กาพย์ขับไม้ : ปลุกฟื้นคืนคม

ภาวิดา


ลีลาสุดเลิศล้ำ                คำครู
เพียงพิศก็ล่วงรู้            ท่วงถ้า
ลีลาเด่นท่านภู่               กำหนด
สัมผัสเกิดล่วงหน้า        จิตรู้จับคำ

ลีลาสุดเลิศ                แพรวพริ้งพริงเพริด
เตลิดอารมณ์             เพียงพิศท่วงท่า
รู้ทางข้างหน้า             สนุกสุขสม
ควรพิศชิดชม           ท่านภู่ขีดคม
ดีเด่นเป็นครู

จดจำโดยไม่รู้               ตัวกาย
จัดวรรควางตัวตาย       ตัดเว้น
จับให้อยู่เรียงราย         โรยกลีบ
คู่สระมิห่างเว้น             หว่างข้างเคียงเคย

จำจดจดจำ                   ลำน้ำลำนำ
คำพรั่งคำพรู                จัดวรรควางตาย
เรียงเรียงรายราย        แลเลิศแลหรู
โรยสระเป็นคู่               หว่างข้างเคียงคู
พิศดูสวยงาม

จำเลยจำรู้ชอบ              ชมนา
ไพจิตรยามอักษรา        ร่างเร้น
สัมผัสข่มกายา               ย้อยหยาด
กลายหลักเพียงการเน้น แต่งแต้มต่อเติม

จำเลยรู้ชอบ                 จำจดรู้รอบ
ใจชอบชมตาม              อักษรร่างเร้น
สัมผัสสวยเด่น              ข่มเค้นพยายาม
คมค้ำคมความ              ดูไม่เกรงขาม
เพียงงามต่อเติม

ความเดิมความนั้นเล่า    รอเรียง
ขาดคู่คำความเคียง          เคลื่อนย้าย
คิดคำคู่ออกเสียง             สมสิทธิ์ ศักดิ์ฤๅ
คมความท่วงทีท้าย          ถ่ายถ้อยถอยความ

ความนั้นความนี้            รอเรียงถ้อยที
เนื้อความเนื้อเดิม          ขาดคู่คำขาด
เคลื่อนข่ายย้ายบาท        สัมผัสส่งเสริม
ความคู่คำเคลิ้ม               ดำริริเริ่ม
เผดิมถ้อยคำ

ยามอ่านองค์เอ่ยเอื้อน    อำนวย
เสียงโสตแสนสระสวย    สิ่งสร้าง
ภาษาคู่คำรวย                เรียงหล่น
แปรเปลี่ยนกลบทบ้าง    บ่เพี้ยนเพียรพยาม

ยามอ่านเอื้อนเอ่ย         เคียงคิดคุ้นเคย
คุ้นการกระทำ               เมื่อเริ่มลิขิต
จิตใจนิมิต                     นิเวศน์ลำนำ
กลบทเดิมซ้ำ                 เปลี่ยนปางร่ายรำ
บ่เพี้ยนพยาม

แอร่มอร่ามเรื้อง             เรืองรัตน์
ลิขิตตามความถนัด         หน่อเนื้อ
ดาลโดดเด่นกำดัด          โดยดุษ
อิทธิพลย่างหยุดเยื้อ        อยู่ยั้งอย่างความ

อร่ามแอร่ม                    แม่ชื่นพ่อแช่ม
ถนัดจิตตาม                   ใจนั้นกำหนด
ขึ้นบาทขึ้นบท                 คลายขดข้อความ
ระบือลือนาม                   ระบบรบราม
อยู่ความคำนึง
                     
				
comments powered by Disqus
  • tiki

    6 มีนาคม 2548 09:20 น. - comment id 434833

    แวะมาเยี่ยมเยือน
    นำกาพย์ขับไม้มาแต่งได้ดีค่ะ
  • คนเมืองลิง

    6 มีนาคม 2548 12:39 น. - comment id 434862

    มาชื่นชมค่ะ 
    เป็นแต่กลอน แต่กาพย์ โคลงนี่ไม่เป็นเลยค่ะ
  • มนต์กวี

    6 มีนาคม 2548 12:52 น. - comment id 434865

    มาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจเช่นกันครับ....
    
  • extreme life

    6 มีนาคม 2548 14:06 น. - comment id 434891

    ขอไหลไป
    ในคลื่นคำ
  • นิรนาม

    6 มีนาคม 2548 16:19 น. - comment id 434934

    ขอชื่นชมในการอนุรักษ์ ไทยไทยไว้
  • แก้วประเสริฐ

    6 มีนาคม 2548 16:41 น. - comment id 434947

    555   นี่แหละครับคือหลักในการเขียนโคล
    ง กาพย์ กลอน ของบรมครูสุนทรภู่อ้างไว้  คุณภาวิดามารจนาได้แสนเสนาะจริงๆครับผมขอเก็บไว้หน้าส่วนตัวนะครับ ขอบคุณมากครับ
    
                            แก้วประเสริฐ.
  • ขอโทษครับ....ผมเมา

    6 มีนาคม 2548 16:44 น. - comment id 434949

    แวะมาชื่นชม  ขอรับ
  • มนต์กวี

    6 มีนาคม 2548 19:00 น. - comment id 435004

    แวะมาให้กำลังใจเช่นกัน...ครับ..
  • ผู้หญิงไร้เงา

    6 มีนาคม 2548 21:48 น. - comment id 435109

    แต่งได้ดีค่ะ  แวะมาชื่นชมในผลงานค่ะ คิดถึงเสมอนะค่ะ
  • ภาวิดา

    6 มีนาคม 2548 22:20 น. - comment id 435126

    คุณทิกิ -- ขอบคุณค่ะ เพียงแต่ฝึกหัดดูก่อนเท่านั้นเองค่ะ 
    
    คุณคนเมืองลิง -- ไม่ยากหรอกค่ะ นี่ก็แอบแต่งตาม ๆ คำครูสอน เอาเหมือนกัน
    
    คุณมนต์กวี --- ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยมชม 
    
    คุณ extreme life -- รู้สึกจะไม่ลื่นไหลนัก อาจจะเวียนหัวนิดหน่อยนะค่ะ ^^
    
    คุณ นิรนาม -- ออกจะแหวกแนวไปหน่อย เห็นแต่แนวรัก กันซะเยอะ ขอบคุณค่ะ ที่เห็นคุณค่ากาพย์ขับไม้เล็ก ๆ บทนี้
    
    คุณ แก้วประเสิรฐ -- นี่ก็ไม่ใช่หลักในการเขียนโคลงซักเท่าไหร่น่ะค่ะ ลองตีความหมายดูอีกนิด แล้วอาจจะทราบความแฝงค่ะ
    
    คุณ ขอโทษครับ...ผมเมา --- ขอบคุณค่ะ ที่มาเยี่ยมชม และลงชื่อเยี่ยมไว้ด้วย เป็นกำลังใจได้เยอะเลยทีเดียว
    
    คุณมนต์กวี -- แอบมาสองรอบเลยทีเดียว ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
    
    คุณ ผู้หญิงไร้เงา -- ขอบคุณค่ะ และคิดถึงเช่นกันค่ะ 
    
    ปล. อยากได้คำติ น่ะค่ะ การติเพื่อก่อ จะทำให้เกิดการพัฒนา และเกิดการแก้ไขข้อผิดพลาด อยากทราบความบกพร่องของตัวเอง เพื่อเป็นประโยชน์ในการสร้างสรรค์บทกลอน ฉันท์ กาพย์ โคลง ต่อไปค่ะ 
    
    โดยปกติแล้ว เวลาไป comment คนอื่น ก็จะแอบติ ข้อผิดพลาด คนนั้นคนนี้ตลอด อันไหนไม่มีที่ติ ก็จะชื่นชมผลงาน ถ้ามีข้อติ ตรงไหน ก็ขอให้ท่านผู้อ่านบอกด้วยค่ะ 
    
    
    
    
  • ภาวิดา

    6 มีนาคม 2548 22:39 น. - comment id 435134

    ความนัยของกาพย์ขับไม้ ที่แต่งนี้ก็คือ
    
    การแต่งกลอนในสมัยนี้ มักจะนิยมแต่งกันตามแบบสุนทรภู่ ซึ่งมีหลักฐานอ้างอิงว่า เป็นกลบท ชนิดหนึ่งของกลอน ที่ชื่อว่า กลบท มธุรสวาที 
    
    ซึ่งในยุคปัจจุบัน เมื่อคนจะแต่งกลอน 8 สักบทหนึ่ง ก็จะมุ่งในรูปแบบของกลบทนี้อย่างไม่รู้ตัว ทั้ง ๆ ที่ตัวกลอน 8 จริงก็มิได้บังคับสัมผัสในแต่อย่างใด
    
    เพียงแต่แต่งแล้วเพราะ อ่านรื่นหู อ่านง่าย ตายตัว ซึ่งนั่นก็คือความนิยม แต่เมื่อเห็นบ่อย ๆ ไม่ว่าไปที่ไหนก็เห็น กี่บทซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วมันดูน่าเบื่อจังเลยค่ะ จากการดูจากกลบทต่าง ๆคิดว่า กลอน 8 มีหลายกลบท และหลายรูปแบบในการแต่ง
    
    เช่น กบเต้นต่อยหอย สบัดสบิ้ง จตุรงคนายก ธงนำริ้ว ตะเข็บไต่ขอน ระลอกแก้วกระทบฝั่ง ดุริยางคจำเรียง ก้านต่อดอก รวมถึงแบบธรรมดาตามฉันทลักษณ์
    
    ซึ่งบางทีการเขียนตามฉันทลักษณ์ธรรมดาไม่มีการเล่นสัมผัสใน อาจจะดูเหมือนกลอนวัยรุ่นไปหน่อย การใส่สัมผัสใน เหมือนกลบท มธุรสวาที อาจทำให้ดูเหมือน เป็นกลอนที่ปราณีตขึ้นบ้าง อ่านง่าย สวยงาม ตามความนิยม 
    
    สำหรับผู้เขียนที่ชอบความหลากหลายทุก ๆ ท่าน น่าจะลองปรับเปลี่ยนกันบ้างนะค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะฝืนในความรู้สึก และสัมผัสในใจ เวลาแต่งกลอนกันบ้าง แต่ก็ถือเป็นความแปลกใหม่ในวงการกลอน 
    
    โดยส่วนตัวคิดว่าอย่างนั้น จึงสื่อออกมาในรูปแบบของกาพย์ขับไม้ คือ โคลง ตามด้วยกาพย์สุรางคนางค์36 อธิบายความ 
    
    ขอบคุณค่ะ
  • อัลมิตรา

    6 มีนาคม 2548 23:20 น. - comment id 435156

    ยังไม่เคยลองกาพย์ขับไม้เลยค่ะ แต่เคยเขียนกาพย์ห่อโคลง .. นานๆทีจะเขียน เพราะต้องใช้สมาธิมาก บางทีเขียนไปวรรคนึงแล้ว ก็ เอ๊ะ ! ไม่ใช่นี่ว่า นี่เราจะเขียนกาพย์ ไหง๋ ลงเสียงเหมือนโคลง .. เอ๋อ ไปหลายหนก็มีค่ะ 
    
    ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดมากนัก เพราะต้องทำงานที่ค้างไว้ด้วย .. ไว้โอกาสหน้านะคะ จะเสวนากันทีละชุดงานค่ะ
    
    
  • ภูตะวัน

    6 มีนาคม 2548 23:22 น. - comment id 435157

    ไม่เป็นแนวนี้..
    มาอ่านได้ไหม..?
    ชื่นชม..บ้างได้ไหม?
    ได้ไม่ได้ก็มาแล้วหล่ะ
    
  • ภาวิ

    6 มีนาคม 2548 23:47 น. - comment id 435172

    คุณอัลมิตรา --- กาพย์ห่อโคลง นี่เท่าที่ทราบก็คือการเล่นของโบราณ คือการที่นำกาพย์มาบทนึง แล้วให้เราแต่งโคลง ให้ความคล้องกับกาพย์ที่นำมา ถ้าจะแต่งให้ง่าย ก็คงประมาณว่า แต่งกาพย์ให้เสร็จก่อน แล้วเราก็ค่อยแต่งโคลงเลียนความของกาพย์ ดูจะง่าย และก็เข้าคอนเซปต์ดีค่ะ ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกรึเปล่านะคะ ที่อ้างอิงไม่แน่ชัด จำได้จากหนังสือเล่มนึง น่ะค่ะ
    
    คุณภูตะวัน --- ไม่ใช่แนวนี้ก็อ่านได้ค่ะ แต่เมื่อก่อนตอนมัธยมนี่แบบว่า ไม่ชอบกลอนแบบแผนเป็นอย่างมาก ที่อ่านในแบบเรียนนี่คือ ไม่รับเข้าสมองเลย
    
    แต่ถ้ากลอนแนว รักหวานจ๋อยนี่จะชอบอ่านมาก ๆ ถึงกับไปซื้อเป็นหนังสือ ตามแผงมาอ่าน เศร้าง เหงา รัก โอ้ย โดนใจสุด ๆ 
    
    แต่ตอนนี้ไหงเปลี่ยนไป เหมือนพระเจ้าลงโทษ กลับกลายเป็นชอบกลอนแบบแผนเดิมไปแทนเสียแล้ว สมองออกจะไม่รับกลอนแนวรักหวานจ๋อยซักเท่าไหร่ แต่ใจก็เปิดรับอยู่บ้างค่ะ 
    
    ก็คิดว่าคนอื่นคงเป็นบ้างน่ะค่ะ ไม่ว่าแนวใดก็แนวหนึ่ง ชอบสองแบบเลยก็อาจจะมี ก็เข้าใจค่ะ 
    
    ไม่ได้มา ไหน ๆ ก็มาแล้ว ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาเยี่ยมชม
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    7 มีนาคม 2548 11:05 น. - comment id 435300

    ขอเก็บไว้ศึกษาหน่อยนะครับ
  • ชัยชนะ

    7 มีนาคม 2548 12:32 น. - comment id 435371

    คนงามจะเขียนอย่างไร ก็งามตา งามจิต
    จะประดิษฐิ์สิ่งไหน ก็โดนตาต้องใจครับ
    
  • สร้อยกัทลี

    7 มีนาคม 2548 13:22 น. - comment id 435421

    แวะมาเยี่ยมค่ะ
    และมาชมกาพย์ขับไม้
    
    
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    7 มีนาคม 2548 16:06 น. - comment id 435517

    ห่อไม่เป็นอ่ะ..ห่อให้ด้วยก็แล้วกัน..
    
    **แวะมาอ่าน ผ่านมาป่วนครับ
  • สวย

    20 มกราคม 2554 08:42 น. - comment id 1180513

    67.gif
    แปล ด้วย ก้อ ดี น่ะ อิอิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน