูนั่น ตกลงว่า สู้ราคากันอีกหนในราคาที่หูข้างละแสน .. รวมแล้วล้านกว่า คุณบนข .. อัลมิตราเหมือนคนขี้บ่นเนอะ ๕๕๕ ก็เพราะว่าสภาพแวดล้อมตอนนี้ มันเป็นอย่างนั้น ฟังเพื่อนร่วมงานบ้าง ประสบการณ์ตรงเองบ้าง ก็เลยทำให้ยิ่งอัดอั้น ทีนี้ก็ต้องหาที่ระบายล่ะ อ่าาาาาาาาาาาาาา... ผ่อนคลายไปแยะเชียวนา คุณแก้วประเสริฐ .. ค่านิยมเกี่ยวกับยี่ห้อ แบรนเนม คนที่จบจากโรงเรียนรัฐบาลหรือเอกชนหรูหน่อย เวลาเดินคงโก้โอ่อ่า เวลาใคร ๆ ถามว่าจบจากที่ไหน คงตอบแบบเสียงดังฟังชัดพร้อมยืดอกภาคภูมิ เอ .. ทำยังไงดีนะ ที่จะให้พวกเขารู้ว่า ค่าความสำคัญของการเป็นนักเรียน มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการเรียนรู้ด้วย ไม่ใช่แค่ป้ายชื่อโรงเรียนเท่านั้น หลวงพี่ลักษมณ์ .. ตอนนี้คงครองผ้าเหลืองเรียบร้อยแล้ว ขออนุโทนาบุญด้วยค่ะ คุณฤกษ์ .. บางโรงเรียนช่างกล้านักมีช่องให้กรอกช่องบริจาคเงิน เลยนะ ในใบสมัคร บางโรงเรียนยังกระมิดกระเมี้ยนไม่ประเจิดประเจ้อ แต่ถ้าเสนอมาก็จะรับพิจารณา ทีนี้จำนวนเงินเท่าไหร่ มันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาด้วยนะ ก่อนหรือหลังประกาศผลสอบ ถ้าถือดีไม่ยื่นก่อนสอบ .. หลังสอบโดนโขกในราคากว่าเท่าตัวแน่ แถมอย่างกะประมูลเปิดซอง ต้องลุ้นด้วยว่า คนนั้นให้เท่าไหร่ คนนี้ให้เท่าไหร่ .. เรียกได้ว่าลุ้นจนเครียดเชียวล่ะ คุณกุ้งก้ามกราม .. นโยบายเรียนฟรี วัดลิงขบ วัดลิงหลับ วัดลิงล่ะหน่าย มั๊ง คุณก่อพงษ์ .. คิดว่าแถว ๆ สกลนคร คงไม่ชุลมุนวุ่นวายเหมือนในเมืองหลวงแน่ แต่ข่าวคราวที่เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ ภาพข่าวทางทีวี คงทำให้วิญญาณ์ครูสะเทือนใจเหมือนกัน คุณวิจิตรวาทะลักษณ์ .. บางทีเขาไม่เรียกเป็นเงินสด เขาขอเปียโนหลังนึง ขอคอมฯ 10 ชุด แบบว่าเลี่ยงที่จะถูกชี้ชัดว่ารับเงินมา แต่ถ้ารับเป็นของบริจาคคงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่มั๊ง แล้วก็มีนะ ที่บอกว่า ถึงจะบริจาคเป็นเงินแล้วก็ตาม สัญญาลูกผู้ชาย อย่าได้ทวงถามใบเสร็จ คุณตรากลม .. ประถมแถว ๆ สาธร สีลม ถ้าสอบคะแนนไม่ทิ้งห่างจริง ๆ แบบต้องนำโด่งเลยนะ ต้องเตรียมไว้เลย ถ้า ญ. สองแสนห้า ถ้า ช. สามแสน คุณฉางน้อย .. :) ฝากคำขอบคุณกลับไปมอบให้คุณมัสลินด้วยค่ะ ถ้าเจอบอกเธอว่า อัลมิตราไม่เลือกวิธีการใด ๆ นอกจาก .. สอบ ค่ะ ศิษย์น้อง .. เป็นบางโรงเรียนน่ะ ไม่ได้เหมาว่าเป็นหมดซะทุกโรงเรียน ตะก่อนศิษย์พี่ก็เด๋อด๋านะ เวลาได้ยินเพื่อนร่วมงานคุยกันถึงเรื่องนี้ อะไรกันวะแค่นี้ต้องยัดเงิน ที่ไหนได้ พอมาถึงคราวที่ตัวเองได้รู้ได้เห็นกับตา ถึงได้เจ็บจุกอยู่เนี่ย คุณคีตากะ .. อันที่จริง เรื่องโรงเรียนนี่ เป็นเรื่องที่บรรดาผู้ปกครองวางแผนให้ทั้งนั้น หากเรียกเด็กมาถามเรียงคน พวกเขาไม่รู้เรื่องกันหรอก รู้แต่ว่ามีหน้าที่ไปสอบ ไปเรียน ถ้าพวกเราปรับความคิดกันได้ว่า .. เรียนที่ไหนก็ได้ ขอให้เป็นคนดี ... ก็คงจะดีเนอะ
23 มีนาคม 2551 20:07 น. - comment id 834258
เฮ้อ โชคดีที่ช่ออักษราลีอยู่ต่างจังหวัดนะคะ ไม่สนใจเรื่องแบบนี้ซะด้วย ที่โรงเรียนก็ ไม่มีเรื่องแบบนี้ แต่นักเรียนที่นี่ไปได้ดี กันเยอะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนจบการศึกษา ระดับปริญญา เด็กจบจากโรงเรียนวัดได้ดี กันก็มาก บางครั้งอยู่ที่คนนะคะ ว่าจะฝึกความ อดทน ทนต่องาน สามารถนำความรู้ที่ได้จาก การเรียนมาประยุกต์กับงานและสังคมได้ อย่างไร ไอคิว บวก อีคิว ค่ะ
23 มีนาคม 2551 21:18 น. - comment id 834293
คุณช่ออักษราลี .. อัลมิตรามีความเชื่อว่า การที่จะทำให้ใครสักคนได้ดิบได้ดีโดยผ่านขั้นตอนการศึกษา มันขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยค่ะ 1. โรงเรียน 2. คณาจารย์ที่สอน 3. เด็กนักเรียน 4. วิธีและกระบวนการสอน 5. ผู้ปกครอง ดังนั้น ถ้าเพียงแต่อาศัยเฉพาะข้อใดข้อหนึ่งเด่น ก็คงไม่ทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนไปด้วยดี แต่ถ้าจะให้เยี่ยมยอดเยี่ยมยุทธกันไป ก็ต้องอาศัยซึ่งกันและกันในห้าข้อนี้ค่ะ เด็กนักเรียนจากโรงเรียนดัง ๆ จริงหรือเปล่าที่ทุกคนจะประสบผลสำเร็จยามก้าวสู่โลกภายนอก และเด็กนักเรียนจากโรงเรียนเล็ก ๆ จริงหรือเปล่าที่จะไม่มีโอกาสก้าวหน้าเจริญ อันที่จริง อัลมิตราเองเคยคิดด้วยซ้ำไปว่า อยากเรียนที่โรงเรียนต่างจังหวัด สนามหญ้ากว้าง ๆ บางช่วงก็กลิ้งเอกเขนกนอนคลุกหญ้าฟังคุณครูเล่านิทานบ้าง ลงมือขุดบ่อเลี้ยงปลา มีความสุขนะ อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้วิธีการเลี้ยงชีพตนเอง ซึ่งแบบนี้จะหาโอกาสไม่ได้เลย หากเป็นเมืองหลวงค่ะ
23 มีนาคม 2551 21:03 น. - comment id 834296
23 มีนาคม 2551 22:40 น. - comment id 834356
คุณเจ้าชายในสายลม ... :) บทกลอนของคุณคมจังค่ะ โดยเฉพาะสองวรรคสุดท้าย..ซึ่งเป็นความจริงอย่างที่สุด ช้างเผือกในป่ามีมากมาย เสียดายในเมืองเหมือนไม่มี ..
24 มีนาคม 2551 11:51 น. - comment id 834422
ค่านิยมเรื่องสถาบันยังมีอยู่.....และอีกอย่างเราก็อยากให้เด็กๆ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี .. ถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวซะก็แล้วกัน... :)
29 มีนาคม 2551 17:58 น. - comment id 835563
การศึกษาคือการลงทุน ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ " ฟรีแล้วมีคุณภาพ" หรือของดีราคาถูก....ทำใจครับ คุณอัลมิตรา
29 มีนาคม 2551 23:29 น. - comment id 835595
คุณวชรกานท์ .. ค่ะ ต้องทำใจ
29 มีนาคม 2551 23:30 น. - comment id 835596
คุณกุ้งหนามแดง .. จำนายธันวาได้มั๊ย เดี๋ยวรอให้เปิดเทอมก่อน จะติดต่อไปยังร้อยฝัน ฝากค่าเทอมไปให้น่ะ
30 มีนาคม 2551 09:10 น. - comment id 835635
31 มีนาคม 2551 02:13 น. - comment id 835777
ลืมบอกไปว่าบวชตอนบ่าย วันนั้นบวชตอนบ่ายโมง เพิ่งฉึกออกมาวันนี้ตอน 7 โมงเช้า ได้บิณฑ์เดี่ยวก็คราวนี้(ไม่ถึงหมื่นลี้แน่ๆ) เพราะวันแรกตื่นไม่ทันอาจารย์ แต่ก็นับว่าได้สะสมชั่วโมงบิณฑ์และสายการบิณฑ์เพิ่มขึ้น วันข้างหน้าอาจได้บิณฑ์เดี่ยวถึงหมื่นลี้ หรืออาจได้บินฟรีไปกับตัน โออิชิ วันนี้กินไปขวดนึง กะว่าจะเขียนชื่อที่อยู่ส่งไป (น่าจะเพิ่มรางวัลเรียนฟรีแถมไปให้ด้วยนะ)
31 มีนาคม 2551 03:13 น. - comment id 835778
วันนี้ 31 แล้วนี่ ตกลงว่าสึก 30 เมื่อวานตอน 7 โมงเช้า ครับ งวดนี้ 13 นะ แถม 100 ให้อีกตัว มีศีล 227 ข้อ กับ 84 000 พระธรรมขันธ์ เป็นตัวช่วยครับ ถ้างวดนี้ถูกอีก จะเอาเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปช่วยสร้างโบสถ์ที่วัด (วัดพิทักษ์สมณกิจ)(ที่วัดเป็นป่า ไม่มีไฟฟ้า) ไม่กล้าให้ทั้งหมดกลัวจะบาปทั้งหมด ถ้าบาปก็ขอบาปแค่ส่วนหนึ่งพอ ส่วนที่เหลือจะได้เป็นบุญและเป็นทุนต่อไปครับ
31 มีนาคม 2551 07:54 น. - comment id 835792
คุณน้ำนมราชสีห์ .. :) ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยือน คุณลักษมณ์ .. ๕๕๕ บิณฑ์ให้ถึงหมื่นลี้ สงสัยจะหลายพรรษา แล้วไงต้องเปรียบเทียบกับหมื่นลี้ด้วยเล่า ความจริงคนที่บอกว่าบินหมื่นลี้ อาจบินไม่ถึงนะ ผอมกระหร่องก่องแก่งซะขนาดนั้น กระพือปีกพั่บ ๆ สองทีหมดแรง แล้วถ้าคุณลักษมณ์โชคดี บินฟรี ไปกับกัปตันโออิชิ เขาให้ไป 4 คนนี่ แบบไม่ต้องพกอะไรไป แต่ไว้ใจกัปตันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ หน้าตาท่าทางเหมือนจะขับเครื่องบินคล่อง ฮา .. ไงซะ ถ้าคุณถูกหวยงวดนี้ เหลือจากที่แบ่งส่วนหนึ่งช่วยสร้างโบสถ์ที่วัด ก็เจียดอีกนิดนึงช่วยเหลือส่วนที่เป็นผลตกค้างจากสึนามินะ ช่วย ๆ กันไป คุณสีน้ำฟ้าเคยชวนอยู่เหมือนกันเมื่อปีก่อน ติดที่อัลมิตรามไม่สะดวกหลายอย่าง ลำพังถ้าไปเองได้ก็จะไปเอง แต่ถ้าให้จัดเป็นขบวนไป ไม่เอาหรอก ขี้เกียจเรื่องมากน่ะ แบ่ง ๆ มาให้บ้างนะ จะรอรับ ส่วนเงินน่ะ ไม่ต้อง .. รู้หรอกน่ะ มีคนช่วยใช้แยะ .. ๕๕๕
หน้าส่วนตัว
กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง
กลอนอวยพร
กลอนให้กำลังใจ
กลอนให้ข้อคิด
