จึงเปล่าว่างร้างหมดสิ้น

ภีม

หลายคนเดินทางมุ่งสู่กรุงใหญ่
ทิ้งนาไร่คนแก่เฒ่าเฝ้ารอหวัง
แสวงหางานเงินเป็นจับกัง
เลี้ยงชีพด้วยกำลังดั่งวัวควาย
อยู่บ้านนอกข้าใหญ่ในท้องทุ่ง
มาเข้ากรุงเป็นทาสขาดความหมาย
เหงื่อท่วมตัวหัวใจใช้แรงกาย
ยิ่งกว่าควายในนาไร่ที่ใช้มา
ทุนนิยมน่ารักกวักมือไหว
หลอกลวงให้คนหลงตรงเข้าหา
อุตสาหกรรมนั้นหรือคือพัฒนา
นำเงินตราเข้าเขตประเทศนี้
เกษตรกรรมจมปรักมองดักดาน
ทำมานานไม่เห็นเป็นเศรษฐี
ทั้งวัวควายไร่นาบรรดามี
ทั้งนาปรังนาปีมีแล้วจน
นาไร่จึงเปล่าว่างร้างหมดสิ้น
คนทิ้งถิ่นที่อยู่สู่แห่งหน
ด้วยความหวังเงินตรามาแก้จน
จึงไปทนลำบากยากในเมือง ฯ				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    22 กุมภาพันธ์ 2545 12:51 น. - comment id 36815

    อืม..แบบนี้เองที่เค้าเรียกว่าหนีไปตายเอาดาบหน้าเนาะ ถ้ารัฐบาลส่งเสริมเกษตรกรรมให้เท่าเทียมกับด้านอุตสาหกรรมคงไม่มีใครอยากทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนมาเร่ร่อนหางานในเมืองใหญ่แน่นอนเพราะประชากรส่วนใหญ่ในประเทศเราเป็นเกษตรกรไม่ใช่นักธุรกิจ/ อ่านกลอนแล้วรู้สึกเหงาๆ
  • Jeminine

    22 กุมภาพันธ์ 2545 23:50 น. - comment id 36897

    คนเราเมื่อชีวิตมันถึงทางตัน ก็ต้องดิ้นรนหาทางกันไป ถึงจะรู้ว่าเส้นทางข้างหน้า ไม่ได้สบายอย่างที่คิด แต่ก็ดีกว่านั่งรอความตายเงียบๆ อยู่กับบ้าน
  • ธนรัฐ สวัสดิชัย

    23 กุมภาพันธ์ 2545 02:47 น. - comment id 36939

    ภีมแต่งสะท้อนชีวิตได้ดีจังเลย... พี่ยอมรับว่าเขียนแบบนี้ไม่เป็นเลย.... ยอดเยี่ยมจ้า.. กลอนลงตัวดีจัง...
  • ชวาลา

    28 กุมภาพันธ์ 2545 18:44 น. - comment id 37827

    สุดยอด...
    ชนบทยังต้องการคนที่มีอุดมการณ์อีกมาก
    เมื่อเรียนจบหรือไม่ไหว
    กลับบ้านเราดีกว่า
    กายวุ่น แต่อย่าให้ใจวุ่นเป็นพอ
    ...อ่านบทกวีแล้ว..เสียดแทงไปถึงหัวใจ
    มองเห็นภาพชัดเจน....เยี่ยมมากครับ
  • ข้าวปล้อง

    3 มีนาคม 2545 22:55 น. - comment id 38425

    เขียนได้เห็นภาพเลยค่ะ
  • อัษ สายน้ำไหล

    21 มิถุนายน 2545 16:40 น. - comment id 56906

    คนไดที่ได้สัมผัสกับร่วงข้าวสีทองเต็มท้องทุ่ง 
    นั่นแหละคนเข้าใจชีวิตของคนอยู่เบื้องหลังของชาติไทย..ชาติไทยตั้งยุคอดีตที่ผ่านมาจนโอนเตอร์...พวกเราคือชาวนา...อย่างที่คุณว่า..
    ...เขียนได้ดีมากเขียนกวีเกียวกับชาวนาให้มากเขียนอย่างนี้..เพื่อเขียนปลุกคนเมืองให้เข้าใจชาวนามาขึ้น เขียนเพื่อปลุก นักการเมืองผู้ยื่นบนบ่าทั้งสองของคนจนโดยไม่รู้ว่าตัวเองนั่นแหละทำให้ชาวนาหนักทั้งกายและชีวิตจิตใจเพราะความไม่เขาใจของพวกเขาเอง...ขอบคุณที่เขียนบทกลอนเช่นนี้..อัษ  สายน้ำไหล
  • บุษราคัม

    27 กรกฎาคม 2545 00:56 น. - comment id 63001

    เห็นด้วยค่ะ ภีม เป็นบทกวีที่กินใจ ประทับใจ บุษมากค่ะ ภีม เป็นคนที่มองโลกในแง่ที่เป็นจริงค่ะ น่ายกย่อง ค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน