.......หากดวงใจนั้นเป็นเช่นกระดาษ คงจะขาดยู่ยี้ยับนับไม่ไหว ด้วยใจเราพ่ายแพ้แก่ทรามวัย ยื่นหัวใจให้รักยำช้ำแดดวง ......ด้วยหลงใหลใจเธอเพ้อไม่รัก มอบใจภักดิ์อื่นใครในหล้าสรวง ได้แต่เศร้าในวาสนาชะตาดวง ช้ำในทรวงเป็นกระดาษขาดลอยลม .......แต่บัดนี้กลับมิเป็นเช่นที่คิด ยอดชีวิตมีใจให้สุขสม เพียงแต่เรามองไม่เห็นเป็นทุกข์ตรม ด่วนหลีกก้มหน้าเมินเดินจากไกล .......โธ่...ใจเราเหมือนเป็น...เศษกระดาษ ปะติดขาดให้สวยด้วยไฉน คงเป็นภาพปะติด...ของหัวใจ ติดตรึงไปในดวงจิตนิจนิรันดร์
30 กรกฎาคม 2550 23:16 น. - comment id 731594
ใจเราเหมือนเป็นเช่นกระดาษ ต่อที่ขาด ติด สนิท ให้เหมาะสม ต่อติดได้ด้วยกาวใจในอารมณ์ ต่อให้สมสิ่งที่หวังดั่งตั้งใจ

1 สิงหาคม 2550 13:07 น. - comment id 732295
ขอบคุณ..คุณตัวปิงมากๆครับที่มาเยี่ยมให้แรงใจทิดสา...แหม..ชื่อคุณน่ากลัวจัง..มีด..ปืน..ระเบิด(วางไว้เฉย)..งู..หนอน..ทิดสาไม่กลัว..กลัวแต่ปิงนี่แหละ......อืออออ...

1 สิงหาคม 2550 13:56 น. - comment id 732311
ขอบคุณ...คุณทิดสามากนะฮะ....ที่ฝากภาพปะติดดวงใจมาให้.....ก็อย่างที่คุณว่านั่นล่ะนะฮะ.....มันคงจะฉีกขาดจนไม่มีชิ้นดี...เฉกเช่น .......
หัวใจกระดาษ
จากหัวใจที่บริสุทธิ์
ขาวปานประดุจกระดาษสีสำลี
เธอเอาไปขีดเธอเอาไปคลี่
เขียนด้วยหมึกอย่างดีเป็นวลีว่ารักจริงใจ
กระดาษเนื้อใจฉันเปื้อนไปหมด
เพราะเมื่อเธอจดพลาดผิดก็กาฆ่าไป
แล้วหาคำอื่นเขียนขึ้นมาใหม่
ล้วนถ้อยคำลวงใจให้คลื้มไปทุกวี่ทุกวัน
ถ้าอักษรทุกคำมีค่า
คงเป็นตำราหรือเอกสารสำคัญ
ความคงอยู่คงชั่วนิรันดร์
แต่นี่เป็นคำลวงกันค่าของมันจึงไม่มี
จากหัวใจที่เคยสะอาด
ต้องมาฉีกขาดเกรอะกรังคราบรอยราคี
จะหันหาใหม่ให้ใครปรานี
เขาคงไม่ใยดีเพราะหัวใจไม่มีราคา

1 สิงหาคม 2550 18:52 น. - comment id 732412
ทิดสา...จดพลาดผิดจริงๆ...ทิดสายอมรับแต่โดยดี..ขอรับกระผม.....แต่อยากจะบอกคุณนิรนามไว้ว่าคำที่เขียนขึ้นมาใหม่นั้นเขียนจากใจจริง..เขียนจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ.....เขียนจากจิตสำนึกที่ตราตรึงมิมีวันใดแม้นาทีที่จะลืมได้...หาใช่ถ้อยคำลวงไม่...นะจ๊ะคุณ...นิรนามจ๋า....

2 สิงหาคม 2550 12:16 น. - comment id 732789
ฟังคำหวานเยินยอพนอง้องอน
เชื่อใจเขาคงไม่หลอกหลอน
ฟังถ้อยสุนทรหลงเสน่ห์พลัน
หัวใจก็อ่อนไหวเหหัน
หลงเคลืบเคลื้มคำรำพัน
มิได้ไตร่ตรองอกฉันจึงระทม
จะทรมานกันไปถึงไหน
ฉันยอมทนปวดใจไม่พอหรือนี่
ช่างไม่เห็นอกเห็นใจไม่ปรานี
ก่อเยื่อไมตรีอย่างไร้นำใจ
สุดกลำกลืนยืนนำตาคลอ
ด้วยใจที่ท้อและอ่อนล้า
ยืนมองเธอเดินจากลับสายตา
เหมือนสายฟ้าฟาดใจขาดกระเด็น
เคว้งคว้างเหมือนหลงทางกลางป่าใหญ่
มองฟ้าที่มืดมิดไร้แสงดาว
เปลี่ยวปล่าเดียวดายปวดร้าว
เหมือนถึงคราวสิ้นใจเมื่อสิ้นเธอ
กี่หยดนำตาที่หลั่งมา
จากขอบตาไม่ขาดสาย
ให้อัดอั้นบีบคั้นอยู่ในใจ
จนล้นอกจึงให้ไหลออกมา

19 เมษายน 2551 21:20 น. - comment id 840809
.ทิดสาต้องโทษที่ลืมตอบความคิดเห็นที่5...อ่านบทกลอนคุณนิรนามบทนี้แล้ว..มันทำให้ทิดสา....สุดจะกล่าววจีถ้อยร้อยคำใดตอบบทกลอนของคุณนิรนามได้อีกแล้ว...ทราบวึ้งตรึงใจทิดสาที่สุดแล้ว....ไม่รู้เป็นเพราะอะไร.ไม่รู้ทำไม..ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเป็นไปเช่นนั้น......
