กระท่อมทะเลขวัญ!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=78
(หนาวตัก)
********


ทะเล..กลับมา*กระท่อมทะเลขวัญ*ในวันนี้
กลับมานอนดูทะเลทิพย์ทะเลทองทะเลไทย
ทะเลแห่งดวงใจแห่งชีวิต..จิตวิญญาณ
ที่.....
หลอมละลายนวลเนื้อใจ
ให้หอมไพรหอมพร่างหอมหวาน
ใช่!..เค็มขมปี๋ดั่งเช่นทะเล..ทะเล


ฉะนั้น
ทะเล..
จึงมีชื่องามเช่นฉะนี้
ให้คนมากมีมากมายโอ้ละเห่ถาม
และหันมามองยามที่มีใครเรียกชื่อ..
ที่เขาคิดว่าแสนแปลก


แต่..
สำหรับทะเล..
จะชื่อนี้จะชื่อนั้นใช่จะสำคัญไฉน..
จะชื่อนี้ชื่อไหน..
ความภูมิใจในตัวเอง
ก็คงก่อเกิดจากคุณงามความดี
แค่มีชื่อดีหากทำชีวีแสนแย่
ก็สักแต่เกิดมาเป็นคน..คน..คน 
ก็แค่นั้นก็แค่นี้


ไฉนฉะนี้ เราทุกคนดีทุกดวงใจ
อย่าได้ไปหลงยึดมั่นถือมั่นเลยนะ
เพราะ
ทุกชีวัน..จำต้องมีชื่อ
ก็คือแค่นำมาใช้ในทางโลกย์
ให้มาพบโศกสุขสับสน
มิให้อลวลอลเวง
บรรเลงกันตามรอยวงกรรม 
จนกว่าจะถึงวัน...
*ตะวันใจ*ลาลับดับดวงไปชั่วนิจนิรันดร์
เพียงนั้นเพียงนี้
และแค่ใคร่ครวญเพียรค้นหาค่าขุมทรัพย์
ที่ระยับระยิบอยู่ภายในตน


เพราะตนเท่านั้นที่พึ่งแห่งตน..นะคนดี
ทะเล..แค่มาพลีค่าคำฝากอุบาย
ให้ทุกคนใช้สติมีสมาธิ
ที่จะเพียรพาพบปัญญาอันสว่างวาบวะวับวาว
ให้พราวดวงดอกว่างนะกลางใจ
เพื่อนำทางจิตนำทางใจไปในภพหน้าชาติหน้าท่ามีนะ


นาทีนี้ดนตรีธรรมชาติวาดเวิ้งฝัน
พาไปสู่สวรรค์หล้า ให้ธรรมชาติธรรมดา
ที่เราผู้ซึ่งก็ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดาเช่นเฉกกัน
ที่เราพานพบเห็นอยู่ทุกวัน
ได้มากล่อมขวัญพร่าง 
ให้ได้พบแก้วกระจ่างนะกลางใจ
ให้มาสอนใจให้รู้รักรู้จักเงียบงาม
ให้ใช้ดวงตาตามค้นหา..ผสมผสานร่างจินตนาการเข้าด้วยกัน


วันนี้
ทะเล..
จึงพาชีวีชีวิตที่แสนหวานตระการงามมาค้นหา
พบฟ้าสวยสดสว่างไสว
ให้ทุกดวงใจพิสุทธิ์งามตามมาสัมผัสความงามงดเรียบง่าย
ภายใต้ชายคา*กระท่อมทะเลขวัญ*
มาร่ายมนต์ฝันบทกวี..
มาแทนที่..นะที่หนึ่งที่ทะเลหวังไปเยือน

*ที่ซึ่งขุนเขาทะลุเมฆ
บางวันฝนเสกรักโปรยหวาน
บางวันดอกไม้ได้เบ่งบาน
และบางวันลมสะท้านก็ทระนง*

ที่ชึ่งทะเลอยากจะเหชีวิตไปสัมผัสฝัน
บันดาลใจกับบรรดากวี*คลื่นใหม่*
ในแวดวงวรรณกรรม
ที่ระรินร่ำฝากผลงานมาจากยอดภู*คีรีวง*
(หนึ่งในยอดเขาสูงตระหง่านของเทือกเขาหลวง)
สูงเสียดฟ้า
ที่ด้านล่างคือต้นไม้
ห่มคลุมไปตามขุนเขาสลับซับซ้อน
จากในหุบเขาริมแม่น้ำที่ผูกเปลนอนเฝ้าจ้องมอง
ดูดวงอาทิตย์หย่อนดวงลงเบื้องหลังภูเขาหลังทุ่งนาเวิ้งว้าง*


ที่นะบัดนี้
ผลงานงามได้เข้ารอบสุดท้ายกวีนิพนธ์ซีไรท์ปี2547แล้ว
ฝากเกียรติยศให้ปรากฎแก่ผืนดิน
และแก่กวี..แก้ว คุณกานติ ณ ศรัทธา
ให้สมกับที่ได้เกิดมารจนาสิ่งที่รักด้วยความเพียร
ที่ต้องใช้ทั้งพรสวรรค์และพรแสวง 
แข่งกับความตั้งใจความขยันของตัวเอง
ถึงจะฝากผลงานอันงาม*นิยามกวีนิพนธ์*
มาประดับโลกประดับใจได้ ใช่เพียงแค่ใฝ่แค่ฝันฝันฝัน..


และ
นะที่ซึ่ง
คุณกานติ ณ ศรัทธากวีผู้กล้า
ได้ฝากคำรำพึงราวฝันไว้
หากทว่าคือ*ธรรมชาติขวัญ*อันจริงแท้
ราวสวรรค์ลอยเลื่อน
และดวงใจที่ประดุจดั่งนกไพรพร้อมจะเหินบิน
ลอยละลิ่วปลิวตามงามไปแล้วนะบัดนี้.


*ที่ซึ่งขุนเขาทะลุเมฆ*
ที่ซึ่งขุนเขาทะลุเมฆ
ฟ้าวิเวกวาววามวะวิบไหว
หมอกกระจายลอยล่องละอองไอ
นี่คือลมหายใจแห่งชีวิต
ขุนเขาสถาปนาอาณาจักร
ขอบเขตแห่งรักอันศักดิสิทธิ์
มีปราการต้นไม้ไว้ป้องพิษ
มีสายน้ำเย็นสนิทนิจนิรันดร์
เทวดาสร้างไว้มิไดเลย
นอกจากโลกจะเผยภาพในฝัน
คือสงบสะอาดมานานครัน
และแบ่งปันไปทั่วทั้งจักรวาล
ที่ซึ่งขุนเขาทะลุเมฆ
บางวันฝนเสกรักโปรยหว่าน
บางวันดอกไม้ได้เบ่งบาน
และบางวันลมสะท้านก็ทระนง
สูญไปแล้วใช่ไหมไข้เพ้อคลั่ง
เมื่อท่านมาหยุดนั่งเหนือลุ่มหลง
เหนือบุญบาปทั้งปวงที่ล่วงลง
นี่คือสิ่งสูงส่ง ณ ฟ้าพราว
ที่ซื่งขุนเขาทะลุเมฆ
เหมือนใจเสกสร้างฟ้าฝ่าเหน็บหนาว
นั่นแสงสาดหมอกวาบอยุ่วับวาว
ถามคนเอ๋ยปวดร้าวทำไมกัน*
*******


จำต้อง
กลับมาอีกทีนะคะ
ที่*กระท่อมทะเลขวัญ*
เมื่อไปไหนยังไม่ได้ตามใจฝันอิสรา.
กลับมายัง*กระท่อมทับ*
ที่มีมะพร้าวลูกดกรอบคอต้น
ที่กำลังระบัดใบไหวก้านไสวพร่างคลอลมทะเล
มีดงตาลโตนดหวานเคียงใกล้รายรอบ
มีกระบอกไม้ไผ่ปล้องใหญ่แขวนไว้ใส่น้ำตาลสด
แขวนไว้ใต้ต้น
รอคนขยันมาปีนเฉาะลูกตาล
นำน้ำตาลหวานๆมาใส่


และ
ให้ใครใครที่หัวใจขาดน้ำตาล
ทดลองชิมรสสดสดหวานหวานจากปากกระบอกตาล
ที่ลิ้นละมุนรอรับรสระรินมิสิ้นกลิ่นเมา..
และทะเลขออาจเอื้อมนำเอาบทกวี
ที่เคยตอบโต้ไว้
มาฝากผ่านทุกสายตาสายใจอีกคราครั้ง
เพื่อให้ระลึกถึงงานงาม

 
เพียงสดับคำร่ายคล้ายปลุกชีพ
เห็นใบตาลจีบลับกับขอบฟ้า
เมื่อหวันขึ้นฉายแสงแรงขึ้นมา
ให้หนุ่มนาปักต์ใต้ไต่ขึ้นตาล
น้ำตาลหวานปานหนึ่งน้ำผึ้งรวง
เมื่อพี่หลวงแบกบอก..คล้ายรอกผ่าน
ให้ประหวัดถึงกระดึงซึ่งแนบนาน
อยู่ท้ายบ้านนอกท่อง..มองเห็นลิบ
ตาลเดียวดายยืนเดี่ยว..เกี่ยวลมว่าว
เห้อ..น้องสาวมารับน้ำตาลจิบ
หวานตาลโหนดโจทย์นาน..หวานระยิบ
ก่อนเคี่ยมดิบบ่มใส่..ได้ตาลเมา
เสียงไก่เถือนขันเทือนทั้งหมู่บ้าน
ยางทะยานบินร่อนค้อนเหลี่ยมเขา
หวันจะตกเดือนจะขึ้น...ส่องถึงเรา
หนังโนราห์ตลุงเงา..จะบรรเลง
ช่วงเดือนเส หอมซัง--ครั้งนาข้าว
ทั้งลูกม่าวเด็กแย่งแข่งข่มเหง
ต้นยางเหลืองผลัดใบ...ให้วังเวง
พี่หลวงเห้อ...หนาวร้าวเล็งอยู่เมืองลวง
จิตวิญญาณเกลื่อนกระจาย..ในสายลม
เลือดเข้มขม..ปนน้ำครำ..ซ้ำเมืองหลวง
หนุ่มปักต์ใต้ฝากหัวใจไปตามดวง
รอลมว่าวพัดตกร่วง...ตรงดินเดิม
***********
 

สาวบ้านนาสาวบ้านทุ่ง..
เป็นสาวนาหลงหนังลุงนุ่งปาเต๊ะดอก
ชอบเพลงบอกเพลงโนราห์แม่ค่ะเหอ
ชอบพี่หลวงควงไปแลหลงละเมอ
หลอกให้เหรอเพ้อทุกวันมั้นน้อยใจ..
คงไม่หรอยเหมือนสาวกรุงนุ่งสั้นสั้น
คงไม่มันส์ผิวไม่ขาวดำไม่ไหว
แหลงไม่เพราะอ้อนไม่เป็นแหลงตรงใจ
แล้วมั้นไซไม่ได้แรงกับแหลงลวง
น้ำตาลปากบอกหลอกให้จิบใสพิษรัก
มั้นหวานนักไม่นานก็หายหวง
พี่หลวงเหอเจอสาวกรุงยุ่งลืมรวง
มัวแตหวงแต่หันหวันลาลับ
ลืมลูกม่าวแกงเคยเคยว่าหอม
ไปถุกหลอมสาวหมวยสวยระยับ
ลืมน้ำชุบพุงปลาในสำรับ
ลืมหนำนานอนนับเสียงดึงวัว
ทั้งเดือนสามเดือนเสเซไปไหน
คอยไม่ไหวพี่เหอเผลอมั่วซั่ว
สาวนาหว่านผ่านเดือนหกฝนระรัว
หยามหวันหลัวใจก็แล้งหมดแรงเลย..
*********


 แด่ชมรมวรรณกรรมลำน้ำตาปี
ด้วยจิตวิญญาณและเนื้อใจ
โอ้ตาปีไหลหลากเคยจากไป
ทิ้งกลิ่นไอแห่งหลังให้คลั่งหา
เมื่อจากไปใจหนึ่งคะนึงมา
คิดกี่คราคิดถึงซึ่ง...ลำนำ
ฝากดวงใจให้จมลงใต้น้ำ
เมื่อทุกยามหนาวดิ่งยิ่งระส่ำ
เพียงใด้ยลได้ยินสิ้นถ้อยคำ
ราวจะคลั่งจะใคล้ในเนื้อความ
หวังระวีคลี่งามตามเดิมดิน
หวังทิ้งสิ้นเลือดใต้ในสยาม
จะหลั่งรินไหลถมบ่มนิยาม
สงบงาม..ดั่งตาปี..ที่ข้ารัก
เถิดสายน้ำยามนี้มีเพียงเรา
สะท้อนเงากลิ่นใต้ให้ประจักษ์
เถิดตะลุงเล่นเพลงบรรเลงรัก
ให้คึกคักโถมถั่ง..ทุกวังเวียง
ขอเทริดส่งโนราห์ข้ายกทูน
มาช่วยหนุนเลือดใต้ให้ส่งเสียง
ให้ว่ากลอนฟ้อนรำ..จำสำเนียง
แว่วไกลเพี้ยงโพ้นฟ้า..ผาหลายก
เถิดตาปี..พัดพา น้ำตาหนึ่ง
ไปรวมบึงรวมหนอง..ทั้งคลองบก
เมื่อรวมสายหมายมั่น..พลันสะทก
เลือดจะซกฉาบล้ำ..ฉ่ำแผ่นดิน
**********
  

และนอกจากนั้นใกล้กระท่อมฝัน
ยังมีไม้ไทย โมกสะพรั่ง ที่ยังทนไอเค็มได้
พร่างพรายนวล..
ดวงดอกกระจิ๊ดริ๊ดมาทายทัก ทะเลจริงทะเลใจ..
ทะเล..พยายามปลูกไม้ไทย มากมาย 
และที่งามอย่างไร้ที่ติ
คือลีลาวดีหลากสีสวยเศร้า
ที่เฝ้าส่งกลิ่นระรวยในยามเย็น


ที่ดูราวกับจะเป็นพันธุ์ไม้
ที่ผู้คนทั้งรักทั้งชัง
ให้ทั้งหวานหวังและชมชื่น
แม้นจะน่าขื่นขมระทมใจในบางครั้ง
สำหรับบางคนที่ยังเชื่อถือโชคลาง
ที่บัดนี้กระทั่งคฤหาสน์มหาเศรษฐี
ก็ยินดีปลูกประดับบ้านประดับใจ
มิไหวหวั่นเมื่อนามลั่นทมนั้นได้เปลี่ยนไป๋
ผู้คนพากันหลงในมนต์สีสวยหอมเศร้าน่าเสน่หา
เหมือนผกาใจ
เปรียบหญิงงามใจ
ผู้มากความระทม
หากยังมีมนตราพาพิสวาทมิรู้คลาย
ชวนให้ชายเชยชมชิดมิเว้นวาง..


ทะเล..
พยายามสร้างกระท่อมในสวนป่า
มีโอ่งงามตามประดับไว้นะกลางสวน
ไว้ใช้ประโยชน์มากมี
เป็นที่ลอยดอกไม้งามยามมีงาน
ไว้ล้างเท้าล้างทรายก่อนกรายร่างเข้ากระท่อมทับ
เป็นโอ่งดินเผาแสนรักที่ราคาย่อมเยา
ให้เอาเพียงงามง่ายใกล้ชิดธรรมชาติดินเดิม
มาเติมต่อรัก
ที่แสนจะกลัวพลัดตกแตกหัก


สู้อุตส่าห์หอบหิ้วมาจากเกาะเกร็ดตระการ
ที่เป็นงามวิถีภูมิปัญญาไทยใช้ใจดวงรักดวงาม
ค่อยๆปั้นขึ้นมาและฝากลวดลายไว้จากพลังสมองสองมือ
ให้โลกลือให้ไทยเทศตามดู


ต้องอาศัยความรู้หลายองค์ประกอบ
ราวปั้นดินให้เป็นดาวพราวพร่างประดับฟ้าไทย
ประดับใจสอนใจให้รักในศิลปไทยให้รักษาสืบไว้
ให้กลายเป็นตำนานขวัญอันจรุงจำรัสใจ
ฝากไว้ให้ลูกหลานไทยได้ประเทืองประทับใจ
ดำเนินรอยตามไป
เอาเยี่ยงอย่างบรรพบุรุษไทย
ในทุกค่างานผ่านจิตวิญญาณเลือดเนื้อละมุนละม่อม
ละเอียดละเมียดละไม
ที่แม้นต่างประเทศยังทึ่งในฝีมือต้องยอมรับ
ไม่ว่าผลงานจักสานหรืองาน
จากทุกโครงการศิลปาชีพ..


ทะเล
ยังสร้างซุ้มไม้ไผ่ เป็นทางเดิน
ทอดริมรั้วให้ชมสวนงาม
มีดอกบัวชูช่อละออหวานเหนือบึง
ที่ขุดไว้รายรอบกระท่อมน้อย
มีปลามากมายกระโดดผึง
ล้อดวงตะวันอันอ่อนอุ่นทั้งเช้าเย็น
มีรั้วไม้ไผ่ลำทำไว้ให้มะลิวัลย์พันพร่าง
ราวเจ้าของจะบันดาลใจตามบทเพลง
ที่ผู้ประพันธ์ช่างมีนวลเนื้อใจแสนงาม
จนสามารถสร้างเนื้อเพลงได้งามพอกัน
ที่ทะเลนั้นแสนประทับจับใจ


ส่วนหนึ่งของบทเพลงสาวชาวสวน
*มองทุ่งมะลิวัลย์
เถาทอดเลื้อยพัน
รอบรั้วกระถิน
กลิ่นหอม ไกล
มะลิยังพรอด
กอดกระถินด้วยเหตุใด
แมลงแกล้งจูบดอกไม้
เหมือนมีใครแอบ จูบแก้มฉัน
โอ้ ดึก ดื่นคืนนี้
ในสวนยามราตรี
แจ่มจ้าด้วยสี แสงจันทร์
ยาม ฉันมีชายคู่
คิดดูวาบหวิวใจหวั่น
อยากให้เถา มะลิวัลย์
เป็นอ้อมแขนของ เธอ*
**********


ในบางราตรี
หากวสันต์ลีลาทิ้งช่วงนานไป
ไม่หวนคืนกลับมา
และหากทว่าดวงใจดวงนี้
ที่แสนรักสายฝนสายฝันสวรรค์ละไม
ก็จะเปิดน้ำตกที่ซ่อนไว้
ให้ระรินหยดติ๋งๆจากชายคาจาก
ฝากความรู้สึกราวฝนโปรย
ให้โชยฉ่ำระร่ำระรินใจ
ให้ไหวหวาม


ให้รินสาย ได้ความรู้สึกราวฝนจริง
ที่จะทำให้ดวงใจนิ่งงาม
หวานเศร้าได้ดายเดียวล้ำลึกดำดิ่ง
ทิ้งทุกสิ่งภายนอกไกลนอกใจ 
สร้างสงบงามใจ..ไปตามฝันวิเวก..เสกธรรมชาติงาม
ในท่ามกลางแสงเทียนอันอบอุ่นอันหอมละมุนพร่าง
ด้วยกลิ่นสล้างสดจากสมุนไพรและ
กับรสชาติผลไม้นานามาปรุงปนฝัน
ให้พลันบรรเจิดใจ


และ
กับเสียงเพลงบรรเลง
*สายน้ำเนรัญชรา*ที่มาคลอใจ
กับราตรีที่ฟ้าพร่างใส
ประดับไปด้วยดาวดวงดาริกานับหมื่นพัน
ที่กระพริบพราวพร่างแข่งกันกับ
หยาดสายน้ำผึ้งพระจันทร์
จากจันทร์ดวงแอร่มแจ่มฟ้าสีทองผ่องผุด
กับหยาดพิสุทธิ์ใสจาก*ครรลองน้ำค้าง*
พร่างพรมมาจากสวรรค์สรวง
จากหอมห้วงดวงใจปวงนางฟ้าพาพลีระริน
หวังดับสิ้นร้อนมาออดอ้อนโลก
มาฝากหวานมาฝากราน
ยามถูกแสงแดดกระทบกระทั่ง
ให้พรั่งพรูมลายสลายลาหายวับ
ราวกับจะสอนการดับมิเหลือ

ให้เผื่อใจให้เข้าใจในธรรมชาติอันหมุนวน
เฉกเช่นชีวิตคน
ที่มีการเวียนวนว่ายว่องท่องอยู่ในโลกโศกสุขนี้
ที่ก็จะช้ำๆ..ทำสิ่งอันเหมือนๆกันไปตามๆกันไป
ช่างหามนุษย์ผู้พาใจพาจิตเหนือโลกย์ยากยิ่งขึ้นทุกทีๆ

ครรลองน้ำค้างตกนะกลางใจราวสอนพิสุทธิ์ใส
ให้น้อมนำใจด้วยพระพุทธผู้บริสุทธิคุณ
น้ำค้างกลางใบบัว
น้ำค้างกลางพงไพรพฤกษ์
และทุกครรลองน้ำค้าง
ราวกับจะปลอบปลุกให้ระลึกรู้ความจริงของชีวิต
หยุดดูรู้ให้รักเมตตาพร่างพรมห่มหัวใจผู้ยากผองชน
ดั่งละออละอองน้ำค้างในท่ามกลางเมืองอันแล้งร้อน
และ
กับยามย่ำค่ำที่ตะวันใกล้ลาลับฟ้า
ทะเล...
กำลังนั่งริมฝั่งฝันสีทอง
กับใจกายนิ่งๆ
กับพรายพระจันทร์หวาน..
จนอดคิดถึงบทกวีฝัน
*พรายแสงจันทร์*ของคุณ กานติ ณ ศรัทธา..อีกคราครั้งไม่ได้


พรายแสงจันทร์
พรายแสงจันทร์ส่องฝันอันงามรื่น
กระทบพราวพริบคลื่นตื่นพลิ้วไหว
เต้นระยิบระยับงามจับใจ
ราวฝูงปลาฝันไกลไปจูบจันทร์
พรายแสงจันทร์ส่องจ้าแม้ฟ้าหม่น
ท่วงทำนองของคนอาบฝนฝัน
เย็นสนิทแม้ยากไร้ในคืนวัน
ยิ้มชั่วนิจนิรันดร์แม้ฝันร้าย
พรายแสงจันทร์กลางทำนองของเพลงขลุ่ย
วิเวกหวานผ่านปุยเมฆปุยฝ้าย
ฟังโดยใจสะอาดของหาดทราย
ฟังโดยคลื่นพลิ้วพรายใกล้ลำเรือ
พรายแสงจันทร์จับฟ้าเวลานี้
ณ  ท่ามกลางมหานทีที่ไหลเอื้อ
โอบสองฝั่งฝากใจไว้จุนเจือ
พรายแสงจันทร์แผ่เผื่อเอื้อผิวน้ำ
ค่ำที่โลกหลับใหลใต้ผืนฟ้า
พรายแสงจันทร์ส่องจ้ามาเริงร่ำ
แม้ยากปลุกทุกใจในมืดดำ
แต่พลิ้วคลื่นพรายพรำก็ร่ำเพลง*
******


ทะเล..ได้แต่ฝากจูบพรมแผ่วผิวให้โปรยปลิว
ไปจูบละอองทองบนผืนน้ำระยับยิบ
พร้อมฝากคำกระซิบพร่ำลำนำรัก
ด้วยบทเพลง
*หนาวตัก**เติมใจให้กัน*รักข้ามขอบฟ้า*ถึงทุกดวงใจ
ให้กมลละไมได้มี*กระท่อมฟากฟ้าทะเลขวัญ*
อันแสนสุขสงบงามได้ฝากใจทุกโมงยามแห่งชีวิต
และ


กับ
ค่ำคืนนี้
ขอให้ทุกดวงใจ
หลับตาฝันฝันฝันหวานหวานหวาน
ส่งใจผ่านฟ้ากว้าง
ขุนเขาทะเลเมฆ
ผ่านวิเวกงามล้ำ
กับสายแสงจันทร์อันสวยงาม
ไปถึงผู้อันเป็นที่รัก...
ยอดดวงใจภักดิ์พลี
ที่หากทว่าคืนนี้สองดวงใจ
จำใจจำพรากจากไกลกัน
ขอให้แหงนเงยหน้าขึ้น
ฝากฝันฝากใจฝากถวิลหาห่วงใย
ใช้ใจถึงใจ...
ใจเดิมพันใจ
ใจหลอมใจ
และ
ใจดวงดีพลีรักมั่นคงหนักแน่น
จักกลายเป็นดั่งใจดวงเดียวกัน
ที่
ไม่มีวัน.....
ไม่มีใคร.....
และ
ไม่มีสิ่งใด
จะมาขวางกั้นเอาไว้ได้
ราวไร้สิ้นซึ่งกาลเวลา
ทุกสรรพสิ่ง
จะยอมพ่ายให้กับผู้ที่มีรักแท้..ค่ะ
*********


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=78
หนาวตัก   
นันทิดา แก้วบัวสาย : : Key Eb  
ทะเล งาม ยามดึกดื่น
ฮึมเหมือนคลื่น หลับ
แสงเดือน จับ เจิดนภา เวหา หาว
นั่งเรือ น้อย เคลื่อนคล้อย ใต้แสงดาว
พร่าง น้ำพราว ผ่องเพชรเกล็ด นที
ดู ซิดู ใคร สอน ให้นอนหนุน ตัก
ซุก ซนนัก ไม่ กลัวน้อง จะหมองศรี
หนาว ตัก หนัก จิต ดรร-ชนี
หาก นาวี อรุโณทัย ไม่กลับคืน
ดู ซิดู ใคร สอน ให้นอนหนุน ตัก
ซุก ซนนัก ไม่ กลัวน้อง จะหมองศรี
หนาว ตัก หนัก จิต ดรร-ชนี
หาก นาวี อรุโณทัย ไม่กลับคืน...
 
  
				
comments powered by Disqus
  • ต๋องแต๋ง

    31 สิงหาคม 2547 16:22 น. - comment id 320163

    หากอ่านคงอ่านไม่ไหวแน่ ตาลายหมดแล้ว
  • พุด

    31 สิงหาคม 2547 16:36 น. - comment id 320173

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=82
    รักข้ามขอบฟ้า   
    ศรีไศล สุชาติวุฒิ : : Key F  
    ขอบฟ้า เหนืออาณาใดกั้น
    ใช่รักจะดั้น ยากกว่านก โบยบิน
    รักข้ามแผ่นน้ำ รักข้าม แผ่นดิน
    เมื่อความรักดิ้น ฟ้ายังสิ้นความกว้างไกล
    ขอบฟ้า ทิ้งโค้งมาคลุมครอบ
    อ้าแขนรายรอบโอบโลกไว้ ภายใน
    เหมือนอ้อมกอดรัก แม้ได้ โอบใคร 
    ชาติภาษาไม่ สำคัญเท่าใจตรงกัน
    รัก ข้ามขอบฟ้า รักคือ สื่อภาษาสวรรค์
    อาจมีใจคนละดวง ต่างเก็บอยู่คนละทรวง
    ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์
    ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก
    ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน
    รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมา ผูกพัน
    ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว
    
    รัก ข้ามขอบฟ้า รักคือสื่อภาษาสวรรค์
    อาจมีใจคนละดวง ต่างเก็บอยู่คนละทรวง
    ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์
    ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก
    ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน
    รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมา ผูกพัน
    ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว...
    
     
    
  • idaho

    31 สิงหาคม 2547 16:54 น. - comment id 320181

    กล่อมทะเลให้หลับฝัน
    แล้วกล่อมขวัญให้อยู่กับตัวเอง
    กล่อมกมลให้ร้องเพลง
    เรื่อยบรรเลงให้เธอฟัง
    
  • พุด

    31 สิงหาคม 2547 17:00 น. - comment id 320186

    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2380
    เติมใจให้กัน   
    มัม ลาโคนิค : : Key G  
    ตอบใจตัวเองมานาน แอบรอคอยเธอก็รู้
    อยากให้เธอลองตรองดู
    ในความทรงจำ เก็บไว้
    ต่างคนมีทางต้องเดิน อาจมีเวลาต้องไกล
    หนึ่งคนยังคงคอยใจ ยังคงคอยไปอย่างนั้น
    อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
    จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
    ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ
    แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
    ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม
    ตอบใจตัวเองมานาน แอบรอคอยเธอก็รู้
    อยากให้เธอลองตรองดู
    ในความทรงจำ เก็บไว้
    ต่างคนมีทางต้องเดิน อาจมีเวลาต้องไกล
    หนึ่งคนยังคงคอยใจ ยังคงคอยไปอย่างนั้น
    อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
    จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
    ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ
    แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
    ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม
    
    อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
    จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
    ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ 
    แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
    ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม...
    
     
    
    
  • แก้วประเสริฐ

    31 สิงหาคม 2547 17:20 น. - comment id 320192

    เฮ้อ.........ณ   บัดนี้ขวัญเอ๋ยขวัญเจ้า....ห่างหายไกลสุดลับ ได้ย้อนกลับสู่แนวแห่งกระแสร์....เป็นขวัญกำลังใจในทะเลอีกครั้งแม่ ขวัญทะเล.....ยอดรักแห่งท้องน้ำ....มาเถอะมานะทะเลจะรับขวัญเจ้าโดยมิให้เจ้าห่างหายแรมร้างไกลในอ้อมกอดแห่งทะเลใจ........
    
                        แก้วประเสริฐ.
  • Robert TingNongNoi

    31 สิงหาคม 2547 17:23 น. - comment id 320193

     
    งามได้หลากหลายลีลาและ
    อารมณ์ตามสไตล์..ที่น่าชื่น
    ชมของคุณพุดพัดชา ๚ะ๛
    
    size> 
    
  • ขลุ่ยหลิบ

    31 สิงหาคม 2547 20:09 น. - comment id 320305

    สวัสดีค่ะพี่พุด
           พี่พุดเขียนบทกวีได้งดงามมากเลยนะคะ  ชอบฟังเพลงเก่าค่ะ  แล้วพี่พุดก็นำมาให้ได้ฟังอยู่เสมอ ๆ ประทับใจในงานของพี่พุดค่ะ
  • อัลมิตรา

    31 สิงหาคม 2547 21:20 น. - comment id 320370

    เพลงเติมใจให้กัน .. เป็นเพลงโปรดของอัลมิตราค่ะ ความหมายตรึงใจ ..
    
    อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
    จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
    ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ 
    แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
    ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม...
    
    ห่างไกลเกินครึ่งฟ้าคราคิดถึง
    ฝากคำซึ้งแด่คนไกลใจห่วงหา
    .............................................
    .............................................
    
    ปล่อยอีกสองวรรค เผื่อจะมีคนเติมให้เต็ม ค่ะ
    
    :)
    
    
  • =_+ VeNuS +_=

    31 สิงหาคม 2547 21:48 น. - comment id 320401

    ยาวมากๆเลยค่ะ..
    อ่านจนตาลาย..
    แต่ก็เพราะมากค่ะ
    
    แวะมาสวัสดีพี่พุดค่ะ..
    
    @^____________^@
    
    วีนัสก่ะเจ้า
    
    
  • รัถยา

    31 สิงหาคม 2547 22:29 น. - comment id 320430

    ....ยาวๆ แต่ก็พยายามอ่านจนหมด 
    
    ....เขาหลวงก็คงไม่พ้นน้ำตกกรุงชิง เอ หรือ กุงชิง นะ    กับป่าชิง ระหว่างทางขึ้นนั่นละ ขากลับอย่าลืมแวะ ...คีรีวง ..สักหน่อยละ  สุดยอดแห่งภูมิปัญญาที่น่ากล่าวถึง
    
  • ฟ้าใหม่

    31 สิงหาคม 2547 23:08 น. - comment id 320465

    ห่างไกลเกินครึ่งฟ้าคราคิดถึง
    ฝากคำซึ้งแด่คนไกลใจห่วงหา
    ฝากความรักเรียงร้อยคอยเวลา
    สุดขอบฟ้านั้นใกล้มิไกลเลย..
    
    ต่อกลอนคุณอัลมิตรา..
    สวัสดีครับคุณ พุดหอม..
  • ผู้หญิงไร้เงา

    1 กันยายน 2547 00:03 น. - comment id 320514

    กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ขอบคุณกลอนดีๆ ที่นำมาให้อ่านกันนะค่ะ
  • 1 กันยายน 2547 00:16 น. - comment id 320526

    ห่างไกลเกินครึ่งฟ้าคราคิดถึง
    ฝากคำซึ้งแด่คนไกลใจห่วงหา
    โยงใยความสัมพันธ์ผ่านเวลา
    เติมใจกันทุกคราที่ทุกข์ตรม
  • พี่ดอกแก้ว

    1 กันยายน 2547 00:17 น. - comment id 320528

    เหงาไหมหัวใจตอบให้รู้หน่อย 
    คนเคยคอยมาหาถึงหน้าบ้าน 
    วันนี้พรุ่งนี้หรือเมื่อวาน 
    ใจยังหวานเพลงคิดถึงตรึงกมล 
    .... 
    ตามมาอ่านด้วยความผูกพันค่ะ...
  • ชัยชนะ

    1 กันยายน 2547 05:20 น. - comment id 320606

    ทะเลขวัญกล่อมเกลาเรื่องยาวย้อย
    หลายบทถ้อยร้อยเรื่องงามสื่อความหมาย
    หลากแง่คิดประดิษฐ์หามาเรียงราย
    มาทักทายเติมฝันอันงดงาม
    
    
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    1 กันยายน 2547 06:38 น. - comment id 320630

    หวัดดีครับ  พี่พุด
    
    สวยงามมากเลยครับ
    
    มาให้กำลังใจด้วย...  อิ....อิ....
    
    
  • แว่นดอย

    1 กันยายน 2547 10:30 น. - comment id 320751

    อุ่นใจได้มาอ่านถ้อยกวีงามของพี่สาวพุดพัดชาค่ะ
    
    ข้าพเจ้ามาทักทายค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน