เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์(5)

อาชา

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างวันอังคารที่ 27 มกราคม - วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2547  เรื่องนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นถ้า กระทรวงศึกษาธิการ ไม่มาตรวจโรงเรียน
          27 ม.ค. 47
          ตอนเช้าในขณะที่ฉันยืนเข้าแถวรอลงไปซ้อมพิธีของโรงเรียนอยู่บนระเบียงชั้น3  เธอก็เดินมาดูแถวของนักเรียนตามปกติ  แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะเป็นเรื่องปกติแต่ก็ทำเอาฉันมองเธอตาค้างไม่กระพริบ
          เฮ่ย!ยังไม่ตื่นหรอ
          เธอทักฉันจนสะดุ้งตื่นจากอาการตาค้างซึ่งก็ทำเอาฉันรู้ตัวว่าจ้องมองเธอเข้าไปเต็มๆเลย  สักครู่เธอก็เดินไปคุยกับเพื่อนคนหนึ่งแล้วหันกลับมาพูดให้ทั้งห้องได้ยินว่า
          กนกพร  สมฤดี  กมลทิพย์  ชนาธิป  พักเที่ยงไปเจอกันที่สนาม3
          อ้าวเฮ้ย..มีชื่อฉันรั้งท้ายด้วยนะเนี่ยดีใจจัง  พอหมดชั่วโมงเรียนก่อนพักเที่ยงฉันก็เดินลงไปที่สนาม3ตามสัญญาของเธอ  แต่รอแล้วรอเล่าเธอก็ยังไม่ยอมมาสักทีฉันจึงเดินเข้าไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหารกลางวันก่อน  ตอนแรกว่าจะเดินไปซื้ออาหารแต่อยู่ดีๆฉันก็เดินกลับออกมาที่สนาม3..เพื่อมารอเธอและเธอก็เดินมาจริงๆ  เธอพูดรวมๆถึงเรื่องการเตรียมห้องให้พร้อมสำหรับการตรวจเยี่ยมโรงเรียนและพูดต่อถึงเรื่องการทำมู่ลี่ซึ่งฉันก็ได้เสนอความคิดไปเล็กน้อย  ไปๆมาๆเธอก็มาพูดเออออกับฉันอยู่คนเดียว  เลยกลายเป็นว่างานนี้ฉันต้องรับผิดชอบไปเลยน่ะสิ  หลังเลิกเรียนฉันเลยถือโอกาสเดินออกมาคุยกับเธอโดยใช้งานมาเป็นข้ออ้างซะเลย
          
          29 ม.ค. 47
          วันนี้หลังเลิกเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ที่อาคาร2ฉันตั้งใจจะเดินกลับอาคาร1ไปเลย  แต่เธอดันมายืนเฝ้าเวรอยู่ฉันก็เลยหาโอกาสเข้าไปคุยด้วยสักหน่อย  ตอนนี้ในมือของฉันถือสมุดและกระเป๋าดินสออยู่เพียงแต่ยิ่งคุยกับเธอนานเท่าไรฉันก็ยิ่งกำสมุดจนม้วนมากขึ้นเท่านั้น  เวลาที่จะคุยกับเธอฉันก็มักจะมีข้ออ้างเสมอๆวันนี้ก็เช่นกันเอาเรื่องงานมาบังหน้าแต่ก็คุยจริงๆจังๆ  งานมู่ลี่ที่เธอฝากไว้ก็เริ่มทำแล้วเหลือเรื่องลูกปัดและเชือกที่จะใช้ร้อย  เธอบอกให้ฉันไปดูเชือกที่ร้านขายของข้างโรงเรียนแต่ฉันก็ดันสติแตกหาไม่เจอ  เลยกลับออกไปคุยกับเธอและเธอก็พาฉันเข้ามาดูเชือกด้วยกันทำเอาฉันพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแล้วนะเนี่ย
          30 ม.ค. 47
          ชั่วโมงคณิตศาสตร์เพื่อนๆในห้องเรียนของฉันร่าเริงกันเต็มที่เสียจนมิสผู้สอนทนไม่ไหวจึงเดินออกจากห้องไป  เธอในฐานะครูผู้ช่วยจึงต้องเข้ามาดูแลในห้องและอนุญาติให้ทำมู่ลี่ต่อได้  คราวนี้เพื่อนๆมาช่วยทำกันทั้งห้องงานเลยคืบหน้าไปเยอะแถมเธอยังเข้ามาช่วยทำอีกต่างหาก  ถึงเวลาพักก็ไม่ไปพักเพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆนะเนี่ย  แต่แล้วเธอก็เดินมาบอกกับฉันว่า
          เดี๋ยวมิสลงไปเฝ้าเวร เราทำไปก่อนละกัน  
          จากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องไปทำเอากำลังใจหดหายไปเกือบครึ่งเลยนะเนี่ย  หลังเลิกเรียนในเวลา 15 .40 น. ตามจริงแล้วฉันต้องกลับบ้านเลย  แต่เธอบอกให้พยายามอยู่เย็นเพื่อช่วยกันทำงานก่อน  ถ้าขอร้องกันมาแบบนี้ใครกันนะจะปฏิเสธได้ลงคอ  ฉันจึงโทรศัพท์บอกแม่ให้มารับตอนเย็นๆและนั่งทำมู่ลี่ต่อไปเรื่อยๆ  ในที่สุดเธอก็เดินเข้ามาดูความคืบหน้าของงานแต่แล้วก็เดินกลับออกไปเพราะติดธุระด่วน  ฉันก็ยังคงกัดฟันทำงานต่อไปเรื่อยๆจนครบ 2 ชั่วโมงพร้อมกับเหมางานไปทำต่อที่บ้านแล้วจึงลงไปรอแม่ที่สนามด้านล่างซึ่งเกือบจะร้างผู้คนแล้ว  
          17.40 น. เธอขี่มอเตอร์ไซค์พาหนะคู่ชีพของเธอกลับบ้านพร้อมกับรุ่นพี่คนหนึ่งซ้อนท้ายอยู่  ซึ่งรุ่นพี่คนนี้ฉันเพิ่งรู้จักผ่านทางอินเตอร์เน็ทได้เมื่อต้นปีนี้  และหลังจากนั้นฉันก็ได้รู้อะไรหลายๆอย่างทั้งความสุข  ความเศร้า  ความสมหวัง  ความเสียใจได้เกิดขึ้นกับฉันและสิ่งเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ฉันได้รับรู้อยู่เสมอว่า  ทุกสิ่งบนโลกไม่มีอะไรแน่นอนเพราะความแน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่นอน
          31 ม.ค. 47
          วันนี้ฉันไม่ได้ไปโรงเรียนแต่ก็ยังไปเรียนพีเศษ  เมื่อกลับมาบ้านแล้วฉันก็ยังคงมุมานะทำมู่ลี่ต่อไปจนเที่ยงคืน  แม้ว่ากำลังกายจะถดถอยหรือกำลังใจจะหมดไป..
          1 ก.พ. 47
          วันนี้ชีวิตก็ยังหนีไม่พ้นการเรียนพิเศษ  แต่ฉันก็เริ่มทำมู่ลี่ต่อไปจนบ่ายๆก็เริ่มรู้สึกคิดถึงเธอเลยโทรไปถามเรื่องไม้ที่จะใช้ห้อยมู่ลี่  เธอตอบกลับมาว่าจะลองหาดูและฉันก็ยังคงนั่งทำต่อ  22.20 น. ฉันเกิดใจกล้าชนิดบ้าบิ่นถึงขนาดโทรศัพท์ไปหาเธอทั้งๆที่ดึกมากแล้ว..แต่เธอก็ยังเปิดมือถือ  ฉันบอกกับเธอเพียงแค่ว่าทำสุดความสามารถได้เพียงเท่านี้  เธอก็ตอบกลับมาว่า ทำคนเดียวเหนื่อยใช่มั้ยล่ะ  ขอบใจนะ  กำลังใจเริ่มกลับคืน..
          2 ก.พ. 47
          ชั่วโมงแนะแนวซึ่งเป็นชั่วโมงของเธอเองแท้ๆแต่เธอกลับหางานมาให้ทำซะได้  หลังเลิกเรียนฉันเลยโดดเรียนพิเศษแล้วมานั่งร้อยมู่ลี่อยู่ที่สนามและได้เพื่อนๆอีกบางส่วนเข้ามาช่วยกันทำ  ทำไปเรื่อยๆก็รู้สึกกระหายน้ำฉันจึงชวนเพื่อนคนหนึ่งเดินไปซื้อน้ำร้านขายของซึ่งปกติเธอจะต้องเฝ้าเวรอยู่แต่ตอนนี้เธอหายไปไหนแล้วล่ะเนี่ย  พอฉันกำลังเอื้อมมือไปจับประตูร้าน..เธอก็ผลักประตูออกมาพอดีทำเอาฉันตกใจ  เฮ้ย!ทำไมไม่เรียนพิเศษเธอพูดและฉันก็ตอบกลับไปว่าก็..ทำมู่ลี่ค่ะ  เออ..รีบๆเข้าล่ะเธอพูด  หลังจากนั้นฉันก็กลับไปทำงานต่อ
          สุดท้ายแล้วงาน มู่ลี่ นี้ก็เสร็จ(จนได้)  ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนและเธอ(ซึ่งก็เป็นคนสั่งงานเองนี่หว่า)ที่ให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นอย่างสูงจนทำให้ผลงานที่ออกมาประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี
          เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์ 				
comments powered by Disqus
  • บินไป

    26 พฤศจิกายน 2547 22:24 น. - comment id 378972

    นั่นมันลัทธิขงจื้อมี1ใน1000000 เมหือนร้อยคนมีหนึ่งในร้อย คนที่สั่ง ไม่มีโอกาสได้ทำ คนทำไม่มีโอกาสได้สั่ง ผลงาน จึงตกเป็นของคนสั่งที่ไม่มีโอกาสได้ทำนั่นเอง
  • น้องสาวคนหนึ่งของพี่ชาย

    26 พฤศจิกายน 2547 23:52 น. - comment id 378994

    อ่า เพื่อนคนหนึ่งที่เธอชวนไปซื้อน้ำคือเราไปมะ ทีหลังใส่ชื่อลงไปด้วยจิ-_- เราอยากมีตัวตนนะ
    
    ยังไงก็ขอให้มีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับอาชาแบบนี้แต่ไปเรื่อย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกะพี่บิ๊กนะ หุหุหุ งงมั้ยล่ะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    27 พฤศจิกายน 2547 10:45 น. - comment id 379096

    เรื่องนี้แนะให้รู้ว่า
    
    ความไม่แน่นอน คือความแน่นอน
    ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จต้องอยู่ที่นั่น
    และสุดท้ายดีใจด้วยที่งานสำเร็จลงด้วยความเรียบร้อย
  • Robert TingNongNoi

    27 พฤศจิกายน 2547 10:52 น. - comment id 379103

     
    สื่อได้เยี่ยมมากทั้งภาษาและนัยยะ ๚ะ๛
    
    size> 
    
  • อาชา

    29 พฤศจิกายน 2547 20:39 น. - comment id 380672

    ขอบคุณสำหรับทุกๆความคิดเห็นนะคะ *-*
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน