เด็กน้อยกับรถถัง และความหลังเมื่อวันวาน

ตราชู

เด็กน้อยกับรถถัง และความหลังเมื่อวันวาน
	พ่อครับ......
ผมนั่งนับวันเวียนจวนเจียนหน่าย
ยังจำมั่นวันนี้เมื่อปีกลาย
เราไปถ่ายรูปเพลินเที่ยวเดินทาง
	มีรถถังตั้งตระหง่านห้าวหาญแท้
เสียงเซ็งแซ่สุขศรีไม่มีสร่าง
ทหารยิ้มพริ้มอร่ามอยู่ท่ามกลาง
กุหลาบพร่างพรรณรายโปรยปรายพรู
	ไยวันนี้หนีหมดหมู่รถถัง
ไม่มายั้งหยุดเฉยเช่นเคยอยู่
ทหารหลายหายหน้าไม่มาดู
ปล่อยให้หนูนั่งคอยน่าน้อยใจ?
	ลูกรัก......
ไม่นานนักทหารกล้าคงมาใหม่
ยี่สิบปีข้างหน้าไม่ช้าไป
ลูกจะได้เห็นจริง เห็นสิ่งเดิม
	เมื่อผู้ใหญ่ใจต่ำตวงอำนาจ
ล่อลวงราษฎร์ล่มรัฐวิบัติเริ่ม
เห็นแก่ตนจนเต็มข้นเข้มเติม
นั่นคือเสริมไฟอยู่ไม่รู้ซา
	ทหารย่อมพร้อมริเริ่มปฏิวัติ
โดยเอารัฐ, ราษฎร์ ตั้งขึ้นบังหน้า
แล้วรถถังพรั่งพร้อมก็ล้อมมา
เหมือนกับคราก่อนนี้เมื่อปีกลาย
	ถึงตอนนั้นลูกนี้คงมีลูก
รักพันผูกพากันเดินผันผาย
มาถ่ายรูปรถถังที่ตั้งราย
หรือโปรยปรายมาลารื่นมาลี
	หรือไม่ก็พอผ่านถึงกาลนั้น
อาจโรมรันร้อนเดือดแดงเลือดปรี่
อาจมีศพซบสิ้นสูญอินทรีย์
วายชีวีน่าสังเวช.....ประเทศไทย!!!
(๑๙ กัญญายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
ข้อความทิ้งท้าย
	ภาพรถถังกับผู้ใหญ่และเด็กๆ พร้อมด้วยดอกกุหลาบ ยังวนเวียนในความทรงจำของผมอยู่เลย ในที่สุด รัฐประหารปีก่อนก็เพียงภาพมายาเท่านั้นเอง เฮ่อ เศร้าใจจริงๆครับผม				
comments powered by Disqus
  • เสียงลม

    20 กันยายน 2550 14:59 น. - comment id 756810

    Hello 46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif
  • โคลอน

    20 กันยายน 2550 17:20 น. - comment id 756942

    55.gif36.gif73.gif
  • อัลมิตรา

    20 กันยายน 2550 22:48 น. - comment id 757073

    ชื่อกระทู้กลอนของคุณทำให้อัลมิตรานึกถึงอีกเหตุการณ์ค่ะ
    ซึ่งเป็นภาพของเด็กน้อยชาวทะเลทรายกำก้อนหินและวิ่งเข้าหารถถัง
    
    โศกนาฏกรรมที่โลกลืม ..
    
    นั่นรถถั่ง..!! วิ่งมาฆ่าใครอีก
    ข้ามิหลีกด้วยหมายคล้ายแม่พ่อ
    มายืนขวางหว่างทางไม่รั้งรอ
    คงต้องขอสู้บ้างอย่างแค้นใจ
    
    แม้นสองมือไร้ปืนมายืนสู้
    อยากรับรู้พ่อแม่...แกฆ่าไหม
    ขอล้างแค้นขว้างหินก้อนดินไป
    เขวี้ยงด้วยใจกล้าแกร่งด้วยแรงมือ
    
    ..เจ้ายังเด็กเหตุใดจึงไม่ถอย 
    จักรอคอยจนดับย่อยยับหรือ ? 
    เพียงสองเท้าก้าวแกร่งสองแรงมือ 
    ทำยุดยื้อยืนขวางอย่างเหิมใจ !..   
    
      
    หินที่ข้าดาหน้าปารถถัง 
    บอกความชังขุ่นแค้นที่แล่นไหล 
    ให้รับรู้... เจ้าศัตรูผู้เกรียงไกร 
    แม้นปืนใหญ่ลูกกระสุนพรุนทั่วตัว
    
    ใช่สยบหมอบราบกับพวกเจ้า
    ขอนอนเฝ้าแผ่นดินถิ่นคุ้มหัว
    พวกเจ้ามาฆ่าใครใช่เกรงกลัว
    มือสั่นรัวใช่หวาดเพียงขัดเคือง
    
    ก้อนหินนี้...แทนคำที่ร่ำร้อง
    พวกพี่น้องพ่อแม่แม้รู้เรื่อง
    จักยินดีที่ข้า...มาป้องเมือง
    แม้นปืนเขื่องดาบคมถาโถมมา
    
    ขอขว้างหินใส่หัวตัวตนเจ้า
    ใจร้อนเร่าคุ้มคลั่งยังหวังว่า
    หากข้าต้องชีพลับดับวิญญาณ์
    ยังดีกว่าตายไปไร้แผ่นดิน
    
    ..จงกระหน่ำเข้ามาเถิดอาวุธ
    กระหน่ำความเป็นมนุษย์..
    ให้จ่มลงพสุธาอย่างสาสม..
    ผู้เก่งกล้าปล้นชาติอย่างโสมม..
    เชิญมาถมวิญญ์ข้า..มัวช้าไย... 
  • ตราชู

    23 กันยายน 2550 07:59 น. - comment id 758113

    สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
    
    	ภาพรถถังกับประชาชนในอดีต เทียบกับปีก่อนนั้นก็เห็นจะต่างกันอยู่หละครับ สมัย ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ หรือ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ แม้กระทั่ง ๑๗ ถึง ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ รถถังจังก้ากราดปืนใส่ผู้ไร้อาวุธ ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยโดยศานติ ทว่า ๒๐ กัญญา ๒๕๕๐ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ครึกครื้นกับมันราวเทศกาลก็ปานกัน ผมคิดว่า ต่อไป ถึงหากจะมีรัฐประหารอีก  คงไม่ถึงกับปราบปรามประชาชนด้วยอาวุธหรอกครับ เพราะเครื่องมือสื่อสารสนเท่ห์ทันสมัยขึ้นมาก ขืนทำเข้า ก็ประจานกองทัพไทยให้กระฉ่อนทั่วโลกเชียวครับ
    	ตอนนี้ ผมกำลังติดตามข่าวการประท้วงที่พม่าอยู่ครับ ถ้าประชาชน นิสิต นักศึกษา เข้าร่วมประท้วงด้วย อะไรจะเกิดขึ้น รัฐบาลทหารพม่าออกจะบ้าบิ่นอยู่ไม่น้อยเลย ลองดูกันนะครับผม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน