จุดกลางใจ

อาภาภัส


                            จุดกลางใจ
 
                      วาดวงรีตรงที่ว่าง           หาตรงกลางให้เจอะเจอ
                เรียววนปลายเสมอ               แปลกจริงเออเป็นรูปใจ
               อยู่ในทุกตัวคน                      ชังฉ้อฉลปนดีใส
               เกิดก่อจากอะไร                     ฤาเปลี่ยนไปเพราะโลภา
              หลากหลายสายความคิด          ผู้พิชิตยังลับลา
              ความแน่ไม่มีตา                      เมื่อถึงคราหลับทุกคน
              ยังอยู่ณ...วันนี้                         คิดสิ่งดีทวีผล
             มาลัยฤทัยมน                           ร้อยเรียงสนบนรอยวัน
            พรมพร่างด้วยเครื่องหอม          ปรุงรสพร้อมล้อมอำพัน
            ใจเอื้อเพื่อแบ่งปัน                      สุขแดนฝันฝากชนชม
            ฝนฟ้ากลั่นน้ำทิพย์                     ดาวระยิบกระซิบลม
           พลิ้วไหวประกายคม                   หวังให้สมงามราตรี
           ชรอยบุญใดร่วมสร้าง                 ฟากฟ้ากว้างธารความดี
           จากใจข้าดวงนี้                            ขอมอบพลีแผ่อาณา
           ขจรเจิดจรัส                                 จิตประภัสสร์ในภาษา
           ภัยผองอย่าบีทา                            รับพรมาจากบุราณ
          ศรีสิทธ์พิศาลภพ                           มารสยบกลบรอยพาล
          ผดุงเมืองเฟื่องกลอนกานท์           ชาติตระหง่านลานใจเมือง
                                          
                                           อาภาภัส     10 ตุลาคม  2547   บ้านพระประแดง
          
				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    10 ตุลาคม 2547 23:47 น. - comment id 348369

    สวัสดีค่ะ มาแอบอ่านงานดีๆๆค่ะ
  • พี่ดอกแก้ว

    11 ตุลาคม 2547 00:01 น. - comment id 348381

    กลางใจใสจรัส          จิตประภัสสร์งามรองเรือง
    ณ จินต์หมายฟูเฟื่อง  ให้นองเนืองอักษรากานท์
    จับใจในคำเจ้า          กลั่นใจเคล้าด้วยอ่อนหวาน
    มุ่งใจเพื่อหมายจาร   รสทิพย์ซ่านสู่บ้านกลอน
    
    มาเยี่ยมค่ะ...ไพเราะมาก
  • 4501

    11 ตุลาคม 2547 00:09 น. - comment id 348390

    อืมๆ ไพเราะจังแฮะ
    
    
    แวะมาทักทายเจ๊ยามดึกนะขอรับ : )
    
  • อาภาภัส

    11 ตุลาคม 2547 00:13 น. - comment id 348392

    ขอบคุณเพียงพลิ้ว
      เพียงพลิ้วพราวเพลินตา 
      ยินดีหนามาชมงาน
      สุขซึ้งใจสมาน
      สมวิญญานผองเผ่าไทย
  • อาภาภัส

    11 ตุลาคม 2547 00:16 น. - comment id 348394

    ขอบคุณ พี่ดอกแก้ว
    
    แก้วหทัยในใจข้า  งามสง่าเลิศสมัย
    ผดุงศรีกวีไทย       จารึกไว้นานนิรันดร์
  • tiki

    11 ตุลาคม 2547 00:20 น. - comment id 348396

    ตั้งใจเขียนได้งามดีค่ะ
  • ขลุ่ยหลิบ

    11 ตุลาคม 2547 01:24 น. - comment id 348403

    มาเยี่ยมค่ะ
    และมาอ่านงานดี ๆ ด้วยค่ะ
    งานงามจริงค่ะ
  • อาภาภัส

    11 ตุลาคม 2547 08:38 น. - comment id 348451

    ขอบคุณ คุณทิกิค่ะ
    
  • กุ้งหนามแดง

    11 ตุลาคม 2547 08:41 น. - comment id 348453

    เพราะดี มีความหมายค่ะ..
    
    นานแล้วไม่ค่อยเห็นผลงานของคุณอาภาภัสเลย ยังเขียนได้ดีเหมือนเดิมค่ะ..
    
    กุ้งหนามแดง
  • อาภาภัส

    11 ตุลาคม 2547 08:42 น. - comment id 348455

    ขอบคุณ คุณขลุ่ยหลิบ
      วะหวีดหวิวเสียงขลุ่ยหวานเสนาะ
      มากะเทาะเปลือกใจให้ใหลหลง
      มาเกื้ออ่านผ่านตาเพื่อดำรงค์
      ภาษาคงคู่หล้านราวิบูลย์
  • มณี ปัทมะ ตารา

    11 ตุลาคม 2547 10:12 น. - comment id 348505

    ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณอาภาภัส    กลอนงดงามไพเราะมากค่ะ
    
    ขอธรรมะคุ้มครองคุณอาภาภัสค่ะ
  • คนเมืองลิง

    11 ตุลาคม 2547 12:39 น. - comment id 348589

    ^_^ กลอนเพราะมากๆเลยค่ะชอบมากๆด้วยค่ะ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    11 ตุลาคม 2547 14:01 น. - comment id 348648

    รอยด่างกลางดวงใจ  เหมือนจุดไฝไม่ลบเลือน
    ลมรักพัดมาเยือน     แล้วลอยเลื่อนค่อยจางหาย
    หรือกรรมที่เคยสร้าง  ต้องลาร้างไม่ใกล้กราย
    เดือนวันพาฝันวาย  คงแก่ตายพร้อมใจโรย....
  • ardin

    11 ตุลาคม 2547 14:51 น. - comment id 348698

    เขียนได้ไพเราะคะ งดงามมากๆๆ ดินขอแวะมาอ่านด้วยคนนะคะ งานดีๆๆอย่างนี้ ชอบคะ
  • 11

    11 ตุลาคม 2547 16:00 น. - comment id 348768

    มาทักทายคับ
    อ่านแล้ว เพราะดีคับ
  • ลำน้ำน่าน

    11 ตุลาคม 2547 16:11 น. - comment id 348778

    ปณิธานกวีที่น่าชื่นชมมากครับ
    พรสวรรค์นี้ ใช่ๆ ว่าใครจะมีได้ง่ายๆ ครับ
    
  • somebody

    11 ตุลาคม 2547 16:37 น. - comment id 348811

    อยู่บ้านหลังคาแดง....มิน่า...!!!!!!!!!
    
    
  • Tim_KMUTT

    11 ตุลาคม 2547 17:11 น. - comment id 348836

    แต่งได้ดีมากครับ 
    ว่าแต่จะมอบให้ใครกันเนี่ยะ
  • เมกกะ

    11 ตุลาคม 2547 17:52 น. - comment id 348863

    แวะมาอ่านครับ
    
    เขียนได้ดีมากครับ 
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
  • ชัยชนะ

    11 ตุลาคม 2547 17:57 น. - comment id 348868

    กลอนกานท์ที่หวานขีด
    ให้ปราณีตงามละไม
    ผู้ชมนิยมใจ
    ไม่ขัดข้องปล่องทางลง
    
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:07 น. - comment id 349189

    ขอบคุณคุณกุ้ง
    กุ้งจรัสชัดแจ๋วรายเรียง
    ว่ายคลอเคียงหมู่ปลา
    เริงรื่นสดใสธารา
    โรยหน้าบนฟ้ากานท์กลอน
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:14 น. - comment id 349190

    ตอบขอบคุณคุณมณี ปัทมะ ตารา
     กอบเก็บดาวเดือนงามมาร้อยเรียง
    เป็นสร้อยเคียงห้องใจในภาษา
    นามน้ำหนึ่งมณี ปัทมะ ตารา
    สว่างหล้าฟ้าใสในไทยโพม
    
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:17 น. - comment id 349191

    ตอบขอบคุณคุณคนเมืองลิง
    ลพบุรีทวีหวังรั้งตัวเจ้า
    ให้ไปเฝ้าแดนเขตพระกาฬใช่ไหม
    ซึ้งน้ำจิตเจ้าช่างมี้นำใจ
    มาเอื้อไออ่านสารงานชาวดิน
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:20 น. - comment id 349192

    สายน้ำผ่านพล่านเที่ยวไม่เลี้ยวกลับ
    ตะวันลับล่องไปในเวหน
    ค่าของคนคนรู้ค่าก็คือคน
    ที่ฝากผลดวงใจไว้เนานาน
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:25 น. - comment id 349193

    ตอบขอบคุณคุณอาละดิน
    
    นึกเสมออยากเจอเธอสักครั้ง
    ด้วยความหลังจำได้ในกรุงศรี
    ชมละครย้อนรอยกานท์กวี
    เจ้าเป็นพี่ที่เคารพเคยคบกัน
    นามของเจ้าเคล้าชายในสายหมอก
    เจ้าต้องออกจากตะเกียงพะเนียงสวรรค์
    พหุสูตรรุดหล้าเจ้าครบครัน
    บัดนี้นั้นก้องไปในแผ่นดิน
    
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:28 น. - comment id 349194

    สิบเอ็ดเสร็จกิจพิชิตงาน
    อย่าโรยรานเหนื่อยล้าน่ะยอดขวัญ
    มอบดอกไม้ใส่รักทวีวัน
    ให้เจ้านั้นบานเบ่งเก่งกว่าใคร
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:32 น. - comment id 349195

    จากเมืองน่านผ่านรุดลงนคร
    ดุจวอนฤาสายให้เห็นสรวง
    สวรรค์ส่งองค์ท่านมาเพิ่มดวง
    แม้นเลยล่วงพันษากว่าร้อยปี
    คำความเรียงเผดียงผดุงผล
    ยามได้ยลระย่อด้วยองค์ศรี
    มีเดชะอำนาจพร้อมบารมี
    ก่อวาทีคู่โลกโตรกลอยโคม
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:37 น. - comment id 349196

    ตอบขอบคุณคุณที่พูดว่า อยู่บ้านหลังคาแดง มิน่า
    
    ความเป็นคนสอนคนบนทางไหน
    คนลืมใครใฝ่หากว่าสิ้นแสง
    กระจกจิตพิษส่องแลแสดง
    ใจจะแจ้งฤาแกล้งใจใช่คือคน
    อย่าจิกเจ็บเหน็บคำย้ำตนเอง
    ท่านกาจเก่งกว่าใครทุกแห่งหน
    ก็จงกล้าบอกว่ามีตัวตน
    อย่าพีงยลแล้วอิงอ้าหลังคาแดง
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:54 น. - comment id 349197

    ตอบขอบคุณคุณทิม
    คำกลอนกล่าวกึ่งกลาง
    ดังใจว่างกลางใจวน
    ไกลกายสายใจคน
    ส่งสับสนวนเวียนใจ
    มุ่งหวังว่าวันหนึ่ง
    คือที่พึ่งคือมิตรใส
    คำนี้ร้อยพรายไย
    เพียงสื่อให้รู้ใจเอง
    มิเคยหลอกลวงคำ
    จะอิงย้ำมิข่มเหง
    รอพรหมท่านบรรเลง
    หากภูมิเพ่งประจักษ์จินต์
    ทางกันดารสานฝัน
    สร้างสวรรค์ให้เสริมสิน
    สิ้นฟ้าสุดแผ่นดิน
    ประกาศถิ่นวิญญานผยอง
    
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 07:57 น. - comment id 349198

    ตอบขอบคุณคุณเมกกะ
     เข้ามาชมนิยมนัก
    มีความรักสมำเสมอ
    อารมณ์ขันดีจริงเธอ
    มิเจอะเจอก็ชื่นใจ
  • อาภาภัส

    12 ตุลาคม 2547 08:00 น. - comment id 349200

    ตอบขอบคุณคุณชัยชนะ
     คารมหวานไหนจะต้านงานอารมณ์
    ทีคุณชมมิเทียมเท่าคำคุณสาน
    สนิทนิ่มพิมพ์รสสะกดมาลย์
    ทุกคำหว่านเมล็ดไว้ได้กอบกิน
  • ผู้หญิงไร้เงา

    12 ตุลาคม 2547 22:46 น. - comment id 349888

    วาดใจให้สร้างสรรค์
    ส่งพร้อมกันคำแสนวาน
    วาดใจให้รักนาน
    ด้วยต้องการมีรักเรา
    
    *-*แต่งได้ดีค่ะ หายไปนานเลย คิดถึงจัง*-*

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน