ข้าวหม้อแกงหม้อ

ตราชู

ข้าวหม้อแกงหม้อ
	แกงเขียวหวานจานนี้หรือฝีมือย่า
ไปฝากน้าบ้านโน้นเขาสักหน่อย
ประโยคนั้นสรรค์ประเสริฐแสนเลิศลอย
ด้วยพร่างพร้อยมิตรภาพเอิบอาบพราว
	ไม่แหนงหน่ายคลายแคลนรักแน่นเหนียว
จึงข้าวเคี้ยวหวานล้ำทุกคำข้าว
หวานไมตรีนี้ชื่นฉ่ำยืนยาว
ทุกครั้งคราวดื่มด่ำได้คำนึง
	นี่ต้มยำน้ำใสจากใจน้า
นำมาฝากคุณย่าด้วยหม้อหนึ่ง
ความอารีปรี่มามั่นตราตรึง
บ่งบอกถึงประเพณีวิถีไทย
	เมื่อโลกเคลื่อนเลื่อนรุดมิหยุดนิ่ง
หลายอย่างยิ่งควบโขยกจนโยกไหว
เดี๋ยวโผล่ผลุบปุบปับช่างฉับไว
รุ่งเรืองไรอดีตเดิมก็เริ่มราง
	ลืมความงามความเก่าพริ้งเพราก่อ
มนต์ข้าวหม้อแกงหม้อก็เมินหมาง
เกิดกำแพงแกร่งกั้นกีดคั่นกาง
ต่างบ้านต่างสืบเสาะจำเพาะตัว
	สังคมเมืองเรื่องชินคือกินด่วน
ใครมีถ้วนอิ่มท้องสมปองทั่ว
แต่....มืดดำคล้ำกมลหมองหม่นมัว
ไม่แบ่งถัวสุขแท้เผื่อแผ่ใคร
	ปัจจุบันรันทดสลดท้อ
แบ่งข้าวหม้อแกงหม้อกันบ้างไหม?
ฤาสิ้นศรีมีประจำแห่งน้ำใจ
เพราะต่างใคร่คิดแค่เห็นแก่ตน?
(๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
แรงบันดาลใจ
ผมเขียนกลอนบทนี้ขึ้น ด้วยความหดหู่ยิ่ง เมื่อเห็นวิถีชีวิตไทยที่แปรผัน ในทุกๆวัน ท่ามกลางแดนคอนกรีต เราต่างคนต่างอยู่เสียจนกระทั่ง บ้านใกล้กันก็ปราศจากรอยยิ้ม คำทักทายให้แก่กัน หวนย้อนคิดถึงคำบอกเล่าเก่าก่อน คนบ้านใกล้เรือนเคียงรู้จักกันโดยตลอด เคยฟังเรื่องราวซึ่งท่านพระพิศาลธรรมพาที (ท่านพระพะยอม) ท่านเล่าว่า สมัยท่านเด็กๆ เมื่อคุณย่าของท่านทำกับข้าว ก็จะแบ่งให้เพื่อนบ้านเสมอ มานึกเทียบกับปัจจุบันแล้วใจหาย สังคมเราเป็นอะไรไปเล่า? อะไรหรือแบ่งเขาแบ่งเรา? อะไรทำให้เราห่างกันไปทุกทีๆ? ผมได้แต่หวังว่า สักวัน เราจะได้มีโอกาสแบ่งปันข้าวหม้อแกงหม้อ อวยเอื้อความรัก ความห่วงใยให้กันฉันกาลก่อน เพื่อหัวใจอาทรจะหวนกลับมาเยียวยาสังคมไทยตลอดไปครับผม				
comments powered by Disqus
  • ปราณรวี

    23 พฤศจิกายน 2550 19:59 น. - comment id 792724

    วิถีชีวิตแบบนี้ยังพบนะคะ
    ตามชนบททั่วไป  แต่ในเมือง
    ใหญ่ อาจขาดหายไป เพราะ
    เขาซื้ออหารทานกันน่ะค่ะ
  • โอ้ละหนอ

    24 พฤศจิกายน 2550 08:20 น. - comment id 792803

    วิถีไทยกลายเป็นวิถีเทศ
    ปฏิเสธตัวตนไปทั้งสิ้น
    อนิจจาคนไทยในแผ่นดิน
    ค่อยๆ ถูกกลืนกินอารยธรรม......
  • ตราชู

    24 พฤศจิกายน 2550 09:43 น. - comment id 792847

    สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน สวัสดีคุณปราณรวี คุณโอ้ละหนอ ครับผม
    
    	ตามชนบท ผมมั่นใจครับ ว่าวัฒนธรรม ข้าวหม้อแกงหม้อ นี่ยังมีอยู่แน่ๆ แต่สังคมเมืองใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ นี่ คงจะน้อยเต็มทีหละครับ ต่างคนต่างอยู่ บ้านใครบ้านมัน อยู่รั้วชิดกันแต่ไม่เคยคุยกันเลยก็มี เอาหละ ผมยอมรับหละครับว่าสังคมเมืองนั้นต้องเร่งรีบ ต้องแข่งขัน แต่..... ถ้าถึงขนาดลืมแบ่งน้ำใจให้แก่กัน ก็ถือว่าน่าเป็นห่วงจริงๆครับผม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน