...ภาพเงา ในเช้าหนึ่ง...

เพรง.พเยีย


1.
๏  แล้วอีกวันตาตื่นกับชื่นเช้า  
รอยแสงเงาทอดทาบอยู่วาบไหว
ราวเจ้าโบกมือทักขึ้นกวักไกว  
เมื่อกิ่งใบไม้แกว่งด้วยแรงลม
๏  ฟ้าสีฟ้าระบายตัวไปทั่วฟ้า  
สีเมฆพาขาวแซมแต้มประสม
เขียนรอยยิ้มแฝงรอยแห่งอารมณ์  
หมื่นคำคมซ่อนปน..อยู่บนนั้น
๏  สองปีกบาง..บินร้องท่องอิสระ  
แม้ขณะโลกสรวล..หรือโศกศัลย์
เสียงฮัมเพลงหนึ่งหลอมไปพร้อมกัน 
นัยประพันธ์ละเลียดล้ำกับคำนึง

2.
๏  เป็นสิทธิ์ของหัวใจได้ดื่มด่ำ  
ที่ลึกล้ำ..จนเกินประเมินถึง
ทุกร่องรอยเวลายังตราตรึง  
กับเพียงหนึ่งรอยร่างอันห่างไกล
๏  วันเดือนปี..ดำเนินจนเหินห่าง  
แม้หมดทางหวนวันถึงกันได้
ตระหนักดี..ที่เป็นนั้นเช่นไร    
สำหรับใจ..ไม่เคยมี..แม้ที่ยืน
๏  รู้ดี..อย่างไรก็ไม่รัก     
แต่จะหักอย่างไร..ใจยังฝืน
น้ำตามีไหลบ้างในบางคืน  
เพื่อตาตื่นใจกลับ..ยอมรับมัน
๏  ความรักที่เธอว่า..น่าหัวเราะ   
หรือมองเยาะยิ้มตามด้วยหยามหยัน  
ด้วยเหตุผลรองรับ..อยู่นับพัน  
หรือมีวันเธอเล่า..จะเข้าใจ
๏  รักของฉันไร้เลศ..ไร้เหตุผล  
ประสาคนรู้จัก..จะรักได้
มิรู้หรอกว่ารักสักเท่าใด  
นานเท่าไร..ยังผูกพันอย่างมั่นคง
๏  รู้ว่ามิได้เป็น..เช่นดอกฟ้า  
อันสูงค่าพร้อมงามในร่างหงส์
เพียงดอกไม้รอวันกำนัลลง  
มอบบรรจงแด่หมาย..ที่ชายเดียว
๏  แม้มิได้รักตอบ..ก็ชอบธรรม  
จึงมิร่ำขอร้องตามข้องเกี่ยว
ถึงดอกไม้โรยกลีบจนรีบเรียว  
ก็เพียงเหลียวคอยเหมือนเสมอมา
๏  ให้ความเงียบ..รายรอบที่ครอบคลุม 
คอยโอบอุ้มความคิดถึงที่โถมถา
ให้การเลือนลับหายจากสายตา  
แอบข้ามพาผูกปลายแห่งสายใจ
๏  เขียนรอยยิ้มอักษร..บนก้อนเมฆ 
ลอยโยกเยกท่ามกลาง..ฟ้ากว้างใหญ่
ฝากเอาความคำนึงส่งถึงไป  
เผื่อวันไหนเธอทอดแขน..ขึ้นแหงนมอง
๏  ปล่อยเสียงฮัมเพลงรักพร้อมปักษา    
เห่เวลารอคอยให้ลอยล่อง
เสียงเพลงแผ่วซ้ำซ้ำผ่านทำนอง     
มันคงก้อง..เพียงเธอใช้..หัวใจฟัง
๏  มีแสงแดดแทนแขนอุ่น..ละมุนอ่อน     
โอบอาทรโมงยามแห่งความหลัง
เช็ดน้ำตายามไห้ไหลประดัง      
ที่บางครั้งหลั่งคอย..อย่างน้อยใจ

3.
๏  แดดละมุนทอดเงา..ในเช้าหนึ่ง    
รอยคำนึงถึงนั้นยังสั่นไหว
วันเดือนปีทอดเงาอีกเท่าไร
จะดับความเป็นไป..ไม่อาจรู้..				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    14 ตุลาคม 2552 07:37 น. - comment id 1051277

    วันนี้ก็เป็นเช้าชื่นอีกวันค่ะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • .

    14 ตุลาคม 2552 09:42 น. - comment id 1051309

    ๑   สายป่านใจหลุดแล้ว     ลอยหาย
    ตามสุดมือตะกาย              ไขว่คว้า
    ไกลเอื้อมบ่หยุดหมาย      กระจ่าง  ตนเนอ
    จิตหนึ่งเดียวรักกล้า        ต่อแม้นนรกสวรรค์
  • ก้าวที่...กล้า

    14 ตุลาคม 2552 10:44 น. - comment id 1051331

    งามค่ะ งามไปจนถึงภายในจิตใจของผู้กรองกานท์ด้วย 
    
    ชื่นชมค่ะ  11.gif36.gif
  • แมงกุ๊ดจี่

    14 ตุลาคม 2552 11:42 น. - comment id 1051352

    งดงามค่ะ
    
    อ่านแล้ว...ในใจเย็น...
    และรับรู้ว่า  การรักใครด้วยหัวใจ  คือความสุขอย่างแท้จริง
    
    
    36.gif
  • แม่จิตร

    14 ตุลาคม 2552 16:56 น. - comment id 1051467

    36.gif
  • ปรางทิพย์

    15 ตุลาคม 2552 00:43 น. - comment id 1051618

    มองภาพเงาเช้าหนึ่งซึ่งอ่อนไหว
    เสียงหัวใจไห้หวนคร่ำครวญหา
    ยังรอคอยหงอยเหงาเศร้าอุรา
    กลืนน้ำตาคราหลั่งยั้งคำนึง
    
    บทกลอนคุณเพรง.พเยีย ช่างงดงาม
    และซาบซึ้งกับคำว่ารักเลยค่ะ
    36.gif36.gif36.gif
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    15 ตุลาคม 2552 09:30 น. - comment id 1051680

    แต่งกลอนได้อารมณ์มากๆ ครับ
    
    เศร้าสะท้อนออกมาเลย
    
    
    คนแต่งร้องไห้ ด้วยไหมล่ะครับเนี่ย
    
    เห็นคราบน้ำตา ด้วย ก็เลยสงสัย น่ะครับ
  • นิลวรรณ

    15 ตุลาคม 2552 10:15 น. - comment id 1051695

    เก็บภาพเงาเช้านี้ไว้ที่จิต
    เพราะเจ้าของช่างประดิษฐ์ไว้เลิศหรู
    แม้ใครไม่เห็นค่าน่าเชิดชู
    แต่จงรู้ว่าฉันซึ้ง  ถึงภาพงาม
    
    แม้ฉันไม่สามารถวาดขีดเขียน
    เพราะกลัวเพี้ยนจากใจที่ไหวหวาม
    แต่สึกนึกคำนึงถึงนิยาม
    ในข้อความภาพนั้น ดังฉันเป็น
    
    
    กลอนไพเราะและมีความหมายมากค่ะ29.gif29.gif
  • ผู้หญิงช่างฝัน

    15 ตุลาคม 2552 16:00 น. - comment id 1051824

    สวย เศร้า  เหงาลึก..
    
    มาด้วยคิดถึง..  36.gif
  • กิ่งโศก

    15 ตุลาคม 2552 16:19 น. - comment id 1051829

    เช้าๆ ย่อมเหมือนแรกรื่นชื่นบานครับ
    
    กลอนงดงามครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน