ดั่งน้ำค้างกลางมหานทีสีทันดร!

พุด


Urlhttp://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3408
(ความรักไม่มีวันละลาย)
*******
คืนนี้ ฟ้ามืดไร้สิ้นแสงดาวเดือน
ฝนพรำสายลงมาอย่างหน่วงหนัก
ต้นไม้ทั้งในราวไพรราวป่าราวเมือง
ต่างพากันไหวเอนอ่อน
มิยอมทายท้าสายพระพิรุณร่ำ


ฟ้าแลบมาเป็นระยะอย่างน่ากลัว
กิ่งจำปีหักเป๊าะลงมาเสียงดังสนั่น!
สายวสันต์...นะบัดนี้พลันกลาย..
ราวปีศาจร้ายหมายสั่งสอนโลกและมนุษย์ให้หยุดคิด
ถึงความยิ่งใหญ่ในพลังแห่งธรรมชาติ
 

ผม..นอนลำพังดายเดียว*ในเรือนบัว*ริมบึงของผม
จุดเทียนหอมๆฟังบทเพลงบรรเลง
และบทเพลงสายฝนกล่อมกมลขวัญ


เรือนที่ผมเคยเล่าให้ฟังมาก่อนหน้านี้
เรือนที่มีดวงดอกปาริชาติสะพรั่งพรึบริมเรือน
มีบัวน้อยนานาพรรณ
ลอยชู่ช่อรออรุณอันอบอุ่นอ่อนหวาน
บานตระการทายท้ามวลภมรภู่ผึ้งตรึงใจ
มีเรือมาดลำน้อย
ให้ผมค่อยๆพายพา
ไปนะกลางสายชลใส


ไปเก็บอุบลบานเกสรงามแย้มพราย
 อุบลสายที่เพิ่งตูมตั้ง อุบลวรรณอุบลวณา
ที่คงทราบว่าผมรักบูชาดั่งชีวิต..
ยามที่ผมเคยลิขิตรจนาฝากเอาไว้
เมื่อยามได้พายพาเรือไป
เอนตัวกลางลำ..ลำพังและเฝ้านอนระร่ำรินรับ
เสียงแห่งสายน้ำที่พร่ำกระซิบรัก
ต่อมวลมาลีต่อพสุธารักนี้ที่แสนงามงด


ต่อทุกพลังธรรมชาติ
ดินน้ำลมไฟ
พรายพระอาทิตย์
แสงจันทร์พราวยามรายรอบวงทรงกลดงดงามราวรัศมีรุ้ง
ดูดาวอะเคื้อเจือแสงหวานระยิบระยับ
แขวนเหนือฟากฟ้าประดับราตรีให้มิหมองหม่น
แมกไม้ปรายปรนร่ายระบำรับหยาดละออละอองน้ำค้างในยามดึก


ที่ทุกสิ่งนั้น
ต่างพากันเอื้อโอบฝัน
เกี่ยวพันกันไปทั้งหมดสิ้นราวโซ่ธรรม..ธรรมชาติ
ที่แยกไม่ออก 
เหมือน
คลื่นที่ต้องคู่ทะเลโอ้ละเห่ให้เห่กล่อม
เหมือนพวงพะยอมต้องอาศัยพสุธาแตกช่อกอกิ่ง
ทิ้งดวงดอกงามแต้มบานประดับหล้าประดับโลกลบโศกสุข


ที่เฝ้ารอขอเพียงหยาดน้ำทิพย์จากนภา
มาพร่างรินให้อยู่รอดปลอดภัยให้ไสวยืนต้น
เหมือนนกที่ต้องอาศัยท้องฟ้าบิน
ผกโผผินออกล่าหาเหยื่อ
เพื่อท่องอย่างอิสราสู่โลกกว้าง


เหมือนฟ้า
ที่หากปราศจากดวงดาราดวงตะวัน
ก็พลันจะหมองหม่นมืดดำ
ราวกับโลกนี้แหลกสลาย


เหมือน
หญิงชายที่พระเจ้าประทานมาให้คู่กัน
ให้เกิดมาพบค่าล้ำ
ในพลังรักนิรันดร์มหัศจรรย์รักปาฎิหารย์รัก
อันแสนหนักแน่นยิ่งใหญ่
มีคู่จริงคู่ใจคู่บุญคู่กรรม
คู่ธรรมคู่ทอง
ที่นับวันจ้องจะหายากยิ่ง
ราวหามวลดอกบัวสะอาดไหวกลางบึงกว้าง
ที่มักจะถูกทิ้งร้างห่างไกลเหี่ยวแห้งคาบึง
ผึ้งไปไม่ถึง ภมรบินไม่ไหว ดูไกลเกินเอื้อมคว้า


ผม..มา
นอนแอบอ้อนดูฟ้าโพล้เพล้เหว่ว้า
ดูเวทีฝันเวทีธรรมเวทีธรรมชาติ
เล่นแสงสีสวยหวานในยามเย็น
ให้หัวใจผม..
ที่ชอบเร้นร่างราวไร้รอย
มานอนคอยผสานจิตกับทุกสรรพสิ่ง


นิ่งฟังเสียงปลากระโดดผึงฮุบเหยื่อเหนือสายน้ำ
ดูภุมรินทร์บินว่อนร่อนภิรมย์ตระโบมสุข
คลุกเคล้าเกสรหวานๆอย่างละเมียดละไม


เสมือนบทกวีจากดวงใจ
บทนี้ที่ผมรจนาเอาไว้นานแล้ว
เรือนริมบึงตรึงใจวิมานฝัน
บัวหลากพันธุ์บานชูช่อล้อแดดใส
จิก..ดอกหวานหว่านดอกลำธารไพร
นั่นต้นไทรไหวเอนลู่คู่นกกา..
ตะวันสีไพลชิงพลบหลบเงาเมฆ
ธรรมชาติเสกใจรื่นรมย์ชมมัจฉา
มีชานฝันอันภิรมย์ชมพนา
ตะวันลาโพล้เพล้เหว่ว้าใจ..
พายเรือน้อยลอยคว้างกลางสระกว้าง
นอนอ้างว้างมองดูดาวพราวสุกใส
โอ้ดาวน้อยลอยเด่นดวงสุดแสนไกล
ราวสอนใจไม่มีวันฝันเป็นจริง..
จุดตะเกียงเคียงหัวนอนเขียนกลอนฝัน
นวลแสงจันทร์ลอดโลมไล้ลืมทุกสิ่ง
หมอนสีขาวพราวดอกไม้หอมงามยิ่ง
หลับตานิ่งทิ้งหัวใจไม่ตรอมตรม...
พอยามดึกพฤกษ์ไพรน้ำค้างพร่าง
ใจว่างว่างลืมโลกลืมโศกสม
เรือนหลังน้อยกับจิ้งหรีดร้องระงม
เนื้อใจบ่มเพาะฝันดีที่งอกงามด้วยเงียบงัน
******


ฝนภายนอกยังพรำสายหนัก
ค่อยค่อยคลี่ฟ้า..
เทสายน้ำรักสายน้ำใจ
ลงหยาดรินไปทุกถิ่นที่อย่างมากมีเมตตา 
ราวสอนสั่งให้มนุษย์พากันมากมีปรานี
ต่อทุกคนดี อย่างไม่เลือกที่รักที่ชัง


เสมือนดั่งบทเพลงพระราชนิพนธ์บทเพลงนี้
ที่งามล้ำในธรรม..ธรรมชาติ
และด้วยหยาดน้ำใสดั่งพระราชหฤทัย
เกินกว่าจะหาคำใดในปฐพีมากล่าวชื่นชมโสมนัส
ที่ผมมักจะได้ยินวะแว่วมาในมโนนึกทุกคราครั้ง
ยามเห็นสายฝนละหลั่งรินมิรู้สิ้นรู้จบ


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3094
สายฝน.....บทเพลงพระราชนิพนธ์
เมื่อลมฝน บนฟ้ามาลิ่ว
ต้นไม้พลิ้ว ลู่กิ่งใบ
เหมือนจะเอน รากคลอนถอนไป
แต่เหล่าไม้ ยิ่งกลับงาม
พระพรหมท่าน บันดาลให้ฝนหลั่ง
เพื่อประทัง ชีวิตมิทราม
น้ำทิพย์สาด
เป็นสาย พรายพลิ้วทิวงาม
ทั่วเขตคาม ชื่นธารา
สาดเป็นสาย
พรายพลิ้วทิวทุ่ง
แดดทอรุ้ง อร่ามตา
รุ้งเลื่อมลาย พร่างพรายนภา
ยาม เมื่อฝนมาแต่ไกล
พระพรหมช่วย อำนวยให้ชื่นฉ่ำ
เพื่อจะนำ ดับความร้อนใจ
น้ำฝนหลั่ง ลงมาจากฟ้าแดนไกล
พืชพันธุ์ไม้ ชื่นยืนยง...
***********


และกับ
คืนนี้..
คืนที่ฝนฉ่ำฟ้าในยามวสันตฤดู
คืนที่
ดวงใจผมหมองหม่นเทาทึมพอกับฟากฟ้า
คืนที่สิ้นไร้ดวงดาราและสายแสงจันทร์
อันเคยโอบเอื้ออ้อนอ่อนหวานมานานเนา


คืนที่..เธอ..ดาราขวัญ ฝัน ประจำใจประจำจิต
โทรมาฝากเสียงกระซิบราวจากฟากฟ้าอันแสนไกล
เธอ..จำพรากจำลาไกล
พาร่างใจไปชดใช้วิบากกรรมเก่า
พาดวงใจใสสวยสงบงาม
และจิตวิญญาณบอบช้ำลาลับดับดวงดอกขวัญ
ไปตามทางเส้นขนานกันกับผมเป็นนิรันดร์รัก


ไปเข้าพิธีมงคล..
พิธีที่จะเชื่อมคนสองคนไว้ได้นานแค่ไหน
จะศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน
ก็ต้องขึ้นกับพลังใจพลังจิต
พลังแห่งรักอันหนักแน่นมั่นคงในเบื้องต้น


และ
จักต้องใช้หลายองค์ปัจจัยประกอบในเบื้องกลาง
ถึงจะแตกยอดงามตามต่อก่อเกิดความภาคภูมิปิติ
ที่นอกเหนือจากรัก..
ยังจักต้องมีคำว่าอภัย มากเมตตารู้หน้าที่
มีความรับผิดชอบต่อบ่วงรักบ่วงกรรม
ที่พลีพร้อมยอมล่วงล้ำก้าวขาก้าวใจเข้าไปรับแล้ว


และที่สำคัญ
ต้องพากันค้นหาทางธรรมทางทองไว้ส่องสอนใจ
มิไห้ไหวกระเพี่อมไปแรงอยากแห่งกิเลสใจ
กิเลสมนุษย์มากมายมากมีที่จะมาพากันกระทบกระทั่ง
และกับกิเลสโลกย์นี้
ที่จะพบโศกมากกว่าสุข
ยามผ่านพ้นอิ่มเอม..ร่าง..
อันรอจะเหลือเพียงพลัง
จะต้องสู้คู่กันไปราวนกน้อยเหินบิน


และ
สำหรับผม...
ที่ระทมทับนักกับความคิดเพียงผ่านวับเพียงวูบไหว
มาทดสอบใจให้รู้ดับทันคือ
เพราะ
ใครคนนั้นมิใช่ผม..ผู้ชายที่เธอบอกว่า
เธอรอคอยมาแสนนานและคงชั่วกาลกัป์ปกัลป์


คน..
ที่เธอบอกว่า
*หวังจะเป็นคู่บุญคู่ธรรมคู่ทองอย่างสองเรา
ที่มีชีวิตอันงดงามน้อยนิดดั่งธุลีหล้า
และแสนโชคดีได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
ราวเทียนทองส่องคู่ใจนำทางพาจิตใส
ไปด้วยกัน 
จนกว่าร่างจะลาลับดับสังขาร*


ผม..
นอน..หนาวใจหนาวในความรู้สึก
ในความรำลึกรู้อย่างผู้มีสติปัญญา
ที่ปัญหาโลกย์ตามมาทดสอบพลังจิต
เพราะ


ถึงมาตรแม้น
ผม..รักเธอ..รักมากมาย
แต่ผมรู้ดีว่ารักของผมมิได้หมายจำต้องเสียดายเสียใจ
กับคำลาไกลราวเราต้องแยกร่างห่างกัน
เพื่อดำรงร่างนั้น..อันจักเลื่อมสลายไม่นาน
ไปทำหน้าที่ไปตามทางโลกย์
ไปตามวิถีทางจนกว่าจะหมดวิบากกรรมเก่า


ผมเพียงเงียบเหงา
อ้างว้างที่ผมแค่คิดถึง*คำคู่จิตคู่บุญคู่ชีวิต
คู่ธรรมคู่ทอง*
ที่ผมอยากพาเธอลอยล่องท่องไปกับ*เรือใบไม้*
เรือที่ต้องใช้*จิตดวงใสราวพายทอง*พาแหวกว่าย
ไปพบฝั่งฝันแห่งความงามอันอนันตกาล
เงียบ..ไร้ร่าง..ว่างเปล่า..สุขสะอาดสงบ


และ
ไม่ต้องกลับมา
พานพบกับเงื้อมเงาแห่งเนื้อหนัง
ที่จำต้องชดใช้ว่ายวน
ในดงน้ำกรรมน้ำกามท่ามกิเลสอีกต่อไป..

ผม..จึงเพียงเพียรสงบรำงับ
หยุดนิ่ง..
และ
น้อมร่างค้อมกราบกรานองค์พระปฎิมา
เพียรฝึกสมาธิภาวนา
และทุกทิวาราตรี
นับเนื่องต่อจากนี้
ไม่มีอำนาจใจใดใดจะมาก่อเกื้อเหลือให้ผมยึดมั่นถื่อมั่น


ผม...จะวางมันลง
และค้นหาความสุขสงบจากจิตภายในผมเอง..
บ้านภายในขุมทรัพย์ภายในใจผมเอง


ที่...งามพราวราวมีอัญมณีเพชรพร่างสว่างสุกใส
รอนำทางสู่..
ความงามอันเป็นอมตะนิรันดร์


และ
ดวงดอกจิตราวดอกปาริชาติในกามนิตวาสิฎฐี
ราวบัวบานสะอาดใสดวงดอกนี้
จะมลายลับดับความยึดมั่นถือมั่นในทุกสรรพสิ่ง
ทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
เท่าทีชีวีจะมีกุศลเพียรพา..จนกว่าชีวิตจะหาไม่
ไปนิมิต..สถิต..สถาวร
เป็นหยดน้ำใสในมหานทีสีทันดร
อันเวิ้งว่างงามเงียบไปตราบชั่วอนันตกาล!!!
***************


url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3408
ความรักไม่มีวันละลาย   ละครทีวี..สายโลหิต : : Key F  
ช...ดั่งขอบฟ้าไร้แสงตะวัน
หากใจฉันไม่มีรักของเธอ
ญ..ตั้งแต่วันแรกเจอ
ก็มีเงาร่างเธออยู่ในใจ
ช...หนึ่งชีวิตให้เธอผู้เดียว
จะไม่เหลียวไม่แลผู้ใด
ญ...หนึ่งความรักให้ไป
จะเนิ่นนานเท่าไรยังซื่อตรง
คู่ตราบอาทิตย์
และดาวที่พร่างพราย
คู่เลือนหรี่ดับลับไปจนมืดลง
ญ...แต่สายใยแห่งรักจะมั่นคง
กว่าลมหายใจที่เรามี
ช....หากวันไหนสองเราจากกัน
อย่าหวั่นไหวเพราะใจเธอรู้ดี
ญ...กี่แสนวันหมื่นปี
ความรักเราไม่มีวันละลาย
คู่ตราบอาทิตย์
และดาวที่พร่างพราย
คู่เลือนหรี่ดับลับไปจนมืดลง
ญแต่สายใยแห่งรักจะมั่นคง
กว่าลมหายใจที่เรามี
ช...หากวันไหนสองเราจากกัน
อย่าหวั่นไหวเพราะใจเธอรู้ดี
ญ...กี่แสนวันหมื่นปี
ความรักเราไม่มีวันละลาย...
**********


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=347
อนาถเหลือล้ำ บัวบานเหนือน้ำ 
อยู่ห่าง คน
ลับตาอยู่จน กลางบึง
ได้แต่ชะเง้อ ละเมอ รำพึง
เจ้าอยู่ถึงกลางบึง ปล่อย ให้ผึ้ง เชยชม
แดดส่องผิวน้ำ บัวพลอยหมองคล้ำ
ด้วยแดด เผา
สีเจ้าก็เศร้า ด้วย ลม
ตกดึก น้ำน้อย นอนคอยคนชม
เจ้าต้องคลุกโคลนตมกลีบ ที่บ่ม โรย รา
บัว น้อย ลอยอยู่กลาง บึง
ครั้นคนเอื้อมไม่ถึง มีฝูงผึ้งบินมา
อยากพักพิงบนหิ้งบูชา
เขาไม่ปรารถนา แล้วจะว่าเขาแกล้ง
โธ่ อยู่ไกล หนักหนา
ดั่งซ่อนหลบตา แอบแฝง
หากปล่อยทิ้งไว้พอใจแมลง
สิ้นกลิ่นสีโรยแรง
แล้วคงเหี่ยวแห้ง คา บึง...
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    9 กันยายน 2547 10:21 น. - comment id 327500

    วอนกลับไปอ่าน*คืนเรือนรับขวัญ*อีกคราค่ะ
    ประกอบรักรจนาบทนี้
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_47468.php
    
    ผม...ตัดสินใจ  
    ซื้อที่ดินผืนนาร้างว่างเปล่านี้
    ที่ผมดั้นด้นค้นหามายาวนานนัก
    หลังจากเพียรพยายามตรากตรำทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ
    ทำหน้าที่ทางโลกอย่างดีที่สุดเป็นเวลาหลายแรมปี
    
    
    เงินที่ผมถนอมออมเก็บกำมา เกือบตลอดทั้งชีวิต
    เพื่อนำมาก่อฝันให้เป็นรูปเป็นร่าง..สร้าง
    
    *วิมานกระท่อมทับเรือนไทย*
    เป็นรังรักอาณาจักรใจ ในจินตนาการ 
    ริมบึงบัวสล้างที่กำลังกระจ่างใจเป็นจริง 
    
    
    ให้หยาดน้ำตาผมรินร่วงด้วยภาคภูมิใจ
    ตรงหน้าผมนี้แล้ว...
    
    เรือนไม้เรียบงามสงบสันโดษ
    ในท่ามกลางธรรมชาติพันธุ์ไม้ไทยดอกหอมพร่าง
    แตกช่อสล้างพราว  ขาวนวลหอมหวาน
    รับอรุณยามเช้าอย่างสดชื่นระรื่นร่ำ ละออตาละออใจ
    
    
    มีชานเรือนตรงกลาง
    ให้นอนนับดาวเคล้ากลิ่นลำดวนดง
    กับ การะเวก พุดซ้อน ปีบหอมพร่างกระจ่างใจ
    พรรณไม้ไทยไหวกิ่งฝันนานา
  • จาก : พี่พุด..ผู้พิสุทธิหวังใจปรารถนาดีรัก

    9 กันยายน 2547 11:10 น. - comment id 327516

    
    อ้อนให้ฟังบทเพลง
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3408 
    ความรักไม่มีวันละลาย
    
    ประกอบนะคะ
    คลิ๊กเลยค่ะ
    URLเลยค่ะ
    ทุกคนดีทุกดวงใจ
    ในเรือนไทยเรือนทองร่มเรือนน้ำใจรัก
    แห่งผองเรา..
    ที่มีหัวใจผ่องผุดพิสุทธิ์
    ดั่งละอออละอองหยาดน้ำค้าง
    ที่พี่พุดช่วยอธิษฐานจิตภาวนา
    
    หวังให้พบคู่รักคู่ธรรมคู่ทอง
    พากันประคองลอยละล่อง
    ท่องผ่านทะเลโลกย์ทะเลกรรมทะเล
    ทะเลสังสารวัฎฎ
    
    ไปกับเรือใบไม้เรือดอกไม้
    เรือบรรทุกดวงดอกปาริชาติสัตตบุศย์
    สัตตบงกชเป็นดั่งพุทธพลีบูชา
    ใช้ธรรมะธรรมชาติเป็นพายทอง
    พบมหานทีสีทันดร
    อันว้างเวิ้งงามเงียบสงบ
    ไปตราบชั่วนิจนิรันดร์นะคะ
    
     
     
    
    
  • Robert TingNongNoi

    9 กันยายน 2547 11:16 น. - comment id 327518

     
    เขียนบรรยายได้เป็นตัวเป็นตนเลยครับ
    ความงามของวรรณกรรม ที่มาจากหัวใจ 
    ที่ใสพิสุทธิ์ มันดูบริสุทธิ์งดงามมากครับ ๚ะ๛
    
    size> 
    
  • ลำน้ำน่าน

    9 กันยายน 2547 11:49 น. - comment id 327560

    ปทุมมาลย์ดกดื่นแต้มผืนธาร
    ต่างเพียรบานโรยราหาสงบ
    ดวงตะวันแย้มฉายหมายจะพลบ
    ซ่อนจุดจบแนบเนาว์บังเงาบัว
    
    ภาพผิวน้ำสะท้อนดอกอ่อนนิ่ง
    ภาพความจริงผุดคว้างกลางสลัว
    ภาพปวงใดไหนอื่นจะตื่นกลัว
    มาแต้มทั่วภาพสลายดอกไม้ธาร
    
    โตแต่โคลนแตกเหง้าก้าวชีวิต
    พรหมลิขิตมางอกงามตามสุสาน
    หยั่งรากเหง้าลึกหล่มบ่มวิญญาณ
    กลางปวงซากตำนานแต่ปางใด
    
    แล้วหน่อบรรพ์พันธุ์เจ้าก็เร้ารัด
    โบกสะบัดก้านอ่อนย้อนน้ำไหล
    จากอาจมตมซากจากเหงื่อใคล
    จากเศษสร้อยไม้ใบใต้บาดาล
    
    มาบานพรายแต่งน้ำเมื่อยามเช้า
    ใบบังเงาร่มรื่นชื่นพุทธศาส์น
    ปาริชาติสืบบุตรพุทธาจารย์
    ผลิเกสรอาทรทานภุมรา
    
    หลายดอกบานเหนือน้ำทุกยามชัด
    ดอกสงัดรอรับแสงแห่งอุษา
    อีกกี่ดอกเผชิญโศกโชคชะตา
    กลางปูปลาเต่าต้อยในรอยกรรม
    
    ขอฉันเป็นเฉกเช่นดั่งบัวหลวง
    ผลิดอกดวงสืบพุทธสุดอิ่มหนำ
    บานส่องโลกโตรกวารีคลี่ลำนำ
    โปรยดอกธรรมเรณูสู่ปวงพฤกษ์
    
    เพื่อปทุมแสนร้อยในรอยตม
    จะแหวกหล่มตื่นฟื้นขึ้นกลางดึก
    ใฝ่สามัญรับแสงแห่งสำนึก
    จากห้วงลึกบานคู่อยู่เบื้องบน
    
    แปรความหมายสู่ห้วงมหรรณพ
    ก่อนจุดจบโรยแรงทุกแห่งหน
    เป็นดอกบัวประทับจับใจคน
    สู่มรรคผลหิ้งพระ...รัตนไตร
    
    เพื่อความงามแห่งสายนทีทอง
    ประดับกลีบเหลืองผ่องดั่งทองไส
    ภู่ผึ้งจ้อยร้อยรัดทัดธรรมใย
    เกลือกบุหงารำไปแห่งดาวดึงส์
    
    ดอกบัวพุทธแย้มสงบภพบึงหน้า
    ภุมราเหล่าใดบินไปถึง
    ทิพย์สุคันธ์ฉ่ำหล้าเต็มตราตรึง
    รสลึกซึ้งธรรมพร่างสว่างรับ
    
    ปทุมหลวงดกดื่นแต้มผืนชล
    ทุกแดนดลเรืองรองทองผ้าจับ
    ปณิธานปาริชาติหยาดระยับ
    ให้สงบรำงับเกินกล่าวแล้ว
    
    ---------------------------------------
    ในหมู่ปวงดอกไม้ทั้งมวลนั้น ข้าพเจ้าชอบดอกบัวเป็นที่สุด
    ด้วยเป็นดอกไม้ที่เกิดแต่ตม หากแต่งดงามด้วยดอกที่สงบงาม
    ยามใดที่ได้มอง รู้สึกสงบและรำงับ ด้วยกลิ่นอายแห่งพุทธศาสนา
    
    องค์พระศาสดาให้ดอกบัวเป็นดอกไม้ตัวแทนแห่งสรรพสัตว์สี่เหล่า
    เปรียบเปรยไว้อย่างน่ามหัศจรรย์.. ในกาลก่อนสมัยพุทธกาล
    แม้นในสมัยนี้ก็ พุทธพจน์นี้ก็ยังใช้ได้ดีอยู่..
    
    ในยามค่ำคืนนี้ที่ดอกบัวหลวงบูชาอยู่หน้าพระบนหิ้ง
    ปณิธานกวีก็แย้มพราย  บอกเล่าเรื่องราวแห่งความสามัญ
    สงบ และรำงับ อยู่ภายใต้กฎธรรมชาติ
    กฎนิรันดร์ที่อยู่เหนือกฎทั้งปวง
    พรุ่งนี้ดวงดอกบัวหน้าพระคงจะโรยรา...
    หากแต่โรยราไปอย่างสง่างาม เรียบง่าย แต่ทว่าเป็นสุข
    
    
  • ทิกิ_tiki ไม่ลงทะเบียน

    9 กันยายน 2547 12:33 น. - comment id 327627

    :)
  • ขลุ่ยหลิบ

    9 กันยายน 2547 12:36 น. - comment id 327630

    แวะมาเยือนบ้านหลังงามค่ะ
  • ลอยไปในสายลม

    9 กันยายน 2547 13:32 น. - comment id 327714

    อืม ดีมากเลยค่ะ ชอบค่ะ ชอบเพลงรักไม่มีวันละลายด้วยค่ะ อิ อิ
    
    แวะมาเยี่ยมค่ะ 
    
    ถึงเธอจะต้องไปไกลห่าง
    แต่รักไม่จืดจางห่างหาย
    ฉันรักเธอรักเธอไม่เสื่อมคลาย
    แม้ต้องตายแต่ใจยังรักเธอ....
  • พุด

    9 กันยายน 2547 14:50 น. - comment id 327764

    http://f405.tripod.com/html/home.htm
    
    หากจะถามว่าทำไมต้องเป็นเวบหิมพานต์ก็เพราะว่าเป็นความสงสัยว่าทำไมในวรรณคดีหลาย ๆ เรื่องทั้งที่เรียนและไม่ได้เรียนมักกล่าวถึงแล้วไม่ได้อธิบายว่าที่ตั้งอยู่ตรงไหน มักจะพูดถึงสิ่งที่อยู่ในป่าหิมพานต์
    ์มากว่า ที่จะกล่าวถึงป่าหิมพานต์แล้วอธิบายให้เห็นถึงภาพได้ก็จะมีแต่เรื่องพระสุธนมโนราห์ แต่ที่แน่ ๆ เรามาดูกันดีกว่า ว่าในป่าหิมพานต์เป็นอย่างไร
    
    ป่าหิมพานต์ตั้งอยู่บริเวณโดยรอบของเขาพระสุเมรุมีความกว้าง 3,000 โยชน์ (1 โยชน์ เท่ากับ 8,000 วา) มีความสูงจากเนินเขาจรดยอดเขาสูง 500 โยชน์ หากวัดความกว้างจากทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตกเท่ากับ 3,000 โยชน์ หากวัดโดยรอบเขาหิมพานต์เท่ากับ 9,000 โยชน์
    ........จะว่ากันไปแล้วจะเห็นได้ว่าหิมพานต์ เป็นดินแดนที่ขั้นระหว่างดินแดนของมนุษย์และดินแดนของสวรรค์เพราะว่า
    ยอดเขาต่อไปนี้เหนือยอดเขาทั้งหลายขี้นไปก็จะเป็นดินแดนของเหล่าเทพพยาดาทั้งหลายที่เรารู้จัก...........
    ยอดเขาที่อยู่รอบป่าหิมพานต์มีทั้งหมด 84,000 ยอด มีเขาที่เป็นหลัก มี 5ยอดเขาได้แก่
    เขาสุทัสสะนากูฎ เขาจตรกูฎ เขากาฬกูฎ เขาคันธมาทกูฎ และเขาไกรลาสกูฎ ที่ได้ชื่อว่าหิมพานต์เพราะมีน้ำค้างตกหนักมาก
    แม่น้ำที่ไหลผ่านป่าหิมพานต์มีทั้งหมด 5 สาย ได้แก่ แม่น้ำคงคามหานที แม่น้ำยมนามหานที แม่น้ำอจิรวดีมหานที แม่น้ำสรภูมมหานที แม่น้ำมหิมหานที ไหลผ่านโดยรอบเขา เป็นวงกลม ได้ 9,000 โยชน์ และมีแม่น้ำสาขาอีกจำนวนมาก 
    
    สระน้ำขนาดใหญ่ในป่าหิมพานต์มีอยู่ 7 แห่ง แต่ละสระมีความยาว ความกว้างและความลึก 50 โยชน์ 
    .............สระน้ำในป่าหิมพานต์ที่เรารู้จักกันดีละก้อไม่พ้นสระนี้แหละ
    ....สระอโนดาต รอบ ๆ สระล้อมไปด้วยภูเขาที่จัดเป็นยอดเขาของยอดเขาหิมพานต์ คือ สุทัสสนกูฏ มียอดเขาเป็นทองแท่ง สูงได้ 200 โยชน์ เขาจิตตกูฏเป็นเขาที่เต็มไปด้วยแก้วที่มีค่าทุกชนิดสูง 250 โยชน์ เขากาฬกูฏเป็นนิลสูง 250 โยชน์ เขาคันธมาสกูฏสูง 250 โยชน์ เต็มไปด้วยแก้วลายภายในเขาเต็มไปด้วยแก้วมุกดาและว่านยาไม้หอม 10 ประการคือ รากหอม แก่นหอม กระพี้หอม สะเก็ดหอม เปลือกหอม ยางหอม ใบหอม ดอกหอม และผลหอมภายในเขาคันธมาทน์มีถ้ำบนยอดเขาชื่อว่าถ้ำนันทมูล เป็นที่อยู่ของพระปัจเจกโพธิเจ้า ประกอบไปด้วยถ้ำทอง ถ้ำแก้ว และถ้ำเงิน`และไม้หอม ยอดเขาสุดท้ายที่ล้อมสระอโนดาตคือเขาไกรลาส`เป็นเขาเงินสูง 250 โยชน์ ยอดเขาทุกยอดเขารอบสระอโนดาตคดโค้งเหมือนปากกาเข้าปกปิดอโนดาตสระไว้ มีความกว้าง 50 โยชน์ และมีเชิงเขาที่ติดต่อกัน ภายในสระอโนดาตมีท่าน้ำ 4 ท่า สำหรับนางเทพอัปสร เทพบุตร คนธรรพ์ วิทยาธร และยักษ์ น้ำในสระอโนดาตนั้นใสเหมือนแก้วผลึก ปราศจากเต่าและปลา น้ำที่ไหลลงในสระอโนดาต 4 ด้านคือ ด้านตะวันออกไหลออกมาจากช่องที่มีสัณฐานเหมือนปากราชสีห์และเป็นที่ชุมนุมของราชสีห์ น้ำจะไหลวนขวารอบสระอโนดาต 3 รอบแล้วไหลไปลงคลองไปสู่ที่อยู่ของอมนุษย์ในป่าหิมพานต์ ด้านตะวันตกไหลออกมาจากช่องที่มีสัณฐานเหมือนปากช้างและเป็นที่ชุมนุมของช้าง น้ำจะไหลวนขวารอบสระอโนดาต 3 รอบแล้วไหลไปลงคลองไปสู่ที่อยู่ของยักษ์และปิศาจทั้งหลายในป่าหิมพานต์ ด้านทิศเหนือไหลออกมาจากช่องที่มีสัณฐานเหมือนปากม้าและเป็นที่ชุมนุมของม้า
    น้ำจะไหลวนขวารอบสระอโนดาต 3 รอบแล้วไหลไปสู่มหาสมุทร ด้านทิศใต้ไหลออกมาจากช่องที่มีสัณฐานเหมือนปากโคและเป็นที่ชุมนุมของโคและมหิสร(ควาย) น้ำจะไหลวนขวารอบสระอโนดาต 3 รอบแล้วไหลไปลงสระโบกขรณีชื่อว่าติยังคฬโบกขรณี ด้วยความเชี่ยวของน้ำทำให้น้ำเซาะตลิ่งกว้าง 500 โยชน์ และทำให้เกิดช่องอุโมงค์ใต้เขา เมื่อน้ำไหลออกจากเขาไปกระทบกับเขาที่ชื่อติรัจฉานบรรพต แยกออกเป็น 5 สายเป็นปัญจ มหานที คือ คงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหิและน้ำเหล่านั้นจะไหลลงสู่ทะเล และ มหาสมุทรเรามักเรียกกันติดปากว่า สีทันดร
    .........เห็นมั้ยว่าทำไมหิมพานต์เป็นดินแดนแห่งจินตนาการ อันนี้เป็นเพียงอณาเขตเพียงย่อ ๆ เป็นน้ำจิ้มเล็กน้อยเท่านั้น และยังมีสระน้ำอีก 6 สระที่ยังไม่ได้เอ่ยถึงก็คือ
    กันนมุนดาสระ รถการกา สระ สกุณาสระ มันทากินีสระ สีหปตาสระ หากสนใจค้นคว้าเป็นความรู้ต่อละก็ หาได้จากหนังสือ พฤษานิยาย, อมนุษยนิยาย,ของ ส. พลายน้อย และหนังสือไตรภูมิพระร่วง ฉบับหลวง(ปรับปรุง) และฉบับพระยาลิไท
    
    
    
     
     
     
     
      
    
  • พี่พุด

    9 กันยายน 2547 15:25 น. - comment id 327779

    http://f405.tripod.com/index.htm
    ลองเข้าไปดูนะคะทุกดวงใจ
  • ดาหลา & ปะการัง

    9 กันยายน 2547 15:38 น. - comment id 327784

    เห็นภาพ 
    
    แรก  โรแมนติก ดีค่ะ
  • จากพี่พุด..พัดช้าๆๆๆ

    9 กันยายน 2547 16:49 น. - comment id 327833

    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_60846.php
    จากเรื่อง
    Website==>ThaiPoem 
    
    ฝากไว้ในงาน
    ให้กำลังใจน้องหญ้าคานะคะ
    และแด่ทุกดวงใจค่ะ
    *******
    พี่พุด..รักทุกดวงใจเลยค่ะ
    ขอบคุณมากนะคะ
    ที่ปีกฟ้าผู้แสนดีสยายปีกรัก
    อันงดงามมาโอบอุ้มให้
    เราทุกดวงใจน้องพี่
    ได้มีร่มรักเรือนไทย
    เรือนทองเรือนฝันเรือนปันน้ำใจ 
    เรือนปลอบประโลมกับทุกพายุโหมภายนอก
    ที่
    เราคงจะมีที่หลบอันอบอุ่นปลอดภัย
    และมี
    เตียงโบราณ
    ท่ามกลางแสงตะเกียง
    ที่พี่พุดจะจุดไว้รอรับ
    ทายทักด้วยบทเพลงแสนหวานค่ะ
    นะคะทุกดวงใจ
    ให้น้องพี่มาเอนอิงไหล่
    มานอนชุกตัวหลับนิทราฝันดีค่ะ
    และทุกราตรี
    พีพุดจะมีบทกวีแสนรักอ่านให้ฟังนะคะ
    ชอบแบบไหนละคะ
    มีทุกรสทุกบทบาทเลยค่ะคนดี
    และก่อนนอน
    เราจะพลีจิตอธิษฐานใจ
    มีสวดมนต์ภาวนา
    ให้โลกหล้า
    และผืนดินสิ้นแผ่นฟ้ามหาสมุทร
    ให้ทุกมนุษย์เลิกเข่นฆ่า
    หันหน้ามารักกันเข้าใจกัน
    เพื่อให้โลกนี้สงบร่มเย็นไปตราบชั่วกาล
    นะคะ
    พีพุด
    วางดอกไม้ไทยหอมหวานไว้ริมหมอนแล้วค่ะ
    ก่อนนอนก็ดอมดมพรมจูบนะคะ
    หลับตา
    แล้วทำใจวาง ว่างค่ะ
    ให้พลังจิตงามแผ่เมตตาไปยังทุกสรรพสิ่ง
    นิ่งและนอนยิ้มหวานๆจนหลับไหลไปด้วย
    ความงามว่างนะคะ
    ไม่ฝันค่ะ ไม่มี จะได้ตื่นมามีพลังรับตะวันดวงกลม
    บ่มหอมงามใจให้ทำความดีคืนผืนดินนี้ที่เราได้หยัดยืนค่ะ
    โชคดีและราตรีสวัสด์นะคะทุกดวงใจ
    ด้วยรักล้นใจห่วงใยล้นทรวง
    
     
    
  • เมกกะ

    9 กันยายน 2547 18:01 น. - comment id 327855

      เพียงคำเดียวรีบกล่าวไปไร้วิจารณญาณ
              ประชดประชันหักหาญให้ขื่นขม
              ทำให้วันหมองหม่นสุดเศร้าตรม
              ทิ้งบาดแผลร้าวระทมในวิญญา.. 
    
    แวะมาให้กำลังใจพี่นะครับ 
    มีความสุขมาก ๆ นะครับพี่
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
  • ดอกโมกข์

    9 กันยายน 2547 18:45 น. - comment id 327873

    งาม งาม และสวยงามนัก......
    
  • ..รัถยา..

    9 กันยายน 2547 23:35 น. - comment id 328044

    .....นิยายในฝันและแถมด้วยความรู้จากคุณพุด อีกด้วยนะเนี่ย
  • แสนย์

    10 กันยายน 2547 10:04 น. - comment id 328163

    ถ่ายถอดความรู้สึกได้ชัดเจนมากเลยครับ
    ผมทึ่งคุณพุดนะครับ เขียวได้ยาว..ยาว...
    **************************************************
    หนังสือ อรุณวดีสูตร ที่จัดทำโดยกรมศิลปากร  
    มีเรื่องราวเกี่ยวกับ ป่าหิมพานต์ และทวีปต่างๆ ที่นอกเหนือจากชมพูทวีป  คล้ายๆไตรภูมิพระร่วง ครับ เพราะ มีบอกหมดทั้ง พิภพบาลดาล   กำเนิด มนุษย์ นรก สวรรค์  พรหมโลก  เป็นเล่มหนึ่งที่น่าสนใจและได้ความรู้ประกอบ ไม่ปรากฏว่า ใครคือผู้แต่งครับ   คุณพุดสนใจลองหาอ่านดูนะครับ  ผมว่าสนุกนะ
  • ใบบอนแก้ว

    11 กันยายน 2547 00:03 น. - comment id 328782

    ....ดั่งน้ำค้างกลางมหาสมุทรใหญ่
    มิทำให้ความเค็มที่เต็มสาย
    จะด้อยรสหมดสีที่มากมาย
    ผลสุดท้ายน้ำค้างก็จางรวม...
    
    .....................สวัสดีครับ...............
  • พี่ดอกแก้ว

    11 กันยายน 2547 12:14 น. - comment id 328967

    หลังจากที่น้องพุดกลับจากการพักผ่อนและฝึกดูใจในคราวนั้น..
    งานกวีที่ปรากฏล้วนแทรกไปด้วยความเข้าใจชีวิต
    การยอมรับความจริง ความต้องการของใจ และความล้มเหลว ..
    ยิ่งในงานธรรมะบนธรรมชาติแล้ว ..ยิ่งสอดแทรกหลักธรรมได้อย่างกลมกลืน..เนียนเป็นเนื้อเดียวกับความเป็นไปในชีวิตจริง...มีทั้งข้อดีและข้อในความเป็นมนุษย์ ..ไม่ได้แตกต่างไปจากคนบนโลกที่ดูดีจนเกิน..
    
    สิ่งปรากฏบทกรรม
    ล้วนน้อมนำมาจากเหตุ
    กองกรรมแต่ละประเภท
    คือเหตุที่ต่างกัน
    
    เข้าใจและเข้าใจ
    ชีวิตใหม่ย่อมสุขสันต์
    ละกองอกุศลพันธุ์
    ไร้อุปสรรคหนักชีวิต
    
    ขอบคุณมากนะคะน้องพุด..ที่สร้างงานดีๆนี้ไว้สำหรับทุกคนในบ้านเรือนรักแห่งนี้
    ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..
    
    
  • แน๊ท

    16 มีนาคม 2548 12:53 น. - comment id 414277

    อยาทราบเกี่นวกัยเรื่องนารีผลที่อยู่ในป่าหิมพานต์โดยละเอียดน่ะค่ะอยากทราบว่าจะหาข้อมูลได้จากที่ไหนคะ ถ้ายังไงช่วยตอบกลับที่ email sleepynatty@hotmail.com ด้วยนะคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน