สิ่งตอบแทน

ตราชู

สิ่งตอบแทน
	หญิงชายวัยชราทั้งสองผู้เดินเงื่องหงอยออกมาจากโรงพยาบาลนั้น ใครๆแลเห็นย่อมรู้แม้มิต้องไต่ถาม คนทั้งคู่กำลังแบกทุกข์หนักอึ้ง เพราะใบหน้าอันหมองคล้ำอยู่แล้ว บัดนี้คล้ำหมองทวีคูณ ความอาดูรล้นพ้นปรากฏชัดเด่นในแววแห่งดวงตาซึ่งรื้นหยาดน้ำใส ร่างจ้อยๆในมโนคำนึงนั่นเองคือต้นกำเนิดของทุกข์มโหฬารทั้งปวง
	ไอ้น้อย หลานของแกแท้ๆ เลือดเนื้อเชื้อไขของอีนวลลูกสาวอายุสามสิบห้า ไม่มีใครจะคิดหรอกว่ามันจะมีผัว พ่อแม่คะเนตรงกัน มันต้องขึ้นคานแน่นอน จู่ๆ  มันกลับหนีตามพ่อม่ายเมียตายคนหนึ่งไป มินานก็กระเตงลูกอ่อนแบเบาะมาให้แกโอบอุ้มฟูมฟัก ส่วนตัวมันซิ่ ฝากลูกเสร็จก็จรลีลี้หาย จะไปไหน ทำอะไร ไม่มีข่าวคราวแม้แต่วี่แวว หลานตัวกระจิริดได้รับการประคบประหงมโดยมือตายายจนอายุได้หกขวบกว่า จวนเจียนจะย่างเข้าขวบที่เจ็ดอยู่รอมร่อ ก็เผอิญมีเหตุเกิดขึ้นแก่มัน
	ไอ้น้อยเป็นไข้มาตั้งแต่สามวันก่อน ผู้เลี้ยงดูทั้งสองป้อนหยูกยาตามกำลังจะหาได้ให้มันกิน ไข้ก็คล้ายๆจะเซา ทว่าก็กลับสูงขึ้นอีก ล่วงเข้าวันที่สาม ไอ้น้อยตัวร้อนราวไฟร้องครางฮือๆสลับกับเพ้อออกมาโดยไม่รู้สึกตัว ซ้ำทำท่าจะชัก ทั้งตาทั้งยายตระหนกอกสั่นหน้าซีด ละล้าละลังอุ้มมันมาหาหมอ ก็เพราะโรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ใกล้บ้านหลังซอมซ่อของแกมากที่สุด แกจึงตัดสินใจมุ่งมา หมอตรวจแล้วบอกว่า ไอ้น้อยมันเป็นไข้เลือดออก อาการน่าห่วง ต้องค้างโรงพยาบาล โธ่! แก้วตาของสองผู้เฒ่า จะปล่อยให้มันกลับบ้านได้อย่างไร กลับไปพบความตายอย่างนั้นหรือ ใครเล่าจะยอม เมื่อฝากมันไว้กับหมอแล้ว แม่เฒ่าจันทร์ศรีก็เดินทางหวนกลับบ้าน ทิ้งผัวให้อยู่เฝ้าหลานไปก่อน ตัวแกจะไปขนข้าวของเพื่อมานอนเฝ้ามันด้วยอีกคน กับทั้งตระเตรียมเงินทองไว้ให้พร้อม เรื่องเงินนี้เองที่พาให้ใจรันทดท้อ ค่าหมอ ค่ายา ยังค่าอะไรต่อมิอะไรจิปาถะอีก สองคนผัวเมียจะมีพออย่างไรกัน ไอ้อาชีพทำขนมขายวันละไม่เท่าไหร่ เนื่องจากสังขารมันมิอำนวยให้เกิดเรี่ยวแรงเยี่ยงสมัยเมื่อยังสาว ได้เงินมาใช้วันต่อวันพออยู่พอกินนี่ก็ถือว่าบุญโข ถ้าค่ารักษาไอ้น้อยมันแพงลิ่ว จะหันหน้าไปหาใคร อีนวลหรือ หมดหวัง จนป่านนี้ไม่เห็นมันกลับบ้านสักหน เออ บางที เงินฝากในธนาคารซึ่งก็ใช่จะเยอะแยะอะไรนักต้องเบิกถอนมาใช้จนหมดกันหละคราวนี้  ถ้ายังไม่พอ ก็เห็นจะต้องยืมเขา ยืมญาติแกกับญาติผัวเอามารวมกัน คงพอ ก็แค่คงตามความคาดหวังของแก แต่... ถ้ามันไม่พอจริงๆล่ะ
เนื่องจากกำลังก้มหน้าตรองด้วยวิตก จึงมิทันสังเกตเห็นใครคนหนึ่งผู้เดินสวนทางมา ต่อเมื่อชนถูกร่างนั้นเข้า หญิงชราจึงเงยหน้าขึ้นพลางละล่ำละลัก
	ขอโทษขอโทษทีพ่อคุณ ยายไม่ทันเห็น หูตาคนแก่มันฝ้าฟาง พ่ออย่าถือสาหาความเลย ก็เห็นยิ้มผ่องใสระบายทั่วดวงหน้าสะอาดหมดจด เขาเป็นชายหนุ่ม คะเนอายุตามสายตาที่มองเห็นจะอยู่ราวๆสามสิบต้นๆ
โอ๊ะ คุณยาย ผมต่างหากล่ะครับต้องเป็นฝ่ายขอโทษ  รับผิดเสียเองพร้อมยกมือขึ้นไหว้ ผมตัวเองน่าจะตาไวหลีกทางให้คุณยายก่อน ดันเดินตรงรี่มา กำลังจะกลับบ้านน่ะครับ นี่คุณยายจะไปไหนครับ ถ้าหากไปทางเดียวกัน ขึ้นรถผมก็ได้ ผมเต็มใจไปส่งครับ กิริยาพาทีของเขาเรียบร้อยน่าชม ไม่แข็งกระด้างเหมือนหนุ่มวัยเดียวกันบางคน
	ยายก็จะกลับบ้านเหมือนกัน พาหลานมาหาหมอจ้ะ แม่เฒ่าไม่อำพราง
	อ้าว แกป่วยเป็นอะไรครับ คำถามนุ่มนวลนั้นก็น่าฟัง
	ไข้เลือดออก แกตอบเพียงสั้นๆ
	เข้าหน้าฝนแล้วต้องระวัง เด็กเป็นโรคนี้กันเยอะ ว่าแต่ อาการเด็ก ผมหมายถึงหลานคุณยายเป็นอย่างไรบ้างครับ
	ก็พอดู หางเสียงหญิงชราแหบพร่าลงฟังได้ถนัด แววกังวนจากนัยน์ตามิอาจซ่อนเร้นอีกฝ่ายได้ต่อไป
	ผมสังเกต ดูเหมือนคุณยายกำลังไม่สบายใจอะไรสักอย่าง ชายหนุ่มทักขึ้นตรงจุด ก่อนจะอาสามาว่า มีอะไรให้ผมรับใช้บ้างไหมครับ ผมยินดีเสมอ
	ขอบใจหละพ่อคุณ พ่ออุตส่าห์ห่วงใยนี่ก็ชื่นใจคนแก่แล้ว ไม่ขอรบกวนหรอก ฝ่ายอาวุโสปฏิเสธอย่างละมุนละไม
	ขอให้ผมมีส่วนช่วยเหลือบ้างเถิดครับ คนที่เพิ่งพบกันครั้งแรกรบเร้าวิงวอน ผมมีลูกชายคนหนึ่ง อายุห้าขวบ ผมรักลูกมาก เลยพลอยทำให้รักเด็กๆทุกคนไปด้วย ได้ยินข่าวลูกหลานใครเจ็บไข้ก็อยากดูแล มันเหมือนได้ดูแลลูกเรายังไงยังงั้นเชียวครับ
	โมทนาสาธุ พ่อเป็นคนใจพระจริงๆ ยายไอ้น้อยออกปากสรรเสริญ ขอให้เจริญๆเถิดนะ แต่ไอ้เรื่องช่วยฉันฉันกับผัวเกรงใจ ไม่กวนพ่อหรอก ตอนท้ายแกย้ำเจตนาแจ้งชัด
	งั้น หนุ่มกิริยาดียังเพียรต่อรอง ขอคุณยายโปรดบอกเบอร์ห้อง บอกชื่อหลานให้ผมจดไว้ได้ไหมครับ ผมมาธุระแถวนี้ประจำ จะแวะไปเยี่ยม
	ถ้าแค่เยี่ยมหละก็ยินดี นางจันทร์ศรีอนุโลมยินยอม บอกสิ่งที่เขาต้องการรู้ แล้วจึงตัดบทขอตัวกลับบ้าน
	โรคร้ายของไอ้น้อยทุเลาลงเรื่อยๆ ชะรอยมันสั่งสมบุญเก่าเอาไว้มาก ยมบาลเลยยังไม่มาเอาวิญญาณ เป็นธรรมดาอยู่เอง เมื่อมีเงินก็มียา เงินถึงก็ยาถึง ตายายเทเงินสะสมจนหมดตัว ประสมประเสกับเงินเครือญาติใจดีของแกทั้งสอง บวกเงินขอยืมจากชาวบ้านซึ่งรู้จักมักคุ้นกันมานาน บางคนเอื้ออารีมาเยี่ยมหลานก็มี ทว่ารายที่สร้างความอัศจรรย์ถึงขีดสุดแก่สองผู้ชราคือพ่อหนุ่มผู้เซ้าซี้ยายจันทร์ศรีขออุปถัมภ์ค้ำจุนนั่นแหละ เขามาเยี่ยมไอ้น้อยตั้งหลายหน และก็ใช่จะมามือเปล่า ของกินทะนุบำรุงสุขภาพสำหรับเด็กก็ดี สำหรับญาติเด็กก็ดี  ขนมาให้มิได้ขาด ท้ายสุดไม่พ้นธนบัตรที่เจ้าตัวยกมือไหว้ปลกๆ มิหนำกราบลงกับตักหญิงชายสูงอายุทั้งสองท่านพร่ำขอให้รับไว้
	หลานน้อยของคุณตาคุณยายอายุห่างจากลูกผมปีเดียวเองผมเห็นเขาก็นึกรักแต่แรกเห็น ช่างน่ารักเสียจริง คุณตาคุณยายโปรดเอาบุญรับเงินไปเถิดครับ ครั้นแกอิดเอื้อน เขาก็มิหยุดคะยั้นคะยอ จนคนถูกตื๊อต้องซื้อรำคาญรับมา ปากก็ให้ศีลอำนวยพรไปตามธรรมเนียม พอพ่อนั่นกลับ เฒ่าบุญสมก็สั่งเมียทันที
	ข้าวของกับเงินพ่อหนุ่มคนนั้นน่ะ แกเอาไปบริจาคให้ใครก็ได้  หรือไม่ก็เอาไปทิ้งเถอะ
	พิลึกแล้วตาแก่ หญิงชราแกค้านทันควันด้วยขวางหู คนเขามีน้ำใจ ไปทิ้งของเขาได้อย่างไร
	เออแน่ะเมียฉัน  ดูคน เขาต้องดูถึงข้างใน ดูแค่ข้างนอกมันหลอกเอาง่ายๆนา ฝ่ายผัวติงเตือน เมียก็พลันย้อนถามน้ำเสียงขุ่น
	แล้วแกรู้จักเขาหรือ ตาไอ้น้อยหัวเราะหึๆ
	ตอนแรกเจอน่า ฉันคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็น มองๆไปชักมั่นใจแฮะ ยายเอ๊ย ไม่ผิดตัวแน่ๆ เดี๋ยวเมื่อไรกลับบ้านกัน ฉันจะชี้ให้ดู ไม่ต้องไปไกลหรอก เข้าซอยก็เห็นแล้วหละ
	รถโฆษณาหาเสียงหลายคันจากหลายพรรควิ่งผ่านเข้าผ่านออกทั่วซอยทุกวี่ทุกวัน เนื่องด้วยวันเลือกตั้งครั้งใหม่กระชั้นติดชิดใกล้เข้ามาทุกขณะ ในบรรดาผู้แทนที่ปราศรัยปาวๆบนรถทั้งหลายแหล่นั้น มีพ่อหนุ่มใจพระตามคำยกย่องของแม่เฒ่าจันทร์ศรีรวมอยู่กับเขาด้วย เขาแต่งกายโก้เก๋ทีเดียวเมื่ออยู่ในมาดผู้สมัคร ส.ส.
	กราบสวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายายทุกๆท่าน ถ้อยทักทายทั่วถึงฟังฉะฉานชัดเจน กระผม นายพิพัฒน์ นามสกุล พิชิตชัย มาขอโอกาสรับใช้ท่านทั้งหลาย ผมเป็นคนเขตนี้ครับ อยู่นี่มานาน จึงรู้ว่าปัญหามันมีอะไรบ้าง นี่ก็ทุ่มเทวิญญาณมาสมัคร ส.ส. เขต ขอแบกภาระจากหลังจากไหล่ของท่านมาไว้บนไหล่ของผมแทน ท่านประสงค์สิ่งใด บอกผมได้เลยครับ ต่อจากนั้น พ่อเจ้าประคุณก็เจื้อยแจ้วแคล่วคล่องปานน้ำไหล พูดถึงนโยบายสารพัดสารพัน ตบท้ายด้วยการย้ำหมายเลขประจำตัว กับพรรคอันเขาสังกัดอยู่ ลงจากรถ ทีนี้ก็เยี่ยมเยียนประชาชนทุกบ้าน แล้วก็ถึงบ้านตายายไอ้น้อยจนได้
	สวัสดีครับ คุณตาคุณยาย รอยยิ้มใสเช่นเดียวกับสำเนียงคือคุณลักษณะโดดเด่นของเจ้าตัว
	สวัสดีจ้า แม่บ้านขานตอบพลางรับไหว้อีกฝ่าย
	ขออนุญาตให้ผมเข้าไปกราบคุณตาคุณยาย เยี่ยมหนูน้อยได้ไหมครับ
	เชิญเถิดพ่อคุณ ว่าที่ ส.ส. คุณยายของพ่อหนุ่มสัพยอกหยอกเอินรื่นเริง พิพัฒน์ก้าวเข้ามาภายในบ้าน ก็เห็นตายายรวมหลานพร้อมหน้า ไอ้น้อยมันนั่งเล่นรถแข่งคันจิ๋วเพลิดเพลิน พอถูกตาเตือน จึงหันมาสวัสดีครับกับแขก แล้วง่วนกับของเล่นต่อ
	โอ้โฮ ชายหนุ่มร้อง หนูน้อยแข็งแรงแล้ว เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนได้แล้วสิครับ แหมดีจัง ทีนี้ก็ต้องระวังยุงล่ะครับ แถวนี้ยุงมันชุม
	ก็ต้องยอมผิดศีลข้อหนึ่งล่ะพ่อ ฆ่าลูกน้ำทุกวัน คุณยายหัวเราะๆ
	ผมอยากจะคุยนานๆเหลือเกิน แต่ธุระยังมีอยู่ ยังไงก็ฝากเบอร์ห้าสิบหก พรรคสยามยืนยงไว้พิจารณาด้วยนะครับ อุ๊ย เกือบลืม เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋าถือ หยิบซองซองหนึ่งยื่นส่งให้แม่เฒ่า
	ผมฝากไว้ให้หนูน้อยครับ อยากจะซื้อของเล่นให้แก ก็ไม่มีเวลา คุณยายแกยังไม่ทันจะรับ ก็พอดี พ่อบ้านแทรกขวางกลางคัน
	วางไว้ตรงโต๊ะนั่นแหละพ่อคุณ ขอบคุณมากที่มีแก่ใจมาหา
	โธ่ คิดถึงคุณตาคุณยายจะตาย นี่ถ้าไม่ติดหาเสียง ผมจะมาจนคุณตาคุณยายเบื่อหน้าเลย วันนี้ขอตัวก่อนนะครับ สิ้นคำอำลา ผู้สมัคร ส.ส. หนุ่ม ก็เดินจากไป
	หนึ่งพันบาท ซองบรรจุธนบัตรถูกแกะออก แม่เฒ่าอุทานเมื่อรู้จำนวนเงิน
	เงินสกปรก พ่อเฒ่ากลับโพล่งไปคนละทาง นี่แหละ พวกปากหวานก้นเปรี้ยว ให้สิบบาท หวังจะเอาคืนสิบล้าน
	แกระแวงเขามากไปหรือเปล่าหือ ตา เมียอดเถียงไม่ได้ ฉันดูๆ พ่อนี่เขาอารีอารอบอยู่ไม่น้อยเลยนา ดูอย่างไอ้น้อย ไม่ใช่ลูกหลาน เขายังอุตส่าห์ไปเยี่ยม ซื้อของไปฝาก อีตอนนั้นก็ทีหนึ่งหละ แกให้ฉันเอาของไปให้คนอื่นหรือไม่ก็ไปทิ้ง หนนี้ก็อีก เขาอาจเอ็นดูหลานเราจริงๆก็ได้ถึงให้เงินมา
	อ้าวยาย ถูกมันตุ๋นเสียแล้วแน่ๆ นี่ ขยับเข้ามานี่ ฉันจะขึ้นธรรมาสน์ เอ๊ย จะจาระไนให้ฟัง ชั่วๆดีๆตอนหนุ่มๆฉันเคยเป็นครูบาอาจารย์แกก็รู้ ไอ้เรื่องหน้าที่พลเมืองก็พอสาธยายให้แกฟังได้ไม่อับจน ทุกวันวิทยุทีวีเขาก็รณรงค์เรื่องงดซื้อสิทธิ์เว้นขายเสียงออกขรม ฟังนะ ฉันจะร่ายยาว อย่าเพิ่งเบื่อเสียก่อนนะ สำคัญมากเชียวนา
	ขนมในหาบถูกขายไปจนเกลี้ยง ยายจันทร์ศรีคอนหาบเปล่าเดินทอดน่องมาตามทาง กำลังจะหักเลี้ยวตรงซอยเข้าบ้านแก ก็เผอิญเหลือเกิน เจอะหน้าพ่อหนุ่มพิพัฒน์เข้า เขาคงจะเสร็จจากหาเสียงในซอยและจะเดินทางกลับกระมัง
	สวัสดีครับ คุณยาย ท่าไหว้ของเขายังชดช้อย วาจารื่นหูมิผิดเมื่อแรกพบกันหน้าโรงพยาบาล มีขนมอะไรเหลือให้ผมซื้อบ้างไหมครับ หิวจังเลย
	หมดแล้วจ้าพ่อหนุ่ม คุณยายเอื้อนเอ่ยอารมณ์ดี ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเชียว พ่อพิพัฒน์เพิ่งเสร็จงานหรือจ๊ะ งานหนักล่ะซี
	ครับ หนัก แต่ก็มีความสุข พรุ่งนี้.... ชายหนุ่มแสร้งทิ้งประโยค หยุดพูด ปรารถนาเรียกร้องความสนใจจากคนฟัง แล้วจึงต่อเนื้อความที่ค้างไว้
	เข้าคูหาเลือกตั้ง คุณยายโปรดอย่าลืมหมายเลขห้าสิบหก พรรคสยามยืนยงนะครับ
	ไม่ลืม แต่ไม่เลือกหรอกจ้ะ คำตอบราบเรียบ เช่นเดียวกับสีหน้าเรียบราบของผู้ชราวัยทำเอาคนวัยหนุ่มคอแข็งด้วยผิดคาดอย่างแรง หากแล้ว ความชำนาญเชิงก็ทำให้เขาเสหัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกอลวนภายใน
	ฮั่นแน่ คุณยายมีมุกแกล้งล้อผมเล่นเสียด้วย
	ไม่ใช่มุก ยายพูดจริงๆ แม่เฒ่าลงน้ำหนักเสียง
	โธ่ คุณยายไม่สงสารหลานบ้างหรือครับ ผู้อ่อนอายุกว่าออดอ้อน
	ก็สงสารน่ะซี ยายถึงเลือกไม่ลง เป็นเหตุผลแปลกประหลาดยิ่ง คนยืนงงยังมิทันจะอ้าปาก คุณยายก็อธิบาย
	พ่อพิพัฒน์ นักการเมืองเดี๋ยวนี้หาดีไม่ได้สักคน นั่งกันเต็มสภาก็ไอ้เขี้ยวลากดินทั้งนั้น คนดีๆเข้าสภาไปเจอคนชั่ว นานๆไปก็เลวตามเขา ตอนพ่อหนุ่มหาเสียง บอกว่าอยู่เขตนี้มานาน ยายก็อยากให้คนดีๆอยู่คู่เขตเรา ไม่อยากให้แปดเปื้อนสิ่งสกปรก พ่อพิพัฒน์อุตส่าห์ช่วยเหลือหลานยายเมื่อป่วย พระคุณมากจนยายไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรไหว ก็ทำได้แค่ไม่เลือกพ่อนี่แหละ พ่อจะได้ดำรงความดีเสมอต้นเสมอปลาย ถ้าพ่อหนุ่มได้เป็น ส.ส. แล้วทำชั่ว คดโกงบ้านเมืองขึ้นมา ยายจะเสียใจหนักเพราะเป็นคนหนึ่งที่ขีดกากบาทให้
	พิพัฒน์เดินจากแกไปในเย็นวันนั้นด้วยอิริยาบถงดงาม ยายจันทร์ศรีมิรู้หรอกว่าเขาโกรธหรือรู้สึกอย่างไรภายหลังฟังแกแถลง หญิงชรายิ้มกับตัวเอง เดินต่อจนถึงบ้านด้วยความเบิกบานในหัวใจ
(เริ่มเขียน ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ จบเรื่องลงวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ ครับผม)				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน