ชีวิตปัญญาชน

เสียงหัวเราะ

โอ้พ่อจ๋าแม่จ๋าห่วงหานัก
อยากหนุนตักโอบกอดตลอดหนาว
อยากซบไออุ่นรักแทนดวงดาว
คิดถึงน้องวัยเยาว์เฝ้าอาวรณ์
   ลาท้องทุ่งถิ่นฐานและบ้านเกิด
สู่ดินแดนบรรเจิดที่เปิดสอน
ไม่อยากจากเพียงใดใจต้องจร
น้อมรับพรจากพ่อแม่แก่ชรา
   ถึงเมืองหลวงศิวิไลตึกใหญ่สูง
ไม่เหมือนคุ้งไอหมอกระรอกฟ้า
เห็นผู้คนเดินขวักไขว่ละลานตา
กลับไม่เหมือนท้องทุ่งนาที่บ้านเรา
   เข้ามาเป็นปัญญาชนคนหมู่มาก
สู้ลำบากเพื่อชีวิตมิอับเฉา
เพื่อพ่อแม่พี่น้องเพื่อนพ้องเรา
พร้อมจะก้าวไต่ฝันวันมีชัย
   ย้อนคำนึงถึงคำถามอันหยามเหยียด
เหมือนรังเกียจเดียดฉันท์ทำหวั่นไหว
แต่ขอเก็บคำถามนั้นเติมแรงใจ
ไม่หลงใหลในแสงสีให้เสียคน
   อนาคตเป็นเช่นไรไม่เคยรู้
จะกอบกู้ศักดิ์ศรีที่สับสน
เพียรศึกษามานะและอดทน
อีกสักหนชั่วชีวิตขอสิทธิ์ทำ
   ขอบคุณครูอาจารย์ที่สอนสั่ง
เปี่ยมความหวังให้ศิษยืไม่ถลำ
เป็นตัวอย่างที่ดีได้ชี้นำ
หลุดบ่วงกรรมความเขลาเบาปัญญา
   จะเก็บสมประสบการที่นานเนิ่น
บินหกเหินกลับถิ่นฐานบ้านเกิดข้า
เก็บเอาชัยชนะไปพัฒนา
ซับน้ำตาเคียงแม่พ่อตลอดไป
แด่...เพื่อนๆเด็กมหาลัยทุกคน				
comments powered by Disqus
  • วาสุกรี

    17 กุมภาพันธ์ 2552 19:53 น. - comment id 952162

    มาชมผลงานนะครับ  กลอนไพเราะดี......
    
    ขอฝากกลอนทักทายนะครับ
    
    เก็บดอกไม้  ท้ายป่า  มาฝากเจ้า
    
    สานกระเช้า  ไม้ไผ่  ให้สวยหรู
    
    ตกแต่งแต้ม  แซมหญ้าคา  ให้น่าดู
    
    มอบแด่ผู้  อยู่กรุง  ฟุ้งหมอกควัน......
  • somebody

    18 กุมภาพันธ์ 2552 11:34 น. - comment id 952515

    อ่านแล้วให้คิดถึงบ้านเลยคะ
    ความหวังความฝันของเค้าเหล่านั้น
    คนที่เรารัก
    62.gif62.gif62.gif62.gif
  • Darkness_Hero

    18 กุมภาพันธ์ 2552 17:38 น. - comment id 952658

    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน