๏ คิด ๏

พี่ดอกแก้ว

เรื่องที่ผ่านกาลเก่าเฝ้าแต่คิด 
วันละนิดจนคุ้นคบปัญหา 
โดยเฉพาะความโศกเสียน้ำตา 
ชำนาญกว่าเรื่องใดในคำนึง 
คิดแล้วปวดรวดร้าวราวถูกย้ำ 
เหมือนกรีดซ้ำอุราครานึกถึง 
หลายประโยควนเวียนอย่างอื้ออึง 
ดั่งศีรษะถูกตรึงปวดแทบตาย 
ทั้งที่ไม่มีใครชวนให้คิด 
แต่ว่าจิตเก็บเรื่องเก่ามาฉาย 
คิดแล้วคิด คิดไปจนวุ่นวาย 
เรื่องขยะมากมายฉายที่ใจ 
แล้วคร่ำครวญหวนไห้ไม่อยากคิด 
ใครหนอเล่ามีสิทธิ์ไปแก้ไข 
นอกจากตนคนเดียวหาใช่ใคร 
ที่สามารถเปลี่ยนใจไม่คิดครวญ 
ที่ปวดหัวก็เพราะตัวนั่นแหละทำ 
ที่แสนช้ำก็เพราะเราเฝ้ากำสรวล 
ที่ไม่ลืมก็เพราะเราเฝ้าทบทวน 
ที่ทุกข์ล้วนก็เพราะเราเลือกเขาเอง 				
comments powered by Disqus
  • มายาวี

    7 พฤศจิกายน 2548 13:02 น. - comment id 529125

    วันนี้ก็มาทักทายพี่ดอกแก้วอีก... 
        ทำอย่างไรจึงจะมีจิตที่สงบนิ่งได้นาน.....
        พยายามไม่คิดอะไร แต่ภาพต่างๆ ก็วนเวียนอยู่ร่ำไป....ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องให้ชวนคิด 
    แต่ก็คิดจนได้
         ก็คิดไปเฉยๆ ค่ะ   ไม่ได้มีอารมณ์ใดๆ กับความคิดนั้น
        เพียงแต่ไม่รู้จะคิดไปทำไม.......นั่นนะซิ
  • ชัยชนะ

    8 พฤศจิกายน 2548 22:25 น. - comment id 531558

    แบบนี้คงจะเข้าตำรา รำไม่ดีหมูไม่กิน
    อุ๊ย! ผิดสุภาษิต
    
    รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
    
    เมื่อได้ตัดสินใจลงมือทำไปแล้ว
    ย่อมต้องมีทั้งรับผิด และรับชอบเป็นของคู่กันครับ
    
    บทสุดท้ายบอกความหมายได้กระจ่างแจ้งแทงใจมากครับ
    36.gif36.gif36.gif
  • พี่ดอกแก้ว

    7 พฤศจิกายน 2548 12:42 น. - comment id 533829

    36.gif@...น้องราชิกา...
    
    เพราะความคิดมักแปรจิตให้เป็นไป
    ทั้งสองนัยชั่วดีที่ถูกเผย
    ดีที่สุดหยุดคิดทุกอย่างเลย
    รู้เฉยเฉยว่างกิเลสไร้เภทภัย
    
    จิต คือตัวบงการให้เกิดการกระทำทั้งปวง
    หากควบคุมจิตได้มิให้ฟุ้งซ่านเตร็ดเตร่ไปในอารมณ์อย่างโลกๆ
    ความสุขที่แท้จริงก็จะเกิดขึ้น เพราะปราศจากความติดข้องต้องการและความทุรนทุราเพื่อไขว่คว้า
    แม้กระทั่งความโกรธาก็ไม่เกิดขึ้นเมื่อไม่สมหวัง
    
    สิทธิในการคิดของแต่ละคนนั้น  เป็นเสรีภาพเฉพาะตัวจริงๆ
    แต่จะใช้สิทธิเยี่ยงไรนั้นเป็นเกี่ยวข้องกับสติปัญญาของผู้มีสิทธิ์
    เช่น คิดออกจากทุกข์ กับขลุกอยู่กับทุกข์ต่อไปอย่างไรู้จบ
    คิดถูกหรือคิดผิด...อยู่ที่เราจะเลือกสิ่งใดให้กับตนเอง
    
    ขอบคุณในการเยี่ยมเยียนและความคิดเห็นนะคะน้องราชิกา
    มีประโยชน์มากแก่การพิจารณาใคร่ครวญก่อนการกระทำกรรมทั้งหลาย
    ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะ ...
  • พี่ดอกแก้ว

    7 พฤศจิกายน 2548 12:43 น. - comment id 533830

    36.gif@...น้องมะกรูด...
    
    การหมกมุ่นครุ่นคิดจิตบีบคั้น
    ทุกเรื่องนั้นยิ่งยากจากแก้ไข
    เพราะคิดอย่างรุ่มร้อนที่ภายใน
    คิดเท่าไรก็ยิ่งกลุ้มสุมเวียนวน
    
    เมื่อใจเย็นเห็นอะไรก็ไม่กลุ้ม
    แยกแยะได้เป็นกลุ่มไม่สับสน
    แม้นหลายปมก็แก้ไม่ร้อนรน
    เพราะจิตใจของตนไม่เร่งการ
    
    เพราะเงื่อนไขหลายๆอย่างทำให้กลายเป็นเครื่องกีดขวางปิดบังความคิดที่ดี
    เช่น ความรีบร้อน ความพลุ่งพล่าน ความกังวล หรือความโกรธ เป็นต้น
    แต่เมื่อใจเย็นลงแล้ว เครื่องกีดขวางเหล่านั้นก็จะลดลงไปจากใจ
    และก็จะทำให้เห็นมุมมองใหม่ๆได้มากขึ้น
    
    สติ..จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสงบด้วยการระลึกรู้สึกตัวกัยสถานการณ์ปัจจุบัน
    ปัญญา..จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิฉัยแยกแยะเรื่องราวต่างๆตามเหตุผล และเป็นตัการสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่า อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
    
    ผู้ที่มีแต่สติ...จะมีเพียงการระลึกรู้สึกตัวอยู่เท่านั้น แต่ผู้ที่มีปัญญามาร่วมงานด้วยจะทำให้ทราบว่าสิ่งนั้นคืออะไร ประโยชน์หรือโทษคืออะไร และควรทำอย่างไรค่อน้องมะกรูด
    
    ขอให้ปลอดจากอารมณ์ร้ายๆเข้าไปเกี่ยวข้องกับความคิด ..สงบและคิดด้วยเหตุผลได้ทุกสถานการณ์นะคะ 
    มีความสุขมากๆค่ะน้องมะกรูด
  • พี่ดอกแก้ว

    7 พฤศจิกายน 2548 12:44 น. - comment id 533832

    36.gif@...น้องตูน ผู้หญิงไร้เงา...
    
    เฝ้าแต่คิดคงไร้สิทธิ์เข้าใกล้เขา
    คิดแล้วเราต้องลงมือสื่อความหมาย
    ให้เขารู้ว่าเรารอขอเคียงกาย
    แล้วเจ้าชายคงมาหาน้องเอย
    
    สวัสดีค่ะน้องตูน..หายเงียบไปหลายวัน ที่แท้ก็ไปสอบนี่เอง
    กลับมาก็อารมณ์ดีได้อย่างนี้ ..แสดงว่า ไม่มีอะไรน่าหนักใจ
    ขอบคุณที่แวะมาทักด้วยความคิดถึงนะคะน้องสาวคนงาม
  • พี่ดอกแก้ว

    12 พฤศจิกายน 2548 21:02 น. - comment id 534813

    36.gif@...ชัยชนะ...
    
    เพราะคิดมากหลากเรื่องจนเนื่องแน่น
    เหมือนโซ่แล่นรัดไว้ไร้อิสระ
    คิดมากไปทำให้ใจมีพันธะ
    ต้องลดละการคิดไม่ติดใจ
    
    สวัสดีค่ะน้องชัย..
    รั้งท้ายมาเยี่ยมอย่างนี้ ขอบคุณมากค่ะ 
    ที่เล่ามายืดยาวหลายบท ..ก็มาสรุปที่ตอนจบบทสุดท้ายนี่เอง
    ขอบคุณอีกครั้งที่เข้าตากรรมการค่ะ
  • เมกกะ

    4 พฤศจิกายน 2548 21:57 น. - comment id 535160

     
    29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif
     
      
    
        +-*-+  +-* ปู๊ชายอารมดี๊ดี *-+  +-*-+
  • เมกกะ

    4 พฤศจิกายน 2548 21:59 น. - comment id 535161

    
    ทานศีล  อบรม  บ่มดวงจิต
    พินิจ  กายา  อุทาหรณ์
    ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  ตามขั้นตอน
    ฝึกสอน  ดวงใจ  ให้เบิกบาน
    
    อยากรวย  ให้ทาน  เป็นงานหลัก
    ทำใจ  คึกคัก  ให้อาจหาญ
    สละ  ตระหนี่  จากดวงมาน
    สืบสาน  สืบธรรม  นำประชา
    
    หมั่นรัก  ษาศีล  ถ้าอยากสวย
    คนเห็น  งงงวย  เกิดหรรษา
    ถ้าอยาก  ฉลาด  เชิงปัญญา
    หมั่นภา  วนา  อย่าละเลย
    
    ทำบุญ  ทำทาน  กันเสียก่อน
    อาวรณ์  สังขาร  อย่าหยุดเฉย
    นึกถึง  ความตาย  เสียให้เคย
    โธ่เอ๋ย  ชีวิต  อนิจจัง ฯ
     
      
    
        +-*-+  +-* ปู๊ชายอารมดี๊ดี *-+  +-*-+
  • ไรไก่

    4 พฤศจิกายน 2548 22:27 น. - comment id 535168

    คนเราชอบวนเวียนคิดซ้ำไป-มา
    คิดแล้วคิดอีกทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้
    ก็คิดให้เสียใจกับตนเอง
    ความคิดยากแท้ควบคุมได้
    73.gif73.gif
  • รัศมีตะวัน (แดดเช้า)

    4 พฤศจิกายน 2548 22:31 น. - comment id 535173

    เพียงตาเห็นไม่เพียงรู้แค่ตาเห็น
    สำคัญเป็นสิ่งจริงไม่นิ่งเฉย
    หากตระหนัก \"เครื่องมือ\" คือคุ้นเคย
    ให้ใจเผยสรรพสิ่งผ่านเพียงตา
    
    เราจึงหมายสิ่งจริงในโลกนี้
    ยึดมายาที่มีสมมุติค่า
    แล้วก่อเกิดอารมณ์โศกตามมา
    หวนวนล้าหน่ายคิดให้จิตจำ
    
    ทั้งความสุขพองฟูอยู่ในจิต
    ทั้งแฟบติดหมองขุ่นวุ่นเพ้อพร่ำ
    ทั้งลำพองตัวตนทุกข์หนุนนำ
    ต่างกลืนกล้ำหลงสุขว่าเป็นสุขแท้
    
    เราจึงขาดการสังวรสำรวมกาย
    ทุกสิ่งกรายจึงพอกพูนเพิ่งรอยแผล
    อยากสุขล้ำสำคัญหมายใครดูแล
    ไม่อยากเศร้ากับสิ่งแปรที่ปรวนไป
    
    ตาหูรับสดับรูป สูบกลิ่นกรุ่น
    รสละมุนอุ่นกายคิดไปได้
    ความรู้สึกตรึกทบซบซาบใจ
    นานเพียงใดที่เราติด ... มิรู้จำ 
    
    สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว : )
    เพราะเราขาดความสำรวมระวัง จึงทำให้ปัญหาประดังเข้ามามากมาย
    
    ความอยากของเรานี่ ... พิษรุนแรงเหลือเกินนะคะพี่ดอกแก้ว รุ่งขอเล่าประสบการณ์การเจริญสติให้พี่ดอกแก้วอ่านดีกว่า เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจด้วย
    
    การทรงไว้ซึ่งฌาน ทำให้เรานิ่งพอที่จะเข้าถึงสิ่งเป็นไปของโลกได้จริงๆ เวลากินอาหาร ระหว่างที่กินอาหาร เรากินด้วยสมาธิ ดูกายดูจิตไว้ ทั้งกายภายนอก กายภายใน (สมาธิวิธีที่รุ่งฝึก คือการทรงนิมิตไว้ทั้งภายนอกและภายใน เพื่อให้เกิดปัญญาค่ะ) เมื่ออาหารตกสู่กระเพาะอาหาร ขณะที่สมาธิเราทรงกำลังมากๆ เราจะเห็นอาหารในกระเพาะอาหารได้อย่างชัดเจนเลยว่า เป็นอย่างไร 
    
    ครั้งหนึ่ง... อาหารก็อร่อยดีนะคะ แต่มันรู้สึกเฉยๆ รู้สึกเปล่าๆ ว่างๆ เหมือนอาหารเป็นเพียงธาตุประกอบที่สู่ร่างกาย แล้วถูกสันดาปลงไป อาหารไม่อร่อยเลย ทั้งที่ลิ้นก็รับรสอร่อยอยู่อย่างนั้นแหละค่ะ
    
    พออาหารอร่อยตกสู่กระเพาะ เกิดรู้ขึ้นมาว่า กระเพาะไม่ได้รับรสอาหาร สักหน่อย รสอาหารเป็นเพียง สมมติมายา ที่กระทบลิ้นแล้วก็เราก็หลงพึงพอใจในรสนั้นๆ ถ้าเราสำรวมพอที่จะรู้ตาม เราก็จะคลายความกำหนัดในกามลงได้มากเลย
    
    นี่เป็นประสบการณ์การปฏิบัติกรรมฐานของรุ่งเมื่อก่อนเข้าพรรษานะคะ พี่ดอกแก้ว
    
    จริงๆ แล้ว ... ชนวนแห่งการคิด ทั้งหมดทั้งปวง ไม่ว่าดีหรือไม่ดี สุขหรือไม่สุข เกิดจากการไม่รู้จักสำรวมสังวร ต่างหากล่ะคะ รุ่งว่าอย่างนั้นนะคะ 
    
    ถ้าเราสำรวมสังวร เรารู้เท่าที่เป็น เรารู้ว่า เราพอใจ เราชอบใจ หรือไม่ชอบใจ แล้วอยู่กับอารมณ์เพียงตรงนั้น อารมณ์นั้นดับไป อารมณ์ใหม่เข้ามา เราก็รู้ตามอีก ... ถ้าสติอยู่กับปัจจุบันดีแล้ว เราก็จะไม่หวนคิดถึงอดีต อยากได้ในสิ่งที่ชอบใจ ผลักออกในสิ่งที่ไม่ชอบใจ ไม่ไขว่คว้าเอาอนาคตที่อยากจะได้ในสิ่งที่เราชอบใจ มีสุข และไม่อยากได้ในสิ่งที่เราไม่ชอบใจ เราจะรู้เพียงว่า ณ ปัจจุบันธรรมนี้ เราชอบใจหรือไม่ประการใด
    
    ชนวนแห่งการหวนคิดก็ไม่เกิดค่ะ ... ปัจจุบันธรรม ทำให้เราสามารถดำรงสติได้อย่างมั่นคงจริงๆ เลยนะคะ พี่ดอกแก้ว 
    
    และนี่คือสิ่งที่รุ่งอยากจะสื่อออกมาในชิ้นงาน \"ชนวนแห่งความคิดถึง\" แม้จะไม่อาจจะสื่อออกมาได้อย่างชัดแจ้งนัก ก็ตาม
    
    อนุโมทนาบุญพี่ดอกแก้วค่ะ ... รุ่งขอขมานะคะที่เขียนอะไรออกมาเสียยาวเลย แต่หวังว่าจะก่อประโยชน์ได้บ้าง ไม่มีอานุภาพใดเหนือกว่าอานุภาพแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ เลยค่ะ ยิ่งเจริญรอยตามพระองค์ ปฏิบัติตามพระองค์มากขึ้นเท่าไร ยิ่งซาบซึ้งในคุณของพระองค์มากยิ่งเท่านั้นค่ะ : )
    
    ขอให้บุญจากการอนุโมทนาบุญอันยิ่งใหญ่ของพี่ดอกแก้วนี้ เป็นอานิสงส์ให้รุ่งคลายกำหนัดในกามได้โดยไวด้วยเถิด ... สาธุ
  • อัลมิตรา

    4 พฤศจิกายน 2548 23:29 น. - comment id 535196

    สวัสดียามราตรีค่ะ
    
    ความคิด คือการประมวลผลของหัวใจ+สมอง
    
    คิดดีก็จะกระทำดี - คิดไม่ดีก็จะกระทำไม่ดี
    เป็นการยากที่จะเร้นความคิดที่ไม่ดี 
    ให้ฉายภาพออกมาในรูปลักษณ์ที่สวยงาม และเป็นการง่ายที่คิดดี
    ภาพที่ปรากฏนั้นก็งดงามโดยมิต้องปรุงแต่งแต่อย่างใด
    
    เรื่องของความคิดเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเสียจริง
    อัลมิตรารู้ว่า การคิดดี ก็ถือว่าเป็นกุศล
    การคิดไม่ดี ถือว่า เป็นสิ่งอกุศล
    นี่ขนาดเป็นแค่ความคิดนะ ยังไม่รวมถึงพฤติกรรม
    
    อ่านคอมเม้นท์ที่ ๑ ของคุณรุ่ง (กำไรแฮะ ถือว่าของแถม)
    ชนวนแห่งการคิด ทั้งหมดทั้งปวง 
    ไม่ว่าดีหรือไม่ดี สุขหรือไม่สุข เกิดจากการไม่รู้จักสำรวมสังวร 
    น่าสนใจทีเดียวกับประโยคนี้ ..
    อัลมิตรานึกแว๊ปมาทันที
    กาย วาจา ใจ ต้องสำรวม คุณพ่ออาริตาที่ตอนนี้บวชเป็นสงฆ์เคยสอนไว้
    
    นัยว่าจุดเริ่มต้นทั้งมวล..
    นับหนึ่งจากความคิดนั่นเอง..
  • แสงไร้เงา

    5 พฤศจิกายน 2548 00:44 น. - comment id 535222

    อ่านแล้วเกินคำบรรยาย29.gif29.gif29.gif
    
    แวะมาสวัสดีพี่ดอกแก้วค่ะ36.gif
  • ปักษาวายุ

    5 พฤศจิกายน 2548 09:51 น. - comment id 535243

    นึกความหลังฝังเรื่องเก่าเฝ้าแต่คิด
    แล้วดวงจิตมิเศร้าตรมระทมหรือ
    มัวนั่งหมองเหม่อมองซึมกระทือ
    แล้วเอามือปิดหน้าบ้าหรือไง
    
    อิอิ ไม่ได้ว่าพี่ดอกแก้วนาคับ กลอนมันพาไปอะคับ โทดทีๆ29.gif29.gif29.gif
  • dark side of mind

    5 พฤศจิกายน 2548 10:46 น. - comment id 535253

    ความคิดนี่...ไวมากๆ นะครับพี่..
    และมันเป็นธรรมชาติของจิตที่จะคิดจะเที่ยวท่องไปสิบแปดตำบล
    คือตา หู จมูก ลิ้นกาย ใจ คูณด้วยตัณหา 3
    ห้ามไม่ได้ มันซัดส่ายตลอดเวลา..แต่ดึงได้ครับ...คือสติ ระลึกรู้นั่นเอง ดึงให้อยู่ในกรอบ
    
    ถ้าใครเก่งถึงขนาด ความคิดเกิดปุ๊บ สติจับได้ทันที...นั่นแสดงว่าเป็นสติ ระดับสัมโพชฌงค์ หรือสัมมาสติในมรรค8...ผู้ปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้นที่จะมีได้...
       อย่างผม นี่ คิดจนเลยเถิดเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ..... บางที สติ ยังไม่อุแว๊ เลยครับ..อิอิ46.gif
    
       ...เก็บความจาก ความทรงจำเก่าๆ จากหลวงพ่อ อาจารย์ หลายๆ ท่านที่เคารพนับถือครับ...
  • ทานทองคำ

    5 พฤศจิกายน 2548 13:02 น. - comment id 535266

    ใช่แล้วครับ   บางทีไม่อยากคิดแต่มันก็อดคิดไม่ได้  เป็นอย่างนี้อยู่ร่ำไป  แก้ไม่หายสีกที61.gifต้องร้องเพลงไม่เอาน่าอย่าคิดมาก  แล้วกระมัง
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    5 พฤศจิกายน 2548 15:57 น. - comment id 535290

    แอบมานั่งคิดอะไรเงียบคนเดียวนะครับพี่ดอกแก้ว..เด๋วก็จะบินต่อแล้วครับ
    31.gif
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:52 น. - comment id 535301

    36.gif@...น้องเมก ผู้ชายอารมณ์ดี...
    
    ชีวิตที่ไม่พร้อมจึงตรอมตรม
    ด้วยผสมเรื่องราวความร้าวฉาน
    ปัจจัยสี่ไม่สมบูรณ์พูนสราญ
    จึงเป็นเหตุกันดารในชีวี
    
    ทั้งผิดหวังชิงชังเรื่องรักใคร่
    ไม่ถูกใจไร้สรรเสริญเจริญศรี
    มีปมด้อยต้อยต่ำช้ำฤดี
    เหตุเหล่านี้ทำไฟรุมให้กลุ้มใจ
    
    หากเพียบพร้อมด้วยทานเมื่อกาลก่อน
    นั้นแน่นอนโภคทัพย์ย่อมหลั่งไหล
    หากรักษาศีลดีทั้งกายใจ
    ปวงโรคภัยผิดหวังไม่หลั่งมา
    
    หากเจริญภาวนามานานเนิ่น
    จะไม่เพลินหลงไปในโมหา
    ขัดเคืองน้อยไม่ค่อยคิดโกรธา
    มากเมตตาให้อภัยไร้แค้นกัน
    
    แต่เพราะเราไร้ปัญญามาเป็นฐาน
    การคิดอ่านจึงมีแต่หุนหัน
    ไม่ยอมรับเหตุผลแห่งชีวัน
    ไม่สร้างเหตุฤาผลนั้นจะได้มา
    
    เมื่อคิดไปไร้หลักตระหนักจิต
    จึงมุ่งคิดถือตนใหญ่นักหนา
    ต้องการให้ทุกสิ่งสมอุรา
    จึงต้องมากลุ้มจิตคิดมากเอย
    
    สวัสดีค่ะน้องเมก..ผู้ชายอารมณ์ดี
    ชอบกลอนของน้องเมกจังค่ะ ...ล้วนมีสาระที่กระชับ ทั้งเหตุและผล
    ในเรื่องของชีวิต ...ทาน ศีล ภาวนา จนกระทั่งถึงมรณานุสติ
    
    ขอบคุณมากนะคะที่มาเขียนฝากไว้ค่ะ..น้องเมก
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:53 น. - comment id 535302

    36.gif@...ไรไก่...
    
    ความฟุ้งซ่านงานหลักของนักคิด
    หาใช่เป็นบัณฑิตที่คิดค้น
    แต่ฟุ้งซ่านมากมายในเรื่องตน
    แล้ววกวนคิดไปไร้ผลงาม
    
    มีแต่ความกลุ้มใจเมื่อได้คิด
    จนเป็นพิษหลอนใจไม่เข็ดขาม
    ความอ่อนแอจึงได้เริ่มลุกลาม
    เพราะเรื่องจริงใช่ตามที่คิดไป
    
    ต้องหาหลักพักใจให้เลิกคิด
    ไล่ฟุ้งซ่านจากจิตให้แจ่มใส
    ย้ายอารมณ์ออกจากเรื่องร้าวใจ
    มาอยู่ในเรื่องดีที่จิตตน
    
    สวัสดีค่ะไรไก่..
    แม้จะไม่มีใครมาขอร้อง ..แต่คนเราก็ชอบคิด ...และก็คิดไปในเรื่องที่ไม่ดีเสียเป็นส่วนใหญ่
    พอคิดไปมากๆเข้าก็กลุ้ม แล้วก็จิตนาการไปต่างๆจนมิตรกลายไปศัตรูไปเลยก็มี
    หรือทำลายโอกาสดีๆไปอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะความคิดมาก
    ความคิดเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมให้สงบในระยะเวลาอันรวดเร็วได้
    เว้นแต่จะใช้เครื่องมือพิเศษด้วยการย้ายมาหาอารณ์ที่เป็นปัจจุบัน หรือเรื่องดีที่จะปิดประตูแห่งความคิดนั้นได้
    ในทางพระพุทธศาสนาก็คือการเจริญภาวนานั่นเองค่ะ 
    
    ขอบคุณมากนะคะ...บทกลอนสั้นๆที่บอกถึงธรรมชาตินักคิดได้อย่างชัดเจน
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:53 น. - comment id 535303

    36.gif@...น้องรุ่ง รัศมีตะวัน...
    
    ชนเหล่าใดระวังจิตไปผิดที่
    หาอารมณ์ที่ดีให้อาศัย
    ด้วยการงานที่ดีมาตรึงใจ
    ชนเหล่านั้นจักได้พ้นบ่วงมาร
    
    เพราะจิตนี้มีที่อยู่ที่ปลอดภัย
    คืออารมณ์ปัจจุบันในกรรมฐาน
    พรั่งพร้อมศีลสมาธิปัญญาญาณ
    จึงเบิกบานเพราะสำรวมสวมอินทรีย์
    
    มีศรัทธามาเป็นใหญ่ในความเชื่อ
    มีความเพียรระลึกเมื่อขึ้นวิถี
    มีความมั่นคงงานการทำดี
    มีปัญญาบ่งชี้อย่างชัดจริง
    
    ภาพลวงตาจึงไม่มีที่จิตนั้น
    และความคิดไม่ผันกิเลสสิง
    มีอารมณ์ปัจจุบันให้พักพิง
    ไร้โมหะแอบอิงในเรื่องกาม
    
    เมื่อได้รู้ก็คือละผละจากหลง
    หากรู้ซ้ำจะมั่นคงไร้คำถาม
    รู้บ่อยบ่อยกิเลสเลิกติดตาม
    เพราะความรู้ทดแทนความหลงนั่นเอง
    
    สวัสดีค่ะน้องรุ่ง ..รัศมีตะวัน
    ความสำรวม..จะช่วยระวังจิตไว้ได้มิให้ซัดส่ายไปในกามราคะ
    ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตของพระภิกษุที่ปรารถนาความสงบสุข...อินทริยสังวรศีล
    
    และก็จริงอย่างที่น้องรุ่งกล่าว...
    ...ชนวนแห่งการคิด ทั้งหมดทั้งปวง 
    ม่ว่าดีหรือไม่ดี สุขหรือไม่สุข 
    เกิดจากการไม่รู้จักสำรวมสังวร..
    
    จึงทำให้ความฟุ้งซ่านเกิดขึ้นมากมายในชีวิตของแต่ละคน 
    แล้วก็กลายเป็นกำลังไปบงการให้มีการกระทำเกิดขึ้นเพื่อตอบสนอความคิดเหล่านั้น
    
    อนุโมทนาค่ะกับการพิจารณาภายนอกและภายในในการรับอารมณ์กระทบต่างๆ อย่างมีสติที่ไม่เสื่อมกำลัง
    และการมีความเพียรพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ปราศจากความยึดติด ..เพื่อให้พ้นจากอำนาจของตัณหาและอุปาทาน
    
    ที่น้องรุ่งกล่าวมานั้น..ทำให้พี่ดอกแก้วนึกถึงปฏิจสมุปบาทไปเป็นลำดับ
    เงื่อนไปของการพ้นไปจากสังสารวัฏ ก็คือการตัดวัฏฏะที่ภายหลังการกระทบอารมณ์แล้ว..สติและปัญญาต้องออกมาทำงานแทนตัณหารวมถึงอภิชฌาและโทมนัสทันที
    หากรับประทานอาหารแล้วรู้สึกอร่อย..ก็ย่อมมีความคิด\"อยากกิน\"ต่อ จึงทำให้เกิดการกินด้วยความ\"อยาก\"
    หากรับประทานอาหารแล้วรับรู้เพียงรสอาหารที่เกิดขึ้นเท่านั้น มิได้มีความอร่อยหรือไม่อร่อยเข้าไปร่วมด้วย
    อาการของการเคี้ยวก็จะเป็นไปตามปกติ จนละเอียดพอที่จะกลืนก็กลืนลงไป เมื่อกลืนลงไปแล้ว จึงเกิดการตักข้าวคำต่อไปเพราะ\"รู้\"ว่าสมควรแก่กาละ 
    อาการของความ\"อยากกิน\"ก็จะไม่เกิดในขณะที่ตักข้าวคำต่อไปนั่นเอง.... 
    
    สิ่งที่น้องรุ่งเล่ามานี้จึงนับเป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างเรื่องของความคิดกับรูปธรรม และการนำสติเข้าไปดูความเป็นไปของชีวิตตามปกติ
    อาหารก็คือเรื่องของอาหารที่เป็นรูปธรรม ..ความพึงพอใจก็เป็นเรื่องของความพึงพอใจซึ่งเป็นนามธรรม
    และรู้จักจบเป็นเรื่องไปด้วยการมีสติอยู่กับงานตรงหน้าคือการเคี้ยวข้าวแต่ละคำ
    
    อนุโมทนาในกุศลอีกครั้งค่ะน้องรุ่ง..และไม่มีะไรต้องขอขมาด้วย เพราะพี่น้องกันคุยกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันเป็นเรื่องที่ดีมาก
    
    ขอความตั้งใจที่น้องรุ่งปรารถนา ความศรัทธาในพระรัตนตรัย และความเพียรที่เป็นไปเพื่อให้เกิดสติปัญญา
    จงเป็นเสมือนพาหนะให้น้องรุ่งสำเร็จสมตามเจตนาที่ตั้งไว้โดยเร็วค่ะ...
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:54 น. - comment id 535304

    36.gif@...น้องอัลมิตรา...
    
    ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวการคือจิต
    เริ่มด้วยคิดแล้วทำตามที่หวัง
    จะพ้นทุกข์หรือไม่พ้นจากรักชัง
    คือจิตตังบัญชาว่าเลือกใคร
    
    สวัสดีค่ะน้องอัลมิตรา..
    สิ่งที่น้องรุ่งกล่าวกับสิ่งที่คุณพ่อของน้องอัลมิตราสอนไว้
    คือหัวใจสำคัญของการฝึกจิต..เพราะจิตคือผู้กระทำความคิดทั้งปวง 
    เพราะแม้กระทั่งอรูปพรหมที่ไม่มีรูปร่างกายก็ยังสามารถใช้จิตคิด..กระทำอำนาจสมาธิได้สูงขึ้นได้ และก็กระทำจิตบริสุทธิ์ให้เกิดขึ้นได้ด้วยค่ะ
    
    พระพุทธองค์ตรัสไว้เป็นคาถาธรรมบทเกี่ยวกับเรื่องจิตและความสำรวมนี้ไว้โดยสรุปว่า
    หากใครไม่สังวรระวังจิตแล้ว ก็ยากที่จะหลุดรอดจากบ่วงมาร
    ซึ่งบ่วงมารก็คือกิเลสทั้งหลาย รวมทั้งการเวียนว่ายตายเกิดนั่นเองค่ะ
    
    ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาอ่านและมาคุยกัน
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:54 น. - comment id 535305

    36.gif@...แสงไร้เงา...
    
    หาได้มีใครใช้ให้เราคิด
    เรามีสิทธิ์คิดหรือไม่ ได้เต็มที่
    เราเลือกได้จะคิดดีไม่ดี
    แต่ส่วนใหญ่ใช้สิทธิ์นี้เพื่อกลุ้มใจ
    
    สวัสดีค่ะแสงไร้เงา..
    ดีใจที่แวะมาค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:55 น. - comment id 535306

    36.gif@...ปักษาวายุ...
    
    เหมือนนั่งมองผลไม้อยู่ใต้ต้น
    ที่ร่วงหล่นเพราะเน่าจึงเฉาจิต
    แล้วโทษตนว่ามาช้าไปนิด
    แต่ครุ่นคิดก็ไม่มีดีขึ้นมา
    
    สวัสดีค่ะปักษาวายุ...
    กลอนสนุกดีค่ะ ได้อารมณ์ดุเดือดด้วย..
    พูดตรงๆอย่างนี้ก็ดีไปอย่าง  ไม่ต้องตีความให้วกวน
    ขอบคุณที่แวะมาร่วมเขียนค่ะ...
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:56 น. - comment id 535307

    36.gif@...dark side of mind...
    
     
    จิตท่องเที่ยวเลี้ยวไปหลายตำบล
    วันละหลายหลายหนไม่รู้เบื่อ
    ไปเที่ยวแล้วยังอาจกำไรได้บุญเจือ
    หรือว่าอาจไม่เหลือแถมขาดทุน
    
    ท่านว่าไวเหมือนลิงจริงจริงจิต
    ต้องผูกติดหลักไว้อย่าให้หมุน
    ออกนอกทางระเริงเที่ยวหัวซุน
    ใช้หลักบุญผูกติดด้วยคิดดี
    
    สวัสดีค่ะdark side of mind...
    ยิ่งอ่านก็ยิ่งสุขใจ ในความคิดเห็นของน้องๆที่เข้ามา
    ยิ่งเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ...ที่นี่มีคนดีเป็นส่วนมาก
    เพราะนอกจากจะมากด้วยน้ำใจแล้ว..ยังมากไปด้วยความคิดเห็นที่ดี
    มีการแบ่งปันความรู้ข้อคิดแก่กันเสมอ
    
    ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาคุยกัน
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:57 น. - comment id 535308

    36.gif@...ทานทองคำ...
    
    เพราะเป็นเรื่องติดใจไล่ออกยาก
    จิตจึงอยากเกี่ยวข้องให้หมองจิต
    ต้องค่อยค่อยลบรอยทีละนิด
    ด้วยความคิดเรื่องใหม่ไปทดแทน
    
    ทั้งเรื่องดีและไม่ดี ..ถ้าหากเป็นเรื่องที่ประทับใจเรามากๆ
    เราก็มักจะกลับไปคิดเสมอ...ด้วยอำนาจของจิตที่เก็บสะสมไว้
    เป็นเรื่องธรรมดาค่ะทานทองคำ...และก็แก้ไขได้ด้วยการคิดเรื่องอื่นทดแทน
    เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือไปเที่ยว เป็นต้น..ซึ่งเป็นการแก้ไขแบบปุถุชนทั่วไป
    หากจะเป็นการย้ายใจแบบชาวพุทธก็จะเป็นการเจริญอยู่ในศีล สมาธิ และปัญญาน่ะค่ะ
    
    ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 16:58 น. - comment id 535309

    36.gif@...บินเดี่ยวหมื่นลี้...
    
    คิดเงียบเงียบเปรียบได้กับวางแผน
    จะบุกแดนใดหนอพี่ขอถาม
    หากไปแดนกุศลผลจักงาม
    หากไปแดนตรงข้ามก็เสียดาย
    
    สวัสดีค่ะบินเดี่ยว...
    แอบมานั่งคิดอยู่ตรงนี้..แล้วคิดออกยัง? คิดจัดงานวันเกิดอยู่หรือเปล่า
    งานนี้พี่ขอชิมแคบหมู..น้ำพริกหนุ่มแบบเผ็ดน้อยก็แล้วกันนะคะ
    
    และขออวยพรล่วงหน้า ขอให้มีความสุข สดชื่น แจ่มใส ปลอดภัยไร้โรคาและปัญหาทั้งปวง
    มากมายด้วยความสุขและทรัพย์สินนะคะบินเดี่ยว..
  • มนต์กวี

    5 พฤศจิกายน 2548 17:23 น. - comment id 535319

    เพราะความติดตัวมาแต่คราเกิด
    เป็นช่องเปิดของใจร่ำใฝ่หา
    ทั้งทุกข์สุขสนุกเศร้าไหลเข้ามา
    ธรรมดาสิ่งนี้มีมานาน
    
    ถ้าปล่อยความคิดไปตามยะถา
    เหมือนตะกร้าตักน้ำก็ไหลผ่าน
    ตระกร้าใจสำรวจคอยตรวจทาน
    เพื่อซับสานสิ่งดีประคองใจ
  • เพรง.พเยีย

    5 พฤศจิกายน 2548 19:23 น. - comment id 535324

    เมื่อยังปล่อยวางไม่ได้  ก็ต้องวนเวียนคิดอยู่ในวังวน
    ทั้งกับอดีต  ปัจจุบัน  แถมคิดเผื่อไปถึงอนาคตด้วย
    
    ทุกข์เรื่องไหน  สุขเรื่องไหน  ที่ผ่านเข้ามาครั้งแรก 
    ก็มักทำให้จิตเรากระเพื่อม และไหวตามได้ง่าย
    
    บางทีก็นางก็สงสัยนะคะ...ว่าระหว่าง...
    
    \"ความเคยชิน...กับการปล่อยว่าง กับเรื่องๆ หนึ่ง\"
    
    บางที...ก็ห่างกันนิดเดียวเอง...
    
    รักษาสุขภาพนะคะพี่ดอกแก้ว
    
    36.gif
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 21:16 น. - comment id 535335

    36.gif@...มนต์กวี...
    
    ปวงความคิดผลิตครากระทบ
    เมื่อได้พบสุขทุกข์รุกสืบสาน
    คิดตอบโต้ออกไปจากดวงมาน
    บนพื้นฐานของเก่าเคล้าชีวี
    
    หากไม่คิดเพียงจิตรู้อยู่สงบ
    ไร้ความคิดติดลบทุกถิ่นที่
    และหากคิดแล้วทำในทันที
    ความวกวนจะไม่มีในใจเรา
    
    กรองความคิดติดใจใส่กุศล
    ก็จักพ้นหมกมุ่นและอับเฉา
    หม่นหมองจากความคิดจะทุเลา
    พ้นน้ำเน่าเพื่อเครื่องกรองที่มองดี
    
    สวัสดีค่ะมนต์กวี..
    ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาเขียนไว้ค่ะ
  • พี่ดอกแก้ว

    5 พฤศจิกายน 2548 21:17 น. - comment id 535336

    36.gif@...น้องนาง เพรง.พเยีย...
    
    เพราะยึดถือคือพิษยึดติดตน
    จึงไม่พ้นเรื่องคิดจิตฟุ้งซ่าน
    ทั้งอดีตปัจจุบันอนาคตกาล
    ผสมผสานเรื่องยุ่งปรุงแต่งมา
    
    บางคนคิดบ่อยบ่อยจนเริ่มเบื่อ
    คิดจนเฝืออิ่มตัวในทีท่า
    จึงหยุดคิดไปเองตามเวลา
    ไตรลักษณ์คือผู้มาเปลี่ยนเรื่องราว
    
    การหยุดคิดด้วยรู้พิษเรื่องคิดมาก
    แตกต่างจากไม่คิดค้นสืบสาว
    เพราะเวลาผ่านไปที่ยืดยาว
    หรือมีข่าวอื่นมาน่าสนใจ
    
    การปล่อยวางคือรู้อย่างมีเหตุผล
    ความเคยชินนั้นซ่อนกลเป็นสองไข
    คือเคยชินเพราะมุ่งการหักใจ
    กับเคยชินเพราะทนไปตามเวลา
    
    สวัสดีค่ะน้องนาง..
    ช่างคิดหาเหตุผลจังเลยนะคะใน..ความเคยชินกับการปล่อยวาง
    บางทีก็ห่างกันนิดเดียวอย่างที่น้องนางบอก
    เพียงแค่ความเคยชินนั้นยังอาจมีความยึดติดในความเป็นเราหรือตัวตนอยู่มาก จึงอาจอึดอัดในระหว่างที่อดทน
    เรียกว่า ปริมาณของอกุศลจิตอาจมาเยี่ยมกรายได้เรื่อยๆ
    แต่การปล่อยวางนั้นพิจารณาถึงเหตุผลได้มากกว่า และอยู่อย่างสบายใจไม่อึดอัดกว่า 
    รวมทั้งในทุกครั้งที่พิจารณาถึงเหตุผล นั่นคือกุศลที่เกิดขึ้นพร้อมปัญญาด้วยค่ะ เหมือนตัดรากถอนโคนไปเลย
    
    ขอบคุณมากนะคะกับ..ความสงสัยที่ทำให้พี่ดอกแก้วต้องขบคิดตามไปด้วย 
    แต่แล้วพระธรรมก็มีคำตอบให้พี่ดอกแก้วค่ะ
  • ราชิกา

    6 พฤศจิกายน 2548 11:49 น. - comment id 535369

    ...ความคิด....เป็นจุดที่เกิด...แห่งกิเลส...ทั้งปวง.....หากหยุดความคิดได้...ย่อมพบกับ...ความว่างของจิต.....57.gif
    
    .....คิดผิด...ทำให้เกิด...ความทุกข์....
    
    .....คิดถูก...ทำให้เกิด...ความสุขได้....
    
    ฉันใดก็ฉันนั้น....อยู่ที่ว่า..เราจะเลือกสิ่งใด...ให้กับตัวเรา....57.gif57.gif
    
    ...บทกลอน..ให้แนวคิดที่ดีมากค่ะ...คิดถึงพี่ดอกแก้ว..นะคะ..ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ..เป็นห่วงนะคะ...57.gif57.gif
  • แมงกุ๊ดจี่

    6 พฤศจิกายน 2548 11:53 น. - comment id 535371

    สวัสดีค่ะ  พี่ดอกแก้ว
    
    การคิด  บางทีความคิดก็ทำร้ายเราเอง
    มะกรูดคิดในบางเรื่องบางสิ่งยิ่งคิดเท่าไหร่
    ทบทวนเท่าไหร่  กลับยิ่งไม่มีคำตอบ
    จนต้องหยุดคิด   เมื่ออารมณ์เย็นแล้ว
    กับมาคิดอีกที  ทุกอย่างที่คิดจะทำก่อนนั้น
    กับเป็นผลเสียมากกว่าที่จะเป็นผลดี...
    
    การคิดบางทีก็ทำร้ายเรา   ในหลายด้านด้วยสิคะ
    ทางที่ดี  คงต้องมีสติ  เป็นสำคัญ  มะกรูดเข้าใจอย่างนี้นะคะ  ........
  • ผู้หญิงไร้เงา

    6 พฤศจิกายน 2548 19:24 น. - comment id 535443

    เฝ้าแต่คิดจิตลุ่มร้อนนอนผวา
    เมื่อไหร่หนาชายในฝันที่ฉันหมาย
    จะมาหามาชิดใกล้ใฝ่ทักทาย
    รอเกือบตายยังไม่มาอุราตรม  อิอิ
    
    11.gifวันนี้ขอเขียนกลอนแบบหยอกเย้าหน่อยะค่ะ  แบบว่าเพิ่งจะสอบเสร็จ  คิดถึงพี่ดอกแก้วนะค่ะ11.gif
  • พี่ดอกแก้ว

    8 พฤศจิกายน 2548 13:46 น. - comment id 536363

    36.gif@...มายาวี...
    
    จิตซัดส่ายคลายสงบพบแต่ฟุ้ง
    เรื่องนังนุงเวียนมาพาหวั่นไหว
    วิธีพุทธท่านสอนมีสองนัย
    วิปัสสนา-สมาธิไซร้ไร้เวียนวน
    
    พยายามไม่คิดจิตยิ่งเครียด
    เพราะต้องการเบียนเบียดความสับสน
    เลิกตั้งใจขับไล่ความร้อนรน
    ย้ายจิตมาฝึกตนบริกรรม
    
    สวัสดีค่ะมายาวี...
    เป็นธรรมดาของจิตใจน่ะค่ะที่จะต้องรับอารมณ์อยู่เรื่อยๆ
    เมื่อไม่ได้คิดเรื่องนี้ ก็ต้องไปคิดเรื่องอื่นๆอยู่ดี ที่ท่านเรียกว่าความฟุ้งซ่าน
    หากคิดเฉยๆไม่เดือดร้อนอะไร ก็คือการอยู่กับเรื่องอดีตที่ไม่ก่อให้เกิดความก้าวหน้าอะไร
    แต่ถ้าทบทวนเพื่อตรึกตรองแก้ไข ก็จะเป็นสิ่งดีเสมือนกับการวางแผน
    
    ความฟุ้งซ่านนั้นบุคคลที่จะกำจัดได้อย่างเด็ดขาดก็มีแต่พระอรหหันต์เท่านั้นเองค่ะ
    อย่างเราๆนี่ จึงเป็นเรื่องธรรมดา ..เพียงแค่คิดแล้วไม่ทำให้ตนเองทุกข์ก็นับว่าดีกับชีวิตมากโขแล้ว
    
    ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทายกัน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน