ยอด หญ้า

ภาวิดา

กรีดคมดาบกวาดคมสอดบนยอดหญ้า
น้ำค้างหยดจากฟ้าผ่าเดือนหงาย
แสงหิ่งห้อยคล้อยแสงดับอยู่วับวาย
กลับมีลมพัดพรายมาลิบลิบ

เสียงช้างหวีดกรีดร้องอยู่กลางป่า
ปลายใบหญ้าคล้อยไหวไยเงียบกริบ
ได้ยินไหมใบข้างต่างกระซิบ
บ้างกระทบพบกระพริบอยู่แซ่ซร้อง

ยามมืดมิดปิดทึบบนหลืบฟ้า
ยามอับแสงจันทราดาราส่อง
แย้มแสงนวลอวลอุ่นกรุ่นละออง
ยังรอเช้าแสงทองอย่างล่องลอย

นั่นแสงทองจุดนั้นนั่นแสงจ้า
จุดยิ่งแรงแสงยิ่งล้ายิ่งล่าถอย
หากจะเป็นแสงเทียนที่เฝ้าคอย
หรือแสงกริ่งหิ่งห้อยในหัวใจ

เสือโหยหิวยืนยืดอยู่ยอดผา
กับหมาป่าหน้าโม่งในพุ่มไม้
เตรียมกระโจนโค่นป่าพนาราย
เหยียบยอดหญ้าหญ้าวายลงพื้นยับ

ต้นสามสีสุดท้องที่ท้ายทุ่ง
เหยี่ยวเพ่งพุ่งจิกโฉบตรลบตรับ
ฝูงมดดำเดินหน้าออกตราทัพ
ออกจากรังยุบยับขับพิรุณ

โครมโครมกึกก้องบนท้องฟ้า
ปีกเมฆาพร่าพรมพร้อมลมหมุน
จักเจาะพื้นไพรป่าล่าอรุณ
น้ำข้นขุ่นแดงฉานบนลานดิน

ยามมีภัยยามหญ้ายังอยู่ยาก
ยังฝังรากยึดพื้นยังผืนสินธุ์
นกมีหูเมื่อหนูมีปีกบิน
ก็ผกผินบินร่อนหลบซ่อนไป

หญ้าเอ๋ย
เจ้าเคยยืนหยัดและอยู่ไหว
เจ้าหวังเพียงอยู่อย่างสบายใจ
ใต้ร่มเงาร่มไทรที่ร่มเย็น

หญ้า...นั่นหรือ
นั่นคือที่เจ้าอยากจะเห็น
อย่างไหนที่เจ้าอยากให้เป็น
ให้ฝันเช่นเห็นจริงหรือสิ่งใด
				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงไร้เงา

    20 กันยายน 2549 18:53 น. - comment id 607908

    ยอดหญ้าพาพริ้วไหว
    ยามที่ได้ต้องลมหวน
    เหมือนนกมาชี้ชวน
    ให้เนื้อนวล...จ้องแลดู
    
    11.gifมองภาพแล้วรู้สึกใจอย่างไงบอกไม่ถูก  คงอาจะเป็นเพราะสีที่ดูแล้วนุ่มนวลชวนให้สัมผัสในอุ่นไอของธรรมชาติกระมั้ง  กลอนแต่งได้ดีค่ะ11.gif
  • เรไร

    20 กันยายน 2549 19:53 น. - comment id 607934

    
    ยามสายลมโลมไล้กับใบหญ้า
    ลมก็พาหญ้าโยนโอนเอนไหว
    แต่มินานลมรำเพยพัดเลยไป
    แต่ก้านใบยืนตนงอย่างคงเดิม
    
    หายไปนานเลยน่ะครับ...
    
    1.gif
  • เพรง.พเยีย

    21 กันยายน 2549 12:49 น. - comment id 608074

    งามจังค่ะ
    
    1.gif
  • สายลมรัติกาล

    16 ตุลาคม 2549 13:28 น. - comment id 615443

    แต่งภาษาได้สวยจัง
    
    เฉพาะกลอนบทแรก 
    
    อ่านแล้วมองภาพถึงอารมณ์ผมจริงๆ คร๊าบ
    
    ^^
  • ภาวิดา

    8 ธันวาคม 2549 14:16 น. - comment id 634464

    จริงๆ กลอนบทนี้แต่งขึ้น จากแนวคิด
    ของคุณนวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์นะคะ
    
    สัญลักษณ์ในการสื่อเหมือนกับบทที่ว่า
    "แล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฎ"
    
    ในทุกสิ่งอย่างที่บรรยายเกี่ยวกับธรรมชาติ
    ล้วนเป็นสัญลักษณ์โยงหาการเมืองทั้งสิ้น
    
    ซึ่งบทนี้แต่งขึ้นเมื่อวันปฎิวัติพอดี
    ซึ่งก็พอจะเป็นเหตุการณ์ที่เปิดเผยได้ยากเช่นกัน
    
    ดังนั้นกวีคงจะหลั่งเลือดจารหมึกกันด้วยวิธีนี้
    ซึ่งก็ค่อนข้างตีความยากค่ะ 
    
    แต่ถ้าตีความดีๆแล้วจะพบว่า
    ทุกสิ่งในธรรมชาติในนี้ หมายถึงการเมืองทั้งสิ้นค่ะ
    
    ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำและติชมวิจารณ์
    จะนำไปแก้ไขและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน