นักปราชญ์แห่งยุคสมัย

..สายลมทะเล..

อยู่อย่างคนตาบอด ไม่สอดรู้
สองหูปิดไม่ยิน สิ้นทุกสิ่ง
ปากพิกุลกลัวร่วง ไม่ท้วงติง
วีรบุรุษตัวจริง ตายหมดแล้ว
ให้คนชั่วเบ่งกร่าง และวางเขื่อง
มอมเมืองพลิกธรรม และคว่ำแก้ว
ที่เคยพายเรือรัฐก็พักแจว
ไร้ท่าทีวี่แววจะคืนเมือง
ท่องจำตำรา ปิดตาสอน
การณ์ร้อนไว้ก่อน เดี๋ยวเป็นเรื่อง
อุทิศตัวนั้นเขลาและเปล่าเปลือง
การเมือง มิใช่เรื่องของกู
นิสิตนักศึกษาผู้ยังเยาว์
ก็เขลากันไปให้หดหู่
ปัญญาชนพึ่งไม่ได้ทั้งศิษย์-ครู
ปล่อยผู้นำเป็นปูสอนลูกเดิน
เฉไฉชูก้าม ไปตามมีตามเกิด
พริ้งเพริศอุปมาว่าหงส์เหิร
ไร้ปราชญ์ชี้แนะ ใดขาด-เกิน
“หน้า”เดิน ให้สังเวช ประเทศไทย
จะข้ามคืนนี้ไหม สงสัยนัก
อาการเธอทรุดหนักน่าร่ำไห้
จะพอมีส้มสูกหยูกยาใด
ยื้อชีวิตประเทศไทยให้ผ่านพ้น
แสงดาวยิบยิบ จะพริบดับ
เมฆเคลื่อนเดือนลับ ไปกับฝน
อัสนีบาตลั่นเปรี้ยง เสียงคำรณ
กูคว้าปืนร่วมปล้น..ผสมโรง				
comments powered by Disqus
  • กะวีปะกลอน

    13 มิถุนายน 2555 22:57 น. - comment id 1235862

    41.gif41.gif41.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน