..นัยน์แห่งดาว..

รัถยา


   เอ่ยถ้อยถามถึงฟ้าผ่านท้องฟ้า
ครวญรำลึกคราวครา..เคียงสมัย
คู่มนเกยเกี่ยวก้อยร้อยมาลัย
ทอสายใย ยวงรายเป็นสายรุ้ง
   แหวกม่านครึ้มเมฆาหาดอกสร้อย
เห็นเจ้าลอยจรัสหล้า....นภารุ่ง
พระพายพัดเบิกระพี ธุลีฟุ้ง
ยังคงมุ่งมองมน..จนจันทร์ลับ
   นัยน์แห่งดาววาววอนชอนทั่วพื้น
ค้นเม็ดทรายรายดื่นเพื่อสดับ
ไอกมลอวลปรายรายระยับ
กอบประกับประกบก้อนคืนคอนใจ
  บรรจงก่อแต่ละเกร็ด เม็ดประดิษฐ์
ส่องวิจิตรปราสาท..สะอาดใส
ตั้งตระหง่านผงาดงามท่ามหทัย
มีสายใยรุ้งรอบเป็นขอบรัก
  แม้นวันนี้..วันหน้าคงฟ้าสวย
จรัสสลวยเรืองผองสองสลัก
ราวตำนานนิรันดร์ร้อยที่ถ้อยทัก
นภาภักด์ยังบรรเจิดเฉิดสีฟ้า
  				
comments powered by Disqus
  • tiki

    26 เมษายน 2547 21:20 น. - comment id 254825

    ฟ้าเอยงามอร่ามนักถักทอฝัน
    
    ยามเมื่อจันทร์เบือนหลบซบน่านฟ้า
    
    ตะวันยอนซอนซอกออกเมฆา
    
    จรัสแสงเรืองฟ้าประกายยล
    
    
              ช่างสวยงามยามฟ้านภาทัศน์
    
    งามจำรัสเคียงธารามาสถล
    
    งามจากฟ้าทอดตาดินรินสายชล
    
    คือธรรมชาติอันลุล้นสาดแสงธรรม
    
    
    ทิกิ_tiki
    
    
  • ยูกิ

    26 เมษายน 2547 22:39 น. - comment id 254873

    ใช่เลย....บทกลอนนี้ใช่เลย....สีฟ้าจรัสส่องไสว
    สีแห่งดวงใจสีใสใสสีทะเล....มีสาวน้อยเดินทัดดอกลั่นทมเดินตากลมบนริมหาด...ทอดน่องเดินอยู่คนเดียว....อื่มมคิดไปไกล...อิอิกลอนพี่พาหนู่ไปเดินเล่นซะแล้ว
  • รัถยา

    26 เมษายน 2547 23:49 น. - comment id 254919

    .........
    
    ......แทรกซ้อนซ่อนสม
    ......สายลมซอนไล้
    ......เอมจากพรากใจ
    ......ร้อยจารรอยจำ
    
    ......ลึกหลากยากลอก
    ......ตรึงตอกหยอกคำ
    ......อวลเนื้อเอื้อนำ
    ......อุ่นเนานับนาน
    
    ........ทิกิ......ขอบใจมากนะ
    ........ยูกิ......ลองไปเดินเล่นสักสองสามวันซิ
    
    .
    
    
  • รัก

    27 เมษายน 2547 08:06 น. - comment id 255052

    อรุณสวัสดิ์ค่ะอารัน
    ..วันนี้ท้องฟ้ามันสีหม่น ๆอะคะ..อิอิ ก็ดูเหมือนฝนจะตก..ร้อนมักๆๆๆๆเลย  
    ..เข้ามาอ่าน และก็จะไปแล้วค่ะ..อิอิ  รักไปเรียนก่อนนะคะ....คิดถึงจ้ะคุณอา..อิอิ
    
    
    
  • น้ำใส

    27 เมษายน 2547 13:43 น. - comment id 255260

    .......เพราะจังค่ะ........
    
    **-**
    
    แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • ลี่...ผู้มาเยือน

    27 เมษายน 2547 14:03 น. - comment id 255276

    เรียน.ท่านพี่รัถยา
    
    .ต้องขออภัยที่เมื่อวานมิสามารถตอบบทกลอนของท่านพี่ได้
    เนื่องจากให้เกิดกระแสไฟฟ้าติดขัดเสียเป็นเวลานาน  จึงได้แต่อึดอัด  คับข้องใจยิ่งนัก
    ครั้นจะให้เจ้าพิราบคาบสารไปบอก  ก็ให้ถึงฆาตเสียตั้งแต่หวัดนกระบาดครานั้น
    จึ่งแจ้งมาด้วยหวังเมตตาจากท่านพี่ว่าจะไม่ตัดรอน  ลดค่าตัวน้องด้วยเหตุจำเป็นกระนี้
    
    อนึ่ง  ด้วยบทกลอนของท่านพี่บทนี้  ช่างมีความงาม  และ ไพเราะจับจิตยิ่งนัก
    สร้างความยากลำบากต่อปัญญาน้องยิ่งนักที่จักตอบให้งดงาม  และ  ควรคู่
    แต่ก็ให้อดรนทนมิได้ที่จะอยู่นิ่งเฉย  ด้วยบทคำของพี่  ได้ปลุกเงาความคิด
    ให้ภาพแห่งอดีตพรายผุดขึ้นมารำไร   จึงได้บทกลอนมาบอกเล่าสู่กันฟังบ้าง
    ด้วยถ้อยคำเรียบง่าย  ด้อยปัญญาจะขัดเกลาด้วยตัวเอง  จึ่งวานพี่ช่วยชี้แนะ
    ........................................................................................................................
  • ลี่...ผู้มาเยือน

    27 เมษายน 2547 14:13 น. - comment id 255283

    แรงบันดาลใจ.ปลุกน้องสู่ท้องทะเล   (***  ไม่คิดเลยว่าจะแต่งได้ยาวขนาดนี้***)
    
    โอ้ลันล้าท้องฟ้าช่างงามหนอ	......................ได้เคลียคลอล้อลมชมชวนชื่น
    นักเดินทางบนเรือใหญ่ต่างกันยืน........................แลรินคลื่นเคลื่อนคล้อยลอยนาวา
    สู่จุดหมายเกาะใหญ่ชายประเทศ........................อาณาเขตอ่าวไทยไกลทักษา
    นามเกาะเต่านางยวนชวนยาตรา........................เพชรเลอค่าล้ำคุณจุนแผ่นดิน
    
    เมื่อก้าวล่วงตามทางหาดทรายขาว..................ทิวทอดยาวตัดทิวป่าครึ้มเขียว
    เสียงอื้ออึงถามรับทักกันเกลียว........................ต่างมองเหลียวแลตามทางของตน
    รีบปลดวางจัดไว้เข้าที่พัก.........................ไม่เหนื่อยนักอยู่เฉยไม่เป็นผล
    เปลี่ยนชุดเหมาะตรงไปหาดไม่รีบรน................เพลิดเพลินยลโฉมเฉลาในชุดงาม
    
    ผมสีทองตาสีฟ้าชาวต่างชาติ.......................เดินนวยนาดทอดยิ้มพริ้มยามผ่าน
    ต่างจุดหมายผันผ่านไปตามกาล..................กลับมาพานพบเอื้อเกื้อหนุนพา
    แม้นสื่อความตามประสาไม่รู้บ้าง.....................แตกด้วยต่างพันธุ์เผ่าเหล่าภาษา
    มิต้องเอ่ยแต่ซาบซึ้งด้วยสายตา.......................แทนวาจาจรดทิพย์หยิบยื่นไป
    
    แลเห็นหมายสื่อความบอกให้รู้........................เลียบเคียงดูถามไถ่ให้ได้ผล
    ล่วงสำเร็จลุความตามกมล......................จะได้ยลโฉมเจ้าใต้ทะเล
    เพียงแวบเดียวเรือน้อยลอยหน้าอ่าว................น้ำใสพราวราวกระจกมิหักเห
    ใส่ชูชีพสวมหน้ากากไม่ลังเล........................เสียงฮาเฮลอยล่องก้องในใจ
    
    ลอยผิวน้ำก้มหน้าเสียงฟืดฟัด........................มือก็ปัดขาก็พัดสะบัดโบก	
    ให้ฉงนเพื่อนใต้ทะเลโลก........................ลืมเรื่องโศกทุกข์เศร้าที่ผ่านมา
    เจ้าปลาน้อยสลิดหินรวมเป็นหมู่....................พิศเพลินดูน่ารักเป็นนักหนา
    โน่นการ์ตูนตัวน้อยว่ายไปมา........................ไม่ห่างตากอดอกไม้ใต้ทะเล
    
    ปาการังเขากวางคณานับ......................ขึ้นสลับกองโขดแนวผาหิน
    อุ้ย! ดูโน่นอะไรบนพื้นดิน......................กำลังกินดาวน้อยด้วยลำพอง
    อ๋อ ! เจ้ากุ้งตัวโตหน่วยก้ามใหญ่...................ไม่ใส่ใจสายตาใครจะมองจ้อง
    โอ้ย ! เจ้าเม่นหนามแหลมอย่าได้ลอง............สัมผัสต้องร้องเจ็บให้เข็ดจำ
    
    ลอยละล่องท่องจนแดดจะลาลับ...................จำต้องตัดใจกลับไปพักก่อน
    รอวันรุ่งพรุ่งจะมาไม่ตัดรอน......................ยังไม่จรจากลาไปไหนไกล
    ค่ำคืนหลับปรุงจิตนิมิตรชื่น.......................เช้าจึงตื่นเบิกบานใบหน้าใส
    แม้นตัวคล้ำกล้ำแดดไม่เป็นไร......................จะกลับไปลุยใหม่ให้ถึงเย็น
    
    .......................................................................................................................
    
  • นัทอ่ะ

    27 เมษายน 2547 18:06 น. - comment id 255481

    อืม ทำให้นัทคิดถึงตอนสมัยเรียนจัง อยากย้อนเวลากลับไป นั่งล้อมวงกับเพื่อน ๆ พูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราแต่ละคน บรรยากาศเดิม ๆ ที่เราคุ้นเคย ทะเลคือที่ ๆ พวกเราทั้งหลายมีความสุขพอเห็นทะเลต้องคิดถึงมิตรภาพที่แสนดีระหว่างเพื่อน คิดถึงจริงๆ
    แต่งได้เห็นภาพอีกแล้วอ่ะ คุณอาผู้น่ารัก
  • รัถยา

    29 เมษายน 2547 01:30 น. - comment id 256548

    ....ลี่ลองดูก่อนจ้ะ.....แล้วจะช่วยเป็นกำลังใจให้ นะ.........
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    29 เมษายน 2547 01:35 น. - comment id 256550

    มาชื่นชม และได้ชื่นชมถึงสองทั้งรัถยา และ ลี่
  • ลี่...ผู้มาเยือน

    29 เมษายน 2547 12:56 น. - comment id 256726

    พี่รัน...คอยเกลาให้ก่อนนะคะ...............
    กลับจากเขาสก  จะเอามาโพสให้ช่วยแนะนำใหม่ค่ะ
    
    แหะๆ  ข้างบน...ผิดฉันทลักษณ์หมดเลยค่ะ
    เอาใหม่ค่ะ...เอาใหม่...ขอไปซ่อมแป๊บนะคะ
    ...........................................................................
  • รัถยา

    29 เมษายน 2547 14:20 น. - comment id 256764

    รหัสสมาชิก : 4068 - ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ 
    
    ขอบคุณมากนะที่มาเยือน....
    
    
    ..............เอาบัวผุดมาฝากด้วยนะ ลี่
  • ก้อย

    2 พฤษภาคม 2547 00:58 น. - comment id 258405

    อยากแต่งแจมมั่งอ่ะลุง  แต่แต่งม่ะเปงอ่า-_-  กลอนนี้ใช้คำไพเราะมากค่ะ
  • tiki

    2 พฤษภาคม 2547 23:17 น. - comment id 258921

    อิอิ มาอ่านงานลี่แล้วน่ารักจัง
  • รัถยา

    3 พฤษภาคม 2547 20:50 น. - comment id 259639

    ............ก้อย...ก้อยก็เขียนได้...ลองซิ
    
    
    ..........ใช่อ่ะ ทิกิ  แกบรรยายละเอียดยิบเลย....อิอิ
  • ลี่...ผู้มาเยือน

    4 พฤษภาคม 2547 13:22 น. - comment id 260154

    แหะๆ  ขอใช้สิทธิ์พาดพิงค่ะ....  ไปซ่อมเรื่องสัมผัสมามาใหม่ค่ะ
    รู้สึกยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่  พี่ๆ ช่วยเกลาให้ด้วยนะคะ... 
    
    ............................แรงบันดาลใจ.ปลุกน้องสู่ท้องทะเล  (ฉบับลองแก้ไขใหม่) ............................
    
    พิศเพลินมองท้องฟ้านภาผ่อง............ละลอยล่องชลธีวารีสาย
    นักเดินทางกลางเรือใหญ่แลสบาย.ดั่งจะคลายปลดทุกข์มิรุกรน
    มุ่งจุดหมายเกาะใหญ่ชายประเทศ....อาณาเขตอ่าวไทยห่างไกลหน
    นามเกาะเต่านางยวนมาชวนยลจักต้องมนต์ตรึงติดวิจิตรจร
    
    เยื้องก้าวย่างลมโบยโชยสะบัด....คลื่นม้วนจัดเกลียวซัดแล้วพัดถอน
    ยิ้มสลักทายทักมิตัดรอน.อรชรซึมซับสดับยล
    เข้าเคหาจัดวางที่ทางพัก.....ไม่เหนื่อยนักเฉยเย็นไม่เห็นผล
    ได้ชุดเหมาะเลาะริมหาดไม่ร้อนรน.นฤมลดื่มด่ำด้วยสำราญ
    
    ผมสีทองตาสีฟ้าด้วยต่างชาติ.........เดินนวยนาดทอดยิ้มพักตร์พริ้มผ่าน
    แตกที่ต่างผันล่วงไปตามกาล......กลับนำพานพบเอื้อหนุนเกื้อกัน
    แม้นสื่อความตามประสาไม่รู้บ้าง...หากไม่ร้างน้ำจิตไม่คิดผัน
    ยิ้มเพียงน้อยร้อยภาษาส่งแทนกัน..ไร้จำนรรจ์แต่รู้พลันคำวาจา    	
    
    แลเห็นหมายสื่อความบอกให้รู้...เลียบเคียงดูถามไถ่ไร้กังขา
    ล่วงสำเร็จลุความตามเวลา....ชวนกันพาชมลีลาใต้ทะเล
    เพียงวิบเดียวเรือลอยคอยหน้าอ่าว...ชลสกาวใสสลักมิหักเห
    ใส่ชูชีพสวมหน้ากากไม่ลังเล..เสียงฮาเฮร้องก้องในห้องใจ
    
    ลอยผิวน้ำก้มหน้าเสียงฟืดฟัด.......มือก็ปัดขาก็พัดสะบัดไหว
    ให้ฉงนใต้ท้องทะเลไทย................ตื่นฤทัยลืมโลกที่โศกมา
    เจ้าปลาน้อยสลิดหินรวมเป็นหมู่...พิศเพลินดูน่ารักเป็นนักหนา
    โน่นการ์ตูนส้มขาวว่ายไปมา.........ไม่ห่างตาสินธุ์สมุทรสีดุจนิล
    
    ปาการังเขากวางคณานับ.............เคียงสลับเรียงแถวกับแนวหิน
    อุ้ย! ดูโน่นอะไรบนพื้นดิน.............กำลังกินดาวน้อยด้วยลำพอง
    อ๋อเจ้ากุ้งตัวโตหน่วยก้ามใหญ่...ไม่ใส่ใจผู้ใดใครมองจ้อง
    โอ้เจ้าเม่นหนามแหลมอย่าได้ลอง.สัมผัสต้องร้องเจ็บให้เข็ดจำ
    
    ลอยละล่องท่องจนแดดจะลาลับ..จำต้องกลับหักใจพักไว้ก่อน
    รอวันรุ่งพรุ่งจะมาไม่ตัดรอน.ยังไม่จรลาจากทิ้งพรากไกล
    ค่ำคืนหลับปรุงจิตนิมิตรชื่น.........เช้าจึงตื่นพบพาใบหน้าใส
    แม้นตัวคล้ำกล้ำแดดไม่เป็นไร.....จะกลับไปลุยใหม่ให้ถึงเย็น
    
    .....................................................................................................................
  • รัถยา

    4 พฤษภาคม 2547 14:43 น. - comment id 260221

    
    ........ยอดเยี่ยมเลยลี่เอ๊ย....มาสมัครเป็นสมาชิกซะ  พี่จะได้ไปชื่มชม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน