ปฏิวัติปกรณัม

ตราชู

ปฏิวัติปกรณัม
๑.	ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
ผนิดลึกผนึกหล้า
ติลกค่า ตุลาคม
ระเบ็งชื่อระบือชม
อเนกชนอนลฉาย-
	พลังมาดพิลาสมั่น
ถวิลวันเทวษวาย
อุดมรุ้งอะดุงราย
จรูญรัตน์จรัสเรียง
	ประชุมหน้าประชานาศ
อธรรม์ฆาตอธึกเคียง
สะเทื้อนซ่านสะท้านเสียง
ระทกซึกระทึกทรวง
	สนามลานสนานเลือด
ระด่าวเดือดฤดีดวง
นิมิตเลือง ณ เมืองหลวง
สลายลับ สลับเลว
	สขาเร้าสิเข้าเร่ง
เพราะพลุ่งเปล่งพระเพลิงเปลว
จะฝ่าห่า...จะฝ่าเหว
กระโจนหัต กระจัดหืน
	ถลาหัน ถลันหา
ไสวป่า แสวงปืน
จุเร้นแฝงแจรงฟืน
อุราใฝ่อุไรฝัน
๒.	วสันตวงศะฉันท์ ๑๕
เซ็งแซ่กระแสสรพะ สู้
พละจู่ประจญประจัญ
ก่อการก็ก่านมนฉกรรจ์
ยุตกิจ ณ จิต สกนธ์
	โดยเราระเร่าพลวรุด
ตะละจุดประจัญประจญ
โดยพรรคฯ จะผลักประทุฐผล
อภิภพประสบวิภา
	ไม่หยุดประยุทธปะทะแย้ง
ธชะแดงสล้างระดา
เหินหาวจะห้าวจรเสาะหา
บถให้พิชัยลุเห็น
	เฉกนี้ฤหนีหทยหน่าย
ผิวสายรุเธียรกระเซ็น
ใจผองน่ะผ่องพิริยะเพ็ญ
นรผองจะต้องประไพ
๓.	วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
ขวัญว้างคว้างหวิว
หวังลิ่ววูบหล่น
ดลมานดาลหม่น
อกล้นอาลัย
ภาพลักษณ์ พรรคล่ม
โศกจมสิงใจ
วารวันหวั่นไหว
โอ้ว่าอาวรณ์
	ทรุดล้มซมล้า
ผันหน้าผินหนี
เด่นแสงแดงสี
ริบหรี่รอนรอน
เหมือนล่ามาหลง
ภูดงเผื่อนดอน
ต่างทาง ต่างถอน
เกลื่อนทัพกลับถอย
	เล่ห์เขาเล่าขาน
เชี่ยวชาญช่ำชอง
ปรีดาปรองดอง
กลบร่องเกลี่ยรอย
ท่วงช้อยถ้อยฉ่ำ
สารอำ สำออย
เนื่องเขาเนาคอย
เค้น, กำ, ค้ำ, กุม
	พ้องพานผ่านเพ่ง
งันเคร่งเงียบขรึม
เมืองครองหมองครึ้ม
มัวทึมม่านธุม
พาลควั่กพรรคไขว่
จัญไรจึงรุม
เลวทรามลามสุม
มาใส่ไม่เซา
๔.	สัทธราฉันท์ ๒๑
ทบทวน ถ้วนถิ่นทมิฬเงา
ปริทิศนภเทา
ชาติอนาถเฉา
ชนาแด
	เพลาพาปรวนกระสวนแปร
ชนตุลขณะแล
พร้อยปรุรอยแผล
ไถลพลำ
	บ้างเพลินเงินงามอร่ามงำ
สธนะวณิชนำ
หนาธนาหนำ
เกาะเนานาน
	บ้างเข้าเคารพสยบคลาน
กะบทพลทหาร
ชัดถนัดชาญ
แฉลบเฉ
	สับสนคนส่ำคะมำเซ
ทลิททกประเด
พลั้งผุพังเพ
สภาพโรย
	แล้วใครใดเล่าจะเผาโพย
ภิทะวิฆนะประโดย
ปรายสุหร่ายโปรย
ประพรมสินธุ์
	ใครชิดติดด้าวสกาวดิน
หตะนิกรทมิฬ
เชิดประเสริฐฉิน
ประชาชน
(ร่างเดิม๒๙ ถึง ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ปรับแปรแก้ไขบางถ้อยคำ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓)
หมายเหตุ:
	วสันตวงศะฉันท์ ผมเขียนตามในหนังสือ ความรู้เกี่ยวกับร้อยกรอง ซึ่งท่านอาจารย์มะเนาะ แหละท่านอาจารย์วันเนาว์ ยูเด็น เรียบเรียงร่วมกันครับ ผู้เรียบเรียงทั้งสองท่านกล่าวว่า ฉันท์นี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงประดิษฐ์ขึ้น โดยทรงนำวสันตดิลกฉันท์กับ อินทรวงศ์ฉันท์ มาประสมกันครับผม				
comments powered by Disqus
  • เชษฐภัทร วิสัยจร

    4 ตุลาคม 2553 07:46 น. - comment id 1160077

    17.gif
    
    ฉันท์ชุดนี้เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือและความละเอียดมากครับ
    
    ปล. ขอแสดงความยินดีกับรางวัลที่ได้รับไปนะครับ
  • ตราชู

    4 ตุลาคม 2553 12:09 น. - comment id 1160100

    สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน
    
    	เวลาล่วงไป ใจคนเปลี่ยนตามครับ ถึงขณะนี้ ผมชักลังเลแล้วสิครับว่า คำ อุดมการณ์ มันเป็นเพียงเสาวพจน์ใช่หรือไม่ นี่คือแรงบันดาลใจสำคัญให้เขียนงานชิ้นนี้ครับ
    
    	สวัสดีครับ ท่านอาจารย์เชษฐภัทร วิสัยจร
    
    	โอ้... ขอบพระคุณครับที่อาจารย์กรุณาแจ้งข่าว เรียนสารภาพกันตรงๆครับ ตอนเขียนโคลงชิ้นนั้น ผมปรารถนาเพียง ขอให้มีผู้รับรู้ว่าผมคิดอะไรกับสถานการณ์บ้านเมืองแค่นั้นเองครับ เขียนเสร็จ พอสิ้นเดือนกันญายนก็ไม่ได้แวะเข้าไปดูประกาศผลที่เว็บไซต์สมาคมนักกลอนเลย เนื่องด้วย คิดว่าผลงานกระจอกงอกง่อยของตนคงไม่ผ่านการพิจารณาจากท่านคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นแน่ สรุปก็คือ มีผู้รับรู้แล้วว่าผมคิดอะไร  ซึ่งนั่น ผมพอใจยิ่งกว่ารางวัลใดๆเสียอีกครับ โคลงของอาจารย์ต่างหากที่แสนงดงาม สมนาม สมศักดิ์แห่งกวี ผมขอร่วมแสดงความยินดีกับรางวัลที่อาจารย์ได้รับจากใจจริงครับผม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน