ดอกข้าว

24 ตุลาคม 2548 14:22 น. - comment id 529549

สวัสดีพี่ลำน้ำน่านนะครับ

ทานทองคำ

24 ตุลาคม 2548 18:05 น. - comment id 529571

ผมไม่ได้เกี่ยวข้าวมาหลายปีแล้ว  มือที่เคยกำเคียวเกี่ยวตวัดรัดรวงงามยามหน้าหนาว  บัดนี่แปรเปลี่ยนมากำหัวอ๊อกซ์หัวเชื่อมแทนเคียวเล่มงามเล่มนั้น
    ต้องมาใช้ชีวิตในหลังคาโรงงานในต่างบ้านต่างเมืองแทนที่จะอยู่ใต้หลังคาฟ้าสีคราม  มองดูเมฆที่ขาวหม่นบ้างในบ้างวันและเวลามันช่างมีความสุขยิ่งนัก
    แต่ ภายใต้หลังคาโรงงานแหงนมองไปก็เจอแสงนีออนมองพื้นก็เป็นซีเมนต์หาความสดใสความเขียวขจีหาได้มีไม่
    มีเงินทองแต่ไม่มีความสุข ทำงานแข่งกับเวลา  มันต่างกันนัก กับพื้นดินท้องทุ่งนาบ้านข้า  
     ถึงแม้ยามหน้าแล้ง ใช่จะแล้งจนแห้งเหี่ยวแบบอับเฉาเมื่อไร แล้งยังเหลืองดั่งทองคำ ยามมีข้าวสุกก็เปล่งปลั่งเหลืองระรองดั่งทองสุกสว่างไสว
     นึกถึงท้องทุ่ง  ป่าข้าว งัว  ควาย  เคียวเล่มเก่า ที่ยังคอยเจ้าของกลับไปกำด้ามเกี่ยวกระหวัดรัดรวงสีทองอีกครั้ง
      บุญคุณถิ่นไทยแดนทองของสยาม
       เรียวรวงงามสุกใสระเรืองรอง
       มิเลือนลืมข้าวทุกคำอิ่มปากท้อง
      ล้วนมาจากพี่น้องเราชาวนาไทย
  จาก หนุ่มลุ่มน้ำยม  มาระทมอยู่ต่างแดน
ขอคาราวะแด่ บุรุษแห่งลำน้ำน่าน  กวีศรีชาวนา

แก้วนีดา

24 ตุลาคม 2548 09:38 น. - comment id 529889

 ปีนี้ตั้งใจว่าจะไปหารวงข้าวใหม่
เพื่อนำมาเปลี่ยนรวงข้าวที่บนหิ้งพระสักหน่อย

มาติดตามอ่านงานดีๆของลำน้ำน่านจ๊ะ...

เพรง.พเยีย

24 ตุลาคม 2548 13:55 น. - comment id 530667

หายไปนานเลยค่ะ

และเช่นเดิม  ได้อิ่มใจทุกครั้งเมื่อได้อ่านค่ะ

สาวบ้านนา ..มาวนรักรักรักนานานาจ๊ะ

24 ตุลาคม 2548 13:55 น. - comment id 530668

ภายใต้ร่มฟ้าแห่งพุทธชมพูทวีป
อันแสนกว้างใหญ่ไพศาล
ภายใต้..

ฟ้า
สีแดง..ฉายฉาน
โชติช่วงชัชวาลย์แห่งความรักชาติ

สีขาว..แห่งยอดพระศาสนาพระรัตนตรัย
อันคือร่มแก้วแห่งขวัญไทยทุกดวง

สี..น้ำเงิน..หมายว่าร่มฟ้าเศวตรฉัตร
อันคือร่มรัตนมณี..กางกั้นเกศ
แห่งทุกผองชนคนแห่งเขตสยาม
ประเทศไทย...

เรา..คนไทย..
มีผืนฟ้าแสนงามนามฟ้าไทฟ้าทอง
ผ่องพรรณราย
ที่..
จักคอยพรายเอื้อโอบให้ไออุ่น
กรุ่นด้วยรักใน
วิถีธรรม วิถีทอง 
วิถีอันคือ
ครรลองแห่งคลองใจสวยใส
รู้รักสมถะสงบงาม
อันพา
ให้ดวงจิตแสนสวยใสไสวเย็น
แสนเป็นสุข..สืบทอดนานว่า

ฟ้า..ที่ยังคงงามเข้มเต็มฟ้า
ผืนกระจ่าง
ที่ค่อยสร้างค่าคนให้รู้ค่าควาย
ให้รู้ใช้ชีวีเคียงดิน
ถวิลรักไพรพงดงดอกข้าว

ที่ทุกฤดูกาลเกี่ยวเก็บ
จักฉายฉาบทาบทา
อาบไล้ให้ทุ่งนาได้กลายสี
เป็นสีทองสุกปลั่ง
และ
หลังจากนั้น..
 เป็นสีเหลืองสะพรั่ง สีน้ำตาล
ยามไร้รวง..

เสร็จจากนั้น
หนุ่มนาสาวนาจะเก็บเคียว
เหนี่ยวเหน็บเก็บไว้
ริมชายคากระท่อม
รอข้าวหอมใหม่ในนา
ที่จะพากันมาลงแขก

ช่วยกัน
ไถหว่านกล้าดำนาเพาะปลูกใหม่
และหวัง
ฝากฟ้าแลดิน
กับอีกทั้ง
สายฝนพรำ
ให้ช่วยย้ำรอยไถให้ไม่แปร
 ไม่แพ้หนี จะทุ่มหยาดเหงื่อและดวงชีวี
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน
เพื่อ..
จะพากันไม่ยอมทิ้งถิ่นทอง
ได้ปองปลูกผูกขวัญข้าวไว้รอเลี้ยง
ท้องชาวไทย มิให้อดหยาก
แม้นจะตรากตรำ
ตัวดำเหม็นเหงื่อไม่งาม

แต่รู้ไหม
 ค่าน้ำใจเสียสละ
นั้นหอมเกินกว่าใดในหล้า
หอมเกินกว่าจะกล่าวคำใดแทน
ใจทั้งสิ้นแทนคนทั่วทั้งแผ่นดิน
เท่ากับคำนี้
คือคำกตเวทิตา
ให้รู้รักค่าคนค่าควาย
ไปจนตราบวันตาย..นะทุกยอดดวงใจ

เพื่อเราจะได้ตื่นมา
ยังมีโอกาสได้พบ
ความสงบงามเงียบเรียบง่าย
ได้สัมผัสความรู้ค่าสามัคคี
สมถะพอดีพอเพียงที่แสนงามงดใจ

ไปกับ
ฟ้าไทย..
ที่ยังผ่องอำไพ
ยังมีสีเขียวไสว..
สีทองพลิ้วไหวระยับ

ราวกับ..
พรมแพรไหมผ่องพราย
เพชรพลอย..แห่งอัญมณีดิน
ในทุกถิ่นที่
แห่งแหลมทองขวานทอง
แห่งผองเรานี้

ไปจนชั่วลูกหลานเหลนโหลนไทย
ในภายหน้า
และ..
สอนสัจจะธรรม
ให้ได้รู้ค่าคำว่า*อิสระเสรี
มีแผ่นดิน 
ที่ยังรอพลีให้ได้หยัดยืนอย่างทรนง

ให้ได้ปิติภาคภูมิ..

พี่ดอกแก้ว

25 ตุลาคม 2548 11:20 น. - comment id 530731

สุขใจในงานวิมานข้าวเปลือก

สวัสดีค่ะบุรุษแห่งสายน้ำ 

สุญญะกาศ ขาดล็อคอิน

24 ตุลาคม 2548 23:28 น. - comment id 530769

        ใช่ขอรับ  ข้าวถือเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เชื่อว่าสมัยก่อนทุกท่านต้องไหว้พระแม่โพสพก่อนลงมือปลูกเสมอ.......
        อย่าลืมว่า บางทีเหมือนมีวิญญานถ่ายทอดจากบรรพชน ไม่ว่าจะเป็น พิธีต่างๆ  การละเล่น .......

อนาลัย

25 ตุลาคม 2548 01:28 น. - comment id 530779

งามทุ่งข้าวเขียวขจีที่มองเห็น
ยังคงเป็นขวัญของใจไม่ให้มัวหมอง
งามทุ่งข้าวแตกรวงเหลืองเรืองรอง
โน้มตัวต้องคล้องทำนองของสายลม
....
หอมข้าวใหม่กับไอดินกลิ่นข้าวฟ่าง
กลางทุ่งกว้างอ้างว้างใจให้ขื่นขม
เหลือแต่แม่แลพ่อเฒ่าเฝ้าชื่นชม
รอเคียวคมเกี่ยวรวงข้าว..รอเจ้าเยือน...

นั่งรถกลับมาจากบ้าน
นั่งมองท้องนาตลอดทาง บอกตัวเองว่า ปีนี้โชคดีบ้านเราไม่แล้ง 
กอข้าวเขียวชอุ่ม และท้องฟ้าสีสดใส
ดีใจจังได้อ่านกลอนต้นข้าว
คงมีแต่พวกเรา..ลูกชาวนา..กระมัง ที่รู้ว่าต้นข้าวมีความหมายมากมายอย่างไร
บอกเพื่อนว่า ถ้าเลือกเกิดได้อีก จะขอเลือกเป็นลูกชาวนาที่มีความเป็นอยู่แค่พอเพียง
..เพื่อนบอกว่า ถ้าชาติหน้ามาถึงจริง คงมีแต่เศรษฐีเท่านั้นที่เป็นเจ้าของผืนนาได้ เพราะชาตินี้ มีแค่ซีพีเท่านั้นที่เลี้ยงไก่ได้โดยไม่เป็นโรคไข้หวัดนก..
สรุปว่าเราอาจจะฝันมากเกินไปอีกแล้วกระมัง

..สวัสดีค่ะคุณลำน้ำน่าน
หวังว่าคงจำกันได้นะ

แมงกุ๊ดจี่

25 ตุลาคม 2548 08:16 น. - comment id 530794

สวัสดีค่ะ   

แสงไร้เงา

24 ตุลาคม 2548 04:15 น. - comment id 531277

อ่านแล้วก็ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอย่างไรดี 
มันพูดไม่ออก ซึ้งมากๆๆ 
แต่ตัวเราเองรู้จักคุณค่าของข้าวนะ 
เพราะพ่อแม่เราก็ชาวนาคนหนึ่งเหมือนกัน
กว่าจะได้มาเป็นข้าวแต่ละเม็ด
ต้องแลกด้วยเหงื่อกี่หยดถึงจะได้มา
เป็นข้าวที่กินได้ 

plaing_piu

24 ตุลาคม 2548 07:46 น. - comment id 531280

ผ่านลมฝนคนกล้าในนาข้าว
รวงเหลืองพราวขอบฟ้าทุ่งนาฝัน
สะอื้นอกตกเขียวเสี้ยวรางวัล
คิดถึงวันนี้เพื่อเหลืออะไร

.........ชอบขับรถเลาะไปตามทุ่งข้าว หอมกลิ่นรวง หอมกลิ่นดินนา หอมชีวิตท้องทุ่ง มันให้ข้อคิดคำนึงกับชีวิตมากมาย รู้สึกผ่อนคลายยามมองไปสุดตา นานมาแล้วที่ได้ทำเช่นว่า
ทุกวันนี้ เหลียวไปมองภาพที่ว่า  ทุ่งข้าวเปลี่ยนแปลงไปมาก มีสิ่งอื่นแซมมาแทนที่
กลิ่นจากโรงงาน  รูปแบบจากที่อยู่ของสังคมเมืองมาแทนที่  วังเวงนะ.......

sodasasa

24 ตุลาคม 2548 12:34 น. - comment id 536998

อ้า.... ชอบจังเลยค่ะทุ่งสีทองเนี่ย มาชื่นชมงานคุณภาพของคุณลำน้ำน่านะคะ 

for^all

1 ธันวาคม 2548 12:03 น. - comment id 543071