น้อมวันทา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ตราชู

น้อมวันทา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
                กิดาหยันหมอบกรานอยู่งานพัด
พระบรรทมโสมนัสอยู่ในที่
บุหลันเลื่อนลอยฟ้าไม่ราคี
รัศมีส่องสว่างดังกลางวัน
                พระนิ่งนึกตรึกไตรไปมา
ที่จะแต่งคูหาสะตาหมัน
ป่านนี้พระองค์ทรงธรรม์
จะนับวันเคร่าคอยทุกเวลา
                ครั้นล่วงเข้ายามดึกสงัด
สงบเงียบเสียงสัตว์ทุกภาษา
วังเวงวิเวกวิญญาณ์
พระนิทราหลับไปในราตรีฯ
                ซอบรรเลงเพลงบุหลันลอยเลื่อน
เด่นดวงเดือนดวงทิพย์ประทีปวิถี
องค์พระพุทธเลิศหล้าเลิศบารมี
เคยทรงสีซอเสียงสำเนียงนวล
                พระปิ่นแก้วปกเกศเป็นร่มเกล้า
ข้าบาทเศร้าโศกซ้ำก่นกำสรวล
ทุกวันคืนขื่นขมระทมครวญ
คิดถึงมวลเมธีกวีไทย
                แต่ปางหลังครั้งพระองค์ธำรงราชย์
ทรงเกื้อศาสตร์ก่อสุขสู่ยุคสมัย
ปวงโกวิทกวีแก้วก่องแววไว
สิ้นลำบากยากไร้อยู่ร่มเย็น
                จนสืบโยงสู่ปรัตยุบันยุค
ให้แค้นขุกขุ่นเคืองรำคาญเข็ญ
ผองกวีอ้างว้างคว้างลำเค็ญ
ไม่วายเว้นเหว่ว้าโศกาวรณ์
                เมื่อความเรียงขานเรียงคารมร่ำ
คนลืมคำกลอนเก่าครั้งคราวก่อน
วัยรุ่นเหลิงเริงเล่นตะลอนตะลอน
เลิกอาทรโลกทรรศน์วัฒนธรรม
                ลายสือศรีกวีหวานวันวานชื่น
ก็คลายรื่นเสาวรพย์ซึ่งอบร่ำ
กวีผ่าวโผยผากพะอากพะอำ
ต้องลำบากตรากตรำตรมน้ำตา
                เหมือนละม้ายไม้ต้นมาต่ำตก
ลูกดกร่วงดาษลงดื่นหล้า
ดอกเด่นโรยดอกลงดาษดา
จำคล้อยห่างเคหาอุรารอน
                มะขามโพรงโค้งคู้เป็นข้อศอก
ฝักกรอกแห้งเกราะกะเทาะล่อน
จันทน์หอมจันทน์คณาจะลาจร
มะลิซ้อนซ่อนชู้อยู่จงดี
                ลำดวนเอ๋ยจะด่วนไปก่อนแล้ว
เกดแก้วพิกุลยี่สุ่นศรี
จะโรยร้างห่างสิ้นกลิ่นมาลี
จำปีเอ๋ยกี่ปีจะมาพบ
                ที่มีกลิ่นก็จะคลายหายหอม
จะพลอยตรอมเหือดสิ้นกลิ่นตลบ
ที่มีดอกก็จะวายระคายครบ
จะเหี่ยวแห้งเซาซบสลบไปฯ
            อัญเชิญพระบารมีโมฬีโลก
ทรงดับโศกเสื่อมสูญอาดูรกษัย
เพื่อลายลักษณ์อักษราเลิศมาลัย
เสถียรไว้วัฒนาถาวรเทอญ
(๒๙ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๔๙)
หมายเหตุ
๑.         งานชิ้นนี้ เขียนไว้สำหรับวันคล้ายวันพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ซึ่งทางภาครัฐ กำหนดให้เป็นวันศิลปินแห่งชาติด้วย
๒.คำกลอนในเครื่องหมายอัญประกาศสองช่วงนั้น ช่วงแรก คัดจากบทพระราชนิพนธ์ละครในเรื่องอิเหนา ข้อความดังกล่าว คือเนื้อร้องของเพลงไทยเดิม บุหลันลอยเลื่อน (เรียกว่าเพลง บุหลันเลื่อนลอยฟ้าก็ได้) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า
เพลงทรงพระสุบิน เล่ากันว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองขึ้นจากพระสุบินนิมิต และทรงดนตรีเพลงนี้ด้วยซอสามสายประจำพระองค์ ชื่อซอ
สายฟ้าฟาด ส่วนช่วงสอง ตัดตอนจากบทพระราชนิพนธ์เสภาขุนช้างขุนแผน ตอนที่ ๑๘ (ขุนแผนพานางวันทองหนี)				
comments powered by Disqus
  • น้ำนมราชสีห์

    23 กุมภาพันธ์ 2550 18:40 น. - comment id 661912

    สวัสดีครับ คุณตราชู
    อยากบอกว่างดงามมาก
    ทั้งศิลปะ ภาพพจน์ และการร้อยเรียง
    เหมือนกินน้ำผึ้งที่ละมุนหวาน แต่ไม่หวานจนแสบคอ และก็ไม่เหนียวข้น แต่จะหวานแม้ล่วงลิ้นไปแล้ว ลีลานุ่มนวล เรียบรื่นแต่ตรงใจ ( อย่าหาว่ายกยอสอพลอนะครับ เพราะชอบจริง) สังเกตว่าช่วงนี้ใช้การอ้างถึงมากนะครับ ทะลุ่มปุ่มปู แล้วก็มางานนี้ก็มีทั้งอิเหนาและขุนช้างขุนแผน ..... สงสัยอิจฉาบรรพบุรุษอยู่รึเปล่าครับ
    
    1.gif ป.ล. ผมเคยคิดจะวิจารณ์งานคุณนะ แต่ไม่กล้า หนึ่งเกรงจะพลาดที่เก็บไม่ครบ สองกลัวว่าคนจะหาว่าสอพลอ 55555 อ้อ ผมคิดจะadd เมล์คุณ เผื่อจะมีโอกาสได้สนทนากับคุณสักครั้ง แต่add ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะใช้ได้รึเปล่า
    
    สวัสดีครับ
    น้ำนมราชสีห์29.gif
  • ห้วงคำนึง

    23 กุมภาพันธ์ 2550 21:24 น. - comment id 661953

    พี่ชูครับ  กำสรวลโกสินทร์ผมอ่านในห้องสมุดครับ   อ่านบทแรกๆเกี่ยวกับชมเมืองนิดหน่อย   แต่ต้องทึ่งกับวสันตดิลกฉันท์๑๔ ที่พร่างพรายในศัพท์แสงมากครับ  ท่านคมทวน ใช้สัมผัสอักษร คำที่ 2 กับ 4 ของวรรคแรกและวรรคสามครับ  และก็อลังการมากๆๆ ผมอ่านก็ทึ่งแล้วทึ่งอีก  แต่เสียดายผมจำมันไม่ได้ครับ เพราะว่าไม่ได้ยืมกลับมา  เดี๋ยววันหลังผมจะไปยืมมา แล้วพิมพ์ให้อ่านนะครับ  อีกอย่างผมส่งเมลล์ครั้งก่อนเป็นงานลุงเวทย์ ได้รับรึยัง ไม่ทราบข่าวเลย
  • ห้วงคำนึง

    23 กุมภาพันธ์ 2550 21:26 น. - comment id 661954

    เมื่อความเรียงขานเรียงคารมร่ำ
    
    คนลืมคำกลอนเก่าครั้งคราวก่อน
    
    วัยรุ่นเหลิงเริงเล่นตะลอนตะลอน
    
    เลิกอาทรโลกทรรศน์วัฒนธรรม
    
    ชอบบทนี้จัง
  • ผู้หญิงไร้เงา

    24 กุมภาพันธ์ 2550 00:08 น. - comment id 662029

    เก่งจริง ๆ เลย
    
    ชื่นชมในผลงานนะค่ะ
  • ตราชู

    25 กุมภาพันธ์ 2550 10:42 น. - comment id 662418

    สวัสดีครับทุกท่าน รวมถึงคุณน้ำนมราชสีห์ น้องห้วงคำนึง คุณผู้หญิงไร้เงาครับ
    	ผมเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งปลาบปลื้มกับวรรณคดีกวีแก้วแห่งบรรพบุรุษท่านเสมอครับ เพราะนี่คือรากฐานการสร้างงานของตนเองตลอดมา ใครจะว่าอย่างไรก็ตามเถอะ ผมขอประกาศด้วยความภูมิใจว่า ร้อยกรองไทยเราไพเราะที่สุดในโลก ด้วยสัมผัสอันแพรวพรายเชื่อมโยงกันตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งโบราณาจารย์ท่านคิดค้นไว้ให้พวกเราสืบทอด ตัวผมนั้น แม้สืบทอดมรดกบรรพชนได้ไม่ดีเลย ฝีมือก็อ่อนด้อย ทว่าก็จะพยายามทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่กำลังความสามารถจะอำนวยครับ   
    	สำหรับอีเมลของผมนั้น บัดนี้เปลี่ยนไปจาก chu@moodam.com แล้วครับ กลายเป็น chupong_trachu@hotmail.com แทน ถ้าคุณน้ำนมราชสีห์และเพื่อนๆจะกรุณาให้เกียรติ ร่วมสนทนากันเล่นๆก็ยินดีครับผม 
    	เอกน้องรัก โกสินทร์กำสรวลนั้น เอาไว้คราวหลังก็ได้ ตอนนี้ ขอให้มีความสุขกับ จตุรงคมาลา ของ ท่านคมทวน คันธนู ที่ยืมมานะครับ น้อง อ่านแล้วน้องจะอึ้ง พออ่านจบจะร้อง สุดยอด งานของท่านลุงเวทย์พี่ได้รับแล้ว และเซฟเก็บไว้ทั้งเครื่องคอมฯ ที่บ้านและที่ทำงานเลยหละ ถือเป็นของมงคลยิ่ง ลำนำเลือด ของท่าน พี่ชอบมาก ทนายความทุกคนควรอ่าน บทอื่นๆก็งดงามยิ่งยวดครับ
       	คุณผู้หญิงไร้เงา ขอบพระคุณครับ สำหรับความเมตตาของคุณที่ผมได้รับตลอดมา เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทำงานต่อไปโดยไม่ท้อแท้ครับผม
  • ห้วงคำนึง

    25 กุมภาพันธ์ 2550 16:30 น. - comment id 662514

    พี่ครับ  บัดนี้ผมกำลังสิงสถิตอยู่ในห้องสมุด   
    เนื่องจาก อีเมลล์ถูก บล็อก จึงขอลงกระทู้นี้นะครับ   
     
    ผลงานร่วมสมัยของท่านคมทวน คันธนู  
    กำสรวลโกสินทร์
     บทแรกๆ       "กระฎุมพีบันทึก"
    
    (เริ่มล่ะ)
    วสันตดิลก
    
    อันเมืองเมลืองทิพยเทพ
    ฯพณฯเทสสราญรมย์
    อันเวียงเผดียงจตุสดมภ์
    ก็สะดวกสะดมการ
    
    สั่งแกล้งแจรงฉลุฉลัก
    จะพยักพเยิดบาน
    จึงแกล้งแสดงอภินิหาร
    มหกรรมมหากล
    
    กี่ขวบประจวบประจุสมัย
    ก็กำไรลำเลาชน
    กี่ศตวรรษผลิตผล
    ก็พิลึกพิเรนตาม
    
    หลงโฉมประโลมปะเหลาะประเว-
    ณิเสน่ห์สนัดยาม-
    หื่นหรรษ์กระหายอภิรกาม
    อภิกามกรีฑา
    
    เปรมปราณประหารณหิริโอต-
    ตัปปะโปรดประหาณอา-
    จารีย์บ่อาจริยปรา-
    กฏอาทิอาธรรม
    
    ม้วนหล้าประเล่ห์หิรณยักษ์
    กรชักหิรัณย์ชำ-
    นาญเล่ห์กระเท่ห์สกุลกำ
    ธนะท่วมพิมานทอง
    
    แผ่นดินก็ดูจะมิกระดิก
    ทุพภิกขภัยครอง
    คำถามสยามทลิทนอง
    และขนัดขนำเนือง
    
    เคลิบเคลิ้มเฉลิมฉลไฉน
    คณะใดกำเดาเมือง
    ครอบครองฉลองมลเมลือง
    คณะใดกำดาลมา
    
    คิมหันต์สวรรค์สุขเสวย
    บุญเกยกำพืดฮา!
    คิมหันต์สิวันทุขประชา
    ก็เพราะกรรมธกำเพรง
    
    โอ้หนูเอยกระเพาะเจ้าจะแปลบประลุประเลง
    โหวงว่างและวังเวง
    บ่วาย
    
    เสื้อแสงฉีกปุปะสกปรกกระจะกระจาย
    ร้าวรานทลายหลาย
    ระรัว
    
    ไร้บุญญาสิริบารมีศิรสลัว
    มืดมนและหมองมัว
    มหันต์
    
    ไร้ซึ่งสาธุสะรับประโคมดิลกขวัญ
    แลพจนาพรรณ-
    ณะนา
    
    เกิดกับกองขยะยากขยับชิวิตคา
    ขื่อในขนบตรา
    เพราะตรวน
    
    ใครสานสืบศกราชพิลาสหทยสรวล
    ซึ่งใครกำสรวลครวญ
    คระคราง
    
    ครื้นเครงแต่กิติศัพท์อำมหิตปาง
    ผลัดด้าวกระดางลาง
    ละเลิง
    
    ถึงวันนี้ก็ตระบัดตระแบ่ผลเถลิง
    แถกลิ้นเถกิงรูป           
    แถลง
    ฉายไฟเป็นระยะแลระยิบดุจแสดง
    เดชล่อแมลงหลง
    ละลาน
    
    ทุกอากัปกิริยาก็ผิดและพิสดาร
    เกินคำจะไขขาน
    ประโคม
    
    แดดเหลือง  ณ เมืองหลวง
    ระอุทรวงทะลวงโทรม
    เสี่ยงไห้เพราะไผโหม
    ทวิเพทุบานยพา
    
    ปวดปิ้มกระสุนปืน
    ทะลุเต็มกระบอกตา
    รวดร้าวบ่โรยรา
    ก็เพราะพวกขยายพันธุ์
    
    ทับถมมิถอนถ่าย
    คละอุบายอุบัติบัน-
    ทึกไว้ประจำวัน
    เฉพาะเผ่าทิฆัมพร
    
    ความหิวบ่รู้เห็น
    รสเคล้นบ่คลายคลอน
    นั่งนั่งและนอนนอน
    ก็กระหน่ำกระหนาบนาน
    
    นอนนอนและนั่งนั่ง
    ขณะคลังกระดืบคลาน
    จึงเลือดชโลมลาน
    ลุเกษียรสมุทรสาย
    
    อวดแสงประกาศศักดิ์
    ฉลุลักษณ์ฉลักลาย
    พริบพริบระยิบพราย
    ฤจะปิดอดีตปูม
    
    ทางเลือกชะธารเลือด
    ฯพณฯอ้วนและอวบอูม
    ศพเพื่อน ณ  แผ่นภูมิ
    บริโภคมิเพียงพอ
    
    เสสร้างประวัติศาสตร์
    สิอนาถอเนจหนอ
    ฤๅหวังจะนั่งวอ
    ก็ตระบัดตระแบงเบือน
    
    แดดดับพยับด้าว
    ระยะยาวผิว์เยี่ยมเยือน
    ความฝันจะฟั่นเฟือน
    ก็เพราะฟ้าฟะฟูมฟอน
    
    โอ! อะไรล่ะซดสยดสยอน
    เขมือบขม้ำขย้ำนคร
    ขมึงทึง
    
    ตัวประหลาดพิฆาตประเทสกระลึง-
    กระลอกขยอกขยุ้มตะบึง
    ตะบันเป็น
    
    พูดก็ผิดและวิตถารประเด็น
    ประดักประเดิดผิว์เปิดสิเหม็น
    เสมอมา
    
    กายประดิดประดอยประดับประดา
    ประดุจมนุษย์ ณ ดารกา
    พิภพไกล
    
    โอ!อะโหอะเหออะหามไอ-
    สวรรย์แสวงสวาทไสว
    สวาปาม
    
    โออดีตอะดักสยบสยาม
    ก็หวังอนาคตาจะทาม
    ทะลวงหาว
    
    เนาวชนสิกล่นสิเกลื่อนและพราว
    ระย้าระยับระยิบอะคร้าว
    คระครืนครืน
    
    ลัทธิเทพเจ้าและฟ้าฤฝืน
    จะล่มถล่มทลายบ่ยืน
    สยายพุง-
    
    ป่าวประกาศตระกองตระกูลผดุง
    เฉลิมฉลองถลกถลุง
    มเหาฬาร
    
    กระหึ่มเสียงเฉวียงสรร-
    ระเสริญกันตลอดกาล
    ฉวัดเวียนเฉวียนวาร
    วะวกวนวะวังเวง
    
    กระแสสายประวัติศาสตร์
    ก็บังอาจละเลงเอง
    พระจากเต้าสิโตงเตง
    ประหนึ่งแทตย์ ณ กรุงธนฯ
    
    เพราะกรุงเทพฯ น่ะเมืองเท-
    วดาเล่ห์ณรงค์รณ
    ฉะนี้คนก็แผกคน
    เสมอไพร่กระฎุมพี
    
    ประกอบสิทธิฤทธิสรวง
    มนุษย์ปวงบ่มีปี
    ประจบชักประชักษ์ชี้
    เฉลิมท้องฉลองทึ้ง
    
    แหละโคตรไพร่ก็คือไพร่
    มิมีใดกระตุกดึง
    ฉะนั้นไพร่ฤพรั่นพรึง
    จะสืบไพร่และเสภา
    
    เพราะมือด้านก็หว่านดิน
    เพาะเทวินและเทวา
    แหละมือหนาก็ทำนา
    ประเคนท่านและคุณเธอ
    
    จะกี่ศกจะกี่ศัต-
    ตะวรรษอัดกระจุก , เออ
    จะกี่ล้านก็บำเรอ
    และบำรุงสิรุ่งเรือง
    
    แหละมือแตกจะแตกต่อ
    ขยายหน่อขนัดเนือง
    ประสานมือก็งำเมือง
    ประกาศกรรมกรกร
    
    ไฉนวัตถุเวียงวัด
    สิโชติชัชวาลชร-
    ระไมพื้นและอัมพร
    กระทั่งปัจจุบันเปรม?
    
    
    จบบท  ที่ชื่อว่า  กระฎุมพีบันทึก
    
    ผมอ่านแล้วอ่านอีก  เพราะว่า เผลอคล้อยตามกับทำนอง จังหวะ จนลืมจับความ  
    ช่างสุดยอดจริงๆครับ  ตอนนี้หนังสือสามเล่มอยู่ในมือผม  กำสรวลโกสินทร์  ชักม้าชมเมือง  และเพลงขลุ่ยผิว   คืนนี้กระจุยแน่  555
  • ตราชู

    28 กุมภาพันธ์ 2550 10:44 น. - comment id 663815

    เอกน้องรัก พี่เพิ่งจะได้ตอบน้องวันนี้  เพราะวันจันทร์ อังคาร พี่หยุดอยู่บ้าน ไม่ได้เข้าเน็ตครับ
    ขอบพระคุณมากๆครับสำหรับ กำสรวลโกสินทร์ ของ "ท่านคมทวน คันธนู" พี่อ่านแล้วเนื้อเต้นเลย อยากหาซื้อหนังสือเล่มนี้จริงๆ สงสัยต้องถามตามร้านหนังสือเก่าแล้วหละ
    เอกอวยพรให้พี่พบหนังสือเล่มนี้ด้วยนะครับ
  • อิคคิว

    11 กุมภาพันธ์ 2555 20:53 น. - comment id 1224409

    ถ้าจะให้ดีพิมทั้งเล่มนะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน