26 พฤศจิกายน 2552 21:17 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
วันเกิดนี้ ขอให้น้องมี่ มีสุขภาพแข็งแรง
พลานามัย สมบูรณ์ ร่ำรวยทรัพย์สิน
เงินทอง เครื่องใช้ ตลอดไปเทอญ
*ขออวยพรส่งให้ ญามี (มี่)น้อง
มีสุขทุกนาที ท่วมท้น
วันเกิดประเสริฐศรี ดีเด่น ยิ่งนา
เจ้าแม่กล-บทพ้น ผ่านร้อยปีเทอญ
*ยี่สิบเจ็ดครบแล้ว พฤศ-จิกา
คุณพระมอบปัญญา เลิศล้ำ
คิดหวังดั่งอุรา พานพบ สิ่งดี
ยิ้มละมุนบุญค้ำ ฉ่ำซึ้งผลบุญ
*ขอสิ่งวาดปราถน์นั้น พลันสม
เหมือนดั่งปองอารมณ์ แห่งน้อง
มีคนรักนิยม ปานเทิด เกียรตินา
สินทรัพย์ประดับห้อง มากท้นทวี
*พรใดเลิศประเสริฐบังเกิดสุข
คลายความทุกข์คลายหม่นระคนหมอง
พรอันนั้นโปรดช่วยอำนวยปอง
สมสนองครองจิตนิทรารมย์
*ขอให้มีมิ่งมิตรคอยชิดใกล้
คนรู้ใจคลายหนาวกอดสาวห่ม
แทนผ้าหมอนเสื่อใบใจนิยม
สนินสนมประคับประคองทั้งสองคน
*ทั้งการงานก้าวหน้าด้วยหน้าที่
เร็วรุดรี่เงินทองในห้องหน
บ้านใหญ่โตโก้หรูอู้ฟู้รถยนต์
ร่ำรวยล้นเกียรติกำจรสะท้อน...บารมี
(อิอิ เจ้าแม่กลบทไง มีบารมี อิอิ)
ประการสุดท้าย ขอให้เจอ เนื้อคู่ตุนาหงัน หล่อๆ อย่างกะในภาพเน้อออ
25 พฤศจิกายน 2552 21:25 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
กฏเหล็ก กลบทนี้ ถึงแม้จะถอยหลังทุกคำ
แต่ มีข้อแม้ว่า ในคำท้าย บาทที่ 1 ต้องเชื่อม
กับบาทที่สอง ในคำที่ 2-5 เหมือนกลอนแปด
หากแต่งแล้ว ไม่สัมผัส ในบาทที่ 1-2 และ 3-4
ในคำ 2-5 โปรดจงพิจารณา ให้ถ่องแท้....
* นั่นจันทร์นวลชวนพิศพินิจจิต
จิตพินิจพิศชวนนวลจันทร์นั่น
คืนเงียบเหงาเราหวั่นรำพันจันทร์
จันทร์รำพันหวั่นเราเหงาเงียบคืน
* ฝืนทนยังตั้งตาคราห่วงหา
ห่วงหาคราตาตั้งยังทนฝืน
มากแค่ไหนใจขื่นขมทุกคืน
คืนทุกขมขื่นใจไหนแค่มาก
* ฝากรสถ้อยร้อยคำพร่ำคืนค่ำ
ค่ำคืนพร่ำคำร้อยถ้อยรสฝาก
รักเธอจนล้นหลากเอ่ยยากมาก
มากยากเอ่ยหลากล้นจนเธอรัก
* ถักทอรักนานวันพลันหวั่นฝัน
ฝันหวั่นพลันวันนานรักทอถัก
นานยังหวานปานภักดิ์สลักรัก
รักสลักภักดิ์ปานหวานยังนาน
ตามคำอธิบาย ของคุณ ญามี่
เป็นกลบทที่เขียนให้ได้ความยากมากอีกบทหนึ่ง
เพราะเป็นกลบทสลับทั้งวรรคดังนี้
คือเมื่อเริ่มเขียนวรรคแรกแล้ว
จะนำมาเขียนซ้ำโดยการถอยหลังทั้งวรรค
ดังนี้
12345678
87654321
และในบาทที่ 1 คำท้าย สัมผัสกับ บาทที่ 2
ตังแต่ บาทที่ 2-5
และใน บาทที่ 3-4 เช่นเดียวกับกลอนแปดค่ะ
กฏของกลบทถอยหลังเข้าคลอง
หาใช่แค่เขียนวรรคแรกแล้วถอยกลับ
จากคำท้ายมาใส่ในวรรคสองเลย
ต้องดูด้วย คุณมีคำสัมผัสระหว่างวรรคไหม
กฏสัมผัสวรรคกลอนแปดคือ คำที่๒ถึง๕ คำใดคำหนึ่ง
ต้องสัมผัสกับคำท้ายวรรคแรก
และคำท้ายวรรคสามก็ต้องสัมผัสกับ
คำที่๒ถึง๕ คำใดคำหนึ่งของวรรคสี่
กลอนกลบท ที่เกี่ยวข้อง
แพ้เงาช้ำ(ด้วยกลบทถอยหลังเข้าคลอง) โอเลี้ยง
ฝันใกล้กรายคล้ายดักเหมือนหลงรัก
รักหลงเหมือนดักคล้ายกรายใกล้ฝัน
วันและคืนลืมยากเพราะฝันพัน
พันฝันเพราะยากลืมคืนและวัน
หวั่นไหวคอยหาสิ่งอาลัยยิ่ง
ยิ่งอาลัยสิ่งหาคอยไหวหวั่น
ล้าปนหวังปั่นป่วนคอยดึงดัน
ดันดึงคอยป่วนปั่นหวังปนล้า
ท่าทีรอคอยฝืนเหมือนขมขื่น
ขื่นขมเหมือนฝืนคอยรอทีท่า
เคียงหวังคลอพ้อหาพิงเหว่ว้า
ว้าเหว่พิงหาพ้อคลอหวังเคียง
เสียงแว่วเหมือนใกล้ไกลใครร้อนร้าว
ร้าวร้อนใครไกลใกล้เหมือนแว่วเสียง
ช้ำเจ็บจิตลอยลอดเบี่ยงร่ายเรียง
เรียงร่ายเบี่ยงลอดลอยจิตเจ็บช้ำ
ค่ำจรดวันพันใฝ่สรรค์หวังฝัน
ฝันหวังสรรค์ใฝ่พันวันจรดค่ำ
พบเพียงเคียงเรียงแผลตำเติมซ้ำ
ซ้ำเติมตำแผลเรียงเคียงเพียงพบ
กลบซุกซ่อนร้าวรอนลดปัดปลด
ปลดปัดลดรอนร้าวซ่อนซุกกลบ
แพ้พ่ายเพราะเพ้อช้ำเฝ้าเร้ารบ
รบเร้าเฝ้าช้ำเพ้อเพราะพ่ายแพ้
///////////////////////////////////
ใจพิมพ์ยิ้ม(กลบทถอยหลังเข้าคลอง กฤตศิลป์ ชินบุตร
นั่งมอง ตามองเฝ้า เราคู่สอง.....................สองคู่เรา เฝ้ามอง ตามองนั่ง
ใจละมุน อุ่นละไม มั่งพลัง........................พลังมั่ง ละไมอุ่น ละมุนใจ
ได้นวลน้อง ต้องจิต ห้ามคิดคร้าม........คร้ามคิดห้าม จิตต้อง น้องนวลได้
ยิ้มพิมพ์ใจ ละไมต้อง คล้องหทัย.......หทัยคล้อง ต้องละไม ใจพิมพ์ยิ้มฯ
////////////////////////////////////////////////////////////////
ลมหนาว...ร้าวทรวงใน...(กลบทถอยหลังเข้าคลอง) จะไม่เด็ด.
หนาวลมแนบแอบอิงจริงหวั่นไหว
ไหวหวั่นจริงอิงแอบแนบลมหนาว
มาประดังภวังค์จมถมทุกข์คราว
คราวทุกข์ถมจมภวังค์ประดังมา
ว่าเหมือนดังหลั่งไหลไปละลิ่ว
ละลิ่วไปไหลหลั่งดังเหมือนว่า
ใจเลื่อนลอยถอยร่นหนร้อยครา
คราร้อยหนร่นถอยลอยเลื่อนใจ
ไม่หวลกลับลับลงคงคืนยาก
ยากคืนคงลงลับกลับหวลไม่
ลมผ่านแล้วแนวห่างจางจืดไป
ไปจืดจางห่างแนวแล้วผ่านลม
ขมจากรักหนักหนามาหน้าหนาว
หนาวหน้ามาหนาหนักรักจากขม
ใครไหนอื่นชื่นรักภักดิ์ภิรมย์
ภิรมย์ภักดิ์รักชื่นอื่นไหนใคร...
/////////////////////////////////////////////////////
กลบทถอยหลังเข้าคลอง : พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน ฯ)
เจ้างามสรรพสรรพางค์ดังนางสวรรค์
โพยมแจ่มจันทร์เปรียบพอเทียบทัน ทันเทียบพอเปรียบจันทร์แจ่มโพยม
โฉมชะอ้อนอัปสรทรงเสมอสมร สมรเสมอทรงอัปสรชะอ้อนโฉม
ฤๅทัยโทมโทรมเศร้าประเล้าประโลม ประโลมประเล้าเศร้าโทรมโทมฤาทัย
ไฉนคิดจะชิดชมสนมสนิท สนิทสนมชมชิดจะคิดไฉน
เจียมใจด้วยไหวหวั่นเพราะพรั่นใจ ใจพรั่นเพราะหวั่นไหวด้วยใจเจียม
เสงี่ยมงามเจ้าแจ้งประจักษ์รักแถลง แถลงรักษ์ประจักษ์แจ้งเจ้างามเสงี่ยม
ร้อนอกเรียมเทียมระทมกรมเกรียม เกรียมกรมระทมเทียมเรียมอกร้อน
ถอนฤๅทัยทอดถอนนอนกรกอด กอดกรนอนถอนทอดฤาทัยถอน
คิดครวญใคร่สมรมิ่งวิงวอน วอนวิงมิ่งสมรใคร่ครวญคิด
จิตจริง เจ้า สวาทจงอนงค์นาฎ นาฎอนงค์จงสวาท เจ้า จริงจิต
ร้างแรมไม่คิดหวังฝังชีวิต ชีวิตฝังหวังคิดไม่แรมร้าง
ขนางใจไยสุดาสัญญาให้ ให้สัญญาสุดาใยใจขนาง
นวลแหนงด้วยหมางบาดสวาทวาง วางสวาทบาดหมางด้วยแหนงนวล
สงวนงามเจ้าทรามรักขอซักถาม ถามซักขอรักทรามเจ้างามสงวน
พรายแพร่งไม่ม้วนมิดต้องคิดครวญ ครวญคิดต้องมิดม้วนไม่แพร่งพราย
หมายมุ่งเหมือนเดือนดับลับเมฆเกลื่อน เกลื่อนเมฆลับดับเดือนเหมือนมุ่งหมาย
นึกแน่โอ้ วายชีวีครั้งนี้ชาย ชายนี้ครั้งชีวีวายโอ้แน่นึก
ตรึงตรองหวังยั้งจิตคิดรอรั้ง รั้งรอคิดจิตยั้งหวังตรองตรึก
ลำลำใจนึกคลั่งโอหังฮึก ฮึกโอหังคลั่งนึกใจลำลำ
ค่ำเช้าทุกข์ใจร้อนนอนจับไข้ ไข้จับนอนร้อนใจทุกข์เช้าค่ำ
คะนึงครวญคร่ำถวิลกินระกำ ระกำกินถวิลคร่ำครวญคะนึง
ถึงคิดให้จิตจนพิกลจิต จิตพิกลจนจิตให้คิดถึง
น้องนี้ฉะอึ้งอ้ำทำมึนตึง ตึงมึนทำอ้ำอึ้งฉะนี้น้อง
สองภิรมย์ชมชิดประสิทธิ์สม สมประสิทธิ์ชิดชมภิรมย์สอง
กลบทบรรยายย้ายทำนอง ชื่อ ถอยหลังเข้าคลอง ตรองอ่านเอย.
22 พฤศจิกายน 2552 22:22 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
พึ่งหัดแต่งโคลง ครั้งแรก อย่าว่ากันครับ แบบว่า ภาษาสำนวน คงยังไม่ได้
ขอบคุณ น้องมี่ ที่ช่วยแนะ คำตาย ก ด บ และ สระ อะ อิ อุ อึ เสียงเอก ถ้างั้น คงลำบากมะน้อย ครับ
ช่วยให้เข้าใจขึ้นมาระดับหนึ่ง และยังช่วยวิจารณ์คำผิด ทุกๆ บท
1 มองดาวเดือนเคลื่อนคล้อย คอยใคร
ดาวอยู่สูงปานใด ฟากฟ้า
เราชนม์ต่ำต้อยไป เกินเอ่ย
แม้รักสุดแหล่งหล้า ยากคว้ามาครอง
2 เพราะรักเธอเท่าฟ้า แรมปี
จนหมดทั้งวจี เอ่ยอ้าง
รักเกินเปรียบคนดี รักยิ่ง แท้นา
ตั้งแต่เห็นรูปสล้าง พร่ำเพ้อนานวัน
3 หากบุญปางก่อนสร้าง อำนวย
ย่อมอยู่คู่คนสวย ชาตินี้
หายใจออกรินรวย ยังสุข ใจนา
หวังเทพบันดาลชี้ ขีดเส้นทางใจ
4 เพ่งพิศดาวส่องหล้า แสนครวญ
แอบเหม่อจนแปรปรวน กระนั้น
อยากอยู่แนบข้างนวล เคียงชิด น้องนา
เอื้อนเอ่ยถ้อยอดกลั้น อัดอั้นตันทรวง
5 เหม่อดวงเดือนเคลื่อนคล้อย ลอยไหล
สูงสุดจับฟ้าไกล เหว่ว้า
ฤา จันทร์ว่างามวิไล ไยเล่า เศร้านา
แสงส่องตรงตัวข้า อ่อนล้าใจจริง
6 ขอฝากฝันอ่อนล้า คราเหงา
เพ้อเพ่งเห็นนงเยาว์ นิ่มเนื้อ
ลอยสูงเด่นดั่งเงา แจ่มลักษณ์
สวยรูปงามแจ่มเชื้อ แซ่ซ้องสาวสวรรค์
7 หากพูดคำเอ่ยอ้าง อันใด
จนเสียดแทงทรวงใน แน่แล้ว
อยากของดโทษไท วอนปลด เปลื้องที
ทุกข์ประชิดจิตแก้ว กอบเกื้อดวงมาลย์
8 จวบจนถึงบัดนี้ พี่รำพัน
กกกอดก่ายความฝัน จ่อมเศร้า
คิดถึงเรื่องร้อยพัน จดจ่อ
ขอเถิดอย่าหยอกเย้า หยอดอ้างความใด
9 ยามฝันคงไม่ร้าย หลอกลวง
เหมือนบอกอยากเคียงควง คู่คล้อง
พี่แอบชอบจันทร์จวง ดวงเด่น
สุดรักภักดิ์คู่น้อง พร่ำเพ้อจริงแล
10 รักเธอเทียมเท่าฟ้า ราตรี
สวยเด่นงามโสภี แจ่มจ้า
ดวงจันทร์เด่นรตี ไหนเท่า
รูปพักตร์ที่รักข้า เลิศฟ้านางเดียว
20 พฤศจิกายน 2552 22:33 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
เผอิญว่า คุณญามี่ บอกผมทางเมล์ว่า ฉ้ำซึ้ง กะ คำว่า เหมือนมีหมื่อน
สองคำผิด เสียงด้วยกันทั้งคู่
แลขอขอบคุณพี่ สดายุ ด้วยครับ ที่มาวิจารณ์ และแนะนำผมในข้อนี้
ผมจึงแก้คำเหล่านั้นเป็นคำของผม แม้ความหมายจะไม่ดีมาก แต่ก็แก้ขัดได้บ้าง 5555+ เอาไว้ให้ชำนาญ ค่อยว่ากันครับ อิอิ
*คอยคำ น้ำหนึ่ง หึงหวงแหน
ทดแทน แฟนใฝ่ ใส่ทรวงศรี
ก่อนไกล ไยเย้า เมามากมี
ปานปี ที่ทาง ร้างแรมรอน
*คอยคำ รำลึก นึกโน้มหน่อย
กาลกร่อย ร่อยหรอ ถ่อถ่ายถอน
เจ็บจำ ย่ำแย่ แง่เง้างอน
ออดอ้อน วอนหวัง ยังยืดยาว
*คอยคำ ล้ำลึก ตรึกตรองต่อ
ขืนขอ ก่อก้อย ห้อยห้วงหาว
ผูกพัน มั่นหมาย หลายเรื่องราว
ดั่งดาว คราวเคลื่อน เดือนเด่นดวง
*คอยคำ พร่ำพลอด สอดเสียงสาน
เนิ่นนาน หวานไหว ให้หึงหวง
มีไหม ใครคล้อย คอยเคียงควง
ถามทวง ห่วงหา คราคร่ำคืน
*คอยคำ ก้ำกึ่ง ถึงถามไถ่
เหลวไหล ในเนา เฝ้าฝากฝืน
คืนคล้อย ลอยเลื่อน เกลื่อนกล้ำกลืน
แข็งขืน ฝืนฝัน รั้นรวยริน
*คอยคำ ปล้ำปลุก สุขสร้างสม
พร่างพรม จมจิต ผิดผกผิน
นี่หนอ พอพร่ำ ย้ำยลยิน
แจ่มจินต์ ชินนช้ำ คำเคยคอย
ตามคำอธิบาย ของ คุณ ญามี่
กลบทดวงเดือนประดับดาว
เป็นกลบทที่บังคับซ้ำเสียง ๓ ชุด
กลอน๗ คำ คือ๒-๒-๓
และบังคับซ้ำเสียงสระที่๒-๓กับ๔-๕ทุกวรรค
ตัวอย่างบรมครู(นายทัดมหาดเล็ก:ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)
................................................
เจ็บจิตรมิตรหมางค้างเขินขวย
เวียนวงหลงลมงมงงงวย
ฉาบฉวยรวยเร่อเธอทุกทาง
โลมโลกโยกย้ายอายอกเอ๋ย
ชวดเชยเลยลามความแขวนขวาง
เคลื่อนคลายหมายใหม่ใจจืดจาง
เหินห่างว่างเว้นเล่นเลยละเลิง
ตัวอย่างอีกบรมครู (หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)
การกิจ ชิดเช่น เห็นเหตุโหด
ทางโทษ โฉดเชื้อ เนื้อแหนงแหน
เกลี่ยกลบ ลบเลื่อน เชือนชวนแช
กลแก้ แททำ งำเงื่อนเงา
ลวงเล่ห์ เททอด สอดเสแสร้ง
เกลื่อนแกล้ง แต่งต่อ ข้อขำเขา
ยกอย่าง อ้างอวด ลวดเลศเลา
กล่าวเกลา เนาแนบ แยบยลยวน
ปกปิด มิดเม้น เส้นเสี้ยนสิ้น
ลมลิ้น ยินเย็น เห็นหกหวน
ฟังเฝือ เหลือล้ำ คำคมควร
เล่ห์ล้วน ป่วนปิด กิจกลการ
ตัวอย่าง กลอนที่เกี่ยวข้อง
สายฝน(ด้วยกลบทดวงเดือนประดับดาว) โอเลี้ยง
ฝอยฝน-หล่นหลั่ง-พรั่งพรูพลิ้ว
โปรยปลิว-หวิวไหว-ไล้รดรื่น
ขื่นคลาย-คล้ายคลุม-ชุ่มแฉะชื้น
ดาดดื่น-ตื่นตา-ฝ่าฝนฟ้า
พบพื้น-ลื่นไหล-ไฉนนิ่ง
เก็บกิ่ง-กลิ้งกล่น-หล่นรกหล้า
แมกไม้-ใบบาง-ต่างต้องตา
จิตจับ-ปรับปร่า-พาผ่านพ้น
ใส่สุข-รุกร้าว-ก้าวไกลกร่อน
นิ่งนั่ง-หวังวอน-ร้อนลุกล่น
เหยียบย่ำ-น้ำนิ่ง-วิ่งวกวน
ซุกซน-ล้นรื่น-ชื่นชุกชุม
กลิ่นกวน-หวนหอม-ล้อมเลาะไล้
ไม้แมก-แบกใบ-ไซ้ซุกสุม
กล่นเกลื่อน-เปื้อนป้าย-ส่ายซุกซุ้ม
รวยรุม-คุมเคลิ้ม-เพิ่มพ้อเพ้อ
ดงดิน-กลิ่นใกล้-ไออวลอาบ
ยืนยิ้ม-พิมพ์ภาพ-หาบหวงเห่อ
เหม่อมอง-คลองคู-รู้เลิศเลอ
สุขซบ-พบเผลอ-เหม่อมื่นมน
ฝนฟ้า-พาผล-ค้นเคลิ้มคิด
ทุกทิศ-ปิดป้อน-ซ่อนสับสน
คืนค่ำ-ด่ำดื่ม-ลืมร้อนรน
ผ่านพ้น-ต้นตอ-ทอทุกข์ทัก
โลกหล้า-น่านอน-สอนสุขสรรค์
ใฝ่ฝัน-พลันพบ-ทบถมถัก
อย่าอยู่-คู่ขม-ชมช้ำชัก
เดินดัก-ผลักผ่าว-ร้าวเลิกรา
****************************************************************
เมื่อรัก..ชะงักที่ช้ำ (ด้วยกลบท ดวงเดือนประดับดาว) โดย: ญามี่
บนบาน กาลก่อน ผ่อนผ่าวเผา
เจิมจิต ปิดเปล่า เงาเหงาหงอย
นำหนาว ร้าวร้อน ร่อนลิ่วลอย
คิดคอย สอยสุข ซุกซ่อนทรวง
เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย คล้ายคุมข้าง
เวิ้งว้าง คว้างเคว้ง เร่งไหลร่วง
คนเคย เลยลับ ปรับเปลี่ยนปวง
ท่าท้วง ช่วงชา คร่าคนคอย
รักลอย ปล่อยปอง จ้องจ่อเจ็บ
กักเก็บ เหน็บนิ่ง สิงโศกสร้อย
ช้ำชอก พอกพร่ำ ร่ำรุกรอย
ยอกย้อย ร้อยไล้ ไหววังเวง
ฝอยฝัน สั้นสิ้น กลิ่นเกยก่าย
โปรยปราย หายหวน กวนเกี่ยงเก่ง
คืนค่ำ ร่ำรอ ก่อกลัวเกรง
แผ่วเพลง เร่งเรียก เพรียกพล่ามพรม
ฟังฝืน ตื่นตัว รัวลุกร่น
ปวดปน ทนทุกข์ คลุกขื่นขม
ชังชอก หลอกลัก หลักรักล้ม
ทับถม จมจ่อม ตรอมตามตวง
ลยแล้ว แผ่วพ้อ หล่อหลักรัก
ตวงตัก หลักราญ นานหนักหน่วง
ปล่อยปลด จดจิต คิดคลายควง
ทับถ่วง ทรวงเศร้า เผาเพ้อแพ้
รักลับ ปรับเปลี่ยน เวียนแวะว่าง
ทุกทาง ขว้างขม พรมพอกแผล
ใจจาง ด่างด่าว ราวลืมแล
กลัวแก้ แชเชือน เหมือนหมายมี...
/////////////////////////////////////////////
แน่นิ่ง(กลบทดวงเดือนประดับดาว) กฤตศิลป์ ชินบุตร
เมียงมองน้องนวลชวนฉ่ำชื่น
ยิ้มยื่นรื่นรมย์ชมแช่มช้า
เพ่งพิศพินิจนางช่างชินชา
เหว่หว้าราร้างหมางหมองเมิน
เจ้าจรร้อนรุ่มกลุ่มกัดกิน
แด่วดิ้นสิ้นเสือเยื่อใยเยิน
ทางเทียวเปลี่ยวปล่อยพลอยพาเพลิน
ดารเดินเกินแก้แน่นิ่งนาฯ
การแต่ง
X X Y Y + + +
ซ้ำเสียงพยัญชนะ ๓ ชุด จำนวน ๒-๒-๓ ซ้ำเสียงสระในคำที่ ๒-๓ และ ๔-๕ ทุกวรรคลักษณะบังคับเช่นนี้ เป็นเช่นเดียวกับอักษรสลับล้วน แต่ลดจำนวนคำ ในแต่ละวรรคลงเหลือวรรคละ ๗ คำ
////////////////////////////////////////////////////////////
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=339725
กลบท ดวงเดือนประดับดาว
มีข้อบังคับให้แต่ละวรรคภายในบทมีจำนวน ๗ คำ และกำหนดให้มีพยัญชนะ
ต้นเสียงเดียวกัน ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มแรก คำที่ ๑ คำที่ ๒ กลุ่มที่สอง คำที่ ๓ คำ
ที่ ๔ และกลุ่มที่ สาม คำที่ ๕ คำที่ ๖ คำที่ ๗ ซึ่งอาจเขียนเป็นอักษรได้ดังนี้
กก ขข คคค ดังแผน
เส้นที่โยงข้างล่าง คือ คำที่มีพยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน
กลบท ดวงเดือนประดับดาว
เวียนวน คนคู่ ดูเดินด้น
วกวน วงแหวน แสนสดสวย
เดินด้อม ค่อมคู่ ดูดีดวย
แสนสวย รวยรำ จำใจจริง
เมื่อมอง จ้องเจ้า ขาวขวยเขิน
เพลงเพลิน เดินด้วย ย้วยย่างหญิง
เล่นล้อม น้อมนำ ตำต้อยติง
ย่างหญิง ยวนเย้า เข้าข้างเคียง (ค.อนุโลม)
เริงรำ ทำท่า พาเพียงพิศ
ศักดิ์สิทธิ์ มนต์มี ศรีส่งเสียง
ช่างชอบ เชิงชาย หมายมองเมียง
ออเอียง เมียงหมาย ชายชอบชม.
...หยาดกวี...
๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๑
17 พฤศจิกายน 2552 16:18 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
*อยากเอ่ยอยากอ้าง บางวัน อกหวั่นอกไหว
บางคนบางใคร ใจคิด ปะติดปะต่อ
ทุกหนทุกแห่ง แหล่งหล้า จะบ้าจะบอ
อยากเคล้าอยากคลอ หอห้อง เพียงน้องเพียงนาง
*ฝากจิตฝากใจ ให้เธอ อย่าเผลออย่าไผล
ระวาดระไว ไยต้อง อกหมองอกหมาง
ครวญคิดครวญคล้อย พลอยหม่น ระคนระคาง
ไม่จืดไม่จาง นางนี้ ทุกวี่ทุกวัน
* กระเหม็ดกระเหมียด เจียดเงิน กลัวเขินกลัวขาด
อเนจอนาถ ชาตินี้ ขยี่ขยัน
เป็นมั่นเป็นหมาย กายดับ ทุกกัปทุกกัลป์
รำพึงรำพัน ฝันอยู่ เคียงคู่เคียงครอง
*ฝังรกฝังราก ฝากร่าง คู่สร้างคู่สม
ขอชื่นขอชม นิยมเธอ เสนอสนอง
ลำบากลำบน ทนปรับ ประคับประคอง
ขนข้าวขนของ ครองชาติ มิคลาดมิคลา
คำอธิบาย ของคุณโอเลี้ยง
กลบทวิสูตรสองไข
เป็นกลบทที่คล้ายกลบทสะบัดสะบิ้ง
ต่างตรงบังคับเพิ่มตรงที่
๑. คำที่๑กับ๓ ต้องเหมือนกัน
๒. คำที่๗กับ๙ ต้องเหมือนกัน
๓. ซ้ำเสียงพยัญชนะ๒คู่ตรง๒-๔และ๘-๑๐
๔. ซ้ำเสียงสระอีก๒คู่ตรงคำที่๔-๕และ๖-๘
ตัวอย่างบรมครูพระองค์เจ้าคเนจร:ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ
.......................................
แสวงสวาทมาดมิตรสนิทสนอง
ไม่เว้นไม่วายหมายถวิลประคิ่นประคอง
สมานสมัครรักน้องประลองประโลม
แต่ปางแต่ไปไกลตานิรานิราศ
ก็ค้างก็ขาดคาดคิดเชยชิดเชยโฉม
ให้เห็นให้หวงทรวงประดุจจะทรุดจะโทรม
เพราะทุกข์เพราะโทมนัสถึงคะนึงคะเน
ตัวอย่างบรมครูหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)
ผเดิมผดุง มุ่งมาด ขนาดขนบ
ให้แจ้งให้จบ ครบพิศ นิสิทธิ์นิสัย
อย่าเพลิดอย่าเพลิน เมินพลั้ง ละลังละไล
วิจารณ์วิจัย ในเหตุ สังเกตสังกา
ระบิลระบอบ กอบการ สมานสมัคร
ประจงประจักษ์ แจ้งที่ ประสีประสา
ใช่กมใช่การ พานผิด ประดิษฐ์ประดา
ใช่ทางใช่ท่า อย่ายล กระวนกระวาย
ใช่เรื่องใช่ราว กล่าวโทษ ประโยชน์ประหยัด
พิบากพิบัด ทัดทำ ระส่ำระสาย
เสมอเสมือน เตือนตน ทุรนทุราย
ตัวอย่าง บทกลอนที่เกี่ยวข้อง
กว่าจะรู้รัก..ก็สายไป(ด้วยกลบทวิสูตรสองไข) โอเลี้ยง
คิดถึงคิดเคลิ้ม เริ่มรอน สู้ซ่อนสู้ซุก
จิตร้าวจิตรุก ปลุกแปลบ นาบแนบนาบหน่วง
อารมณ์อาลัย นัยซึ้ง เร้ารึงเร้าลวง
ในทุกข์ในทรวง ควงคบ รอพบรอพจน์
ห่างหน้าห่างนาน ขานคอย จิตปรอยจิตปร่า
หวนไห้หวนหา พร่าพร่ำ ย้ำย่ำย้ำหยด
ก่อนเกลียดก่อนกั้น คั่นเบื่อ ไม่เหลือไม่ลด
สลอนสลด ปดถี่ ใช่ที่ใช่ทาง
ทว่าทวาร ลานรู้ หดหู่หดห่อ
อยากเจออยากจ่อ คลอใคร่ เกินไสเกินสาง
วันนี้วันนาน ผ่านยาก เกินลากเกินล้าง
กอดหวั่นกอดว่าง พลางกรุ่น ตรมตุนตรมตาม
กลับมากลับไหม ใยเยื่อ รักเรื้อรักรก
สะท้านสะทก อกเจ็บ กับเหน็บกับหนาม
รู้แล้วรู้รส บทคด ขมรดขมลาม
คิดดลคิดดาม ล่ามรัก ปักหลักปักรอ
ที่รักที่หลอน สอนโศก มาโยกมาเหยียบ
ผะผ่าวผะเพียบ เลียบไล้ ช้ำใกล้ช้ำก่อ
คะนองคะนึง ดึงดิ่ง ละทิ้งละทอ
พะเน้าพะนอ คลอแค่ ร่ำแพ้ร่ำพอ
///////////////////////////////////////////////
http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=2259.105
ปีศาจราชาหมาป่าน้ำแข็งสีเงิน
Sr. Member
สวัสดีครับทุกท่าน
กลบทวิสูตรสองไข
จะอยู่จะยืนคืนไปให้ไหวให้หวั่น
เคียงกู่เคียงกันหวั่นไปจะไหนจะหนี
ในจิตในใจไหวไปให้ใหม่ให้มี
ไม่สดไม่สีมีใจต้องไปต้องเป็น
ยังคงยังคู่อยู่จิตไม่คิดไม่ค้าน
ยิ่งเนิ่นยิ่งนานกาลล่วงให้ห่วงให้เห็น
เปลี่ยนไปเปลี่ยนแปลงแคลงคลางให้ว่างให้เว้น
จะอยู่จะเย็นเช่นหมายไม่วายไม่วาง
พออยู่พอเย็นเห็นจริงในสิ่งในสรรพ
จิตดึงจิตดับนับจัดพึงขัดพึงขวาง
ทุกวี่ทุกวันกั้นกางไม่ว่างไม่วาง
ทุกที่ทุกท่านว่างเว้นจะเป็นจะไป
จะเกิดจะแก่แน่ดับจะลับจะลา
จะฟันจะฝ่าอย่าทุกข์ให้สุขให้ใส
จะรับจะรู้อยู่คงต้องปรงต้องไป
อย่าหวั่นอย่าไหวในจิตพินิจพิเนา
//////////////////////////////////////////////////////
http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=5.570
plyfha
Hero Member
กลอน: วิสูตรสองไข
จะมองจะเมินเดินคิดไร้จิตไร้ใจ
ไม่สดไม่ใสใจมองนั่งหมองนั่งหม่น
รักร้ายรักลวงห่วงกันใจคั้นใจคน
ใจสับใจสนวนเวียนไม่เปลี่ยนไม่แปลง
มองไฟมองฟ้าล้านักมาพักมาพิง
ใจจ้องใจจริงทิ้งทุกข์ขอสุขขอแสง
วันนี้วันไหนใจชาอ่อนล้าอ่อนแรง
ไม่ยื้อไม่แย่งแบ่งฝันฝากวันฝากวาง
ไม่เกรงไม่กริ่งหิ่งห้อยมาร้อยมารำ
นั่งจดนั่งจำคำคิดไม่ขีดไม่ขวาง
แสงน้อยแสงนำกำหนดใจจดใจจาง
มองคนมองข้างหมางเมินขอเกินขอไกล
***********************************************************
คำสะบัดสะบิ้ง ที่ค้นหาจาก ผลงานเก่า มีดังนี้
1 สนิทสนม 2 กระหนุ๋งกระหนิ๋ง 3 กระตุ้งกระติ้ง 4 ตะปัดตะป่อง
5 ประจ๋อประแจ๋ 6 ละลิ่วละล่อง 7 กระอักกระอ่วน 8 ระทึกระทวย
9 ประเดประดัง 10 กระทบกระเทียบ 11 ผสมผเส 12 ทุลักทุเล
13 ทุรนทุราย 14 ระอิดระอา 15 สลัวสลาย 16 ลำบากลำบน
17 ทุกแห่งทุกหน 18 ระหกระเหิร 19 ระทดระทวย 20 อร้าอร่าม
21 สมัครสมาน 22 กระทบกระเทือน 23 กระสับกระส่าย 24 กระจิบกระจอก
25 กระจุ๊บกระจิ๊บ 26 สะเงาะสะแงะ 27 กระด้างกระเดือง 28 กระเตาะกระแตะ
29 ระแคะระคาย 30 สะท้านสะเทือน 31 กระโดกกระเดก 32 สะอาดสะอ้าน
33 ขยับขยาย 34 ระเนระนาด 35 ตุปัดตุเป๋ 36 ตะเกียกตะกาย
37 ขยุกขยิก 38 สวิงสวาย 39 ทะนุถนอม 40 ประนีประนอม
41 พะรังพะรุง 42 กระด๊ำกระด่าง 43 ประสีประสา 44 พิโธ่พิถัง
45 ระมัดระวัง 46 ตะลึงตะลาน 47 ผสมผสาน 48 พะเน้าพะนอ
49 จะอี๋จะอ๋อ 50 กระวีกระวาด 51 กระบิดกระบวน 52 สงบสงัด
53 สงบสงัด 54 สะบักสะบอม 55 ตำรับตำรา 56 ประคบประหงม
57 สะลืมสะลือ 58 สะอึกสะอื้น 59 กระเหี้ยนกระหือ 60 กระจัดกระจาย
61 สงบเสงี่ยม 62 ประดิดประดอย 63 จะเด่นจะดี 64 สละสลวย
65 จะร่ำจะรวย 66 เป็นกัปเป็นกัลป์ 67 ราโคงราคา 68 มันเหลวมันไหล
69 เป็นพิษเป็นภัย 70 ลำบากลำบน 71 ไม่สะไม่สวย 72 สะอิดสะเอียน
73 พุทโธพุทธัง 74 ตามเกล็ดตามกลอน 75 มันลุ่มมันลึก 76 ระวังระไว
คำสะบัดสะบิ้ง ที่หามาจาก พจนานุกรม หมวด ก-ว มีดังนี้
1 กระป๋องกระแป๋ง 2 กระปริดกระปรอย 3 กะโหลกกะลา 4 กระเง้ากระงอด
5 กระจุ๋มกระจิ๋ม 6 กระป๊อกกระแป๊ก 7 กะโผกกะเผก 8 กระดุ๊กกระดิ๊ก
9 กงกำกงเกวียน 10 กระเสือกกระสน 11 กระวนกระวาย 12 กะล่อกกะแล่ก
13 กระชุ่มกระชวย 14 ชมดชม้อย 15 กระจุกกระจิก 16 เฉลิมฉลอง
17 เสนอสนอง 18 กระปลกกระเปลี้ย 19 ปะล่ำปะเล๋อ 20 สนับสนุน
21 สนุกสนาน 22 กระกรับกระเกรียบ 23 กระงกกระงัน 24 กระงกระเงิ่น
25 กระง่องกระแง่ง 26 กระง่อนกระแง่น 27 กระจุกกระจุย 28 กระจุ๋งกระจิ๋ง
29 กระฉอกกระแฉก 30 กระฉับกระเฉง 31 กระชดกระช้อย 32 กระซิกกระซวย
33 กระซิกกระซี้ 34 กระซิบกระซาบ 35 กระซี้กระซ้อ 36 กระซุบกระซิบ
37 กระซ่องกระแซ่ง 38 กระดกกระโดนโด่ 39 กระดักกระเดื้ย 40 กระดากกระเดื่อง
41 กระดิกกระเดี้ย 42 กระด้างกระเดื่อง 43 กระตรกกระตรำ 44 กระต่องกระแต่ง
45 กระทดกระทวย 46 กระทดกระทัน 47 กระทบกระทั่ง 48 กระทบกระเทียบ
49 กระทบกระเทือน 50 กระทบกระแทก 51 กระทกกระทวย 52 กระท่อนกระแท่น
53 กระท้อมกระแท้ม 54 กระบั้วกระเบี้ย 55 กระบี่กระบอง 56 กระบุ่มกระบ่าม
57 กระบู้กระบี้ 58 กระปรมกระป่า 59 กระปี้กระเปร่า 60 กระปอดกระแปด
61 กระป้อกระแป้ 62 กระผลีกระผลาม 63 กระฟัดกระเฟียด 64 กระมอมกระแมม
65 กระยิ้มกระย่อง 66 กระยึกกระยือ 67 กระหยึกกระหยัก 68 กระยืดกระยาด
69 กระย่องกระแย่ง 70 กระลับกระเลือก 71 กระลายกระลอก 72 กระวายกระวน
73 กระวูดกระวาด 74 กระสุงกระสิง 75 กระหมุดกระหมิด 76 กระหมุบกระหมิบ
77 กระหืดกระหอบ 78 กระออดกระแอด 79 กระอักกระไอ 80 กระอิดกระเอียน
81 กระอ้อกระแอ้ 82 กระอ้อมกระแอ้ม 83 กระเจอะกระเจิง 84 กระเจิดกระเจิง
85 กระเซอะกระเซอ 86 กระเซอะกระเซิง 87 กระเซ้ากระซี้ 88 กระบิดกระบวน
89 กระเยอกระแหย่ง 90 กระเวยกระวาย 91 กระเส็นกระสาย 92 กระเหน็จกระแหน่
93 กระเหม็ดกระเหมียด 94 กระเหม็ดกระแหม่ 95 กระเหี้ยนกระหือรือ 96 กระแดะกระแด๋
97 กระแทกกระทั้น 98 กระแนะกระแหน 99 กระแหนะกระแหน 100 กระโจมกระจาม
101 กระโฉกกระเฉก 102 กระโชกกระชั้น 103 กระโชกกระชาก 104 กระโซกกระเซ
105 กระโดกกระเดก 106 กระโตกกระตาก 107 กระโวยกระวาย 108 กระไอกระแอม
109 กอดแข้งกอดขา 110 กระง้องกระแง้ง 112 กระซึ่กกระซั่ก 113 กระตังกระติ้ว
114 กระติงกระแตง 115 กระตึงกระแตง 116 กะบึงกะบอน 117 กะบ่อนกะแบ่น
118 กะปรับกะปรอย 119 กะปวกกะเปียก 120 กะป้ำกะเป๋อ 121 กะผลุบกะโผล่
122 กะพรวดกะพราด 123 กะพรูดกะพราด 124 กะพร่องกะแพร่ง 125 กะริงกะรียด
126 กะรุ่งกะริ่ง 127 กะร่องกะแร่ง 128 กะลิ้มกะเหลี่ย 129 กะล่อมกะแล่ม 130 กะล่อยกะหลับ 131 กะวอกกะแวก 132 กะหนอกะแหน 133 กะหน็องกะแหน็ง 134 กะหร็อมกะแหร็ม
135 กะหลีกะหลอ 136 กะหลุกกะหลิก 137 กะเรกะร่อน 138 กะเรี่ยกะราด 139 กะเร่กะร่อน
140 กะเร่อ กะร่า 14 1 กะเล่อกะล่า 142 กะโตงกะเตง 143 กะโรกะเร 144 กาเรการ่อน
145 กินลมกินแล้ง 146 กินเหล็กกินไหล 147 ขจัดขจาย 148 ขมุกขมัว
149 ขมุดขมิด 150 ขมุบขมัว 151 ขยะแขยง 152 ขยักขย่อน
153 ขยักขย้อน 154 ขยับขยาย 155 ขยับเขยื้อน 156 ขยี่ขยัน
157 ขยุกขยิก 158 ขยุบขยับ 159 ขะมอมขะแมม 160 ขะมักเขม้น
161 ขะมุกขะมอม 162 ขะเย้อแขย่ง 163 ขึ้นไม้ขึ้นมือ 164 เขยอะขยะ
165 เขยิบขยาบ 166 เขยียวขย่อน 167 เขบ็จขบวน 168 ขะเย้อแขย่ง
169 เข้าที่เข้าทาง 170 คลับคล้ายคลับคลา 171 คูเรียงคูราย 172 คู่สร้างคู่สม
173 ค่อยเป็นค่อยไป 174 เงินดาวเงินเดือน 175 เงินเดือนเงินดาว 176 จะกรัจจะกราจ
177 จะกรุมจะกราม 1788 จับพลัดจับผลู 179 เจ็บไม้เจ็บมือ 180 เจ้าแง่เจ้างอน
181 ฉกาจฉกรรจ์ 182 ฉลวยฉลาด 183 ฉลาดเฉลียว 184 ฉลุกฉลวย
185 ฉวัดเฉวียน 186 ชระมุกชระมอม 187 ชะเวิกชะวาก 188 ชีวิตชีวา
189 ซะซิกซะแซะ 190 โซซัดโซเซ 191 ดูดอมดูดาย 192 ตลบตะแลง
193 ตระกรุมตระกราม 194 ตะกุกตะกัก 195 ตะกุยตะกาย 196 ตะขิดตะขวง
197 ตะคลับตะคล้าย 198 ตะบัดตะบอย 199 ตะบี้ตะตะบัน 200 ตะพึดตะพือ
201 ตะลีตะลาน 202 ตาขุ่นตาเขียว 203 ตาลีตาเหลือก 204 ต่อนัดต่อแนง
205 ต่อนัดต่อแนม 206 ถลากถลำ 207 ถลากไถล 208 ถะถุนถะถัน
209 ถะมัดถะแมง 210 ทะนุถนอม 211 ทะนุกถนอม 212 ทะมัดทะแมง
213 ทะร่อทะแร่ 214 ทะลักทะแลง 215 ทะเลิ่กทะลั่ก 216 ทะเยอทะยาน
217 ทุกวี่ทุกวัน 218 ทุลักทุเล 219 บันยะบันยัง 220 ประคับประคอง
221 ประจบประแจง 222 ประจิ้มประจ่อง 223 ประจิ้มประเจ๋อ 224 ประดักประเดิด
225 ประดิดประดอย 226 ประพิมพ์ประพาย 227 ประสมประสาน 228 ประสิทธิ์ประสาท
229 ประสีประสา 230 ประหัตประหาร 231 ประอรประเอียง 232 ประเล้าประโลม
233 ประแพร่งประแพรว 234 ปลาดำปลาแดง 235 ปะกาปะกัง 236 ปะงับปะหง่อน
237 ปะติดปะต่อ 238 ปะทุปะทัง 239 ปะงับปะง่อน 240 ปะเหลาะปะแหละ
241 ปัดแข้งปัดขา 242 ปั้นจิ้มปั้นเจ่อ 243 ปุโลปุเล 244 เป็นที่เป็นทาง
245 เป็นฝั่งเป็นฝา 246 เป็นฟืนเป็นไฟ 247 เป็นมั่นเป็นเหมาะ 248 เป็นลมเป็นแล้ง
249 เป็นวรรคเป็นเวร 250 เป็นวักเป็นเวน 251 เป็นสัดเป็นส่วน 252 เป็นหมวดเป็นหมู่
253 เป็นเนื้อเป็นหนัง 254 ไปวัดไปวา 255 ผย่ำเผยอ 256 ผสมผสาน
257 ผสมเผส 258 ผิดที่ผิดทาง 259 ผิดรูปผิดร่าง 260 เผยิบผยาบ
261 ฝังรกฝังราก 262 พยักเพยิด 263 พอดิบพอดี 264 พะรุงพะรัง
265 พะวกพะวน 266 พะเว้าภวังค์ 267 พะอากพะอำ 268 พะอืดพะอม
269 พะเน้าพะนอ 270 พะเน้าพะนึง 271 พะเยิบพะยาบ 272 พิลึกพิลั่น
273 ฟาดฟัวฟาดหาง 274 มะลนมะลาน 275 มลังเมลือง 276 มะล่าวเมลา
277 มะงุมมะงาหรา 278 มะล่อก มะแลก 279 มิตรจิตมิตรใจ 280 ม่อล่อกม่อแลก
281 ไม่หวาดไม่ไหว 282 ไม่ใกล้ไม่ไกล 283 ไม้ดำไม้แดง 284 ยงโย่งยงหยก
285 ยักยี่ยักยัน 286 ยักยี่ยักเหยา 287 ยักแย่ยักยัน 288 ยืดเส้นยืดสาย
289 ยัดแข้งยัดขา 290 รวบหัวรวบหาง 291 ระมัดระวัง 292 ระยับระยับ
293 ระวาดระไว 294 ระส่ำระสาย 295 ระหกระเหิน 296 ระหองระแหง
297 ระอมระอา 298 ระเกะระกะ 299 ระเค็ดระคาย 300 ระเนระนาด
301 ระแวดระวัง 302 ระโยงรยางค์ 303 รู้เขารู้เรา 304 ร่อนรับร่อนเร่
305 ร้องห่มร้องไห้ 306 ลมเพลมพัด 307 ละมุนละม่อม 308 ละมุนละไม
309 ละลนละลาน 310 ละล้มละลาย 311 ละลอบละเล้า 312 ละลาบละล้วง
313 ละล่ำละลัก 314 ละล้าละลัง 315 ละห้อยละเหี้ย 316 ละเมียดลไม
317 ละเลาะละลอง 318 ลักปิดลักเปิด 319 ลุกลี้ลุกลน 320 เล่นพรรคเล่นพวก
321 เล่นพวกเล่นพ้อง 322 วันแล้ววันเล่า
เท่าที่หาได้ มีเพียงเท่านี้ แต่อาจมีบางคำ ที่ขาดหายไป หากท่านใดเห็นว่า คำใดขาด ช่วยต่อเติมเสริมแต่งด้วย นะครับ