เจ้าทุยระทม..

สาวบ้านนา


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song94.html
(ขวัญใจเจ้าทุย)
............


ในท่ามกลาง....
แสงตะเกียงริบหรี่ไรแสงดาวรุบหรู่รำไรๆ
สาวนา...
จุดเทียนทองเทียนชัยหน้าพระพักตร์พระพุทธ
พร้อมน้อมถวายมาลัยรวงข้าว
ที่สาวนา...
ตั้งใจสอดสร้อยร้อยด้วยศรัทธาปสาทะของสาวนาเอง


มาลัยที่..
สาวนาใช้ใจดวงงามดวงดีพลีสมาธิประดิษฐ์
คิดร้อยเรียงรวงข้าวสีทองสุกปลั่ง
เย็บติดกันกับเรียวใบเขียวไพล
แล้ว..
แซมไสว
ด้วยมะลิพุดซ้อนอรชรอ่อนหวานประดับรายรอบ
และ..
นี่คือมาลัย..ที่คงเป็นมาลัยหนึ่งเดียว
ที่เกี่ยวก่อเกิดจากวิถีทองวิถีทุ่ง
อันจักหอมจรุง...
กว่ากลิ่นใดในหล้าโลกแล้ว สำหรับใจดวงดินดวงนี้


น้ำตาจากพลังปิติเกษมของดวงใจสาวนา
พรายพร่าลง ...พร้อมกับน้ำตาเทียน...
ในนาทีนั้น..
เมื่อสิ้นสุดเสียงสวดมนต์อันหวานแว่วก้องกังวาน
ผ่าน..
ฟากฟ้าไกล..ลอยลมไป
ในท่ามแมกไม้
ทุ่งกว้างมิร้างรักแห่งรวงเรียวที่รอเกี่ยวเก็บ..
ในหนาวเหน็บของสายลมในยามค่ำ
ราวกับ..
ทวยเทพยดาฟ้าดิน
สิ้นทั้งสวรรค์อินทร์พรหมมาร่วมรับรู้รับฟัง..


แสงเทียนทอทอดจับเสี้ยวหน้างามเศร้า
ดูอิ่มพราว...
ราวแม่เนื้อทองผ่องพรายฉายฉาน
ด้วยพลังแห่งบุญเกษม..


สาวนา...
เดินเหว่ว้าดูดาวเดือนเกลื่อนนภาในยามค่ำ
นั่น..ดาวประจำเมือง ประจำใจ
ที่มากดวงใจ มักใช้เป็นแรงฝันบันดาล
ให้ฝากรัก... 
ยามอ้างว้างต้องแรมร้างแม่เนื้อนวลพ่อนกไพร


สาวนา..หนาวในดวงใจนิดนิด
เมื่อคิดถึงอ้ายกับบทเพลงนี้
ที่...
อ้ายพลีร้องไห้ฟังในยามค่ำ
ยามที่มาเอนอิงพิงไหล่กันริมลอมฟาง
แล้ว..
ชี้ชวนกันชมดาวพราวพร่างฟ้า
ที่ต่างพากันราวจะกระพริบตาล้อ
เมื่อมองเห็นอ้าย..
คล้ายจะแอบจุมพิตแก้มนวลแก้มนางมิร้างราสักนาที..


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4658.html
คิดถึงพี่ไหม... โอภาส ทศพร
คิดถึง พี่หน่อย นะกลอยใจพี่
ห่างกัน อย่างนี้
น้องคิดถึงพี่ บ้างไหม
อย่าลืม อย่าลืม อย่าลืมสัจจา สัญญาที่ให้
ว่าตัวห่างไกลหัวใจชิดกัน 
คิดถึง พี่ก่อนน้องนอนก็ได้
เมื่อยาม หลับไหล
น้องเจ้าจะได้ นอนฝัน
ข้างขึ้นเมื่อใดแก้วใจโปรดมอง
แสงของนวลจันทร์
เราสบตากัน ในแสงเรื่อเรือง
คืนไหน ข้างแรม ฟ้าแซมดารา
น้องจงมองหา ดาวประจำเมือง
ทุกคืนเราจ้องดูเดือนดาว
ทุกคราวเราฝันเห็นกันเนืองเนืองถึง
สุดมุมเมือง ไม่ไกล
คิดถึง พี่หน่อย นะกลอยใจเจ้า
พี่ตรม พี่เหงา
เพราะคิดถึงเจ้า เชื่อไหม
ฝากใจกับจันทร์ ฝากฝันกับดาว
ทุกคราวก็ได้ เราต่างสุขใจเมื่อคิดถึงกัน.
............


คืนนี้..
สาวนา..มีเพียงเจ้าสายน้ำ*ควายน้อยเพื่อนยาก*
ที่เคียงใกล้
สู้ลำบากฝากรอยไถไม่แปรมาด้วยกันนานปี
*ควาย..*
ที่ซื่อสัตย์กตัญญูรู้คุณคนและแผ่นดิน
เสียยิ่งกว่าอมนุษย์มากหน้าเป็นไหนไหน
ที่..
พากันทำร้ายทำลายผืนดินเกิด 
แล้ว
ยังจะนับเป็นสัตว์ประเสริฐได้อย่างไรกันเล่า..


สาวนา...จูงเจ้าสายน้ำออกจากคอก
แล้วกระซิบบอกเบาๆ
*เจ้าให้ข้าซ้อนซบโอบเจ้าขี่ไปทั่วทุ่งจะได้ไหม..จ๊ะ*
*เพราะ..
ข้าอยากย้อนรอยรักรอยอดีตแห่งข้า
ที่อ้ายเคยพาข้าไป
ชมทุ่งไสว และลงไปเล่นน้ำ
ในท่ามบึงบัวสล้าง ในท่ามสายฝนพรำ*
ที่เราต่างพากันลงไปดำผุดดำว่าย
แล้ว..
อ้ายก็เด็ดบัวแรกแย้ม..
มาทัดแก้มแซมผม
พร้อมดอมดมพรมจูบลูบไล้ไปทั่วทั้งร่างข้า
ด้วยแสนรักนะ...เจ้าสายน้ำ*


*มามะ..เจ้ายอมแล้วใช่ไหม
เราไปกันนะ
อ้าวแล้วทำไมเจ้ามีน้ำตาละฮึ
ควายขี้แย ก็มีด้วยเหรอนี่ 
นึกว่าจะมีแต่คนอย่างข้าเสียอีก..*


สาวนา..ค่อยๆดึงร่าง
ที่แสนอ้างว้างใจขึ้นไปบนหลังเจ้าพื่อนยาก
พร้อมกับ...น้ำตาซึม 
เมื่อรำลึกนึกถึงเสียงหัวเราะของกันและกัน
สองคน กับหนึ่งควาย...
ที่
เคยว่ายเที่ยวท่อง
ล่องคลองบึงในคืนผ่องเพ็ญจันทร์พราว..
ราว..ขวัญ..เรียม  นานมา..


สายลมรำไร..
แสงเดือนรุบหรู่...
หมู่เมฆนวลเริ่มร่ายระบำรับขวัญงาม 
ในท่ามสายฝนเริ่มปรายปรอย
หัวใจดวงนิดน้อยบอบบาง
ในร่างและสองมือหยาบกร้าน
ที่...มิเคยท้อพ้อโลกแลโชคชะตา...
ไม่เคยก้มหน้ายอมพ่ายให้อายฟ้าดิน


เธอ..ปล่อยร่าง
ที่มีเพียงอาวรณ์ถวิลถึงผู้เป็นที่รัก
ค่อยๆโอบรัดร้อยเจ้าสายน้ำไว้
ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม
พร้อมซบหน้า....
ร่ำไห้สะอึกสะอื้นไปกับหลัง..*ลูกควายสายน้ำ*
อย่างสุดฝืนทน...แล้ว...
กับเสียงฝนครางฟ้าครวญ..
กับมวลเมฆหมอง
กับครรลองชีวีชีวิต


สาวผู้มีลิขิตชะตา
ให้รู้ค่ารักนวล...
ให้ดวงใจหอมอวล ด้วยกลิ่นโคลนดินสาบควาย
ให้รู้ค่าผืนพสุธาไทยพสุธาทอง
ได้ท่องไปในวิถีธรรม ธรรมชาติอันแสนพิลาสพิไล
ท่องไปในราวไพรราวป่า...
ราว..สาวบ้านนาผู้มิเคยสิ้นรักภักดี...!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song94.html
ขวัญใจเจ้าทุย รวงทอง ทองลั่นทม
เจ้าทุยอยู่ไหน ได้ยินไหมใครมากู่ กู่
เรียก หาเจ้าอยู่ อยู่ หนใดรีบมา
เจ้าทุยเพื่อนฉัน ออกมาหากันดีกว่า อย่า 
เฉยเลยอย่าอย่า มะมา เร็วไว
เกิด มามีแต่ทุย เป็นเพื่อนกัน
ค่ำเช้า ทำงาน ไม่ทิ้งกัน ไม่หายไป
ข้า มีข้าวและน้ำ นำมาให้
อีกทั้ง ฟางกองใหญ่ อย่าช้าไย อย่าช้าไย
เจ้าทุยเพื่อนจ๋า ออกไปไถนาคงเหนื่อย อ่อน
เหนื่อย นักพักผ่อนก่อน หนาวจนอ่อนใจ
ข้าจะอาบน้ำ ป้อนฟางทั้งกำคำใหญ่ ใหญ่
จะสุมไฟกองใหม่ ใหม่ ไว้กันยุงมา
เจ้ามีคุณแก่เรามามาก มาย 
ถึงแม้ เป็นควาย เจ้าเหนือกว่า ดีเสียกว่า
ผู้ คน ที่เกียจคร้าน ไม่เข้าท่า
ทุยเอ๋ยเจ้าดีกว่า ช่วยไถนา ได้ทุกวัน
เจ้าทุยนี่เอ๋ย ข้าเคยเลี้ยงดูมาก่อน เก่า
เมื่อ ครั้งยังเยาว์เยาว์ ทั้งทุยและฉัน
ข้าเคยขี่หลัง นั่งไปไหนไป ไม่หวาด หวั่น
จะสุขทุกข์เคยบุก บั่น รู้กันด้วยใจ
เติบ โตมาด้วยกันในไร่ นา เคยหา กินมา 
ข้าเห็นใจ ข้าเห็นใจ 
เจ้า ทุย ยากจะหา ใครเทียมได้
ข้ารักดัง ดวงใจ ไม่รักใคร ข้ารักทุย...				
comments powered by Disqus
  • rain..

    9 ตุลาคม 2548 20:42 น. - comment id 525382

    คือความอบอุ่น..ที่เรนสัมผัสตรงนี้ได้นะคะ..
      สาวนาเธอช่างโชคดีมากมาย..
    
        ท่ามกลางธรรมชาติ ..ที่งดงาม..36.gif
     หากเป็นได้ ..  เรนก็อยากที่จะเกิดเป็นสาวนาที่สดใส .. และบริสุทธิ์ ..
        เรน.. รักสาวนาคนนี้จัง .. 58.gif..
     ก็เพราะ.. เธอคือความอ่อนหวานที่น่ารักนะดิคะ...
    
          ..เรนชอบภาพนี้ด้วยดิคะ ..  36.gif
  • idaho

    9 ตุลาคม 2548 22:12 น. - comment id 525410

    แวะมาบ้านกลอนช่วงนี้  มีบรรยากาศของท้องทุ่งอวลไปหมดเลยค่ะ
  • ภูตะวัน....

    9 ตุลาคม 2548 22:58 น. - comment id 525426

    คิด ๆๆๆๆๆ....
    คิด ถึง7.gif
  • กอกก

    10 ตุลาคม 2548 03:51 น. - comment id 525490

    อิจฉาสาวบ้านนาได้ขี่ควาย...
    วันนี้ได้ดูทีวี เขาบอกว่าการขี่ควายไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ...
    ไม่ใช่นั่งตรงกลางหลังควาย แต่ให้นั่งค่อนไปทางด้านหลัง คือช่วงสะโพกควาย...
    
    แล้วน้อยคนนักที่ขี่ควายโดยปล่อยมือได้ทั้งสองข้าง...
    
    คุณพี่พุดขา ปรายอยากขี่ควายค่ะ 66.gif...
    
    มาอ้อนยามดึก เผื่อจะมีคนเห็นใจบ้าง  อิ้ อิ้ 20.gif...
    
    จะอรุณสวัสดิ์หรือราตรีสวัสดิ์ดีหนอ...
    
    สวัสดีค่ะ
    36.gif
  • ไรไก่

    10 ตุลาคม 2548 12:17 น. - comment id 525548

    รูปเจ้าทุยน่ารักค่ะมีน้องตัวเล็กด้วย
    ระลึกถึงขวัญ-เรียม
    รักที่อมตะนะคะ
  • ชลกานต์

    10 ตุลาคม 2548 14:20 น. - comment id 525610

    16.gif เพลงคิดถึงพี่ไหม เพราะมากค่ะ 
    ฟังแล้ว นึกถึงภาพสมัยก่อนนะคะ
    เค้ามีความรักที่สวยงาม มีความคิดถึงที่สวยงามจริงๆ 16.gif
  • พี่ดอกแก้ว

    10 ตุลาคม 2548 19:32 น. - comment id 525686

    ตะวันรอนตอนค่ำย่ำราตรี 
    พบแสงสีจากดาวดูพราวสรวง 
    คลายความอ่อนผ่อนใจไปทั้งดวง 
    ได้พบช่วงเยือกเย็นเห็นดารา 
    
    ขอหยุดเท้าพักก้าวให้เข้มแข็ง 
    อยู่ใต้แสงดาวระยิบวิบเวหา 
    เติมความฝันสรรค์ใจให้โสภา 
    ประทับแสงดาริกาเข้าสู่ใจ 
    
    ขอทุกก้าวพร่างพราวด้วยคุณค่า 
    ดุจดาราส่องแสงความสดใส 
    กี่รอยเท้าที่ก้าวเดินต่อไป 
    จงเปี่ยมหวังดังไฟในดารา 
    
    ทะเลดาวพราวฟ้าที่ปรากฏ 
    จารจรดคำมั่นที่ฝันหา 
    ไม่เคยมืดมิดไปในมายา 
    แต่เจิดจ้าจับใจไปทุกยาม 
    
    สวัสดีค่ะสาวนาคนงาม
  • sun strom

    10 ตุลาคม 2548 21:22 น. - comment id 525743

    1.gif16.gif58.gif
    แวะเอารอยยิ้ม หัวใจ และรอยจุ๊บ ๆ มาใหพี่พุดค่ะ
    
    
    
    คิดถึงนะคะ
  • ท่องเมฆา

    10 ตุลาคม 2548 22:12 น. - comment id 525757

    36.gif
    
    ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไรเขียนกลอนไม่ออก...
    ขอมาชื่นชมเฉยๆแล้วกันครับ...
    
    36.gif29.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน