แสงเหนือเมื่อฝนซา

คีตากะ

แอ่วเมืองเหนือเมื่อคราหน้าวสันต์
ผกาพรรณแพรวพรายท่ามสายฝน
รินหลั่งไหลร่วงลงหล้าแลน่ายล
เหมือนม่านมุกร่วงหล่นดลบันดาล

ภูเขาเขียวเคี้ยวคดเลี้ยวลดหลาย
ซ้อนเรียงรายเลือนรางวางตระหง่าน
ท้องฟ้าใสไพจิตรพิศตระการ
ฝนเหนือซ่านแทรกทรวงห้วงกมล

หวนรำลึกนึกถึงคำนึงนิจ
คนเคยชิดเชยชมร่วมลมฝน
กลางทางเปลี่ยวเหลียวแลไร้แม้คน
สองคนด้นดั้นสู่ดอยหมายสอยดาว

เดินตามรอยครูบาฯสู่ฟ้าสูง
หอมจรูงฟุ้งกลิ่นประทิ่นสาว
เคล้าบุบผาพร่างพรายหลายพันธุ์พราว
ทุกย่างก้าวเกี่ยวก้อยคนคอยเคียง

สนธยาเยี่ยมเยือนแล้วเคลื่อนผ่าน
รัตติกาลกล้ำกรายไร้สุ้มเสียง
หริ่งเรไรไขเพลงเปล่งสำเนียง
ไม่พอเพียงกลบเสียงใจในรักลง

สบตาซึ้งตรึงจิตพิศวาท
คงมิอาจหักห้ามความใหลหลง
สื่อความหมายมากมายสายตาคง
แม้เหน็บหนาวน้ำค้างลงคงอุ่นใจ

กราบพระธาตุอธิษฐานผสานจิต
ในคืนมิดมืดมองต้องหวั่นไหว
มีเพียงแสงแห่งรักประจักษ์ใจ
ส่องสุกใสเพียงข่มดาวพราวนภา

แต่คืนนี้มีใครหัวใจเหงา
เซื่องซึมเซาเดียวดายคล้ายห่วงหา
ถึงบางใครไกลร้างหมางอุรา
เห็นพิรุณหลั่งมาน้ำตาซึม.........



				
comments powered by Disqus
  • White roses

    9 ตุลาคม 2550 21:18 น. - comment id 768290

    แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ...สบายดีนะคะ...11.gif36.gif
  • โคลอน

    10 ตุลาคม 2550 14:38 น. - comment id 768698

    เคยไปแอ่วเหนือยามเหมันต์ มั๊ยคะ....บรรยากาศดีดอกไม้สวย เลยค่ะ36.gif11.gif
    
    คีตากะ...เขียนได้เห็นภาพเลยนะคะ ทำให้ระลึกถึงความหลังเหมือนกัน11.gif36.gif6.gif
  • คีตากะ

    11 ตุลาคม 2550 17:25 น. - comment id 769578

    ผมเป็นศิษย์ มช. จะไม่เคยไปได้อย่างไรละคับ...อิอิ....ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย..
    
    หงส์มังกรร่อนฟ้าสง่าสูง
    ฤาหมายมุ่งสู่ดินแดนถิ่นเถื่อน
    เพียงยศศักดิ์หนักบ่ามายาเลือน
    ขอน้อมเตือนหงส์หรือกาหาต่างกัน
    
    สูงหรือต่ำคำสลักเพียงอักษร
    ถลาร่อนแห่งไหนใจสร้างสรรค์
    แท้ไม่มาไม่ไปในโลกันต์
    อยู่ตรงนั้นเที่ยงใจมิไหวติง
    
    เธอรักฉันฉันรักเธอฉันเธอใคร?
    กายจิตไซร้หามีวิสุทธิ์สิ่ง
    รักกันเถิดเลิศแน่แต่ต้องทิ้ง
    ตัวตนสิงหลอกลวงบ่วงทุกข์ตรม
    
    ปล่อยจิตใจให้ไร้ในขอบเขต
    ไร้ประเทศเชื้อชาติศาสน์ครอบห่ม
    วางความคิดยึดติดจิตระทม
    อย่าลุ่มหลงลมลวงห่วงหาคอย
    
    เลิกสมมุติเถิดใจไยกังขา
    รักแท้หนาหามีทุกข์ลุกสักหน่อย
    ไร้ภาระไร้เงื่อนไขใจเบาลอย
    สุขใช่น้อยแท้จริงเหนือสิ่งใด
    
    รักก็รักแต่หวั่นเธอนั้นเศร้า
    ที่มองเงาฉันเป็นคนอีกคนไหน
    เธอคือฉันฉันคือเธอเสมอไป
    ใช่เป็นใครใช่เป็นคนใช่ตนตัว
    
    ร่างสังขารมินานจักสลาย
    มอดมลายดุจเทียนเตียนจรดหัว
    ผู้รู้แจ้งไม่แคลงคลางปล่อยวางตัว
    พ้นความมัวหมองจิตลอนริดใจ
    
    หยุดปรุงแต่งความคิดปรับจิตหมอง
    เปลี่ยนมุมมองแง่บวกอย่าหนวกใบ้
    เพื่อเธอเองจะมิต้องหมองต่อไป
    จะชาตินี้ชาติไหนผองใสงาม
    
    ไม่มีใครทำให้เราทุกข์ได้
    รักฤาชังอย่างไรไม่ครั่นคร้าม
    จิตดวงแท้บริสุทธิ์สุดงดงาม
    ไม่ไหวตามสิ่งหมองลองใคร่ควร
    
    เมื่อปราศคนตนตัวถ้วนทั่วแล้ว
    จงแน่แน่วรักใหม่ให้เสสรวล
    แท้เธอคือความรักรักทั้งมวล
    ตัวตนล้วนแท้คือรักจักเป็นใคร
    
    โลกสมมุติให้เธอเจอความมืด
    จึงหมายยึดมายามาครองไว้
    สุดท้ายมือเธอหรือถือสิ่งใด
    ยามวางวายเหลืออะไรในมือมี
    
    ฉันรักเธอมากนักยากจักรู้
    ด้วยเธออยู่ในความมืดเย็นชืดนี้
    หลอมจิตใจเดี๋ยวสุข-ทุกข์รุกมากมี
    ยากเหลือที่เข้าใจฉันที่มั่นคง
    
    ฉันแปลกหน้าฉันเป็นบ้าฉันท้าโลก
    เยอะเย้ยโศกสุขแลแค่วามหลง
    ฉันไม่มีเธอไม่มีโลกไม่คง
    ใครดำรงรักใครที่ไหนเอย....อิอิอิ
    
    งงซิท่า...จ๊ากๆๆๆๆๆๆๆ...ไปก่อนแว้วๆๆๆๆๆ...
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    19.gif19.gif19.gif19.gif19.gif19.gif19.gif19.gif
  • โคลอน (ไม่ได้ล๊อกอิน)

    11 ตุลาคม 2550 18:12 น. - comment id 769599

    19.gif19.gif19.gif19.gif19.gif19.gif
    
    มาขำเป็นเพื่อน...เอิ๊กส์14.gif
    
    ร่ายซะยาวเลยนะ...บอกตรงๆ งง จริงๆ...เหอๆ53.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน