พุทธเพชรตะวัน...

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song359.html
(ไกลบ้าน)
....................


เหนือพื้นดินสามหมื่นเจ็ดพันฟุต
บนเที่ยวบิน..
สู่..แดนดินฟ้าจรดทราย
ตะวันดวงโต..
กำลังสาดส่องจับเมฆกระจาย
จนเกิดพรายแสงรัศมีมณีรุ้งแสนงามราวภาพสวรรค์
ให้ฝันไกลในมโนนึก...


พลอย..
นั่งทอดตาเศร้าเศร้า...
เฝ้าดูทัศนียภาพเบื้องล่าง


*แผ่นดินแม่มาตุภูมิ..*
แผ่นดิน...
ที่พลอยแสนภาคภูมิใจในทุกย่างก้าว 
ไม่ว่า...จะกี่ฝนเศร้ากี่หนาวฝัน


ด้วยหยาดน้ำตา...
อันกำลังพร่าไหลบ่าลง...อย่างมิสิ้นสาย
ณ..ภายใน.. ใจดวงใสดวงงาม..
ที่กำลังรานโศก
อย่างคนกำลังพบวิปโยค..ไกลบ้าน..
อีกหนอีกคราแล้ว..ในนาทีนี้


กับ...
ฟ้าที่กำลังแปรสี กลายแสง
จากแรงร้อนเป็นสลัวสลัวระเรื่อราง
หากงามจนเกินบรรยาย


 ภาพแผ่นดิน.แล..สายน้ำแสนงาม
นาม*เจ้าพระยา..*ที่ราวพญานาค
กำลังทอดตัวสงบเงียบเรียบใสดูฉ่ำเย็น
ราวเป็น..
*สายน้ำแห่งความฝัน สายน้ำแห่งรักนิรันดร์*
ที่หล่อเลี้ยงทั้งผู้คนและพืชพรรณ
มาอย่างยาวยืน
อย่างเงียบงาม 
ในท่ามโลกแล้งไร้ ..แห้งผาก
ราว..
หมายฝากสอนสัจจะธรรมอันเลอล้ำล้นค่า 


ผ่านตำนานน้ำตา...ตำนานการต่อสู้
จากดินแดนแห่งนี้
ที่เราเรียกว่า*สุวรรณภูมิ*พุทธ
แดนดินแห่งอารยธรรมอันแสนบริสุทธิ์ใส
แสนเรียบง่าย ...
พาให้ได้ใช้ชีวิตชิดใกล้..
ได้พันผูกกัน...
อย่างยาวนานจนยากจะแยกออก


ที่น้อมนำ..
ประเพณีและวิถีวัฒนธรรมอันแสนมากมาย
ให้ชาวไทยได้พบภูมิปัญญา
จากร่างใจและจิตวิญญาณ
ที่ได้เคียงใกล้สายน้ำอันแสนใสฉ่ำเย็น 
ที่..
ก่อเกื้อหลอมซึมจนให้กลายเป็น
*ประวัติศาสตร์ไทยประวัติศาสตร์ทองแห่งผองชน*
แห่งคนบนผืนดินนี้ แผ่นดินนี้


ที่ยังมีป่าไพร 
ยังมีน้ำใส
มี ดินอุดม  
ยังมี..
ลมร้อนอ่อนอุ่น  โอบเอื้อ เกื้อการุณย์
ให้ได้พึ่งพิงพึ่งพาซึ่งกันและกัน 
จนผสานเกิดเป็น
*พลังธรรม ธรรมชาติ..*ที่พอดิบพอดี


ให้ดินดี ยังได้หว่านกล้า 
จนข้าวในนาอ่อนเขียว ได้กลายเป็นเรียวรวงสีทอง
มาป้อนปรุงปาก ..เปรอปรน
ให้..
คนไทยทุกคน..ทั้งรวยยาก ทั่วไทยได้อิ่มท้อง


ให้..
ปวงดอกไม้ป่าดอกไม้ไพรยังได้ผุดผลิคลี่กลีบหอมพราย
มากมายหลากสีสัน นานา 
ทั้งไม้เมืองเหว่ว้ารับอวลมลพิษ
ที่..
ยังอุตส่าห์สถิตประดับหวาน
หว่านความประเทือง
ให้จรัสเจรืองจรุงใจ จรุงไกล 
ประดับใจประดับหล้า
อ้อนฟ้างาม ในทุกทิวาหวานราตรีหวัง..


เพื่อเพิ่มพลัง
แห่งความเบิกบานปิติเกษมเอมอิ่มเอิบงาม
ใน..
ท่ามท่วมมวลหมู่มนุษย์หลายสิบล้าน
ได้มีดวงตาเห็นงาม เห็นธรรม


ราวบัวทองบัวธรรมดวงดอกตระการ 
ที่..
กำลังหว่านดอกล้อชูช่อ พ้อแดดลม
เหนือโคลนตมแห่งกิเลส มนต์มายา
ตราบจนกว่า ...
เราจะค้นพบว่า
*ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อสิ่งใด..เกิดมาทำไม*


ให้ไม่สิ้นสุดหยุดแสวงหา
ทั้งๆที่แปดสิบปีก่อนหน้าพุทธกาล
ได้มี...
*เจ้าชายแห่งศากยวงษ์*
 ได้เพียรพาตน..
จนทรงค้นพบหนทาง
แห่งการหลุดพ้นทุกข์ ดับทุกข์..อย่างสิ้นเชิง!


เป็นรอยทาง รอยธรรม รอยทอง ...
ที่เรา...พากันมองข้าม
ด้วย...
มัวหลงทาง มัวเสียเวลา 
มัวมืดบอดจากวิบากกรรมวิบากเก่า
ที่ดั่ง...
*เงากรรมล้อเกวียน..*มาหมุนเวียนย้อนให้ 
มิย้อนรำลึกนึกถึงคำสอนแห่งพระบวรบรมศาสดา


อันคือ ..
สัจจะที่จริงแท้  
เพราะมัวแต่วิ่งตามงามวัตถุล่อหลอกให้เพริศใจ
จากภายนอกที่แสนลวงหลอนหลอกใจ 
ซึ่ง..
สิ่งที่ท้ายสุดแล้วไซร้
ก็พากันแบกหามตามเข้าไปในโลงมิได้
คล้าย...หนักแท้ ....!


และ...
กว่าพันเจ็ดร้อยปี ..!
ที่...
ศาสนาพุทธบานพิสุทธิ์เหนือแดนดินชมพูทวีป
ราวบัวเหนือน้ำ....
ใน..
ท่ามการแสวงหาจากชนชั้นปัญญาแห่งแผ่นดิน...
และ..
ผ่านมาอีกเจ็ดร้อยปี 
ที่..
มนุษย์ในแดนดินนั้น
หันหลังให้กับคำสอนอันแสนล้ำค่า ..
ที่ช่างน่าเศร้านัก...!!!!


จนในวันนี้ ...
วันที่ พุทธศาสนิกชน
ควรพึงประจักษ์แจ้งว่า
หากเราในแดนดิน
* สุวรรณภูมิพุทธ *ยังมิหยุดเมินเฉย
ละเลยการสืบทอด
*ต่อยอดเนื้อนาบุญแห่งธรรมคุณ*
แห่ง..
ยอดพระพุทธศาสนา..จากพระบรมศาสดา
แล้ว..
ฟ้าไทย ฟ้าธรรม ฟ้าทอง 
จะผ่องพิสุทธิ์ไสว..สว่างกระจ่างสงบเย็นได้กระไร..เล่า!


ให้ได้..เป็นดั่ง.
*ร่มโพธิปัญญา*....*ร่มพระรัตนตรัย*
เพื่อกางกั้นทุกดวงใจ
ทุกความหวัง ทุกพลังจิตวิญญาณ
ให้ยังคงสงบงามภายใน
ที่..
จักจำต้องพัฒนา ให้ดำเนินควบคู่กันไป
พร้อมกับโลกศิวิไลซ์...ในทุกวันนี้
ที่คือ..*ภัยกำลังบ่าโหม*
มาทุกทิศทางอย่างน่ากลัว
 อย่างเตือนภัย... เตือนใจเตือนสติ


ให้เราพุทธศาสนิกชนคนดี
ได้มีดวงปัญญา 
ได้ตระหนักพบว่า..
 
ภัยธรรมชาติ
คือภัยที่มนุษย์..ผู้หลงผิด..
ยังคิดว่า...
ตนคือ..ผู้ฉลาดเหนือฟ้าดินอินทร์พรหมยมพญา
จนมิเคารพธรรมะ ธรรมชาติ
 ให้ต้องพบกับความพินาศย่อยยับ


ให้..
ธรรมชาติกลายกลับมาพิโรธสอนสั่ง
ฝากบทเรียนมาจนนับไม่ถ้วน 
ให้ได้ใคร่ครวญชวนหันกลับไปพิจารณา
ถึง..
ดั่งสัจจะใจแห่งธรรมของพระพุทธองค์
ที่ทรงกล่าวว่า...
ธรรมะ ธรรมชาตินั้นคือความจริง
ที่มีมาก่อนที่พระบรมศาสดาจะทรงค้นพบเสียอีก


เพียง...
แค่เรา ..มองข้าม
ไม่รู้ปลีกวิเวกเพียรมองเข้าไปค้นหาความว่างใส
ความเย็นฉ่ำ ความมลังเมลือง
งามดั่งอัญมณี


 ที่รอเวลาผุดผลิ..
ดั่ง..ดวงดอกเพชรพราย...
 จักฉายฉานโชติช่วงชัชวาลย์ 
บานจากบึงจิตบึงนิรมิตธรรมชาติชีวีชีวิตเราเอง ..
ที่...
จักสถิตรอเรา ณ..ภายในบึงใจเราเอง 
ใช่..ต้องรอล้านแสนกาลกัปกัลป์ดั่งเข้าใจ กัน


ก็
จะพลันพบพุทธนิพพาน..
ไสวสว่างกระจ่างแจ้ง..
ด้วย..ตัวตนเราเองไซร้ 
หากเราลงมือเพียร มิท้อ มิรอผลัดวันประกันพรุ่ง...
ใจก็จะเลิกยุ่ง หยุดคิด 
พบนิรมิตเย็น..แสนสงบสุขหมดทุกข์นิรันดร์..
....................


พลอย....
หยุดความคิด...
 ที่บางครั้งแม้นจักคือพลังบวก
หาก..
คือทว่า..ความฝันฟุ้ง มิหยุดปรุงแต่ง
แต่..
ทำอย่างไรได้เล่า...
พลอย..นั้นแค่ก้าวเดินตามรอยธรรม
 หาใช่...จะยังบรรลุ 
จนเป็นผู้รู้แจ้งแทงตลอดร่างจิตฤา...ก็หาไม่...!


พลอย..
เพียงหวังสืบสาน..ตำนาน
แห่งความงามความดี
พลีร่างจิต ในชีวีชีวิตกับลมหายใจนิดน้อยหนึ่งนี้
เพื่อที่จัก...
พลีปล่อยวาง ได้หมด ณ..วันหนึ่ง


เพราะ..
วันนี้ นาทีนี้..
พลอยยังต้องทำบทบาทหน้าที่
แห่งชีวาชีวิตควบคู่กันไป..
 อย่างไม่ประมาทลืมตน
ไม่หลงวังวนมายา ไม่หลงทาง
 
ไม่ว่า..
จะพบผัสสะทุกข์พันธนา
มาเร้าโรมโหมร้ายมากมายสักเพียงไหนจากผู้คน 
ที่คือ ...คนคนคน...
ต้องพบปะปน ปรุงปั้น 
มากลายกล้ำทำร้ายกันโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์


หากเพียงเค่เรา ตามรู้ ตามทัน 
มีสติ พอที่จะมีปัญญา...
ให้..
เมตตาธรรม ให้อภัย 
ไม่โกรธ โลภ หลง ใคร สิ่งใดนาน


รู้วางรู้ปล่อย อย่างค่อยๆเป็นไป แค่นั้น 
ก็น่าจะเป็น*ก้าวแรกแห่งจิตวิญญาณ*
 ที่..
จักพาพบความยิ่งใหญ่ในทางเหนือโลกย์โศกสุข
ในไม่นานช้า ..
หากว่าเรา ไม่ประมาท 
และเพียรแค่มองจิตตน

ไม่ค้นเพ่งคิดจับผิดเพียงผู้อื่น 
ที่ยังยื่นดาบกิเลส มาเชือดเฉือน
มาทดสอบ..
ระบบระบอบจิตความคิดนึกเรา 
ว่าจะยังคงเขลาเบาปัญญา..
ฤาว่า..ยังคงหลงผิด
ยังคง..หลงยึดติดยึดมั่น กับมนต์มายา
ในทางอารมณ์  จนวางมิลง
 มิยอมคลายกำ กรรม..
ได้ดั่งจิตตั้งมั่นฤาไม่...

พลอย..จึงเพียงขอแค่ 
ดำรงจิตกายให้พรายแสง
ดั่งมี
*เพชรมณีไสว ณ..ภายใน*
ที่..
แสนแกร่งกล้า หนักแน่นถึงแก่นใจ
ดั่งแผ่นผาศิลา 
ที่..
หมายถึงรู้รักษ์ศีลห้าที่แสนบริสุทธิ์
มิหยุดเพียร..
 
ที่ถึงมาตรแม้น ใครมาห้ำหั่นทำร้ายอย่างไร 
ก็หามีวันที่จะเจ็บเนื้อเถือใจได้นานไม่


ดั่ง
แผ่นดินที่แสนกว้างไกล
ที่รับหมุนวนแปรเปลี่ยน
รับดีร้ายได้ทุกฤดูกาล
ไม่ว่า..
จะน้ำหลากดินจะแล้งจะแห้งผาก
 ฝากระทมท้อ 
ก็..
ขอให้ผ่านไปๆ
ให้เหลือเพียง...ดวงใจ 
ดั่ง..มีน้ำไหลนิ่ง 
ไหลไปไหลไป อย่างสงบใสเงียบงาม
ฝากสายกระแสธารใจอันแสนใสฉ่ำเย็น


ไม่ใช่น้ำเน่า  
ที่เฝ้ารับร้าย หมายจำ
ในทุกราวเรื่อง ที่ไม่ประเทืองประทับใจ
ในทุกสิ่งอย่าง..


เป็นดั่งเกรียวเมฆ..ละออละอองผ่องใส
ที่สว่าง..กระจ่างไสวเย็น..
ประดุจดั่งลมหายใจนี้...
ที่พลีเข้าออก ...
บอกกับตัวทุกขณะจิต
ให้จับนิมิตไว้แค่ ปัจจุบันเพียงนั้น
...................


พลอย...
จึงรู้หยุด รู้สติ แม้นจิตนี้บางครั้งจะแสนดื้อ
หากพลอยก็รู้วิธีที่จะจัดการ
และ...
แม้นพลอยจะพบรานเศร้า
หนาวน้ำตา ตามประสาปุถุชน
คนที่ยังมีกมลละไม...
ในยามพรายพลัดพรากจากสิ่งที่รัก..
อันคือสิ่งที่จักต้องเป็นไป...!


พลอย...ก็จักยังคงเป็น*พลอยไสว *
ที่ยังมีจิตดวงเลื่อมใส...
ราวกับแก้วแววประภัสสร
ดวงอรชรแสนสว่างงาม..ในท่ามโลกนี้


ที่...
พลอย..คนดี ยังคงพลีใจ
*เชื่อมั่นศรัทธาในพลังแห่งความดี *
ว่าคือ..
พลังแห่งพุทธพลี
 ที่..
หากเรายังมีใจรักธรรม 
ผู้มีธรรม...ไม่ทิ้งธรรม 
มีธรรม..เป็นเพื่อนอบร่ำพร่ำสอน
ดั่งกัลยาณมิตร
ได้อบร่ำชีวิต  ได้นำพาชีวิต
คงเดินมิผิดทาง..
อย่าง..เพียรพยายาม แม้เพียงลำพัง...


เพื่อ..ค่อยๆประคองจิต
ก้าวเดินตรงไป...ยังฟากฝั่ง
ที่เหนือราวฟ้า ราวจิตนั้น
ราว
* มีดวงมณีชีวิตในทิพยนิรมิต *

ตะวันพุทธเพชร

ที่ 
งามดั่งเก็จแก้วแววใส
เป็นพลังใจอันแสนไสวพร่างสว่างพราย
คอย..
ฉายฉายรอโอบตระการ รายรอบ...รับร่าง
ให้ล้อมพราว
ให้งามอะคร้าว
ราว..
ค่อยๆลอยเลื่อน...เหนือโลกย์..
พ้นโศกสุข..พ้นทุกข์ 
พบว่าง...
อันคือสุขอย่างไร้ร่าง  ว่างเปล่า ตราบชั่วนิจนิรันดร.....
...........................

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song359.html
ไกลบ้าน ....ชรินทร์ นันทนาคร 
วิปโยคโศกใจ เหมือนเมื่อไกลบ้าน
ไกลสถานพักพิง ยิ่งใจเหงา
ห่างไกลหัวใจจำเศร้า เจ้าอยู่ดีเป็นไฉน
พลัดที่พึ่งที่พิง ทิ้งที่พำนัก
ไกลที่รักพักพา จะอาศัย
เจ้ามีเพื่อนชมคนใหม่ แล้วทิ้งพี่ให้ชอกช้ำชีวี
อันรักกันอยู่ไกล ถึงสุดขอบฟ้า
เหมือนชายคา เข้ามาเบียด ดูเสียดสี
อันชังกัน นั้นใกล้สักองคุลี
ก็เหมือนมีแนวป่า มาปิดบัง
เพราะไกลบ้านซ่านมา โถนิจจาเจ้า
จะเงียบเหงาแล้วลืม ซึ่งความหลัง
ฝากเพียงเสียงกระซิบสั่ง
ขอน้องอย่าชัง คนร้างแรมไกล
  
อันรักกันอยู่ไกล ถึงสุดขอบฟ้า
เหมือนชายคา เข้ามาเบียด ดูเสียดสี
อันชังกัน นั้นใกล้สักองคุลี
ก็เหมือนมีแนวป่า มาปิดบัง
เพราะไกลบ้านซ่านมา โถนิจจาเจ้า
จะเงียบเหงาแล้วลืม ซึ่งความหลัง
ฝากเพียงเสียงกระซิบสั่ง
ขอน้องอย่าชัง คนร้างแรมไกล...
				
comments powered by Disqus
  • พี่ดอกแก้ว

    30 พฤศจิกายน 2548 19:09 น. - comment id 542930

    จากสายน้ำแห่งความรัก ..สู่สายธารแห่งธรรม
    แต่ละบทแต่ละคำนำใจให้น้อมนบไปถึงสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
    เห็นภาพของผู้ที่มีความเพียรอย่างมุ่งมั่นในกุศลศรัทธา เพียรสังวรตนไว้ในศีล สมาธิ และปัญญา ได้ความรู้สึกสงบและซาบซึ้งใจมากค่ะน้องพุด
    
    หากป่วยหรือยังคะ..ขอให้สุขภาพแข็งแรงโดยเร็วค่ะ
  • tiki

    30 พฤศจิกายน 2548 21:52 น. - comment id 542949

    แวะมาอ่านค่ะ36.gif
  • ไรไก่

    30 พฤศจิกายน 2548 22:42 น. - comment id 542960

    แวะมาทักทายด้วยความคิดถึง
    พี่พุดหายไปนานมากนะคะ
    รักษาสุขภาพนะคะ
    36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    1 ธันวาคม 2548 12:15 น. - comment id 543084

    36.gif16.gif36.gif
    
            เจอทีไรต้องเข้ามาอ่านหาอรรถรสเสียมิได้ครับ
    
                          16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วนีดา

    1 ธันวาคม 2548 12:26 น. - comment id 543095

    มาอ่านผลงานดีๆๆจากพี่พุดอกีครั้งจ๊ะ
    
    พุทธเพชรตะวัน...ดังเพชรเม็ดงามจ๊ะพี่พุด11.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน