ลมหวล

พุด


ค่ำคืนนี้..ท่ามกลางราตรีนิ่งงัน..อบอ้าว
ฉันจุดไฟพราว..แขวนใต้ราวก้านกิ่งแก้ว..ที่ไร้ร้างราดอก..
ด้วยขาดหยาดฝนพรมพรำพร่างพรายให้ชุ่มฉ่ำฉ่ำชื่น..และ
ราวระทมพร้อมไปกับลั่นทมขาวที่ยังอวดดอกพราวหวานเศร้าละมุนชูช่อ
ที่นับวันรอ..ใครบางคนที่จากไปไกลสุดหล้าให้คืนหลังกลับมา..มิช้านาน!
มะม่วงมัน..บัดนี้บางลูกร่วงหล่นสู่พื้นพลัน เพราะมัวซ่อนลูกบังใบ..
เข็มขาว ข้างครัว กำลังชูช่อ..อีกคราครั้งทุกก้านกิ่ง..ที่ฉันทิ้งไว้ไม่หักราน
ให้บานคาต้น..คาใจ..
เล็บมือนาง..ยามนี้เคลียรั้วเลื้อยพันล้อเล่นกับจำปี ที่ฤดูนี้ดอกยังละออพราว
หอมอวลไปไกล ไม่ว่าใครเดินผ่านมา..ทนเสน่หาของดอกดวงแทบไม่ได้
ต้องแอบเหลียวหา เแอบอิ่มอกอิ่มใจถวิลในงามนั้น.....
ฉันเดินลอดซุ้มการะเวก
ราวถูกเสกด้วยมนต์หอมให้เอื้อมเด็ดดอมเบามือมาอิงใจ
ในกอบกำ..นั้นฉันจะวางไว้ตามมุมต่างๆ..
โต๊ะเขียนหนังสือที่วันนี้มีดอกหน้าวัว
หลากสีในโถแก้วทรงสูง 
เหนือขึ้นไปเป็นเฟิร์นกระดาษ 
ที่แผ่ใบเขียวสวยระบัดใบให้เขียวเกิดกลางใจ 
กลางนัยน์ตา กลางบ้าน..
นอกนั้นจะแบ่งปันวางไว้..ริมหมอนให้เคียงข้างละมุนฝัน 
ในคืนค่ำที่หลับไหล
ด้วยคิดถึงใครบางคนสุดหัวใจ..
ในห้องน้ำที่ทุกยามเช้าจะหลงเหลือกลิ่นหวานเศร้า
ขับกลิ่นอบอ้าวให้อวลด้วยอารมณ์ดีเอิบอาบไปตลอดวัน..
เพื่อสู้ฝัน สู้โลก..มิพักลงทุน..
เพิ่งได้..พุดเวียตนามมา..
สาวกลีบบางแต่งามดอกดกมากกว่าพุดซ้อนแม่สาวอรชร
ซ่อนกลีบเป็นชั้นช่อละออหนากว่า..
ที่ฉันนี้รักนักรักหนา และแทบขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารยามเช้า..
ให้บรรยากาศเขียวใสให้ใจงามไปทั้งวันเฉกเช่นกัน
ยามนี้..ฉันชงกาแฟ..มานั่งนิ่งๆจิบแกล้มไปกับใจนิ่งงาม..
กับแสงเทียนวะวับแวม
กับฟ้ากว้าง กับดาวพร่างสุกใส 
และกับดวงใจนี้ที่สุดลึกหวานเศร้าร้าวๆยังไงไม่รู้!
บางที..ด้วยเหตุแห่งใจดวงนี้ที่คิดถึงยอดดวงใจของฉัน
ที่อยู่ไกลกันคนละซีกโลก
ที่เล่ามาว่า..อากาศที่นั่นหนาวตับหด..
และคงผิดกับที่นี่ที่บ้านเราที่ยามนี้คงร้อนจนตับแลบ..
อากาศหนาวที่ชวนเศร้าร้าวไหวให้ใจโหยหา..บ้าน..ของเรา..เมืองไทย..
วิมานดิน..
โลกเรานี้หนอ..มักจะมีอะไรแตกต่างตราบเท่ายังหมุนวน 
ไม่ว่าอากาศหรือชีวิตผู้คน
บนผืนโลกนับพันๆล้านที่จะต้องพานพบทั้งเศร้า..สุข ..ดีร้าย มืดแล้วสว่าง..
คนละด้านคนละสิ่งไปจนกว่าชีวิตจะสิ้นจะลาลับดับไปไม่..รู้ร้อนหนาว..ราวร้าง..ใจอีกต่อไป
ฉันเปิดเพลง..พี่แจ้..กำลังครวญคร่ำ..
เริ่มจาก..อย่าไปเลยบางกอก..
เพลงนี้ฟังแล้ว..เพราะไม่เชื่อจึงเหมือนเรือเกยตื้น
เหมือนปลาผิดน้ำยังไงยังงั้นเลยกับชีวิตชาวกรงในวันนี้..
ตามมาด้วย..ฝนเดือนหก..
รอและคิดถึงฝนหลงฤดู..คิดถึงคุณม้าก้านกล้วยพิลึกยามนี้       
อยากอ่านกลอนดีดี..ที่แทงทะลุใจ..
ใสใสงามๆของกวีที่เขียนถึงชีวิตพื้นบ้าน       
ได้บานเบิกใจและเข้าถึงหัวใจเสียไม่มี..
ที่เพ้อบอกมาว่าพอหน้าฝนกมลนักกลอนจะบรรเจิดจ้า
ราวรอท่าหยาดฝนชะโลมใจ..
ให้อาวรณ์อาลัยถึงใครบางคนที่ลาจากไปท่ามกลางสายฝนพรำ..
กับหยาดน้ำตาที่คงให้อารมณ์ถวิลหาถึงใจกว่ากัน..ใช่ไหมเอ่ย...
เศรษฐีน้ำตา..เพลงนี้ขอมอบให้ตัวเอง..ละกันนะ..
อยากรู้ว่ารวยน้ำตายังไงไปหามาฟังเอง..
และคนหลายใจ...ที่ฟังทีไร..อยากร้องไห้นะ...
เลยคาให้ฟังให้คลอเคล้าใจรานร้าวไปด้วยกัน
กับสายลมอ่อนอุ่น 
ราวฝันฝากใจที่อยากกระซิบปลอบประโลมใจทุกดวง              
ในไทยโพเอมนี้ที่ผิดหวังช้ำตรม..กับโลกกับคนที่หลายรัก!.หลายใจ..
........

ใต้ฟากฟ้า..สุราลัย  
เหนือหัวใจปรารถนา
อิ่มความรักแล้วเอย กลับเมินเลยลับตา
ไม่นำพาก็คงสาหัวใจ..
เพิ่งจะรู้คู่เธอมี เหมือนธุลีขาดลอยไป
เลือกปองมาหลายคน
เจอะแต่คนหลายใจ
ช่างกระไรเจ็บจำน้ำจิตคน
เธอมีคู่ครองมองเห็นอยู่กับตา
บาดอุราเหลือทน
คิดดูรึเปล่าอกเขาก็คนจะทนอย่างไร
เกิดมาแล้วเพื่อจะรัก
หลงภักดีจะมีไหน
เจ็บระกำช้ำตรม สุดจะทนแล้วใจ
จะโทษใครก็ใครใช้เล่าเอย...
ตามมาด้วยเพลงนี้อีกเพลงนะคนดี..ที่โดนใจ..
ลม..หวล..ชวนให้คิด..ถึงความหลัง
พะวัง..จิตคิดขื่นขมระทมใจ..
ตัวใครเป็นคนผิด..อยากถามนัก..
รักไยใจจึงกลับ ดั่งลมหวล
ใกล้เรา..กล่าวถ้อย ในที่รัก
เจ็บนัก..พอถึงอื่นก็คืนคำ
มาทำชิดสนิทใหม่ ใครจะเชื่อ
เบื่อแล้วไยจัก มารับกลับคืน!..


เสียงเพลงหวานเศร้า หวานแว่วนี้
 พ้อเพ้อไปกับฟ้ากว้างกับสายลมระริน..
ด้วยมนต์ขลังแห่งความถวิลหาอาวรณ์อาลัย..ของใจผู้พ่ายรักมากมายในโลกนี้
ที่ยังคงมากมีทุกข์ระทม ขมขื่นใจ 
ตราบเท่าที่โลกยังหมุนวนหมุนไป..มิมีวันสิ้นสุดหยุดรัก..
ทุกสรรพสิ่ง..ราวหยุดนิ่งเงี่ยหูฟังและเอาใจช่วย
กับยามนี้ ที่ดวงใจของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังหลอมละลายนิ่งงัน
นิ่งเงียบกับฟ้างาม..และกับเสียงเพลงจากใจของตัวเองนี้ที่กำลังสะอื้นไห้!
				
comments powered by Disqus
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ไม่ได้ล๊อกอิน)

    16 มิถุนายน 2546 23:44 น. - comment id 147622

    เธอเอาเรี่ยวเอาแรงที่ไหนมา
    สร้างกลอนกานต์สานภาษาให้อ่านได้
    ไม่หยุดนิ่งทั้งร่างกายและจิตใจ
    ห่วงกลัวเธอไม่สบายไปจริงจริง
  • พี่ดอกแก้ว

    17 มิถุนายน 2546 00:09 น. - comment id 147631

    ละเมียดละไมไปกับหนาวร้อนที่ห่างกันคนละซีกโลก
    ล่องลอยไปตามเพลงภาษาคราฝนพรำ
    .....ขอรักนี้คงอยู่คู่ผืนฟ้า
    ปรารถนาแห่งใจไม่เหหัน
    ลมจงหวนคืนมาไม่ช้าพลัน
    ได้ครองคู่ดังฝันวันรอคอย....
    
    มาเยี่ยมค่ะ
    
  • ติตรากร

    17 มิถุนายน 2546 00:25 น. - comment id 147635

    จะบอกกับพุดว่า ในช่วงคืนหนึ่งที่รอแสงรุ่งอรุณ
    ในยามเช้าให้ทอแสง ดวงตาที่เปิดกว้างทั้งที่อยากจะข่มให้หลับ ถ้วยกาแฟถ้วยนั้นคงไม่จำเป็นในยามนี้ ก็กาแฟดำขมจนกลืนไม่เข้า จะทำไงดีกับกาแฟถ้วยนั้น แทนที่จะเททิ้งเพราะความชืด หยิบพู่กันขึ้นมาจุ่มกาแฟ แล้วก็ระบายภาพฝันไว้บนแผ่นกระดาษสา จากกาแฟชืดๆ กระดาษสาเปลี่ยวดาย พบว่าได้ความงดงามที่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์แห่งทีแปรงอันนิ่งงัน แต่ทรงคุณค่าทุกครั้งที่จ้องมองดู กับกลิ่นกาแฟอันหอมกรุ่น ที่ติดตรึงไว้ในภาพฝันนั้น ตราบนานเท่านาน มอบภาพนี้ไว้ให้พุด ในยามนี้ ด้วยเสน่ห์แห่งภาพลายเส้นที่พริ้วจากปลายพู่กันด้วยกาแฟถ้วยนี้
    
    
  • ติตรากร

    17 มิถุนายน 2546 00:36 น. - comment id 147637

    ฝากเพลงให้พุด
    
    ดวงตะวันลับไป
    ดวงฤทัยให้หวน
    ยามสายัณห์รัญจวน
    ปั่นป่วนอุรา
    
    ค่ำลง ค่ำลง
    ค่ำลงพะวงไม่วาย
    อยู่เดียวเปลี่ยวกาย
    มิคลายระทมตรมเศร้า
    
    มืดมนหม่นหมอง
    เหม่อมองหาคนคู่เคล้า
    อกเอ๋ย เงียบเหงา
    โถเราระกำคร่ำครวญ
    
    อยู่ไหน อยู่ไหน
    ขวัญใจไม่มา
    เลื่อนลอยคอยหา
    น้ำตาระทมท่วมใจ
    
    อกเอ๋ยเงียบเหงา
    โถเราระกำคร่ำครวญ
    
    
  • พุด

    17 มิถุนายน 2546 00:40 น. - comment id 147640

    ในชีวิตจริงหญิงคนนี้
    ช่างมากมีเรื่องราวข่าวถามหา
    มีคนรักมีคนชังหลั่งน้ำตา
    มีเหว่ว้ามีเหงาเศร้ามีเข้าใจ
    มีความหลังฝังใจให้จำจด
    มีงามงดงามงามง่ายไร้หวั่นไหว
    มีความหวังวันข้างหน้าให้ก้าวไป
    มีหัวใจทำหน้าที่ที่ดีงาม
    มีดวงใจไทยโพเอมไว้ปลอบขวัญ
    มีงามจันทร์ฝากใจจนไหวหวาม
    มีความรักเมตตาทุกโมงยาม
    มีความงามความพอดีที่พอใจ
    มีโลกจริงสิ่งดีร้ายให้บทเรียนสอน
    มียอกย้อนแค่ไหนไม่หวั่นไหว
    มีผูกพันรัดร้อยใจต่อใจ
    มีน้ำใจใครใครในเวทีนี้ที่อยากกล่าวคำว่าซึ้งใจว่าขอบคุณ...
  • พุด

    17 มิถุนายน 2546 00:51 น. - comment id 147642

    ติตรากร..
    ไม่มีราตรีไหนจะซึ้งใจซึ้งคำเท่าค่ำคืนนี้
    ที่ติตรากร คนดี..คนเก่ง
    ให้เกียรติมาเขียนงาม..ความหมายล้ำค่าฝากไว้ให้ประโลมใจดวงใกล้ราโรยไร้ร้างของพุดพัดชา..ค่ะ
    และล้ำค่าดั่งตะวันส่องนำทางเส้นทางเขียนที่พากเพียรพยายามให้ผุดงามขึ้นกลางใจ..
    
    และอยากบอกว่า..เหตุผลที่ฤกษ์ฝากถามไว้ได้คลี่รัก..ลายใจ..ที่ไหวงาม เพราะเหตุนี้..ค่ะ
  • ลำน้ำน่าน

    17 มิถุนายน 2546 01:43 น. - comment id 147659

    ช่วงนี้ฝนเริ่มโปรยปราย กับภาระกิจที่ยุ่งเหยิงเสียจนไม่มีเวลาเข้ามามากนัก  เหมือนดวงใจจะไฟมอด มาเติมด้วยงานงามของพี่พุดพัดชา ที่อยากจะบอกว่า ดวงใจฝันอันระวีของหนุ่มน้อยคนนี้ นั้นสุขยิ่งนัก.....มาแต่ไหนแต่ไร...
    
    ด้วยรักและคิดถึงพี่พุดพัดชาครับ
  • พุด

    17 มิถุนายน 2546 01:56 น. - comment id 147661

    รอรอรอและรอ
    พ้อพ้อพ้อและเพ้อหา
    เธอพรากไปหนใดไม่กลับมา
    ตราบทิวาต่อราตรีฝากกระซิบถึงคนดียังรอรอและรอ.............  
     ...................
    
     คนไกล..ไกลแค่กายใช่ไกลขวัญ
    ใกล้พระจันทร์ดวงเดียวเกี่ยวใจหา
    ไกลแค่ไกลใจใกล้ใจไม่เกี่ยวกาลเวลา
    ไกลพิสูจน์ค่าความหนักแน่นถึงแก่นใจ.. 
    
  • ขวัญข้าว

    17 มิถุนายน 2546 03:17 น. - comment id 147663

    มีเพลง ลมหวน  ฉบับดั้งเดิมหรือเปล่า (ย้ำนะเพลงเก่าเดิมเดิม)เคยฟังไหม หากมีแล้วก็แล้วไป  หากยังไม่เคยฟัง  บอกนะ  จะส่งไปให้  ฟังแล้วจะสงบเย็นยิ่งกว่าแอร์ยี่ห้อใดใดเลยละ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน